The ordinary girl in the world.
ส วั ส ดี ค่ า ... ยิ น ดี ที่ ไ ด้ รู้ จั ก น ะ ... ม า ทั ก ท า ย กั น บ่ อ ย ๆ น ะ ค ะ ^_________^
[Japan 2014] โอซาก้า,โกเบ,ฮิเมจิ (1-6 ส.ค.) ..ตอน3 : ตะลอนโอซาก้า

{{3 ส.ค. 2014}}

วันนี้ชิวๆ ไม่ต้องตื่นกันตั้งแต่เช้า เกือบๆเก้าโมงแล้วยังนั่งชิวกินมื้อเช้าอยู่เลย 555
มื้อเช้าแซนด์วิชจากร้าน Sandog Inn Kobeya ซื้อคืนก่อน ลด20% เหลือ 528เยน


เติมพลังเสร็จ เราก็พร้อมออกเดินทางกันแล้ววววว 



บริเวณหน้าห้องพัก ที่พักเป็นอพาร์ทเม้นของคนญี่ปุ่น ลืมถ่ายหน้าห้องมาอ่ะ



หน้าประตูทุกห้องจะมีกล่องเหล็ก เปิดมามีที่ให้แขวนของ บางห้องแขวนร่ม 
ห้องพักเราเค้าแขวนกล่องกุญแจพร้อมรหัสไว้ คล้ายๆแบบสีเขียวในรูปนี้อ่ะ 
ก่อนออกไปข้างนอกเราก็แขวนแล้วล็อคเก็บไว้ตรงนั้นเลย ไม่ต้องพกไปให้หนัก :D สะดวกดี 



ระหว่างทางเดินจากที่พักไปสถานี Kitahama บรรยากาศเงียบสงบ(คนญี่ปุ่นเค้าไปทำงานกันหมดแล้ว 55)



เราเริ่มต้นทริปวันนี้ที่ Shinseikai & Tsutenkaku
(เรานั่งสาย Sakaisuji ไปลงสถานี Dobutsuen-mae ประมาณ 9 นาที)
เดินจากสถานีไปไม่ไกลก็ถึง Tsutenkaku แล้ว จริงๆไปลงสถานี  Ebisucho ก็ได้นะ








- Tsutenkaku Tower (Naniwa’s Eiffel Tower) & Shinsekai-
เวลาเปิด-ปิด : 9:00-21:00 (รอบสุดท้าย 20:30 น.)
ค่าเข้า : 600 เยน (Amazing pass เข้าฟรี)
การเดินทาง : เดิน 3 นาที จาก subway Sakaisuji Line Ebisucho Exit. #3
Website : (ภาษาอังกฤษ) click , (หลายภาษา มีภาษาไทย) click

จากทางเข้าเราลงไปชั้นใต้ดิน จะมีจุดขายตั๋วเข้าชม(Amazing Pass ขึ้นฟรี) 
แล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 2 จะต้องต่อแถวไปถ่ายรูป(ซึ่งไม่ซื้อก็ได้) ที่ชั้นนี้เราเจอกาชาปองฟูจิโกะเซ็ตบอลโลกด้วย 
แต่เราพลาดดดดดด ว่าจะลงมาหมุนตอนกลับ แต่ตอนลงมามันไม่ได้ผ่านทางนั้น อดเลยอ่ะ T^T 
เพราะฉะนั้น ถ้าใครจะหมุนกาชาปองตรงนี้ หมุนเลยค่ะ อย่ารีรอ 55555
แล้วก็ที่ชั้น 2 นี้ มีพิพิธภัณฑ์คินนิคุแมนด้วย (เล็กๆนะ) 
ส่งน้องๆไปถ่ายคู่ เกรงว่าถ้าตัวเองถ่ายด้วยอาจเป็นฝาแฝดได้ 5555



เสร็จแล้วเราก็ต่อคิวขึ้นลิฟต์ไปจุดชมวิวที่ชั้น 5 มีลิฟต์ 2 ตัวนะ ตอนเราไปรอไม่นานอ่ะ 
วิวตอนกลางวันก็สวยดี แต่ถ้ากลางคืนน่าจะสวยกว่านี้เยอะเลยเนอะ



