• ~**HoMe**~
• My How To::
• $My Review$
• Yoga & Health
• Fashion & Shopping
• **How to: Baking **
• ~**My work**~
• ๑๑Diary๑๑
• ไดอารี่คนท้องป่อง
• Travel!!!!
• **Let's Eat!!!
• #Book Review#
• Private นะจ๊ะ
• Dollar's Diary: เรื่องเล่าสาวบูลเทอร์เรีย
• Dog ETC.
• ~Our Dream home ~
• All About me

Review: Asience Hair Shine Therapy สีชมพู เพื่อผมทำสี ปกติเราจะเป็นคนที่ทำสีผมบ่อยม๊ากมากมากมาก ถึงมากที่สุด พอทำมานานๆ ก็จะรู้ว่า ผมต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สำหรับผมทำสี หลังๆ พอมาเริ่มใช้แชมพู ครีมนวด รักษาสีผม ก็ค้นพบว่า สีผมอยู่ได้นานกว่า สภาพเส้นผมโดยรวมดีกว่า มาวันนี้ ได้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมสำหรับทำสีมาใหม่ นั่นก็คือ Asience อันนี้ค่ะ สำหรับ Asicence นี้ จะเคยใช้สีทองที่เป็นรุ่นหลักของยี่ห้อนี้ ส่วนตัวนี้เป็นรุ่นสำหรับผมทำสีและผมดัด โดยเฉพาะ คือรุ่น Shine Therapy ซึ่งก็คือ ดูแลรักษาให้เงางาม !! โอเค ฟังดูเหมาะกับเรา และน่าใช้มาก เราไปลองใช้กันเลยค่ะ Before ค่ะ สภาพเส้นผมโดยรวม ** สีปัจจุบัน : สีน้ำตาลแดงประกายชมพู **ผมแห้ง ไม่เงางาม ** ผมเส้นใหญ่ ขาดความสลวยมีชีวิตชีวา ปกติแล้วผมที่ทำสี มักจะมาคู่กับความเสียจริงๆ นะคะ โดยเฉพาะเมื่อทำไปบ่อยๆ ก็จะรู้เลยว่า ผมที่ทำสี ต้องการการดูแลมากกว่าผมปกติทั่วไปมากเลยทีเดียว และยิ่งถ้าทำสีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง จะเป็นสีหลักๆ ที่จะหลุดจากผมเราก่อน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์รักษาสีผมโดยเฉพาะ จะช่วยได้มากในการรักษาสีผมให้สดใสยาวนาน รุ่นนี้เน้นที่ส่วนผสมหลักสี่อย่าง คือ ** Soybean Essences บำรุงฟื้นฟูผมอ่อนแอ ** โปรตีนไข่มุก ฟื้นฟูบำรุง ** คาเมเลีย ออยล์ และสารสกัดโสมเกาหลี คงความชุ่มชื้น ** เชลล์ จินเจอร์ ลีฟ เอสเซนส์ ช่วยคืนความชุ่มชื้น ** อโลเวร่า เอสเซนส์ ช่วยเคลือบปกป้อง ** พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้บ่มไอแดด ** มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กัน แชมพู เป็นสีขาวมุกๆ ออกเหลวๆ หน่อยสำหรับยี่ห้อนี้ ฟองไม่มากเท่าไหร่ ให้กลิ่นหอมแบบสุดๆ ครีมนวด เนื้อข้นมาก บีบออกมาเป็นก้อนๆ เลย น่าจะให้ความชุ่มชื้นมากๆ เลยทีเดียว ทรีตเมนต์ นี่ข้นยิ่งกว่าครีมนวดเกลี่ยเนื้อออกมายังดูข้นๆ VDO Review ขณะที่ใช้ค่ะ ความรู้สึกที่ได้ใช้ ** ยาสระผมมีฟองน้อย แต่ว่าสระได้สะอาด ขณะที่สระผมก็นุ่ม ไม่ทำให้ผมแห้ง ** หลังสระผม ก็ใช้ครีมนวด แล้วก็ต่อด้วยทรีตเมนท์ พอกทิ้งไว้สามนาที ค่อยล้างออก จะได้ผลมากๆ กับผมที่แห้งเสียอย่างผมเราค่ะ ** กลิ่นหอมติดผมให้ความรู้สึก หอมแบบคุณหนูไฮโซค่ะ แฟนปลื้มมาก บอกว่าวันนี้ผมหอมจัง ** ผมมีน้ำหนักมากขึ้น และรู้สึกว่าผมเรียงเส้นสวยมากกว่าเดิมหลังการใช้ครั้งแรกก็รู้สึกได้ น่าจะเป็นเพราะส่วนผสมที่เข้าบำรุงและปิดเกล็ดผมที่ผ่านการทำเคมีมาได้ดี ไปดูสภาพผมก่อนและหลังใช้ Asience (Before และ After คือ สภาพผมหลังการสระ ไดร์ เหมือนกัน ไม่ได้มีกรรมวิธีใดๆ แตกต่างกันค่ะ) จะเห็นว่า ผมดูเรียบลื่นขึ้นมากเลยทีเดียว แถมสีผมยังคงสดใสอีกด้วย ให้เห็นอีกหลายๆ มุม เม็ดสีผมสีแดงที่หลุดง่ายนัก ก็ยังคงสีสันสดใสค่ะ ผมก็มีน้ำหนักมากขึ้นกว่าก่อน เรียงตัวสลวยกว่าเก่าค่ะ จากรูปนี้คือ ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ กับการสระผม 5 ครั้ง สีผมยังคงสวยสดใส แถมผมก็ดูนุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น เงางามขึ้น **สรุป** *Asience Shine Therapy ขวดสีชมพู สวยน่าใช้ วางไว้ในห้องน้ำก็ดูไฮโซ ให้อิมเมจแบบเจ้าหญิงนิดๆ (เหมือนจะไม่เกี่ยว แต่เกี่ยวในแง่ความรู้สึก อิอิ) * หลังจากทดลองใช้มาหนึ่งอาทิตย์ พบว่า รักษาเม็ดสีผมได้ดี รักษาประกายสีแดงได้นานกว่า * ทำให้ผมตรงสลวยขึ้น ชี้ฟูน้อยลง เส้นผมเรียงตัวสวยมากขึ้น ทำให้ผมดูเงางามมากขึ้น * กลิ่นหอมเจ้าหญิงไฮโซ ติดผมนาน เคล็ดลับ ดูแลเส้นผมสำหรับคนผมมัน และทำสี สระผมรอบแรกให้สระเฉพาะบริเวณโคนผม และ รอบสองค่อยสระทั้งหัว เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นบริเวณปลายผม (ยกเว้นว่าวันนั้นใส่ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากๆ) เช็ดผมอย่างเบามือ หลังจากเช็ดหมาดๆ แล้ว เอาผ้าโพกผมไว้ก่อนซักพักรอให้ผม หมาดๆ มากๆ ค่อยไดร์ หมั่นตัดปลายผม เพราะหากมีผมแตกปลายแล้วไม่ตัดทิ้ง อาจจะทำให้แตกลุกลามมากกว่าเดิมค่ะ สำหรับสาวผมทำสี ก็แนะนำให้ Asience เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยรักษาสีผมและสภาพเส้นผมค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ** พิเศษ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ติดตามอ่านบล็อกค่ะ ทาง Asience ใจดี มีผลิตภัณฑ์ Asience Shine Therapy ให้เพื่อนๆ ได้ทดลองใช้ฟรี 10 เซ็ต ค่ะ!! ง่ายๆ เพียงตอบคำถามว่า ** “Asience Shine Therapy เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อผมประเภทใดโดยเฉพาะ และ ช่วงเวลาไหนที่คุณรู้สึกว่าตัวเองผมเสียที่สุด (เช่น ถ่ายรูปแล้วเห็นผมเสีย โดนลมแล้วผมพันกัน) ” โดยสามารถโพสตอบคำถามได้ที่ใต้รูปผลิตภัณฑ์ Asience ที่หน้าเฟซบุ๊คของโบว์ค่ะ คลิ๊กลิงค์ข้างล่างนี้ไปเล๊ยยยยยยย Beau Noonphakdee Create Your Badge ผู้โชคดี 10 ท่านจะได้รับของรางวัล Asience Shine Therapy ส่งมอบให้ท่านค่ะ **This is a sponsored content by Asience**   Create Date : 13 กันยายน 2554     Last Update : 13 กันยายน 2554 16:34:20 น. Counter : 26524 Pageviews.   16 comment Share Tweet

