คนเกิดวันพุธ ความทุกข์โถมทับทวี

His dark materials trilogy: The Golden Compass ว่าด้วยภูติประจำตัว

หมายเหตุก่อนอ่าน ผู้เขียนอาจสปอยเนื้อเรื่องของนิยายชุดนี้บ้าง แต่จะพยายามกล่าวถึงประเด็นสำคัญของเรื่องให้น้อยที่สุด สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้อ่าน/อ่านไม่จบ/ดูแต่หนัง

The Golden Compass
เป็นเล่มแรกสุดของนิยายไตรภาคชุดนี้ ซึ่งจะเกริ่นนำโลกอันแปลกประหลาดของไลรา (Lyra Belacqua-ตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กสาวอายุประมาณ 11 ปี) ซึ่งเป็นโลกคู่ขนานกับโลกของเรา ในโลกนี้ทุกคนมีภูติประจำตัว วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าเทียบเคียงกับโลกของเราแต่มีศิลปวัฒนธรรมคล้ายกับยุคสมัยวิคโตเรีย ขั้วโลกเหนือเป็นอาณาจักรของหมีใส่เกราะ และแม่มดใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเปิดเผย

ภูติประจำตัว (dæmon) ทุกคนในโลกของไลรามีภูติประจำตัวเป็นสัตว์ ภูติทุกตัวเกิดพร้อมกับเจ้าของ มีชื่อเรียก และสลายไปในอากาศเมื่อเจ้าของเสียชีวิต ภูติประจำตัวใน His dark materials สื่อความหมายถึงอะไร? ผู้เขียนคิดว่าน่าจะสื่อถึงจิตใจของมนุษย์ ในโลกของเรา จิตใจเป็นสิ่งที่แยกจากความเป็นตัวตนของเราได้ แต่มอง แสดงและจับต้องไม่ได้ แต่โลกของไลราสามารถทำได้

แนวคิดเรื่องภูติประจำตัว น่าจะสอดคล้องกับแนวคิด "ไตรลักษณ์" ที่ว่าด้วยมนุษย์เราทุกคนประกอบด้วย 3 สิ่งคือ "กาย จิต วิญญาณ" ภูติสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ พูดคุย เตือนระวังภัย หยิบ แตะต้องสิ่งของใกล้ตัวเจ้าของเช่นเดียวกับการที่เราใช้จิตใจสัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัว รับรู้อันตรายที่อาจเกิดขึ้นผ่านการสังหรณ์

ภูติประจำตัวมีรูปร่างไม่คงที่แปรเปลี่ยนตามอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดเมื่อเจ้าของยังเป็นเด็ก และมีรูปร่างคงที่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ (ในเนื้อเรื่องกำหนดประมาณ 14 ปี) เหมือนกับบุคลิกภาพของเราที่ไม่แน่ชัดในวัยเด็ก การกระทำและการดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆจะหล่อหลอมให้เราเป็นผู้ใหญ่ที่มีบุคลิกภาพที่แน่นอน
ภูติประจำตัวจะมีรูปร่างสอดคล้องกับนิสัย พื้นฐาน การดำเนินชีวิตของเจ้าของ คนรับใช้มักมีภูติเป็นสุนัข ชาวประมงมีภูติเป็นปลา ลี สกอร์บี้ (Lee Scoresby) นักขับบอลลูนมีภูติเป็นกระต่าย (Hester) บ่งบอกถึงความขี้เล่น รักการผจญภัย ลอร์ดแอสเรียล (Lord Asriel) มีภูติเป็นเสือดาวหิมะ (Stelmaria) บอกถึงความน่าเกรงขาม ความกล้าหาญ

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ภูติประจำตัวของทุกคนจะมีเพศตรงข้ามกับเจ้าของ อย่างไรก็ตามมีตัวละครบางตัวในเรื่องที่มีภูติเพศเดียวกับตนเองซึ่งมีผู้ให้ความเห็นว่าจะสื่อถึง ผู้ที่รักร่วมเพศหรืออาจสื่อถึงพรสวรรค์เหนือผู้อื่นบางอย่าง

ภูติประจำตัวกับเจ้าของสามารถแยกห่างกันได้ระยะหนึ่ง การแยกห่างจากภูติของตนเป็นระยะทางไกลไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ผลลัพธ์คือความตาย มีบุคคลประเภทหนึ่งที่สามารถแยกห่างจากภูติได้เป็นระยะทางไกลคือพวกแม่มด ซึ่งเปรียบเสมือนอำนาจการถอดจิตของผู้ใช้เวทมนตร์

อย่างไรก็ตาม การแยกจากภูติโดยการบังคับและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะให้ผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึงและเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งในเนื้อเรื่อง...

ไลราต้องผ่านประสบการณ์แยกจากภูติของตนเองเมื่อต้องก้าวเข้าโลกแห่งความตายโดยจงใจ (เล่มที่ 3 The Amber Spyglass) ในนิยายบรรยายการแยกจากภูติของตนว่าเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด เหมือนดวงใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆออกจากกัน การแยกจากภูติประจำตัวเพื่อก้าวสู่โลกแห่งความตายเปรียบเปรยถึงความตายของมนุษย์ที่เราไปได้แต่วิญญาณเท่านั้น ไม่สามารถนำสิ่งอื่นใดไปด้วยได้แม้แต่จิตใจ

ในนิยายกล่าวว่า มนุษย์ในโลกของเราทุกคนก็มีภูติประจำตัวเช่นกัน แต่ด้วยความแตกต่างระหว่างโลก ทำให้เราไม่สามารถมองเห็น พูดคุยกับภูติของตัวเองได้ เมื่อวิล (Will parry-ตัวละครเอกในเล่มที่ 2-3) ก้าวเข้าโลกแห่งความตายพร้อมกับไลรา เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างเช่นกัน ซึ่งภายหลังเขาก็ได้พบกับภูติประจำตัว...เซราฟินา เพกคาลา (Serafina Pekkala) สอนให้แมรี่ มาโลน (Mary Malone) ผู้มาจากโลกของเรารู้จักวิธีมองภูติโดยการมองภาพแบบ "กึ่งจริงกึ่งฝัน" ทั้งหมดนี้ยืนยันว่าเราทุกคนก็มีภูติประจำตัวเหมือนกันแต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ตรงๆเหมือนโลกของไลรา

ในโลกของไลรามีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ โดยมารยาทแล้ว เราจะไม่จับต้องภูติประจำตัวของคนอื่นแม้จะทำได้ ซึ่งจะสะท้อนถึงกฎเกณฑ์บางอย่างในโลกของเราเช่นกัน

สำหรับวันนี้ขอจบเรื่องภูติไว้เท่านี้ก่อนนะครับ พบกับประเด็นอื่นที่น่าสนใจในนิยายไตรภาคชุดนี้ได้ในวันหลังครับ




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2550    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 12:27:49 น.
Counter : 3801 Pageviews.  

His dark materials trilogy:ดูหนังแล้วมาย้อนดูหนังสือ

His dark materials (ธุลีปริศนา) เป็นนิยายแฟนตาซีสามเล่มจบของนักเขียนชาวอังกฤษ Philip Pullman ที่กวาดรางวัลหนังสือต่างๆมาแล้ว (Northern Lights: Carnegie Medal for children's fiction 1995, The Amber Spyglass: 2001 Whitbread Book of the Year award, Astrid Lindgren Memorial Award for children's and youth literature 2003)

His dark materials อาจจัดเป็นวรรณกรรมเยาวชนได้ แต่ก็เป็นหนังสือที่เหมาะกับผู้ใหญ่เช่นกัน ด้วยกลวิธีการเขียนที่เน้นเนื้อเรื่องมากกว่าการพรรณนา (Phillip Pullman เคยให้สัมภาษณ์ว่า นักอ่านสนใจอยากรู้เนื้อเรื่องมาก มากกว่าการพรรณนาฉาก บรรยากาศด้วยภาษาอันวิจิตร) และเต็มไปด้วยความเป็นแฟนตาซี แฝงปรัชญาลึกซึ้ง



หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ภาคคือ
1.Northern Lights หรือ The Golden Compass (ชื่อ The Golden Compass เป็นที่นิยมกว่า เนื่องจากทำให้ทั้งสามเล่มมีชื่อสอดคล้องในแง่ที่ว่าเป็นวัตถุที่มีความสำคัญในเนื้อเรื่องในแต่ละเล่ม)
2.The Subtle Knife
3.The Amber Spyglass

เนื้อเรื่องเกิดขึ้นบนโลกคู่ขนานที่มนุษย์ในโลกนั้นทุกคนจะมีภูติประจำตัวเป็นสัตว์ซึ่งบอกถึงบุคลิกภาพของบุคคลนั้น ภูติประจำตัวของแต่ละคนจะมีรูปร่างไม่แน่นอนเมื่ออยู่ในวัยเด็ก และมีรูปร่างคงที่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ (เปรียบเปรยถึงการเจริญวัย การมีบุคลิกภาพที่แน่นอนเมื่อก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่) แต่ละคนจะสามารถติดต่อพูดคุยกับภูติตนเองได้ทางโทรจิต



ในโลกนี้มีวิทยาการใกล้เคียงกับโลกของเรา มีศาสนจักร ระบบสังคมไม่ต่างจากเรา หากแต่มีความลึกลับของเวทมนตร์ แม่มด หมีขั้วโลกใส่เกราะที่พูดภาษามนุษย์ได้แต่ไม่ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติสำนึกรู้ ซึ่งก่อตั้งอาณาจักรของตนเองในขั้วโลกเหนือ มีความรัก โลภ โกรธ หลงไม่ต่างจากมนุษย์

นักเทววิทยาเชิงทดลอง (นักวิทยาศาสตร์) บนโลกนี้รู้จักอนุภาคที่เรียกว่า อนุภาคเงา (Dark materials) หรือฝุ่นธุลี (The dust) เป็นอนุภาคที่จะเกาะเหนียวแน่นกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติสำนึกรู้ที่โตเต็มวัยแล้ว กำเนิดของฝุ่นธุลีเป็นปริศนาในเล่มแรกๆ ซึ่งศาสนจักรมองว่าเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายที่ล่อลวงให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีบาป



ตอนท้ายของเล่มแรก ตัวละครหนึ่งจะเปิดทางไปสู่โลกคู่ขนานอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือโลกของเรา ในเล่มที่สองจึงว่าด้วยการเดินทางไปมาระหว่างโลกคู่ขนานต่างๆ การค้นพบมีดนิรมิตที่สามารถตัดวัตถุที่เล็กกว่าอะตอมได้และเปิดทางไปสู่โลกคู่ขนานอื่นๆ การเผชิญหน้ากับปีศาจที่ดูดกลืนกินฝุ่นธุลีและจิตวิญญาณจากมนุษย์วัยผู้ใหญ่ การพบกับเทวทูต-สิ่งมีชีวิตที่มากล้นด้วยสติปัญญาอันกว้างใหญ่ไพศาล ผู้กุมความลับเกี่ยวกับพระผู้สร้าง และอื่นๆอีกมากมาย...



เล่มสุดท้ายจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด สงครามระหว่างสิ่งมีชีวิตที่มีสติสำนึกรู้ จารชนขนาดจิ๋ว มูเลฟา-สิ่งมีชีวิตไร้กระดูกสันหลังที่มีสติสำนึกรู้ ความลับของฝุ่นธุลี โลกหลังความตาย และการตัดสินใจของตัวละครหลัก-ไลราและวิล-ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกคู่ขนานทุกโลกในจักรวาล...

ใครที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ขอแนะนำครับ เพราะเป็นหนังสือที่มากล้นไปด้วยสติปัญญาและความสนุกสนาน

สำหรับการวิเคราะห์เจาะลึก ลงละเอียดแต่ละเล่ม (พยายามไม่สปอย) ว่างๆจะเขียนต่อนะครับ




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2550    
Last Update : 16 ธันวาคม 2550 13:08:58 น.
Counter : 1624 Pageviews.  

1  2  

มีชีวิตบนดาวอังคารหรือเปล่านะ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]






....โลกมนุษย์นี้ไม่มีที่แน่นอน
ประเดี๋ยวเย็นประเดี๋ยวร้อนช่างแปรผัน
โชคหมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ทุกวัน
สารพันหาอะไรไม่แน่นอน
ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่
ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น
ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน
ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน
เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์
แต่คนที่ควรชมนิยมกัน
ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา


พันตรีหลวงวิจิตรวาทการ





เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู
เรื่องที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนที่มีดีเพียงส่วนเดียว
อย่าเที่ยวเสาะหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเล่าเอย
ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง

หลวงพุทธทาส





ชีวิตใกล้ปัจฉิมวัย ไม่เป็นไปตามแผนการเมื่อปฐมวัย อะไรที่ยิ่งใหญ่เมื่อเช้า เป็นของเล็กน้อยเมื่อเย็น อะไรที่เป็นสัจจะเมื่อแดดจ้า กลายเป็นมายาเมื่อยามพลบ

We cannot live the afternoon if life
according to the program on life’s morning; for what was great in the morning will be little at evening, and what in the morning was true will at evening have become a lie.



C.G. Jung.




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มีชีวิตบนดาวอังคารหรือเปล่านะ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.