ย่ำเท้าเต๊าะแต๊ะ...ในชิคาโก้
Chicago เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงของรัฐ Illinois ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวสหรัฐอเมริกาเอง และชาวต่างชาติจากทั่วโลกเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ เนื่องจากมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย โดยเฉพาะย่านดาวน์ทาวน์ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งธุรกิจและแหล่งช็อปปิ้งของนักช็อปตัวยงCute Nerd มีโอกาสไปเยือนเมืองชิคาโก้เมื่อช่วงวันที่ 12-16 สิงหาคม 2548 ที่ผ่านมา โชคดีที่ว่าคนใกล้ตัวต้องไปร่วมประชุมวิชาการด้านฟิสิกส์ที่นั่น ก็เลยมีโอกาสติดสอยห้อยตามเค้าไปด้วย แถมยังโชคดีที่เพื่อนของคุณเค้าจัดงานแต่งงานที่แถบชานเมือง ก็เลยได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแต่งงานแบบฝรั่งเป็นครั้งแรก ความรู้สึกก็ตื่นเต้นดีค่ะ เพราะรูปแบบงานช่างแตกต่างจากชาวไทยเราอย่างสิ้นเชิง ทั้งพิธีการในโบสถ์ และงานเลี้ยงรับรองตอนเย็น แต่ก็สนุกไปอีกแบบนะ...นี่เป็นภาพตอนร่วมพิธีในโบสถ์...ขอเล่าแบบคร่าวๆ สำหรับพิธีการแต่งงานแบบชาวคริสต์นะคะ เริ่มจากการที่แขกทุกคนเข้านั่งประจำที่ในโบสถ์ เมื่อพิธีการเริ่มขึ้น เจ้าบ่าวจะเป็นคนพาคุณแม่ทั้งฝ่ายตัวเองและเจ้าสาวมายังที่นั่งแถวหน้าสุด จากนั้นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวจะเดินควงคู่กันมาทีละคู่เพื่อมายืนอยู่ตรงบัลลังค์พิธี จากนั้นคุณพ่อฝ่ายเจ้าสาวจะเดินควงคู่เจ้าสาวเข้ามาในงานเพื่อส่งตัวให้กับเจ้าบ่าว เป็นการฝากฝังว่าต่อไปนี้ขอให้เจ้าบ่าวเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลปกป้องเจ้าสาวแทนคุณพ่อ จากนั้นก็จะเป็นพิธีการทางศาสนาที่จะมีบาทหลวงเป็นผู้ทำพิธีให้ โดยการกล่าวสาบานตนว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป โดยตรงนี้บาทหลวงเค้าจะถามเป็นคำถาม ซึ่งเป็นช็อตเด็ดของงาน นั่นก็คือการที่ทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะตอบคำถามของบาทหลวงด้วยการพูดว่า "I DO" นั่นเอง จากนั้นก็จะเป็นการสวมแหวนให้กันและกัน และปิดท้ายด้วยการ kiss ค่ะเมื่อเสร็จพิธีการทางศาสนา แขกจะทยอยออกมารอหน้าประตูทางเข้าโบสถ์ เพื่อยืนรอส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นรถที่จะมีคำว่า "Just Married" เขียนติดไว้ ระหว่างทางนั้นเองแขกก็จะโปรยกลีบดอกกุหลาบใส่คู่บ่าวสาวเป็นที่สนุกสนาน....