Group Blog
 
All blogs
 
สุราษฎ์ธานี


ไปสุราษฎร์มาค๊าา...ทริปนี้ไม่เป็นอย่างที่หวัง
แต่ก้อสนุกสนานพอตัวเลยทีเดียวเชียว แผนการตุเลงตุเลง ครานี้ต้นเหตุมาจาก
สุดที่รักจำต้องไปทำธุระเกี่ยวกับThesis ณ สนามบินสุราษฎร์ธานี
เราเลยสบโอกาสเหมาะ ได้หาอะไรสนุกๆทำเพิ่มเส้นประสบการณ์ชีวิ๊ตต
แถมยังอาจได้ภาพงามๆมาใช้ทำงานได้ด้วย ฮุๆๆ แค่คิดก้อน้ำยายไหยย...
ทริปนี้แสนสั้นนักตามวันและเวลาที่พอจะเอื้ออำนวย ให้เราสองคนผจญภัยลงใต้กัน
ช่วงเวลาสี่วัน สองคืน กว่าเกือบยี่สิบชั่วโมง สิ้นไปกับการนอนบนรถทัวร์
และอีกสองคืนให้ได้นอนเกลือกกลิ้งกัน ณ ที่พักกลางตัวเมือง
เริ่มจากขาไปที่สุดที่รัก ผล็อยหลับไปหลังจากเพิ่งเสร็จงาน
ทำให้ดิชั้นต้องทำการเป่าหู ลาก จูง ขู่ เข็น ให้ตื่น เพื่อนที่จะออกจากหอพัก
ตามแผนการที่ว่ากันเอาไว้ เพื่อที่จะออกเดินทางไปยังสายใต้ใหม่
ณ ถนนบรมราชชนนี เพราะหากช้ากว่านี้จะไม่ทันการ
เพราะว่าเรายังไม่มีตั๋วโดยสารนั่นเอง แถมวันที่ไปยังเป็นช่วงวันปิยะฯอีกต่างหาก
ผู้คนล้นหลามสายใต้ ตั๋วทุกเส้นทางถูกซื้อจนแทบหมด แล้วโดยเฉพาะ
ตั๋ว กรุงเทพ-สุราษฎร์ เป้าหมายของเรา ก้อคงไม่เหลือ
แต่มีเรื่องที่หน้าตื่นเต้นกว่าตั๋วหมดนั่นคือ ลุงหนวดของดิชั้น(สุดที่รัก)
เกิดโมโหด้วยเหตุผลบางประการ โมโหหัวชนฝาเสียด้วย
วินาทีนั้นไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น แถมยังเป็นในช่วงยี่สิบนาทีก่อนเที่ยวรถทุก
บริษัททัวร์จะออกเสียอีกต่างหาก เล่นเอาคนง้อใจเสีย
เพราะพ่อคุณโมโหถึงขั้นบอกว่าแยกกันไปแล้วกันนะ อกอีแป้นจะแตก
จะแยกทำหยังล่ะคะ มาด้วยกัน จะทิ้งกันได้ไง เฮ้ออ ท่องนะโม พุดโธ
ทำใจเย็นเข้าข่ม เข้าไปถามบริษัทกรุงสยามทัวร์ “มีค่ะ สองที่สุดท้าย ราคา 560”
ดิชั้นใจพองฟู แต่พ่อคุณ โมโหอยู่ เสียงดิชั้น ลุงหนวดเค้าไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
หลังจากสถานการณ์อื้ออึงซักพัก พ่อคุณอารมณ์เย็นลง ดิชั้นกลับไปหน้าเคาเตอร์
และอย่างที่คาด “สองที่นั้น พี่ขายไปแล้วนะคะ” แทบสิ้นใจ
หมดหวังก็ต้องเดินออกมายังที่หมายใหม่ ถามจนจะปากถึงหู
กระเป๋าก้อหนัก หลังแอ่น ของก็ถืออยู่ทั้งสองมือ และแล้วไปเจอของ
บริษัท ไทยเดินรถ ยังมีที่ว่าง วินาทีนั้น ต่อให้ตั๋วแพงเยี่ยงไร ก็คงไม่รีรอแล้วล่ะค่ะ
ตอบตกลงซื้อตั๋วไปในราคา 870 บาท เป็นรถ ป.2 เอา..ได้ตั๋วมาในมืออีกสิบนาทีรถออก
รีบแจ้นไปจัดการธุระส่วนตัว ซื้อเสบียงไว้เป็นขนมเย็น(เพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็น ฮิๆ)
กลัวรถออก เดินลงไปชานชาลาตามที่ระบุไว้ในตั๋วก็ช่างทุลักทุเล
คนเยอะเสียเหลือเกิน เดินๆๆจนเจอรถบัสของเรา โอวว ถึงซักที
ขึ้นรถด้วยความดีใจ ได้ไปแล้ว วู้วๆ แต่นะ ที่นั่งมันแอบแคบ
เพราะขาเรายาวเกินไป แต่ก็โอเค รีบกินขนมที่ซื้อมา เสบียงหมดล่ะพะย่ะค่า
หิ้วท้องรอมื้อหน้า ณ สุราษฎร์ธานีโลด รถทัวร์ที่นั่งมา เค้าจอดให้เข้าห้องน้ำหนึ่งรอบ
รู้สึกจะเป็นตอนที่อยู่ประจวบฯ กว่าจะถึงก้อรุ่งเช้าพอดิบพอดี
เดินกันทำหน้าเหลอหลา ไปที่รถสองแถวที่จอดอยู่บริเวณ บขส.
เป้าหมายนี่ ไม่มี รู้แต่ว่ารถคันนี้ต้องเข้าเมืองแน่ๆ เฮ้ออ เพราะดิชั้นลืมเอาแผนที่มา
555+ ลุงหนวดซื้อมาตั้งหลายอันตอนทำงาน ดันลืมเอามาใช้งานเวลาจริงซะนี่
เลยทำให้นึกภาพไม่ออกกันเลยทีเดียว ใช้ประสาทสัมผัสเท่าที่มี
นึกภาพแผนที่ว่าโรงแรมที่เราจองไว้ จะอยู่ที่ไหนหนอ
ใช้สายตาลอดมองที่ว่างที่เหลือจากหลังคารถอย่างยากเย็น
มองไปยังโรงแรมเป้าหมาย สุดท้ายแล้วอ่ะฮ้าา เจอค่ะ
ลุงแกจอดให้ลงที่ศาลหลักเมือง เราเลยเดินข้ามฝั่งถนน ไปยังที่พักที่หากันไว้
ทริปนี้เราฝากตัวฝากใจไว้ที่ โรงแรมบีเจ ล่ะค่ะ ฝั่งตรงข้ามมีร้านโจ๊กและติ่มซำ
ขายตอนเช้าชื่อ “จีบเหลือง” จำได้แม่น เพราะไปฝากท้องเป็นอาหารเช้า
ตั้งแต่ถึงที่หมาย ข้างๆ ก้อเป็นโรงแรมสยามธารา รู้สึกเดี๋ยวคงเปลี่ยนชื่อ
เป็นแกรนด์ธารา เห็นมีป้ายอยู่ โรงแรมบีเจที่เราไปพักนั้น ตกราคาคืนละ510บาท
เป็นห้องเตียงเดี่ยวคู่ ในห้องก็ถือว่ามีของพร้อมทุกอย่างแบบพื้นฐานนะคะ
มีอาบน้ำอุ่น ตู้เย็น ทีวีที่ถึงจะไม่เคเบิล แต่ก็พอถูไถ
แล้วก็เครื่องปรับอากาศที่เย็นจับใจดี พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า
ถือว่าผ่านค่ะ นอนสบายใช้ได้ อันที่จริงก่อนจะมานี่
มีพี่ๆในพันทิปที่เราถามมาว่า ไปนอนที่ไหนดี มาแนะนำกันมากมาย
นั่นคือเอสอาร์ ร้อยเกาะ และนิภาการ์เด้น จากที่เรานั่งรถผ่าน
โอวว ไกลจากตัวเมืองพอควร หากไม่ได้เอารถไปนี่เหงือกแห้งเป็นแน่แท้
เพราะที่ผ่านจริงๆก็คือรถสองแถวรอบเมือง ซึ่งไม่ได้มากันบ่อยๆเฉกเช่น
รถตุ๊กตุ๊กสีฟ้าสีส้มค่ะ เพราะบีเจที่เราพักนั้น แค่คิด
รถตุ๊กตุ๊กก้อมาปิ๊นๆตรงหน้าให้ได้โบกกันเลยค่ะ สนุกสนาน
การคมนาคมที่นี่รถตุ๊กตุ๊กจะค่อนข้างสะดวกค่ะ



อย่างอื่นก็จะเป็นมอเตอไซค์รับจ้าง และการเดินเท้านี่แหละค่ะ
ทริปนี้โชคร้ายอยู่ที่มันเป็นหน้าฝน ฝนเข้าตลอด
ตกกันตั้งแต่ช่วงบ่ายๆลงไปเลย ทำให้แพลนการไปเกาะสมุยของดิชั้น
พังทลายลง เพราะถ้าไปก็คงไม่สนุก ฝนเล่นเทมาทุกวี่วัน
จะออกไปไหนก็ลำบาก ที่ทำได้เห็นจะเป็นการเดินเล่นในเมือง
และหาของกินข้างๆที่พักนั่นล่ะค่ะ ฮี่ๆ ทริปฉุกละหุกก้องี้
หากเพื่อนๆอยากอ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวอาจจะผิดหวังนะคะ
เพราะเราเน้นเดิน เล่น กิน เพลินๆเท่านั้น ^^ ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย
ให้ตายสิ แถมที่นี่ฝนเม็ดใหญ่สุดๆ ตกมาที เม็ดเดียวนี่หลังเปียกเลย 55 เว่ออไปเนอะ

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สนุกตั้งแต่พักคืนแรก นอนพักอยู่ดีๆตอนเย็นๆ
ตื่นมาซักประมาณทุ่มครึ่ง ทำไมมันมืดๆ ก็จำได้ว่าเปิดไฟทิ้งไว้นี่หน่า
โอวว ไฟดับค่ะ คุณพระช่วย ดิชั้นและลุงหนวด ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
หยิบทรัพย์และของมีค่า เดินคลำทางลงมาข้างล่าง มันดับมืดเลยแฮะ






แถมเป็นที่พักเราที่เดียวอีกต่างหาก!! สอบถามจากพนักงาน
ได้ความว่า หม้อแปลงระเบิด และช่างก็กำลังเดินทางมาค่ะ เง้ออ
ช่วงเวลาพักผ่อนของหนู... อยู่เฉยๆเห็นจะไม่ได้การ ชักชวนลุงหนวด
ออกไปหาอาหารเย็นอร่อยๆทานกัน เดินๆ ไปฝั่งซ้ายของโรงแรม
ก่อนถึงเซเว่น จะมีร้านอาหารแนวข้าวต้มๆอยู่ร้านหนึ่ง
สั่งกับข้าวมาสามอย่างมีขาหมู กะเพราหมูของดิชั้น และ
กระเพาะหมูของลุงหนวดให้หม่ำๆกัน อย่างเอร็ดอร่อย อุ๊ยย
ร้านนี้อร่อยนะคะนี่ เชิญชิมๆ แอบเชียร์ค่ะ ชื่อร้านอะไรก็จำไม่ได้เหมือนกัน
สาบานว่าไม่ได้เป็นญาติข้างไหนด้วยเอ้า แต่อร่อยนะคะ ^^
วันต่อไปว่าจะไปหม่ำๆอีกครั้ง แต่ดันอิ่มจากการเดินตลาดเสียก่อน
เสียดาย พูดถึงตลาดก็จัดไปอย่าให้เสีย คืนเดียวกับที่ไฟดับ
เพราะไฟไม่ยักกะมาซักที ซ่อมกันน๊านนาน เลยถามพี่พนักงานว่า
แถวในเมืองมีที่เดินเล่นที่ไหนมั้ย พี่เค้าก็ใจดีบอกว่า
“ไปเดินที่ตลาดศาลเจ้าค่ะน้อง โบกตุ๊กตุ๊กไปเลย บอกคนขับตลาดศาลเจ้า เค้ารู้ค่ะ”
เราก็ค่ะๆ ไปๆ ตอนนี้ไปหมดแหละนะ อยู่เฉยๆได้อย่างไร
เวลามีน้อยใช้สอยอย่างประหยัด พอตุ๊กตุ๊กจอดให้ลง
โอวว้าว ของกินเพียบเลย แต่ถึงจะอิ่มจากร้านข้าวต้มแล้วก็เถอะ
เราก็สอดส่องหาของอร่อยๆ มาให้หนังท้องตึงกว่าเดิมได้ ฮิๆ
ซื้อนู่นนี่นั่นกิน ในแบบที่ลืมไปว่าอิ่มแล้ว ขนมจุ๊กจิ๊กต่างๆ
ทองหยอดของโปรด(อันนี้ซื้อข้างโรงแรม เป็นรถเข็นยาย),
ขนมมันเผือกทิพย์ที่เป็นลูกกลมๆเหมือนในกรุงเทพ แต่หนึบๆกว่า,
ผลไม้ใส่ถาดโฟม เราเลือกมะม่วงน้ำปลาหวานกับผลไม้รวมมา
รวมสองถาด สี่สิบบาท ของอย่างอื่นที่นอกลิสท์ของกินก็คือ
ยาล้างเล็บและยาทาเล็บสีฟ้า สีสวยดี กำลังอยากได้พอดี
ถึงจะเสริมสวยนอกสถานที่นิดนึงก็เถอะ







รวบรัดตัดความหน่อยละกันเนอะ กลัวบล็อกจะยาวยืด ขากลับ
เราเป็นผู้หารถกลับอีกเช่นเคย หลังจากหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
และสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่า
โบกตุ๊กตุ๊กไปยังห้างสหไทยโลด เป้าหมายคือ เคาท์เตอร์กรุงสยามทัวร์
ณ ฝั่งซ้ายของห้าง จัดการซื้อตั๋วสองที่เสร็จสรรพ เป็นรถวีไอพี 620บาท
นั่งสบายขั้นสุด เข้ากรุงเทพ รถออกเวลาทุ่มสิบห้า เป็นอันว่า ถึงกรุงเทพ
ปลอดภัยสบายหายห่วง ซึ่งทริปเฉพาะกิจสองคืนสามวันของอิชั้นนี้
ชุลมุนวุ่นวายทีเดียวเชียว

ขอบคุณสุราษฎ์ธานี แล้วเราจะพบกันใหม่นะเกาะสมุย
Cucumbergirl


ปล. ไปเที่ยวมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่แล้ว แต่เพิ่งจะมาอัพน่ะเนอะ
ขออภัยในความไม่ทันสมัย ^-^






Create Date : 06 ธันวาคม 2551
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 19:04:57 น. 1 comments
Counter : 785 Pageviews.

 
ได้ไปเดินตลาดศาลเจ้า มารึเปล่าครับ
ของกินอร่อยๆเพียบเลย


โดย: แคปซูลสีฟ้า วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:19:36:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Crystalhatemonday
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
















Jeban.com // รวมเทคนิคการแต่งหน้าและกรุเครื่องสำอาง




Friends' blogs
[Add Crystalhatemonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.