|
แอ่วเหนือตามหาทะเลหมอกกับ 3 เกลอ เออออ (ขุนสถาน-ภูลังกา-แม่สลอง-แม่สาย-วัดร่องขุน.)
Trip นี้เป็น Trip เออออมากๆ พวกเราตัดสินใจจะไปวันอังคารที่ 8 ธ.ค. โดยวางแผนไปเที่ยวในช่วง 11-14 ธ.ค. 52 โดยตาม plan เราจะไปที่น่าน - พะเยา เท่านั้น เอาเข้าจริงหน้ามืดเลยได้มีโอกาสแอ่วเหนือทั้ง น่าน (ขุนสะท้าน) -พะเยา (ภูลังกา) -เชียงราย (แม่สลอง - แม่สาย - วัดร่องขุ่น) คราวนี้เลยไม่ลืมรับน้องใหม่ น้องแทม 17-50mm VC และ 70-200mm F2.8 ที่สอยมาในงานกล้องที่ผ่านมาซะ
คราวนี้ผมเลยเอารูปมาฝากเผื่อใครอยากไปเหนือบ้างครับ ยืนยันว่าธรรมชาติสวยงามทุกจังหวัดจริงๆครับ
11 ธ.ค. 52
เริ่มจากไปทำบุญ และนมัสการพระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมมหาธาตุวรมหาวิหาร (จ.พิษณุโลก) เสร็จแล้วเลยไปทานกลางวันที่ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่านต่อ ซัดไป 2 ชาม อย่างอิ่ม
อิ่มท้องอิ่มบุญแล้วไปต่อที่อุทยานแห่งชาติขุนสถานบรรยากาศดีมากครับรูปบ้านพักบนภูครับส่วนผมนอนเต็นท์
ทีพักบนยอดอุทยานขุนสถานวิวไม่ต้องพูดถึงครับ
คืนนี้นอนที่นี้ครับ พี่ๆเจ้าหน้าที่น่ารักมากครับเตรียมไฟให้ข้างเต็นท์ด้วยครับกลัวมืด ครั้งแรกที่นอนเต็นท์กับอุณหภูมิ 10 องศา หนาวเสียกระไร เนื่องจากเป็นทัวร์ฉุกละหุกมากๆ เลยไม่ได้เตรียมอะไรมาสรุปเลยพอมืดก็เตรียมเข้านอน (ปรากฎว่าคืน 11 พ.ย. ดันมีแขก VIP ข่าวว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มาเปิดคาราโอเกะ สงสัยนึกว่าเป็น Central World มาจัดคอนเสิร์ทกลางขุนสถาน ให้ตั้งแต่ 18.00-22.30 น. และ มีนักท่องเที่ยววัยรุ่นรับเชิญ ก่อไฟร้องเพลงบอดี้แสลมอีกกลุ่มใกล้เต็นท์ที่เรานอน ต่อถึงตี 4 ครึ่ง อย่างเอือมสรุปว่าหนาวก็นอนลำบากอยู่แล้วยังต้องทนสะดุ้งตื่นเพราะคาราโอเกะนรกอีกทั้งคืน)
12 ธ.ค. 52
นอนไม่หลับก็เลยตื่นมาถ่ายรูปดาวตอนตี 4.30 อากาศประมาณ 10 องศาครับค่อนข้างชื้นความชื้นอยู่ประมาณ 70 ครับ เลยงัด D80 ลูกรักมาใช้ Speed Shutter ที่ 30 วินาที F 2.8 หน้าเต็นท์เลยครับ ผลก็คือ
9.00 น. วันนี้คุณพระอาทิตย์เข้างานสายไปหน่อยจับเทเล 70-200 ส่องซะเลยอู้งานดีนัก
8.30 น. พี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยานบริการน้ำร้อนสำหรับ มาม่าคับ ของพวกเราใจดีกันจริงๆ จากนั้นจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายรวมแล้ว 380 บาท (เต็นท์ของอุทยานครับพี่เค้ากางให้ตั้งแต่ก่อนมาอีก)
สรุปเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติขุนสถานครับ (แนะนำว่าต้องมาให้ได้ครับช่วง 20 ธ.ค.-10 ม.ค. เพราะพญาเสือโคร่งซากุระในเมืองไทยจะบานสะพรั่งเต็มดอยครับ) มีที่พัก 2 จุดครับ 1. สถานีวิจัยอุทยานแห่งชาติขุนสะท้าน (แนะนำครับ บรรยากาศดีมีต้นไม้ และต้นพระยาเสือโคร่งจำนวนมาก ตอนนี้มีแค่เม็ดกลมๆกับกิ่ง ซึ่งจะบานช่วง 20 ธ.ค. นี้ครับเห็นเจ้าหน้าที่บอก) รับรองสวยแน่ 2. บนอุทยานแห่งชาติขุนสะท้าน (เรานอนที่นี่กันครับ บรรยากาศวิวดีกว่าครับ แต่ต้นไม้ไม่ค่อยมีครับ) ห้องน้ำสำหรับแขกที่กางเต็นท์มีประมาณ 3 จุด (จุดละ 2-4 ห้อง) มั้งครับ ห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำร้อนให้ครับไม่ต้องกังวลครับแต่เราก้ไม่ได้อาบน้ำกันทั้งกลุ่มแบบว่าหนาว ถนนทางขึ้น OK ครับ VIOS ผ่านสบาย
9.00 น. เตรียมเดินทางต่อไป จ.พะเยา จุดหมายถัดไปของเรา ภูลังกา ครับ ถนนจากน่าน ไปที่พะเยาขอบอกว่าธรรมชาติสวยมากๆครับ ขับขึ้นๆลงๆเขาอีกเช่นเคย
14.00 น. หลังจากแวะทานข้าวที่ตัวเมืองน่าน และขับรถมาสักพักก็ถึงที่พักที่เราคงจะไม่ลืมเลยครับ (ภูลังการีสอร์ท) ค่าเสียหาย 500 บาท/คืน มีเครื่องทำน้ำอ่นให้ครับ อยู่ระหว่างทางขึ้นภูลังกาครับ VIOS ไม่สามารถครับต้อง 4WD เท่านั้น
ดูวิวตอนเที่ยงเอานะครับเดี๋ยวโชว์ตอนเย็นต่ออีกทีหนึง
พอมาถึงทางรีสอร์ทแจ้งว่าจะมีรถพาคณะนักท่องเที่ยวขึ้นไปภูลังกาตอนบ่าย 3 โมง ถ่ายพระอาทิตย์ตกครับ คณะ 3 เกลอก็เลยขอแจมค่าใช้จ่ายแบบเหมารถ 1,600 บาท/คัน หารรวมครับ ภูลังกามีความสูง 1720 เมตรจากระดับน้ำทะเลครับ รวมระยะเวลาการนั่งรถขึ้นไปประมาณ 50 นาที เดินอีก 700 เมตร 30-45 นาที ครับเหนื่อยอยู่ แต่เพื่อรูปก็ต้องทนครับ รอบนี้ได้เจอกลุ่มของพี่ยะกับแฟน พี่โก้กับแฟน และก็ พี่ก้องกับแฟน (อิจฉาเสียจริง) ขณะนั้งกระบะหลัง (ผู้หญิงนั่งหน้า 4 คนครับ) พวกหนุ่มๆอย่างเราแนะนำตัวกัน งานนี้คุยกันถูกคอเสียด้วยโชคดีจริงๆเลย พี่ยะสอนเทคนิคการถ่ายรูปมาเพียบงานนี้คุ้มจริงๆครับ
พอขึ้นมาสักพักก็เลยจับเพื่อนมาโพสท์ท่าซะ
ยืนยันความสูงกับวิวสูงๆโดยใช้ น้องแทม 70-200 ซูมที่ 200 mm ไปด้านล่างภูครับ
เพื่อนร่วมทางเดินหามุมถ่ายพระอาทิตย์สวยๆกัน
รอพระอาทิตย์ตกวันนี้ สงสัยพี่พระอาทิตย์ไม่เป็นใจซะเลย เพราะตอนเช้าก็ขึ้นสาย ตอนตกก็ตกซะเร็วโดนเมฆบังซะเลยถ่ายวิวข้างบนมาให้ดูกันครับ
อดเห็นพระอาทิตย์ตกที่ยอดเขาเพราะเมฆเยอะครับได้รูปแบบนี้มาแทนแต่ก็คุ้มครับ