**Quick REVIEW**:: Neutrogena Fine Fairness & Dior BB Cream วันนี้มารีวิวทีค้างไว้กับคราวที่แล้ว กลับมากับ Neutrogena Fine Fairness & Dior BB cream Neutrogena Fine Fairness Brightening Serum & Day cream ครีมสองตัวนี้ มีจุดเด่นที่มีเรตินอล ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดริ้วรอย ในส่วนเดย์ครีมจะีมี spf30 ด้วย เนื้อครีมด้านซ้ายเป็นเซรั่ม ส่วนข้างขวาเป็นเดย์ครีม เซรั่ม - เนื้อเป็นเหมือนเจลสีส้มหยุ่นๆ ส่วนตัวชอบอันนี้มากกว่า ใช้ตอนกลางวัน ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม หลังจากที่ทดลองใช้มาเกือบเดือนแล้ว ไม่ทำให้สิวขึ้น พวกจุดด่างดำจางลงนิดหน่อย แต่ว่า ไม่ช่วยเรื่องรูขุมขน ส่วนริ้วรอย fineline โอเคขึ้นนิดนึง ตัวนี้ผ่านค่ะ ถือว่า ทำได้ดีมากเลย ถ้าดูส่วนผสมก็เรียกว่าทำได้ดีเลยทีเดียวล่ะ เดย์ครีม - ตอนแรกๆ คิดว่าน่าจะทำให้หน้ามันแน่ๆ ทำไมเดย์ครีมเนื้อข้นขนาดนี้ แต่พอทดลองใช้ได้ซักสองอาทิตย์แล้ว น่าแปลกมากที่ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มนะ เนื้อครีมมีสารกันแดดสะท้อนแสงนิดนึง ทาแล้วหน้าจะไบรท์ๆ สะท้อนแสง กระจ่างขึ้นนิดนึง ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เรียกว่าโอเคเลยหล่ะ แต่สัมผัสแบบนี้คนผิวมันอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แนะนำคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้งจะดีกว่า Dior BB Cream เป็นบีบีครีมจา่กทางฝรั่งอย่างดิออร์ เรียกว่าทำได้ดีทีเดียวเชียวแหละ ไม่ผิดคอนเซปต์ของเกาหลีเค้าเลย ไปดูกัน ถึงจะเป็นหลอดแต่เป็นหัวปั๊มแบบกด ดีมากเลยอ่ะ ชอบ ณ จุดนี้ เนื้อครีมออกขาวผสมเหลืองนิดนึง เนื้อเหลวๆ กว่าบีบีฝั่งเกาหลีนิดนึง ดีตรงที่เกลี่ยง่ายกว่า ทดลองทา มันทำให้หน้าเด้งๆ แบบว่า dewy มากๆ ปกปิดพวกรอยแดง รอยคล้ำได้นิดหน่อย มันกลืนกับสีผิวเราดีมากเลย ชอบมาก แต่ว่าไม่ค่อยปิดรูขุมขนเลย ต้องใช้เบสปิดรูขุมขนก่อนหน้านิดนึง แต่โดยรวมทำได้ดีมาก ส่วนตัวก็คิดว่ามันมีสารกันแดด (spf50) ที่ดี คือสามารถใช้แทนครีมกันแดดได้เลยนะ อันนี้โอเคมากๆจ้า จบแล้วกับ Quick Review ของเรา แบบมาเร็วเคลมเร็ว ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาจ้า   Create Date : 21 สิงหาคม 2554     Last Update : 21 สิงหาคม 2554 18:51:24 น. Counter : 7700 Pageviews.   11 comment Share Tweet

** REVIEW:: ** Kiehl's Line-Reducing Eye-brightening & Clinique Moisture Surge Spray จริงๆ ทำรวมกันไว้ 5 products แต่วันนี้ลงก่อน 2 ค่ะ เป็นคิวของ Kiehl's Line-Reducing Eye-brightening & Clinique Moisture Surge Spray มาตัวแรก ที่ประทับใจ Kiehl's Line-Reducing Eye-brightening Concentrate ชื่อยาวได้อีก ตัวนี้จริงๆ เพื่อนแนะนำให้ลองใช้ เลยซื้อมาใช้ดู ซื้อมาพร้อมกับ Kiehl's Vit C เลย ตัวนี้จุดเด่นก็คือ 10.5% pure Vitamin C and Haloxyl เนื้อครีมจะออกขาวปนเหลืองนิดๆ น่าจะมาจากวิตซีที่ผสมอยู่ ตอนทาไปจะรู้สึกอุ่นๆ เหมือนเนื้อครีมกำลังทำงาน