ที่ชั้น 5 นี้จะมี Billiken อยู่รอบๆ เป็นจุดแสตมป์อ่ะ เราปั๊มมาทุกอัน 555
นอกจากนั้นก็มีจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ มีจุดถ่ายรูปเยอะนะ แต่จำไม่ได้แล้วอะไรอยู่ชั้นไหน
จำได้แค่ว่า ตอนลงอ่ะ มันจะมีทางเดินลงให้มาลงลิฟต์อีกชั้นนึง ไม่ใช่ชั้น 5
เราว่าทำแบบนี้ก็ดีอ่ะ คนไม่ต้องไปกระจุกตัวอยู่ชั้นเดียว :D







ของฝากน่ารักๆเยอะนะ แล้วก็ที่ชั้นสองก่อนจะลงลิฟต์ไปข้างล่าง เค้าทำเป็นเหมือนรถเมล์(?) หรือ รถไฟ(?) น่ารักดีๆๆ



เราใช้เวลากับที่นี่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ หมดเงินกับขนมโดเรมอนทั้งนั้น 555 
ที่ร้านกูลิโกะอ่ะ มีขนมเซ็ต Stand By Me ขายพอดีเลย โชคดีไม่ต้องไปเดินหา



หลังจากลงมาก็ใกล้ๆเที่ยงแล้ว วันนี้พวกเราจะไปกินบุฟเฟ่ต์เค้กกัน!! 
แต่ก่อนไปกิน ระหว่างทางมีวัดน่าสนใจ ก็เลยว่าจะแวะไปกันสักหน่อย 


วัดนี้ก็คือ วัด Isshin-Ji ไม่แน่ใจว่าตอนที่ไปเป็นวันอะไรหรือเปล่า เพราะคนเยอะมากเลย
บรรยากาศภายในวัด กับ ประตูทางเข้าวัด ให้อารมณ์แตกต่างกัน นี่แหล่ะที่เราว่าน่าสนใจดี





- Isshinji Temple -
เวลาเปิด-ปิด : 9:00-16:00
การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจาก สถานี Tennoji หรือ สถานี Shitennojimae Yuhigaoka 
Website : (ภาษาญี่ปุ่น) click , (ภาษาอังกฤษ) click

จากนั้นก็ได้เวลาไปจัดหนักกันแล้วววว กับบุฟเฟ่ต์เค้กที่ Sweet Paradise!!
สาขาที่เราไปก็คือ สาขา Tennoji ตั้งอยู่ที่ห้าง MIO


บุฟเฟต์เค้ก Sweet Paradise(สาขา Tennoji)
ราคา : 1,530 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 11:00-22:00
Website : (ภาษาญี่ปุ่น) click , (ภาษาอังกฤษ) click
สาขาต่างๆ : (ภาษาญี่ปุ่น) click

เราไปถึงเที่ยงกว่าๆ ก็รับบัตรคิวก่อน รอประมาณ 20 นาทีก็ได้โต๊ะ มีแต่คนญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยอ่ะ
หน้าร้านมีกาชาปองฟูจิโกะด้วยนะ ดีใจ ได้มาครอบครอง 5555
แล้วพอถึงเวลา ตรงทางเข้า จะมีตู้ให้กดพร้อมจ่ายตังค์ ว่าเรามากี่คน 
ตรงนี้เราให้พนักงานช่วยกดจ้า เพราะอ่านญี่ปุ่นไม่ออก -0-" 
เราไม่ได้ถ่ายรูปไลน์อาหารมานะ เพราะว่าคนเยอะเลย ไม่อยากรบกวนคนอื่น
นอกจากเค้กแล้ว ที่นี่มีอาหารคาวด้วยนะ สปาร์เก็ตตี้หลายรสชาติ แบบเส้นแบนๆอร่อยอ่ะ
แต่บางรสชาติก็แปลกๆ มีสปาร์เก็ตตี้คลุกแยมอ่ะ เราว่ารสชาติมันไม่เข้ากันเลย 555
มีข้าวแกงกะหรี่ ซุป แล้วน้ำดื่มก็หลายรส แต่อ่านไม่ออก เพราะมีแต่ป้ายภาษาญี่ปุ่นกำกับ



อร่อยและอิ่ม! ถ้าใครสนใจก็อยากให้ไปลองกันนะ เค้กมีให้เลือกหลายแบบเลย
แล้วเค้าตัดไว้ชิ้นเล็กๆ เลยลองได้ค่อนข้างเยอะอ่ะ 

อิ่มแล้วพวกเราก็ไปพิพิธภัณฑ์ Housing and Living จุดมุ่งหมายเพื่อกิโมโน! :D
(Tennoji นั่งสาย Tanimachi ไปเปลี่ยนสายที่สถานี Minamimorimachi ต่อสาย Sakaisuji ไปลงสถานี Tenjimbashisujirokuchome (Tenjimbashisuji 6-Chome))

ไปถึงแล้วตรงทางเข้า จะมีที่ฝากของนะ ยอดเหรียญแต่ได้เงินคืนทีหลัง
พอเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เราก็ไปหาจุดบริการชุดกิโมโนเลย คนต่อคิวเยอะมากกกกก
ตอนแรกเราหาข้อมูลมาได้ว่าใส่ฟรี แต่เค้าคิดค่าบริการ 200 เยน แล้วนะ
พอได้บัตรคิวมา พวกเราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นกันก่อน ค่อยมารอคิวแต่งตัว




ใกล้ๆถึงคิว เค้าจะให้ถุงเท้า รองเท้า มาใส่รอก่อน .. ถุงเท้าเก็บกับเลยนะ ไม่ต้องคืน
เจ้าหน้าที่เค้าจะช่วยเราแต่งตัว ที่ราวด้านหลังนั้น เค้าจะเรียงไซส์ไว้อ่ะ
คนตัวเล็กๆจะมีแบบให้เลือกเยอะมาก ไซส์เรานี่อยู่ริมสุดเลย มีให้เลือกไม่ถึง 10 ตัว 5555



เสร็จแล้วพวกเราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นกันอีกรอบ เจ้าหน้าที่แต่ละคนเค้ายิ้มแย้มดีนะ
คุณลุงที่ยืนตรงจุดข้างหน้าก็ช่วยถ่ายรูปรวมให้พวกเราด้วย





ก่อนกลับ จะมีจุดจัดแสดงนิทรรศการเล็กๆอยุ่ด้วย 



Osaka Museum of Housing and Living (ใส่กิโมโน 200 เยน)
ค่าเข้า : 600เยน (Osaka Amazing Pass เข้าฟรี) 
เวลา : 10.00-17:00 (รอบสุดท้าย 16:30น.)
การเดินทาง : ใกล้กับ Hankyu&subway Tenjimbashisuji 6-Chome Stn. Exit #3
Website : (ภาษาอังกฤษ) click

Osaka Museum of Housing and Living  ไม่ได้ใหญ่มากนะ แต่พวกเราก็
ถ่ายรูปเล่นกันชิวๆ ชั่วโมงครึ่งแหน่ะ เสร็จแล้วพวกเราก็ไป Yodobayashi กับ HEP FIVE กัน
(จาก Tenjimbashisujirokuchome (Tenjimbashisuji 6-Chome) นั่งสาย Tanimachi Line ไปลงสถานี Higashiumeda)
แต่พอไปถึง พวกเราหลงทาง 555 หาตึก Yodobayashi ไม่เจอกันซะที(เป็นตึกขายเครื่องใช้ไฟฟ้า)
ระหว่างที่งมทางกันอยู่ ฝนก็ตกไม่หยุดสักทีนะ มีแต่จะตกหนักขึ้น พวกเราไปถามทางน้าผู้หญิง
ตอนแรกเค้าเข้าใจว่าเราจะไปสถานี Yodobayashi บอกไม่ใช่ๆ แล้วพอเค้าเข้าใจ เค้าอธิบายมา
เราก็หลงอยู่ดีจ้า จนสุดท้ายได้หนุ่มญี่ปุ่น ใจดีมากกกกกกกกกก ช่วยนำทาง
ใจดีมากจริงๆอ่ะ คือเค้าบอกว่าเค้าจะไปทางนั้นพอดี แล้วก็เดินพาไปส่ง(เดินนานนะ เกิน 15นาที)
พอไปถึง เค้าชี้ให้ดูว่าข้ามถนนไปก็ตึกนั้นนะ ขอบคุณกันเสร็จ เค้าเดินกลับไปทางเดิมอ่ะ -0-
คือเดินมาส่งเฉยๆ ซึ้งน้ำใจเลย .. แล้วเราก็ไปลุยหากาชาปอง 5555 เพื่อสิ่งนี้!
แต่สรุป มีหลายตู้ก็จริง แต่ไม่มีฟูจิโกะสักตัวเลยจ้าาาา - -* 
ก็เลยยอมแพ้ละ ไป HEP FIVE ต่อเลย (แต่สุดท้ายเจอฟูจิโกะที่ HEP FIVE นี่แหล่ะ ^0^)


