Street Hypnotherapist นักสะกดจิตบำบัดข้างถนน ^^
 
ทางเลือก (Choice)

มีหลักการพื้นฐานของ NLP ข้อหนึ่งกล่าวว่า “สำหรับทุกๆ ปัญหา การมีทางเลือกสำหรับใช้เป็นทางออกของปัญหานั้น ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี” เรื่องนี้ถ้านึกถึงตอนที่เราออกไปซื้อของข้างนอกเราก็จะสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายครับ

เช่นผมอยากได้รองเท้าออกกลังกายสักหนึ่งคู่ สมมุติว่าปัญหาของผมคือผมต้องการรองเท้าออกกำลังกายสำหรับไปรำมวยจีนที่สวนลุมซักหนึ่งคู่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมไปที่ร้านขายรองเท้าแล้วพบว่าในร้านมีแต่รองเท้าแตะกับรองเท้าส้นสูง และถ้าเราลองบีบเงื่อนไขอีกว่าผมจำเป็นที่จะต้องเลือก ผลก็คงเป็นว่าผมอาจจะได้คีบรองเท้าแตะไปรำมวยจีนแน่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าเลยด้วยประการทั้งปวง ดังนั้นมันจะดีกว่านี้อีกถ้ามันมีตัวเลือกอย่างอื่นอีกมากกว่าแค่รองเท้าแตะกับรองเท้าส้นสูง ยิ่งมีตัวเลือกให้เลือกมากเท่าไหร่ชีวิตของผมก็ยิ่งง่ายขึ้น เพราะความจริงแล้วคำตอบที่น่าเข้าท่าที่สุดสำหรับปัญหาของผมก็คือรองเท้ากีฬาพื้นบางดีๆ ซักคู่

นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมคนจึงเลือกที่จะไปร้านใหญ่ๆ หรือห้างใหญ่ๆ ก่อนร้านหรือห้างเล็กๆ สาเหตุจริงๆ ก็เพราะว่าเรารู้สึกดีกว่าที่เราได้มี “ตัวเลือก” (Choice) นั่นเอง

และไม่ว่าจะเป็นปัญหาง่ายๆ อย่างการซื้อรองเท้าหรือปัญหาหนักอกหนักใจอย่างปัญหาธุรกิจหรือปัญหาครอบครัว ระบบประสาทของเราก็จะตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้เหมือนๆ กันคือ “สร้างทางเลือกจำนวนมากขึ้นมาเพื่อเลือกเอาเพียงหนึ่งเดียวมาเป็นคำตอบของปัญหา” และก็มาสูตรเดียวกับปัญหาซื้อรองเท่านั้นนั่นแหละครับ คือยิ่งมีให้เลือกมากมันก็ยิ่งดี และถึงแม้ว่าว่าคำตอบที่มีให้เลือกอาจจะไม่ได้มีแบบที่เลิศเลอสมบูรณ์แบบจริงๆ แต่การที่มีทางเลือกให้เราเลือกมากเข้าไว้มันก็ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรให้เลือกมากนัก

แต่ปัญหาก็คือ บ่อยครั้งที่ปัญหาของเราก็ไม่ได้มีตัวเลือกให้เราเลือกได้มาก ยิ่งปัญหานั้นเป็นที่หนักอกหนักใจมากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนกับว่าตัวเลือกมันถูกทำให้ลดน้อยถอยลงไปจนถึงกับว่าบางปัญหานั้นเราแทบจะไม่มีอะไรให้เลือกกันเลย

จำนวนของตัวเลือกต่อปัญหาที่เราต้องเผชิญอยู่นั้น นัก NLP ค้นพบว่านอกจากจะอยู่ที่รายละเอียดของตัวปัญหาเองแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ตัวเลือกของเราถูกลดลงอย่างฮวบฮาบก็คือ “สภาพอารมณ์ของตัวเราเอง”

สภาพอารมณ์ (Emotion) นั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อจำนวนตัวเลือกโดยตรง ยิ่งในขณะนั้นระบบประสาทประสาทของเราตกอยู่ภายในสภาพอารมณ์ใดๆ (ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์) มากเท่าใด จำนวนตัวเลือกในสมองของเราก็ยิ่งมีปริมาณลดลงเท่านั้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าสภาพอารมณ์นั้นเป็นผลอันสืบเนื่องมากจิตใต้สำนึกซึ่งทำงานโดยปราศจากตรรกะ ในขณะที่ทางเลือกหรือตัวเลือกต่างๆ ที่สมองสร้างขึ้นมานั้นเป็นผลมาจากจิตสำนึกซึ่งทำงานแบบตรรกะ ดังนั้นยิ่งสภาพอารมณ์ถูกสร้างขึ้นมาเท่าไรก็หมายความว่าจิตใต้สำนึกกำลังตื่นตัวและทำงานมากเท่านั้น ในภาวะแบบนี้จิตสำนึกจะถูกจิตใต้สำนึกเบียดบังการทำงานโยตรง ทำให้ในช่วงเวลาที่เรามีปริมาณของสภาพอารมณ์มากๆ ในสมองเราจึงไม่ค่อยจะมีตรรกะเหลืออยู่เท่าไหร่นัก

ขอให้สังเกตว่าคนที่อารมณ์ดีมากๆ มักจะ “อะไรก็ได้” (อะไรก็ดีไปหมด) ส่วนคนที่อารมณ์ไม่ดีนั้นก็มักจะ “อะไรก็ได้” (อะไรก็ไปเอามา!) เหมือนกัน ถึงแม้ว่าในรายละเอียดของคำว่าอะไรก็ได้ระหว่างคนอารมณ์ดีกับอารมณ์ไม่ดีมันแตกต่างกันแต่โดยกลไกแล้วมันเกิดจากเหตุผลเดียวกัน นั่นก็คือความบกพร่องลงของการทำงานเชิงตรรกะของสมอง

นี่จึงเป็นสาเหตุที่นัก NLP เสนอว่า เมื่อใดก็ตามที่เราประสบกับปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาธุรกิจ ครอบครัว สุขภาพ หรืออื่นใดก็ตาม สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือการตัดตัวเองให้ขาดออกจากสภาพอารมณ์ เพราะสภาพอารมณ์นั้นเองจะเป็นตัวขัดขวางกระบวนการวิเคราะห์และค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงของเรา



Create Date : 23 พฤษภาคม 2554
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 14:42:50 น. 0 comments
Counter : 1030 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

dear143
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




สาวตัวน้อย ๆ นักบำบัดด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกเพื่อรักษาอาการป่วยโรคกาย โรคใจ ปวดหัวเรื้อรัง ไมเกรน เครียด หมกมุ่น ฟุ้งซ่าน อาการกลัว (phobia) ลดความอ้วน แก้ไขพฤติกรรม อกหักรักคุด ลืมแฟนไม่ได้ รักใครไม่เป็น การแ้ก้ไขที่จิตใต้สำนึกช่วยคุณได้ สอบถามไ้ด้ค่ะ hypno_therapist@hotmail.com
[Add dear143's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com