18.30 น. กลับ Resort โดยรถ 4WD คันเดิมระหว่างทางกลับพี่ยะชวน ผมไปถ่ายรูปดาวตอนกลางคืน ไอ้เราอยากลองของก็เลยไปกะเค้าด้วย ใจง่ายจริงๆเลย พอกลับถึงที่พักเราสรุปว่าจะกินข้าวร่วม 9 คน คืนนี้ด้วยความเหนื่อยและหิวพวกเราสั่ง แกงจืด 1 ไข่เจียวหมูสับ 4 กระเพราะหมูสับ 3 ผัดผัก 1 จาน ข้าว 1 โถ 2 จาน น้ำเปล่า 2 ขวด รวมค่าเสียหายค่ารถ 4WD + ค่าอาหาร ตกคนละ 250 บาทครับ
หลังทานอาหารเสร็จก็อาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นเลยสบายมาก เสร็จแล้วก็ไปตามนัดของพี่ยะ คราวนี้พี่ยะได้ให้ความรู้วิธีการถ่ายดาวแต่พอดีไม่มี Remote เลยต้องกดแช่ 10 นาที แทนผลที่ได้เป็นตามนี้คับ
หันกล้องไปทิศเหนือ หรือใต้ ก็ได้ รูปนี้ถ่ายโดยใช้ F2.8 Speed Shutter 4 Min ISO 600 (จริงๆพี่ยะให้ ISO น้อยๆ แต่นิ้วเจ้ากรรมดันกดรอ 20 นาทีไม่ไหวเลยใช้ ISO ช่วย Noise บานเลย)
ถ่ายอยู่ 3 รูป ใช้ไป 30 นาทีก็เข้านอนดีกว่า ถ้าจะไม่รุ่ง ขณะนั้นอุณหภูมิ 15 องศายังหนาวอยู่จ้า 13 ธ.ค. 52
5.30 น. เสียงเพลง Lucky ของ Jason Mraz จากโทรศัพท์ก็ดังมาปลุกให้เตรียมตัวไปล่าทะเลหมอกที่ตามหามาตั้งแต่ Trip ปายปีก่อน และ สิ่งที่เราตามหาก็พรรณปรากฏเบื้องหน้า
ภาพบรรยากาศทะเลหมอกตอนเช้าที่เห็นเหมือนความฝันเลยครับแสงจากพระอาทิตย์ที่ย้อมฟ้าและหมอกเป็นสีแดงฉานดูแล้วหายเหนื่อยจากการเดินทางร่วม 800 ก.ม. จากกรุงเทพ
ถ่ายไปซักพักแสงจากพระอาทิตย์เริ่มทำให้เห็นทะเลหมอกชัดเจนขึ้นจัดการหยิบเทเลมายิงรัวทำ Panorama ซะ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้วเลยเปลี่ยนเทเลมาเป็น 17-50 Vc ซะจะได้ถ่ายภาพรวมบ้าง
พอสายๆลมเริ่มพัดหมอก เห็นภาพหมอกกำลังโดนไล่ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นเทเล อีกที เจาะเป็นมุม
10.00 น. หลังจากถ่ายมาจนชุ้มปอดและ หมอกก็เริ่มจางแล้ว เราก็ถึงเวลาทานข้าวแล้ว สั่งกระเพราหมูสับไข่ดาวมากินกลับไม่ค่อยอร่อยแฮะมันไปหน่อยสักพักพวกพี่ยะ และพี่ก้อง ก็มาสมทบ พวกเรา 3 เกลอก็เลยวางแผนกันต่อโดยตอนแรกว่าจะกลับไปนอนที่ตัวเมืองน่าน พอพี่ยะบอกว่าช่วงนี้ที่เชียงรายน่าจะมีงานดอกทิวริปได้ฟังดังนั้นเลยเราก็หน้ามืดทะเลหมอกก็ถ่ายแล้วคราวนี้อาจได้ดอกไม้ Macro และ Potrait และถ่ายศิลปะวัดร่องขุ่น งานนี้พลาดไม่ได้แล้วเลยใจง่ายตกลงไปเชียงรายตามกิเลส เคลียค่าห้องพักไม้ขนาดนอน 3 คน มีห้องน้ำเครื่องทำน้ำอุ่นให้คิดเป็นเงิน 500 บาท
สรุปที่พักภูลังการีสอร์ท 1 ห้องพักสภาพมีตั้งแต่ดีมาก จนธรรมดาราคาอยู่ระหว่าง 2000 - 500 บาท แต่เกือบทุกห้องมีเครื่องทำน้ำร้อนให้ 2 อาหารดูจะเป็นจุดด้อยหลักเลยครับ 3 บรรยากาศสุดยอดไม่ต้องพูดถึงครับดีมากๆภาพที่ถ่ายก็อยู่ในรีสอร์ทนั่นแหละครับ 4 บริการพนักงานบริการโอเคเลยครับ
12.00 น เดินทางถึงตัวเมืองเชียงรายพบว่างานดอกไม้ทิวลิปยังไม่ถึงแทบฝันสลายทันได เพื่อนผู้ขับรถเลยบอกว่าไปถ่ายที่ดอยแม่สลองน่าจะมีดอกไม้ให้ชมบ้างล่ะ
เส้นทางจากเชียงรายไปแม่สลองสุดโหดค VIOS คันเก่งมีอาการอืดอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างทางยังความเป็นสภาพป่าสวยงามเช่นเคยครับ
ถึงยอดดอยแม่สลองแล้วถามชาวบ้านแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้เรื่องทุ่งดอกไม้สงสัยจะแห้วอีกครั้งแล้ว เลยตัดใจถามชาวบ้านถึงทางไปแม่สายชาวบ้านบอกว่าสามารถข้ามดอยแม่สลองไป แม่สายได้เส้นทางเหมือนขามา
ถนนบริเวณ ปุยหมอก ดอกไม้ รีสอร์ทบนดอยแม่สลอง
ทุ่งชาบนดอยแม่สลอง
16.00 น. ถึงแม่สายโดยสวัสดิภาพมีเบรกเกือบไหม้ไปหนหนึ่งตอนลงจากดอยแม่สลองเส้นทางลำบากกว่าขาชับจากเชียงรายไปแม่สลองอีกใความคิดของเรานะ
16.30-18.00 น. ช็อปตามอัธยาสัยที่ตลาดแม่สายข้ามไปพม่าส่วนเราไม่ได้ช็อปแต่ก็ไม่กล้าพกเจ้า Tam มาล่อนในฝั่นนู้นเลยเดินตามเพื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ถ่ายอะไรมากนัก
19.30 น. ทานข้าวเย็นที่ตลาดหน้า ม.แม่ฟ้าหลวง กับข้าวเพียบอร่อยๆทั้งนั้นถูกด้วย แม่ค้าที่นั่นเค้าเรียนมาดีครับอาหารตามสั่งแต่ละร้านจะมีเมนูพิเศษไม่เหมือนกันเช่น มีกระเพราไก่กรอบ บางร้านมีกระเพราทูน่า เป็นต้น น่าสนใจหลักการคิดครับ
22.00 น. เช็คอินที่โรงแรงม่อนฟ้าใส ค่าเสียหาย 1800 บาท/คืน/3คน เป็นคืนที่หลับสบายที่สุดในทริปแล้วครับชอบจริงๆ ปล.ทางไปโรงแรมค่อนข้างมืดและเปลี่ยวเลยครับแต่ตัวโรงแรมใหม่สะอาด และก็สวยครับ
14 ธ.ค. 52
8.30 น. ตื่นสายที่สุดเพราะไม่ต้องเตรียมถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น เลยนอนให้เต็มคราบ ออกมาทานอาหารที่ LOBBY มีข้าวต้ม กับข้าว ให้เลือกเติมได้ 4-5 อย่างครับรสชาติอร่อยครับทานซะ 3 ถ้วยอิ่มเชียว หลังจากนั้นถ่ายรูปเล่นๆ นิดหน่อยก่อนออกเดินทางไปวัดร่องขุ่นต่อ เมื่อขับพ้นประตูที่พักเราก็พบกับทุ่งดอกไม้ที่เราตามหามา 1 วันเต็มแต่ตามกำหนดการแล้วเรามีเวลาไม่พอเลยขับผ่านอย่างเดียวครับ
เรามาถึงที่วัดในจังหวะที่คนกำลังน้อยก็เลยถ่ายวัดร่องขุ่นสะท้อนน้ำมาเลยสักพักทัวร์ลง 3-4 คัน เลยรีบรัวชัตเตอร์ซะให้เกลี้ยง
