|
ชีวิตในญี่ปุ่น
ฮ้าๆๆ ไม่ได้อัพบล๊อกมานานเป็นปีแล้วสินะ ว่าแล้วก็หาเรื่องมาเขียนซะหน่อย แต่เออ ผมยังเขียนไม่คล่องนะครับ อ่านไปไม่ถูกใจ หรือมีอะไรน่าแก้ไขก็ขอฝากคอมเม้นต์ด้วยครับผม
ตอนนี้กระผมได้มาอยู่ที่ญี่ปุ่นครับกระผม ได้โอกาศมาฝึกงานที่นี่เป็นเวลา ๑ ปีเต็ม กับโครงการ ESTATE ที่จัดขึ้นโดย สสท. TESA AOTS และอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากที่ผมได้เข้าร่วมโครงการแล้ว ทางโครงการก็ได้จัดการเรื่องเรียนภาษาญี่ปุ่น และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบสมองกลฝังตัว ที่ไทยเป็นเวลา ๖ เดือน ก่อนมาญี่ปุ่นครับ และเมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องเรียนภาษาที่ AOTS เพิ่มอีก เดือนครึ่งครับ หลังจากนั้น ก็แยกย้ายกันไปฝึกงานตามบ.ต่างๆที่ได้จับคู่กันไว้
อันตัวผมนั้นได้มาฝึกงานอยู่ที่ บ.OKI Technocollage ครับผม ที่นี่เป็นบ.ในเครือ OKI ครับ ตัวบ.แม่นั้นมีสินค้ามากมายที่เมืองไทยเราไม่ค่อยได้เห็นกัน หลักๆที่เห็นเป็นแบรน์ก็คือ printer ตู้เอทีเอ็ม ไอซี ครับ นอกนั้นจะเป็นสินค้าที่คนอื่นมาซื้อไปทำแบรนด์กัน และก็เป็นบ.รับทำโซลูชั่นต่างๆ แล้วก็มีอีกหลายอย่างครับ บรรยายไม่หมด
เอาเรื่องหลักที่ผมอยากพูดดีกว่าว่ามาอยู่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง
ผมเริ่มมาอยู่ช่วงปลายเดือนมกราครับ เป็นช่วงหน้าหนาวพอดี ก็ได้ไปเรียนภาษาที่ AOTS ที่โอซาก้าครับ
ภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่หมูเลยครับ ขนาดเรียนที่ไทยมาแล้ว ๖ เดือน มาต่อที่ ที่นี่อีก ๖ อาทิตย์ ยังพูดได้แค่งูงูปลาปลา เท่านั้น ที่สำคัญ ที่นี่หาคนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากเลยครับ ฉะนั้น ภาษาอังกฤษที่ผมเรียนมาตั้งนมนาน ไม่ได้ช่วยอะไรเลย (จริงๆก็ช่วยเป็นบางสถาณการณ์เหมือนกัน) ส่วนที่ทำงานนั้น ในช่วงนี้ยังต้องเรียนเกี่ยวกับการพัฒนา software บนระบบสมองกลฝังตัว ซึ่งก็เรียนเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ เหอๆๆๆ ภาษาในชีวิตกระจำวันยังไม่รอด เจอศัพท์เทคนิกเข้าให้ มึนไปเลยครับ
เอาเหอะ เครียดไปก็เท่านั้น อย่าเครียดดีกว่ามาดูกันว่าที่ญี่ปุ่นเป็นยังงัยเทียบกับเมืองไทยในสายตาของผม
๑. บอกได้เลยครับว่าอาหรที่นี่แพงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าเทียบกับเมืองไทย หาถูกๆแบบสุดๆก็ได้แค่บะหมีชามละ ๒๙๐ เยนเท่านั้น เป็นเงินไทยก็เกือบร้อยบาท แล้วก็ราคานี้หาไม่ง่ายเลยครับ โดยเฉลี่ยแล้วทานตามร้านมื้อประหยัดแบบได้คุณภาพก็จะอยู่ประมาณ ๖๐๐ เยนครับ (หรือสองร้อยบาท) ส่วนกระผมนั้นทำกินเองครับอิอิ
๒. แต่นอกจากอาหารแล้ว อย่างอื่นราคาไม่ต่างจากเมืองไทยเลยครับ ยกเว้นสินค้าที่เป็นของญี่ปุ่นที่จะถูกกว่าเมืองไทยตามระเบียบ โดยเฉพาะเครื่องสำอาง ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นมันอย่างนี้ครับ รุ่นถูกนะไม่ค่อยมี แต่ด้วยราคาที่เท่ากันแล้วซื้อที่นี่จะได้ option มากกว่าครับ
๓. ความสะอาดของเมือง มันสะอาดมากครับ เทียบกับเมืองไทย ไม่ได้แปลว่ามีมีขยะเลย (แบบที่ผมคิดตอนแรก) แต่เค้ามีกิจกรรมที่ประชาชน และ นักเรียนในท้องถิ่นออกมารักษาความสะอาดบ้านเมืองของเค้าครับ
๔. เรื่องขยะ ตอนอยู่ที่ AOTS นั้นไม่เป็นปัญหาครับ แต่พอมาอยู่ข้างนอกแล้วเป็นเรื่องเลยครับ ที่นี้เค้าเข้มงวดเรื่องขยะมาก ต้องแยก แล้วทิ้งให้ถูกวัน แล้วแต่ละเมืองก็มีระบบการแยกขยะไม่เหมือนกันด้วยครับ
๕. ความเป็นคนมีระเบียบ งานเป็นงาน เล่นเป็นเล่น ที่นี่วันหยุดเค้าเยอะกว่าเราครับ แต่ว่าแต่ละวันของการทำงานนั้นเข้มงวดมาก ที่นี่มีหยุดยาวเป็นอาทิตย์ ปีละสามครั้งครับผม อีกเรื่องก็คือการใช้บันไดเลือนครับ ขึ้นปุ๊บ ชิดซ้ายปั๊บ (ขวาก็มีแล้วแต่เมือง) อีกด้านสำหรับคนที่รีบเดินขึ้นไป
ตอนนี้คิดได้เท่านี้ครับ ถ้าคิดอะไรได้ ผมจะมาเพิ่มเติมแล้วกันเนอะ
Create Date : 02 เมษายน 2551 |
| |
|
Last Update : 2 เมษายน 2551 19:48:54 น. |
| |
Counter : 561 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|
ATmega8 |
|
|
|
|