- HEP FIVE Ferris Wheel -
เวลาเปิด-ปิด : 11:00-23:00
ค่าใช้จ่าย : 500เยน (Amazing Pass ขึ้นฟรี)
การเดินทาง
เดิน 5 นาที จาก subway Midosuji Line Umeda Stn.
เดิน 5 นาที จาก subway Tanimachi Line Higashi-Umeda Stn.
เดิน 3 นาที จาก Hankyu Line Umeda Stn.

พวกเราไปถึงเกือบๆหกโมง Hep Five Ferris Wheel จะอยู่ชั้นบนๆของห้าง HEP FIVE เลย
1 รอบ น่าจะราวๆ 15 นาทีได้นะ นี่ขนาดไปถึงตอนเกือบหกโมงเย็นนะ ยังไม่มืดเลยอ่ะ(หน้าร้อนนี่น้า)



เสร็จแล้วพวกเราก็แวะไปเดินเล่นที่ Joy Polis ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 8 กับ ชั้น 9 ของ HEP FIVE
แล้วเราก็เจอน้องไข่ฟูจิโกะ T^T หมุนๆๆมาอีก 5555 คราวนี้หมุนตัวชุดฟ้าจ้า
จริงๆมันมีตู้คีบ แบบฟูจิโกะใส่เต็มถ้วยเลยนะ แต่คีบไม่สำเร็จซะที หมดไปเยอะ 555

แล้วที่ชั้น 9 ของ Joy Polis อ่ะ ตู้สติ๊กเกอร์เยอะมากกกกกกก ถ้าใครอยากถ่ายพูริคุระ แนะนำเลย
มีให้เช่าชุดด้วยนะ ประมาณ 200 เยน ชุดเยอะมาก ดูแบบชุดของ P+Closet คลิ้กเลย
แต่ก็นั่นแหล่ะ ไซส์ใหญ่ มีแต่ทรงกิโมโน T_T และมีให้เลือกน้อยมากกกกก
แล้วตรงข้างๆห้องเปลี่ยนชุด จะมีกระจก ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม คือมีให้พร้อมเลยอ่ะ
ตู้สติ๊กเกอร์ก็ยอดเหรียญเอง รอบละ 400 เยน รูปแบบเหมือนตู้ที่เอาเข้าไทยแหล่ะ
ต่างกันแค่ไม่มีพนักงานคุมตู้ หยอดเหรียญแล้วกดเอง เวลาแต่งรูปจะมีจับเวลา
แล้วมันจะหยุดนับถ้าไม่มีคนถ่ายต่อเรา ก็แต่งไปเพลินๆ 55



ถ่ายรูปกันจนลืมหิว กลับกันเกือบสามทุ่มอ่ะ 5555 เราไปญี่ปุ่นเพื่อสิ่งนี้!? ไม่ใช่มั้งงง 5555555
แล้วนี่คือทั้งหมดที่เราซื้อในวันนี้ 555 ไร้สาระล้วนๆ 



เสร็จแล้วพวกเราก็กลับไปหาอะไรทานกันใกล้ๆที่พัก ข้าวหน้าปลาไหลชามโต 
จำราคาไม่ได้แต่ไม่แพง มีร้านราเม็งเปิด 24 ชั่วโมงใกล้ๆกัน แต่ไม่ได้ลองเลยอ่ะ



------------------------------------------------------------------------------

{{4 ส.ค. 2014}}

มื้อเช้าวันนี้ โกโก้ที่ซื้อจาก Fresco + ขนมโคลอนโดเรมอน 



จุดมุ่งหมายแรก ปราสาทโอซาก้า ^^ 
(จากทางออก 1-B Tanimachi Yonchome(Tanimachi-4-chome) เดินตรงไปเรื่อยๆจะผ่าน NHKที่อยู่ฝั่งขวามือ 
เดินต่อไปเรื่อยๆ ข้ามแยก ก็ถึงแล้ว)

บรรยากาศโดยรวม ก่อนที่พวกเราจะไปถึงตัวปราสาท



ก่อนจะเข้าไปในปราสาท ก็กินนู่นนี่ไปเรื่อย ไอติมชาเขียว 350 เยน อร่อยดี , 
ซาลาเปาลูกละ 230 เยน รสชาติธรรมดามากกกกกก เฉยๆอ่ะ




รอบๆปราสาทโอซาก้า มีตัวเหลืองๆแบบในรูปตั้งอยู่ 5 จุดอ่ะ เราเจอแค่ 2 จุด ไม่แน่ใจว่าฉลองอะไร?


แล้วพวกเราก็ไปต่อแถวขึ้นไปชั้นบนๆ เดินขึ้นก็ได้นะ แต่พวกเราไม่ไหวอ่ะรอลิฟต์ดีกว่า 555 
พนักงานเค้าบอก ว่าชั้นไหนๆห้ามถ่ายรูป แต่เราก็เห็นมีชาวต่างชาติถ่าย มีป้ายติดไว้ด้วยนะว่าห้าม
ใครไปก็ทำตามที่เค้าบอกด้วยละกันน้า :D

อันนี้เป็นวิวจากบนปราสาท



ในปราสาทจะมีจุดให้แต่งตัว ใส่หมวก ชุดนักรบ(ซามูไร?) กิโมโน 300เยนมั้ง ไม่ได้แต่งอ่ะ คิวย๊าวยาว 



- ปราสาทโอซาก้า -
เวลาเปิด-ปิด : 9:00-17:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:30) ช่วงเวลาอาจแต่งต่างไปในบางฤดูกาล
ค่าเข้าชม : 600 เยน(Amazing Pass เข้าฟรี)
การเดินทาง : เดินจาก JR Morinomiya Sta. หรือ Osakajokoen Sta.(ทางออกที่ 1,3) ราว 15-20 นาที , เดินจาก Tanimachi Yonchome(Tanimachi-4-chome) ทางออก 1-B ราวๆ20นาที
Website : (มีหลายภาษา) click

เสร็จแล้วก็ต้องมานั่งเสิร์ชหาวิธีเดินทางอีก เพราะเราดันลืมสมุดจดไว้ในห้องน้ำที่ปราสาท -0- 
บ่ายกว่าๆ พวกเราก็ไปร้านซูชิกัน Kappa Sushi เห็นรีวิวกันว่าถูก *0* และมีหลายสาขาด้วย
ไม่แน่ใจว่ามีสาขาไหนใกล้กว่านี้มั้ย แต่ด้วยความขี้เกียจแปลกูเกิ้ล 55 ไปสาขาแรกๆในหน้าเว็บแหล่ะ

(จาก Tanimachi yonchome นั่งสาย Tanimachi ไปเปลี่ยนสายที่ Tanimachi Kyuchome(9-chome) ต่อสาย Sennichimae ไปลงสถานี Kitatatsumi ประมาณ 15 นาที)

จากทางออก 2 เดินตรงไปเรื่อยๆ แยกที่สาม ให้เลี้ยวซ้าย หน้าแยกมีป้ายบอกเป็นรูปกัปปะตัวเขียวๆ
ร้านกัปปะ เป็นซูชิสายพานอ่ะ จานละ 108 เยน แต่บางอย่างก็แพงกว่านั้น 
ถ้าไม่อยากรอ กดสั่งจากหน้าจอก็ได้ อยู่ซ้ายมือในรูปมุมบนของรูปข้างล่าง 
สักพักซูชิที่สั่งจะมีมังกร(?)หรือจระเข้(?)มาส่ง มันจะวิ่งรางบน ปู๊ดป๊าดดดดด มาจอดโต๊ะเรา 
แล้วพอหยิบเรียบร้อย ก็กดโอเคบนหน้าจอด้วย มังกรก็จะปู๊ดป๊าดดดดกลับไป 
ลืมถ่ายรูปไว้อ่ะ มัวแต่ตื่นเต้น 55555555