ภาพนี้ cute nerd กับคนใกล้ตัวเองค่ะ ^o^พูดถึงงานเลี้ยงช่วงเย็นบ้างนะคะ เสียดายจังลืมเอากล้องติดตัวไปในงานด้วย เลยไม่มีรูปถ่ายมาฝาก แต่ขอเล่าแบบย่อๆ ให้ฟังแล้วกันนะคะ พอไปถึงบริเวณงานเนี่ย เค้าจะมีห้องรับรองเล็กๆ ห้องนึงก่อนเพื่อให้แขกที่ไปได้แวะพูดคุยทักทายกันก่อนที่งานเลี้ยงจริงๆ จะเริ่มขึ้น โดยห้องเนี้ยเค้าจะจัดสไตล์เป็นค็อกเทลและมี open bar เล็กๆ อยู่ คือใครอยากดื่มอะไรสั่งเต็มที่ ฟรี และไม่จำกัดจำนวนนั่นเอง แต่ตามมารยาทเราก็ให้ทิปบาร์เทนเดอร์เค้าไปซักเหรียญสองเหรียญอะนะคะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่า "งก" แหะ แหะ... เมื่อถึงเวลาคือประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง บรรดาแขกที่มางานทั้งหลายก็พากันย้ายตัวไปที่อีกห้องนึงซึ่งเป็นห้องบอลลูมและมีการจัดโต๊ะไว้แล้ว โดยเราก็ไปนั่งที่โต๊ะที่เป็นหมายเลขโต๊ะของเรานะคะ (คนฝรั่งเค้าจะนิยมจัดโต๊ะโดยเจ้าภาพจะกำหนดเอาไว้เลยว่าให้ใครนั่งโต๊ะไหนเพื่อไม่ให้เกิดการสับสนน่ะค่ะ) ลืมบอกไปว่าตอนได้รับการ์ดเชิญเนี่ย เราจะต้องตอบรับกลับไปนะคะว่าจะไปร่วมงานหรือไม่ และจะเลือกอาหารชนิดไหนระหว่าง เนื้อ, ปลา และไก่ค่ะที่แปลกอีกอย่างนึงก็คือบนเวทีนั้นจะเป็นโต๊ะยาวๆ จัดไว้ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวนั่งรับประทานอาหาร โดยทุกคนจะหันหน้าออกมาทางแขกที่นั่งกันอยู่ข้างล่าง อาหารเริ่มเสริฟจากซุป ตามด้วยสลัด และไอศกรีมเชอร์เบทสำหรับล้างปากก่อนที่จะเริ่มอาหารจานหลัก (entree) ซึ่งของ cute nerd เลือกปลา salmon ไว้ จากนั้นก็เป็นของหวานซึ่งเป็นเค้กราดด้วยวิปปิ้งครีมแล้วนำไปแช่เย็น ถ้าดูเผินๆ เนี่ยนึกว่าไอศกรีมค่ะ เพราะเค้าใช้เสริฟในถ้วยไอศกรีมและตกแต่งคล้ายๆ ไอศกรีมซันเดย์เลยพูดถึงพิธีการบ้างดีกว่า ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะกล่าวขอบคุณแขกทุกคนที่มาร่วมงานและจะมีตัวแทนเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวฝ่ายละคนมาพูดถึงตัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวว่าเป็นคนยังไง น่ารักแค่ไหน จากนั้นก็จะมีการเต้นรำเปิดฟลอร์โดยเจ้าบ่าวเจ้าสาว และมีการเต้นรำของเจ้าสาวกับคุณพ่อ หลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาของบรรดาแขกที่มาร่วมงานให้ออกลีลากันสุดฤทธิ์ ซึ่งเค้าจะมีดีเจมาเปิดเพลงในลักษณะเพลงแดนซ์แล้วทุกคนก็เต้นกันกระจายจนถึงงานเลิกประมาณเที่ยงคืนโน่นแหละค่ะแอบกระซิบนิดนึงว่างานแต่งงานของฝรั่งเนี่ย ฝ่ายเจ้าสาวจะต้องเป็นผู้ออกเงินในการจัดงานนะคะ ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวมีหน้าที่แค่ซื้อแหวนแต่งงานมาสวมให้เจ้าสาวเท่านั้นค่ะ ดูๆ แล้วเกิดเป็นหญิงสาวชาวไทยเนี่ยแหละดีแล้วนะคะ เพราะบ้านเราฝ่ายชายต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายไม่ใช่ฝ่ายหญิงเนอะ...ก่อนจบบล็อคนี้ cute nerd มีรูปมาฝากด้วยค่ะ เป็นสภาพบ้านเมืองของเมืองชิคาโก้นะคะ เชิญชมเลยค่า...
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [