เมื่อคุณจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายคุณอาจพิจารณาบัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเงินสดและสินเชื่อในส่วนของบ้าน การตัดสินใจที่ดีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณ บัตรเครดิตเหมาะสำหรับยอดคงเหลือในระยะสั้นที่คุณสามารถจ่ายออกในแต่ละเดือนในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหนี้ระยะกลางหรือระยะยาวสินเชื่อบ้านส่วนที่มีอยู่ให้กับเจ้าของบ้านที่สามารถใช้เงินกู้กับส่วนได้เสียในบ้านของพวกเขา

บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคลเทียบกับเงินให้สินเชื่อส่วนของบ้าน

บัตรเครดิตเป็นหนึ่งในรูปแบบที่แพงที่สุดของการจัดหาเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยในตัวเลขสองหลักในวันครบกำหนดชำระบัตรเครดิตของคุณคุณจะผูกพันที่จะต้องชำระเงินรายเดือนขั้นต่ำ -ทั่วไปประมาณ 1% ถึง 3% ของยอดเงิน -แต่คุณจะต้องจ่ายออกในเต็มรูปแบบเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บดอกเบี้ยคำนวณดอกเบี้ยตามยอดเฉลี่ยต่อวันในช่วงเดือนที่ไม่สมดุลสิ้นสุด

หนี้บัตรเครดิตหนี้ "หมุนเวียน"คุณมีข้อ จำกัด เกี่ยวกับวิธีการที่หนี้มากที่คุณสามารถมีบนบัตร; จำนวนเครดิตที่คุณมีอยู่จากเดือนที่เดือนขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้จ่ายและเท่าใดคุณชำระคืน

เป็นกฎทั่วไป, บัตรเครดิตไม่มีหลักประกันซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการสนับสนุนโดยหลักประกันสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจได้รับการค้ำประกันโดยสินทรัพย์หรือไม่มีหลักประกันแต่เงินให้สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมาก

สินเชื่อส่วนบุคคลไม่ว่าจะมีหรือไม่มีหลักประกันมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีเครดิตดีซึ่งแตกต่างจากบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคลจะช่วยให้คุณเงินก้อนและคุณทำให้การชำระเงินที่เท่ากันในช่วงเวลาที่ระบุไว้จนกว่าการกู้ยืมเงินจะจ่ายเงินออก- ปกติ 2-5 ปีที่ผ่านมาการชำระคืนเงินกู้ของคุณจะรวมเงินต้นและดอกเบี้ย

เงินกู้ส่วนของบ้านมีการค้ำประกันโดยบ้านของคุณคุณจะได้รับเงินก้อนหรือคุณสามารถได้รับสายส่วนของบ้านของเครดิต (HELOC) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถกู้เงินตามที่คุณต้องการและคุณจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่คุณได้ยืมเช่นเดียวกับการจำนองดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนของบ้านหรือ HELOC คือหักลดหย่อนภาษีได้

เมื่อคุณควรใช้บัตรเครดิต

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงของพวกเขา,บัตรเครดิตจะถูกสงวนไว้ดีที่สุดสำหรับการจัดหาเงินทุนระยะสั้นใช้บัตรเครดิตเท่านั้นสำหรับการสั่งซื้อที่คุณจะสามารถที่จะจ่ายออกภายในวันที่กำหนดเช่นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือค่ารายเดือน

คุณสามารถใช้เงินสดหรือบัตรเดบิตของคุณสำหรับการซื้อสินค้าเหล่านี้เหมือนกันแต่บัตรเครดิตมีประโยชน์ด้านนอกของการจัดหาเงินทุนระยะสั้นฟรีบัตรจำนวนมากมาด้วยเงินสดหรือการเดินทางผลตอบแทน - โดยทั่วไปตั้งแต่ 1%ถึง 2% ของสิ่งที่คุณใช้จ่าย - เช่นเดียวกับ perksบางอย่างที่คุณจะไม่ได้รับด้วยเงินสดหรือบัตรเดบิต

ทั้งหมดที่กล่าวว่ามีข้อยกเว้นของการจ่ายเงินออกจากยอดเงินของคุณเต็มในแต่ละเดือนหากคุณได้รับบัตรเครดิตดอกเบี้ย 0% คุณสามารถใช้เวลาของคุณจ่ายปิดการซื้อยังคงคุณควรจะมีแผนในการชำระยอดคงเหลือทั้งหมดก่อนเบื้องต้น 0%ระยะเวลาปลายเมษายนเพราะคุณอาจจะได้รับการตีที่มีความสนใจเกี่ยวกับความสมดุลที่เหลือของคุณเช่นเดียวกับดอกเบี้ยย้อนหลังเกี่ยวกับความสมดุลของคุณเริ่มต้น

เมื่อคุณควรใช้สินเชื่อส่วนบุคคล

สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีการใช้ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดหาเงินทุนระยะยาวซึ่งอาจรวมถึงสิ่งที่ต้องการค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้เด็กเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กหรือการรวมบัตรเครดิตหรือหนี้อื่นๆเนื่องจากสินเชื่อส่วนบุคคลมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าบัตรเครดิตพวกเขากำลังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าถ้าคุณไม่สามารถที่จะจ่ายเงินออกจากยอดเงินของคุณเต็มรายเดือน

หากคุณกำลังพิจารณาการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลที่จะรวมหนี้บัตรเครดิตครั้งแรกประเมินว่าระยะเวลาที่จะพาคุณไปชำระหนี้รวมหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคลโดยทั่วไปแล้วจะทำให้รู้สึกแต่ถ้ามันจะนำคุณเกินกว่าหกเดือนจะจ่ายออก มิฉะนั้นจำนวนเงินที่น่าสนใจที่คุณจะประหยัดจะเล็กน้อยที่ดีที่สุดสำหรับปริมาณของความพยายามที่จะได้รับเงินกู้

เปรียบเทียบด้านบนให้กู้สินเชื่อส่วนบุคคล

บรรทัดล่าง

บัตรเครดิตสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อส่วนของบ้านที่แตกต่างกันในรูปแบบของหนี้อัตราดอกเบี้ยและจำนวนเงินที่ชำระหากคุณกำลังวางแผนที่จะจ่ายเงินออกจากยอดเงินของคุณเต็มในแต่ละเดือน, บัตรเครดิตเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณจำเป็นต้อง 2-5 ปี (หรือน้อยกว่า)ที่จะจ่ายเงินออกจากยอดเงินของคุณ, สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อส่วนของบ้านมีแนวโน้มวิธีที่จะไป