แล้วก็ที่โต๊ะจะมีน้ำร้อนให้กดนะ อยู่ซ้ายมือมุมล่างของรูปบนนี้อ่ะ
มีผงชาเขียวให้ด้วย แล้วก็ถ้าจะกดน้ำเย็นก็จะมีที่ให้ไปกด เห็นง่ายอยู่

อันนี้เป็นเมนูต่างๆ (คลิ้กที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่นะ)





ซูชิที่เรากินบางส่วน ไม่ได้กินปลาดิบ มีแต่น้องสาวกิน .. วาซาบิก็ไม่ชอบกิน
ลองกินกุ้งแล้วจี๊ดขึ้นสมองเลยอ่ะ วาซาบิมันจี๊ดดดดดดด = =" 
ลองสั่งเมลอนมากินด้วย ไม่อร่อยเหมือนที่เคยกินที่อื่น รสเหมือนแคนตาลูปเลย



จ่ายค่าเสียหายมื้อนี้ไปทั้งหมด 1,446 เยน เรากินไป 10จานพอดีเป๊ะ

- Kappa Sushi สาขา Ikuno -
เวลาเปิด-ปิด : 11:00-23:00(รับออเดอร์รอบสุดท้าย 22:30)
ที่อยู่ : 大阪市生野区巽東1-5-24
Website : (ภาษาอังกฤษ) click , เช็คสาขาต่างๆ(ภาษาญี่ปุ่น) click

จากนั้นก็ไปล่องเรือกันต่อออออ
(จาก Kitatatsumi นั่งสาย Sennichimae ไปเปลี่ยนสายที่ Awaza แล้วต่อสาย Chuo ไปลงสถานี Osakako ประมาณครึ่งชั่วโมง)
จากสถานีเดินไปไกลพอสมควรนะ ล่องเรือ Cruise Ship Santa Maria 
จะอยู่ใกล้ๆกับ Osaka Aquarium Kaiyukan(ซึ่งเราไม่ได้เข้า เพราะก่อนไปเช็คเว็บแล้วเจอข่าวว่าฉลามวาฬเสียชีวิตทั้ง 2 ตัว)
ถึงไม่ได้เข้าไปก็ขอถ่ายรูปข้างนอกไว้สักนิดดด อยากบอก พนักงานในรูปคนนั้นน่ารักล่ะ 555



พวกเราไปถึงเร็วไปนิด เรือยังไม่มา ก็เลยถ่ายรูปเล่นกันรอบๆแถวนั้นก่อน



คนเริ่มมาต่อแถวกันละ เราก็ไปต่อคิวรอขึ้นเรือ สักพักเรือก็มาาาา 
นั่นๆ พนักงานหนุ่มคนเดิมคนนั้น มาประจำตรงทางขึ้นเรือละจ้า 5555
แล้วคุณน้องสาวทั้ง 2 คนก็ต่อแถวขึ้นฝั่งที่คนนี้เป็นคนตรวจตั๋วจ้า คุณพี่พลาดจ้าาา 55555
อ้อ แค่โชว์ Amazing Pass ก็ขึ้นได้เลยนะ :D 





- Cruise Ship Santa Maria -
เวลา : (เวลาแตกต่างกันไปตามฤดูกาล)
Day Cruise 45 นาที 11:00 ~ (ออกทุกชั่วโมง) , Night Cruise 90 นาที 19:00 (ต้องจอง)
ค่าใช้จ่าย : (เฉพาะ Day-cruise 45นาที Amazing Pass ขึ้นฟรี)
Day Cruise : 1,600 เยน , Night Cruise : 2,650 เยน
การเดินทาง : เดิน 10 นาที จาก subway Chuo Line Osakako Stn. exit. #1
Website : (ภาษาอังกฤษ) Click

บนเรือลมแรงมากกกก หัว เอ้ย! ผม แทบร่วงงงงง บรรยากาศบนเรือก็นั่งกันเป็นคู่ๆเชียวว แหม๊!!





