คนเกิดวันพุธ ความทุกข์โถมทับทวี

The box - กล่องกับทางเลือกเชิงศีลธรรม

เมื่อวานเช่าหนังเรื่อง The box มาดูจนจบ งงมากๆ ต้องพินิจพิจารณาต่ออีกสักพักกว่าจะเข้าใจเนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องสำหรับคนไม่ได้ดูแต่อยากอ่านสปอย (ขออนุญาตใช้ภาษาบ้านๆ)





ครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ดูมีความสุขครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย ผัวเป็นพนักงานนาซ่า (เจมส์ มาร์สเด็น) เมียเป็นครูสอนหนังสือ (คามิรอน ดิแอซ) กับลูกชายวัยเรียน วันดีคืนดีก็ได้กล่องหนึ่งใบมาวางหน้าบ้าน พร้อมบททดสอบทางศีลธรรมจากชายปริศนาให้กดปุ่มในกล่องดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งทันทีที่กดจะมีคนคนหนึ่งที่ทั้งสองไม่รู้จักตาย และทั้งสองจะได้เงินหนึ่งล้านเหรียญเป็นค่าตอบแทน ซึ่งสุดท้ายคู่ผัวเมียนี้ก็ได้ตัดสินใจกดกล่องไปในที่สุด (ความจริงผู้หญิงเป็นคนกด) ได้รับเงิน ส่วนชายปริศนาคนดังกล่าวก็เอากล่องไปตั้งโปรแกรมใหม่ และมอบให้บ้านอื่น...ที่ทั้งสองไม่รู้จัก หลังจากนั้น ก็มีสิ่งเลวร้ายมากมายเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้...นำไปสู่บทสรุปสุดท้ายที่ให้ คู่ผัวเมียนี้เลือกระหว่างความตายของเมียกับความพิการของลูก

ตั้งแต่ ต้นเรื่อง เราในฐานะคนดูก็รู้สึกว่าคู่ผัวเมียนี้น่าจะเป็นคนดี และตลอดทั้งเรื่อง เราก็ยังคงรู้สึกอย่างนั้น สิ่งเดียวที่ทั้งสองคนนี้พลาดไปคือ ทั้งสองตัดสินใจกดปุ่มนั่น

ตามเนื้อเรื่อง ดูเหมือนเราจะมีข้อแก้ตัวให้ความผิดที่ทั้งสองทำลงไป ประการหนึ่ง"ผู้ทดสอบ"จัดฉากให้ผัวพลาดหวังงานนักบินอวกาศ เมียถูกตัดสิทธิสวัสดิการลูก รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังขณะที่เตรียมจะผ่าตัด ประการที่สอง ผัวได้แอบแกะกล่องดังกล่าว และพบว่าไม่มีกลไก(ที่มนุษย์รู้จัก)อยู่ในกล่องนั้นเลย ดังนั้นไม่น่าจะผิดที่กดกล่องไป เพราะจะมีใครตายจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ประการที่สาม หลังจากได้รับเงิน ผัวก็พยายามคืนเงิน นัยว่าไม่อยากได้รับเงินที่แลกมาด้วยความตายของคนหนึ่งคน ประการสุดท้าย ท้ายเรื่อง ทั้งสองยังแสดงให้เห็นถึงความสำนึกผิดจากใจจริง (เมียถาม"ผู้ทดสอบ"ว่า "คุณจะให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำลงไปได้หรือเปล่า") ดังนั้น เราก็ยังรู้สึกว่าทั้งสองเป็นคนดี ทำไมต้องมารับผลกรรมมากมายขนาดนั้น?


หากเราลองมาพิจารณา ในการตัดสินใจเชิงศีลธรรม เราสรุปผลของการกระทำหนึ่งๆว่าเป็นสิ่งดีหรือเลวอย่างไร?

ในเรื่อง ผู้เป็นเมียได้กดปุ่ม กดทั้งที่ทราบมาก่อนว่าจะทำให้คนคนหนึ่งในโลกนี้ตาย และครอบครัวของเธอจะได้เงินล้านเป็นสิ่งตอบแทน การกดปุ่มจึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาและให้ผลที่ตามมา ส่วนฝ่ายผัวเล่า เมื่อเมียยืนยันที่จะกดปุ่ม เขาก็มิได้ทั้งท้วง ทั้งๆที่ทำได้ (ก่อนที่จะกดปุ่ม เมียได้บอกกับผัวว่า เธอจะไม่กดปุ่ม ถ้าเขาไม่ยอมรับรู้ด้วย) ดังนั้นฝ่ายชายก็เป็นส่วนหนึ่งในการกระทำนั้นด้วย และต้องได้รับผลตอบแทนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

การกระทำดังกล่าว เป็นสิ่งที่ไม่ย้อนกลับ แก้ไขไม่ได้ ดังนั้นแม้ผัวจะมีความตั้งใจคืนเงินล้านก็เปล่าประโยชน์ หรือตอนท้ายที่ทั้งสองต่างสำนึกผิด ก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน ทั้งสองถูกทดสอบไปแล้ว กดปุ่มไปแล้ว มีคนตายไปแล้ว...

หรือสาเหตุจูงใจที่ทำให้ทั้งสองกดปุ่ม ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง การกระทำที่ผิดจะอ้างความน่าเห็นใจไม่ได้ ไม่เช่นนั้น เราคงต้องยอมรับ โจรปล้นธนาคารเพื่อเอาเงินไปใช้รักษาแม่ที่ป่วยในโรงพยาบาล ลูกจ้างฆ่านายจ้างเพราะถูกกดขี่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฯลฯ เราจะอ้างได้ไหมว่าตัวเองเป็นคนดี...เป็นคนดีเสมอ ยกเว้นแต่จะมีสถานการณ์บางอย่างกดดันให้เราเห็นแก่ตัว ซึ่งมันช่วยไม่ได้...ความจริงเราเป็นคนดี?

หนังได้ขยายภาพการทดสอบ เชิงศีลธรรมของมนุษย์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น มนุษย์แต่ละคนกำลังถูกทดสอบ ทดสอบว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่าหรือไม่ อันที่จริงแล้ว พวกเราถูกทดสอบกันอยู่ทุกวัน...หนังแค่ขยายภาพให้เราเห็นชัดเจน ก็เท่านั้นเอง





 

Create Date : 20 มีนาคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2553 14:44:47 น.
Counter : 1714 Pageviews.  

เรื่องเล็กๆที่ทำให้เสียน้ำตา

ผมเป็นอาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษาครับ

ภาระงานอย่างหนึ่งก็คือสัมภาษณ์นักศึกษาที่มาขอทุนการศึกษาจากเงินรายได้ของคณะ เพื่อพิจารณาว่าสมควรได้รับทุนหรือไม่ ควรได้ทุนมากน้อยแค่ไหน

น่าตกใจที่นักศึกษาปีนี้มีความลำบากค่อนข้างมากที่มาขอทุนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บางคนพ่อแม่ตกงาน บางคนที่บ้านติดหนี้เป็นล้าน บางคน พ่อแม่โดนฟ้องล้มละลาย บางคนต้องหาเงินส่งเสียตนเอง ทุกคนต่างมีปัญหาเป็นของตนเอง...

หลายวันก่อน ผมได้สัมภาษณ์ทุนนศ.หญิงปีหนึ่งคนหนึ่ง เป็นเด็กที่ดูเรียบร้อย ผิวคล้ำ หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด เรื่องราวของเด็กคนนี้น่าสนใจมากจึงเอามาเล่าให้ฟังครับ

นักศึกษาคนนี้มีครอบครัวเล็กๆเพียงตัวเธอ แม่ และพี่ชาย ส่วนพ่อนั้นแยกทางไป ไม่มีการติดต่อ ไม่มีการส่งเสียเลี้ยงดู ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดจึงเป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกจ้างของอู่ซ่อมรถเล็กๆและประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซด์เพื่อหารายได้เพิ่ม

พี่ชายผู้มีรายได้ 400 บาทต่อวันต้องหาเลี้ยงครอบครัว จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละสองพัน เลี้ยงดูแม่ที่เจ็บออดๆแอดๆไม่ได้ทำงานและอยู่บ้านเฉยๆ รวมถึงออกค่าใช้จ่ายส่งเสียให้น้องเรียนเภสัช คิดดูแล้วอย่างไรก็ไม่มีทางพอ

แล้วนักศึกษาทำอย่างไร? นักศึกษาคนนี้จึงต้องกู้เงินเรียน (กองทุนกยศ.) ทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เพิ่ม หยิบยืมเงินจากญาติห่างๆเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งตอนแรกเข้า เรื่องการเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นโชคดีที่อยู่หอพักกับเพื่อนเก่าที่มีผู้ปกครองใจดีให้อยู่ด้วยกันโดยเด็กสาวไม่ต้องแชร์ค่าห้อง

จากข้อมูลการซักประวัติอย่างละเอียดก็เพียงพอที่จะทำให้ผมและอาจารย์ท่านอื่นประเมินถึงความยากลำบากของนักศึกษาได้มากเพียงพอ นักศึกษาคนนี้ตอบคำถามได้ดี ดูซื่อตรงและจริงใจ แต่เนื่องจากเราอยากได้ข้อมูลให้มากที่สุดจึงถามนักศึกษาไปว่า

"นอกจากเรื่องการศึกษาของเราแล้ว ที่บ้านยังมีค่าใช้จ่ายอะไรที่เป็นภาระอีกไหม"

นักศึกษานิ่งไปอึดใจ แล้วก็ตอบเสียงอ่อยๆออกมาว่า

"แมวค่ะ"

เป็นคำตอบที่ช่างเรียบง่ายและคาดไม่ถึง นศ.จึงขยายเพิ่มเติมว่า แม่ของเธอเป็นคนใจบุญ ชอบเก็บแมวมาเลี้ยง ตัวเธอเองก็เตือน ห้ามแม่บ่อยๆ อยากให้แม่เข้าใจว่าแค่นี้เราก็ลำบากกันมากพอแล้ว แม่ไม่น่าจะเพิ่มรายจ่ายอะไรอีก...

พอเล่าจบ นักศึกษาก็เริ่มต้นร้องไห้

ผมนึกภาพจินตนาการออกในทันที ผมนึกถึงแม่ของนักศึกษาที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน ไม่มีสามี อยู่บ้านคนเดียวและอยากหาสัตว์เลี้ยงแก้เหงา เด็กคนนี้เป็นเหมือนกองทรายที่กำลังถล่มลงมาด้วยเม็ดทรายเพียงเม็ดเดียว ปัญหาทุกอย่างที่สะสมมาตลอดนั้นมันแสนจะหนักหนาสากรรจ์ เรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงเรื่องแมวเหมือนเม็ดทรายเล็กๆ จุดประเด็นให้ร้องไห้ได้ง่ายดาย...




ในชีวิตของเราก็ไม่ต่างกัน เราทุกคนต่างเป็นกองทรายที่พังทลายได้ง่ายดายด้วยเม็ดทรายหนึ่งเม็ด ปัญหาทุกอย่างที่สะสมมาในชีวิตมันมากมายเหลือเกิน เรื่องเล็กๆน้อยๆบางอย่างเข้ามาสะกิดใจ เราก็พร้อมจะเสียน้ำตา...




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2552 23:09:43 น.
Counter : 466 Pageviews.  

กระแสสำนึกของหว้ากอนคร

เอาภาพมาแปะเฉยๆครับ และยินดีให้คนที่สนใจเอาภาพไปใช้ได้ตามสะดวก คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดเต็มๆครับ





 

Create Date : 16 ธันวาคม 2551    
Last Update : 16 ธันวาคม 2551 13:02:02 น.
Counter : 503 Pageviews.  

ความเหงา ความเศร้า มาเยือนได้ทุกคน

เคยเหงากันบ้างไหม เคยรู้อยู่ใช่ไหม
ว่าเหงามันโหดร้ายเกินจะเปรียบ
มองหาคนข้างกาย ลองถามเขาบ้างไหม
ทุกคนรู้สึกเหงาเท่าเท่ากัน
อยากให้โลกเห็นใจ อยากให้คนสงสาร
ทุกคนก็ต้องการเหมือนเหมือนกัน
โอ้ใครหนอใครช่างทำเธอให้
น้ำตาหล่นไหล หลั่งริน
จึงร้องเพลงกล่อมทั้งคืน
ส่งไปตามสายลมโบกโบย ถึงเธอ
เพื่อนเอย
ชีวิตยังมีหวังอีกยาวไกล
เพื่อนเอย
จะเศร้าจะซึ้งกันไปใย
ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ให้ค้นหา

ถึงรู้อยู่แก่ใจ ถึงคิดจนซึ้งใจ
ทำไมยังเศร้าใจยังเจ็บปวด
จึงหาโลกกว้างไกล ค้นหาอยู่เพียงไหน
ยังไปไม่ถึงเพียงครึ่งทาง
เพื่อนเหงาเราก็เหงาใครเศร้าก็ปลอบใจ
ใครถมใครจะซ้ำก็ช่างเขา
โอ้ใครหนอใครช่างทำเธอให้
น้ำตาหล่นไหล หลั่งริน
จึงร้องเพลงกล่อมทั้งคืน
ส่งไปตามสายลมโบกโบย ถึงเธอ
เพื่อนเอย
ชีวิตยังมีหวังอีกยาวไกล
เพื่อนเอย
จะเศร้าจะซึ้งกันไปใย
ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ให้ค้นหา...





 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2551 14:11:38 น.
Counter : 716 Pageviews.  

วาทะจากหนัง...รักแห่งสยาม

เพิ่งไปดูมา (หนังแผ่น)...ผลคือ...โคตรอิน



...อยากให้รู้ ... ว่าเพลงรัก ... ถ้าไม่รักก็เขียนไม่ได้...

มิวแต่งเพลงนี้เพื่อสื่อความในใจของตนที่มีต่อโต้ง





...ขอบใจนะ ถ้าไม่เจอกัน เรื่องดีๆ แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น...

โต้งกล่าวกับมิว...ด้วยความรู้สึกดีๆที่ก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง







เหนื่อยมั้ยแม่....

โต้งเอ่ยถามสุนีย์...ถึงสิ่งที่เธอทำเพื่อครอบครัวตลอดมา





ความรัก ไม่มีคำว่า มากเกินไปหรอก ถึงเราจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่เคยทำอะไรเพื่อความรักเลย ... ไม่ใช่เหรอ

จูนกล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่จะจากไป เพื่อให้ความหวังกับครอบครัว...ที่รักกันมากที่สุด...ครอบครัวหนึ่ง







...อยู่เป็นเพื่อนอาม่าอีกสักพักนะ...

อาม่าพูดกับหลานชาย...หารู้ไม่ว่า ในอนาคตกาล หลานคนนี้ต้องกลายเป็นคนโดดเดี่ยว ติดกับอยู่แต่ในความทรงจำเก่าๆ





...มันจะเป็นไปได้เหรอ.. ที่เราจะรักใครโดยไม่กลัวการสูญเสีย... แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย...

มิวกล่าวอย่างทดท้อ กับความรักที่ตนเองสูญเสียไป







...ตราบใดที่มีรัก ย่อมมีหวัง...

คำแปลเนื้อเพลงที่หญิงแปลให้มิว และปรัชญาความรักของหญิงเสมอมา





ใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ก็แนะนำนะครับ หนังเขาดีจริงๆ




 

Create Date : 11 มีนาคม 2551    
Last Update : 11 มีนาคม 2551 11:43:10 น.
Counter : 1186 Pageviews.  

1  2  

มีชีวิตบนดาวอังคารหรือเปล่านะ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]






....โลกมนุษย์นี้ไม่มีที่แน่นอน
ประเดี๋ยวเย็นประเดี๋ยวร้อนช่างแปรผัน
โชคหมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ทุกวัน
สารพันหาอะไรไม่แน่นอน
ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่
ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น
ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน
ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน
เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์
แต่คนที่ควรชมนิยมกัน
ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา


พันตรีหลวงวิจิตรวาทการ





เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู
เรื่องที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนที่มีดีเพียงส่วนเดียว
อย่าเที่ยวเสาะหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเล่าเอย
ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง

หลวงพุทธทาส





ชีวิตใกล้ปัจฉิมวัย ไม่เป็นไปตามแผนการเมื่อปฐมวัย อะไรที่ยิ่งใหญ่เมื่อเช้า เป็นของเล็กน้อยเมื่อเย็น อะไรที่เป็นสัจจะเมื่อแดดจ้า กลายเป็นมายาเมื่อยามพลบ

We cannot live the afternoon if life
according to the program on life’s morning; for what was great in the morning will be little at evening, and what in the morning was true will at evening have become a lie.



C.G. Jung.




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มีชีวิตบนดาวอังคารหรือเปล่านะ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.