ศิลปะด้านหน้าแสดงเรื่องราวนรกภูมิ
อีกมุมของสถาปัตยกรรม
ส่งท้ายทริปด้วยรูปนี้ล่ะกันครับ
10.30 น. หลังจากชมความสวยงามของวัดร่องขุ่น และดื่มด่ำกับกาแฟดอยตุงหน้าวัดเสร็จ เราก็มุ่งตรงไปยังจุดหมายสุดท้ายก็คือ กทม.
21.30 น. ถึงกทม.โดยสวัสดิภาพ สรุปค่าเสียหายไม่รวมของฝากและขนมพิเศษพวกกาแฟระหว่างทางก็ 3700 บาท/คน โดยประมาณ
จัดอันดับถนนที่สวยใน TRIP 1. ขุนสะท้านไปภูลังกา 2. เชียงรายไปแม่สลอง 3. น่านไปขุนสถาน
จัดอันดับถนนสุดโหดใน TRIP (เพื่อนนันบอกมาครับผมแอบหลับเป็นระยะ) 1. แม่สลองไปแม่สาย 2. เชียงรายไปแม่สลอง 3. ขุนสะท้านไปภูลังกา 4. น่านไปขุนสถาน
สุดท้ายของทริป ต้องขอขอบคุณ 1 เพื่อนนัน (3เกลอ) ที่หาสถานที่สวยๆให้เราได้มีโอกาสถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ และขอบคุณที่ขับรถพาพวกเราตะลุยกว่า 2000 กิโลเมตรตลอด 4 วัน 3 คืน และรถ VIOS คู่ใจเพื่อนนันที่ร่วมสมบุกสมบันมาตลอดทาง 2 น้องจัมมัย (3เกลอ) ที่มาเป็นนางแบบประจำทริปให้เรา และยังทำหน้าที่เหรัยญิกให้พวกเราตลอดเส้นทาง 3 พี่ยะ แอนด์ เดอะแก็งค์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่แสนดี (สอนถ่ายรูปให้ซะด้วย) 4 พี่ๆที่อุทยาน และ พี่ๆที่ดูแลที่พัก (ภูลังกา+ม่อนฟ้าใส) ที่ช่วบดูแลเป็นอย่างดี 5 ขอขอบคุณธรรมชาติที่สร้างสีสรรค์ให้เราตลอดการเดินทางครับ 6 พี่ๆจราจรที่ทำงานกันอย่างขมักเขม้นตลอดเส้นทาง 7 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ
Create Date : 16 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 10:12:51 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4444 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Reindeer IP: 58.136.51.193 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:12:32:58 น. |
|
|
|
โดย: ta (tookta_tt ) วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:13:31:14 น. |
|
|
|
โดย: จามัย IP: 172.30.48.88, 202.183.217.251 วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:16:17:04 น. |
|
|
|
โดย: จามัย IP: 172.30.48.88, 202.183.217.251 วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:16:23:05 น. |
|
|
|
โดย: Pin'ny IP: 210.86.182.238 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:13:23:20 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:11:22:54 น. |
|
|
|
| |
|
|