ครบรอบแล้วพวกเราก็ไป Tempozan Ferris Wheel กันต่อ ใช้ Amazing Pass ให้คุ้ม :D



เราชอบวิวที่นี่มากกว่าที่ HEP FIVE นะ 



-Tempozan Giant Ferris Wheel - 
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 - 22:00
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จาก subway Chuo Line Osakako Stn. exit. #1

ตอนเดินกลับ ก็จัดสักกระป๋องมาแก้ร้อน :D หยอดเหรียญกริ๊งๆๆ


เสร็จแล้วก็ไป Den Den Town กัน ไปทำไม? ไปเดินดูโมเดล กาชาปองงี้
ไปลงสถานี Ebisucho พวกเราออกทางออกฝั่ง 1-A เดินตรงไปนิดเดียว 
จะเจอ tourist information แวะไปขอแผนที่ ถามทางได้
อยู่ตำแหน่งประมาณดาวในรูปข้างล่างนี้อ่ะ ข้ามแยกเดินไปนิดเดียวก็เจอแล้ว


- den den town ebisucho -
การเดินทาง : สถานี Ebisucho ทางออก 1-A หรือ 1-B.
Website : (ภาษาญี่ปุ่น) click , (ภาษาอังกฤษ) click
เดินกันสักพักใหญ่ๆ สรุปไม่เจอตู้กาชาปองอ่ะ แต่ซื้อนู่นนี่มาเพียบเลย 555
หมดเงินกับที่นี่ไปเยอะกว่าค่าอาหารอีก 555555555 ได้ตุ๊กตาเกาะขอบแก้วเรื่อง Free! มาสามตัว!
Free! เกาะขอบแก้ว กับ Rozen Maiden ต้องลุ้นเอาอ่ะ เพราะมันมาเป็นกล่อง เค้าไม่ให้แกะ
ดีใจได้รินจัง :D ชอบสุดเลยคือรินที่นอนในห่วงยางอ่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก และแพงกว่าเพื่อน -*-
ส่วนโรเซ่น จริงๆอยากได้ซุยกินโท T_T แต่ก็ยังดี ได้ชินกุ





หลังจากนั้นเราก็ไปเจอเพื่อนของน้องสาวที่เพิ่งมาอยู่ญี่ปุ่น แล้วก็ไปเดินเล่นแถว Dotonbori
ไปหาอะไรกินกัน แต่วิธีเดินทางตรงนี้ไม่ได้หาข้อมูลนะ เพราะเดินตามน้องอย่างเดียว 55
รวมพลังเด็กลาดกระบังกับแลนด์มาร์คของที่นี่!! น้องวิศวะฯกันหมด เราไอทีอยู่คนเดียว -3-



ไปถึงก็เดินเล่น ช็อปนู่นช็อปนี่ แล้วก็มาสรุปกันที่ทาโกะยากิร้านนี้ ร้านดังมั้ยไม่รู้ แต่แถวยาวอยู่นะ
รอนานมากกก ไม่ใช่เพราะคนเยอะมาก แต่เพราะดันอยากกินหนวดยักษ์ 555 (1,350 เยน)
จริงๆถ้าสั่งแบบธรรมดาก็ได้กินไปนานละ 55555 นั่งกินกันหน้ามินิมาร์ทเลย 



ซื้อป๋องนี้มากินกับทาโกะฯ มีแอลกอฮอลล์จึ๋งนึง ตอนซื้อไม่ได้อ่านนะ ไม่รู้ว่ามี 55555



ถ่ายรูปหุ่นตีกลองมาด้วย แลนด์มาร์คเหมือนกันใช่ป่ะ??



แล้วก็ไปกินราเม็งมังกรกัน อร่อยดีเหมือนกันนะ (900 เยน)



กว่าจะกินเสร็จก็ดึกแล้ว วันนี้กลับถึงที่พักสี่ห้าทุ่มนู่นเลย ดึกสุดของทริปนี้ละ
บล็อคหน้า ตอนสุดท้ายของทริปแล้วววว เราไปเที่ยว Universal กัน :D




Create Date : 06 ตุลาคม 2557
Last Update : 7 ตุลาคม 2557 23:23:30 น. 0 comments
Counter : 2990 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mcma_p
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add mcma_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.