ซักพักก็จะหายอุ่น เนื้อครีมเป็นแบบ ซิลิโคน ดังนั้น ถ้าจะทาเมคอัพทับอาจจะต้องรอให้มันแห้งก่อนซักนิดนึงไม่งั้นมันจะทำให้เมคอัพเป็นคราบได้นิดหน่อย ความรู้สึกส่วนตัว เท่าที่ใช้มาเดือนกว่า อายครีมอันนี้เห็นผลดีมากกับ fine line นะเรื่องรอยคล้ำไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นริ้วรอยตื้นๆ อันนี้ไอ้ผลดีทีเดียว ส่วนผสม Propylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Ascorbic Acid, Glycerin, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Aqua/Water, Lauroyl Lysine, Acrylates Copolymer, Escin, Silica Dimethyl Silylate, Adenosine, Citrus Amara/Bitter Orange Flower Extract, Chlorhexidine Digluconate, Hydroxysuccinimide, Palmitoyl Oligopeptide, Chrysin, Palmitoyl Tetrapeptide-7. อันต่อไป Clinique Moisture Surge Spray อันนี้เป็นอันที่เราได้ตอนซื้อเซ็ต 3 ชิ้นของคลินิก จะมี moisture surge cream & eye cream แล้วมีอันนี้อีกอันนึง เลยได้ลองใช้ด้วย เป็นขวดเล็กๆ ขนาดพกพา ละอองน้ำจะเป็นแบบใสๆ เท่าที่ดูส่วนผสม ก็มีวิตามิน มีสารช่วยลดการระคายเคืองนิดหน่อย ไม่มีน้ำหอม เท่าที่ลองใช้ดูไม่ได้รู้สึกปลื้มอะไรมาก อารมณ์แบบสเปรย์น้ำแร่ทั่วๆ ไป แต่พอดูส่วนผสมแล้วก็มีดีกว่าสเปรย์น้ำแร่ทั่วไปนิดหน่อย ถ้าได้ขวดเล็กเอาไว้พกพา ฉีดให้ความสดชื่นระหว่างวันก็นับว่าโอเค ถ้าเพื่อนๆ จะซื้อแนะนำเอาขวดเล็กๆ ดีกว่าพกสะดวกดีจ้า ส่วนผสม Water, Dipropylene Glycol, Butylene Glycol, Glycerin, Aloe Barbadensis Leaf Water, Centella Asiatica (Hydrocotyl) Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Yeast ExtractFaexExtrait De Levure, Caffeine, Anthemis Nobilis (Chamomile), Trehalose, Tocopheryl Acetate, Sucrose, Sorbitol, Disodium EDTA, Potassium Sorbate, Chlorphenesin, Phenoxyethanol. ** สำหรับ Neutrogena Fine Fairness กับ Dior BB cream พบกันตอนหน้าจ้า **   Create Date : 18 สิงหาคม 2554     Last Update : 18 สิงหาคม 2554 11:34:47 น. Counter : 4141 Pageviews.   6 comment Share Tweet

**REVIEW: **Smooth E Babyface Scrub สครับไม่มีฟอง!! ถ้าบอกว่า โฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง แน่นอนเลย ทุกคนต้องคิดถึง Smooth E ขึ้นมาเป็นชอยส์แรกๆ เพราะเป็นโฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟองที่มีมานาน ทุกๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี วันนี้ก็มาริวิวโฟมล้างหน้าของ Smooth E แต่เป็นแบบโฟมสครับไม่มีฟองแทน ไปดูกันเลยค่ะ กล่องมาแบบนี้ มีการันตีหน้ากล่องว่า 99% ความพึงพอใจซะด้วย! ในกล่องมีแถมกระจกกลมๆ น่ารักค่ะ ชอบดีไซน์ตัวหนังสือมากๆ เก๋กู๊ด ด้านข้างกล่อง มีบอกสรรพคุณ 3 ประสิทธิภาพ คือ *ช่วยลดสิว สิวเสี้ยน สิวหัวดำ ด้วย สครับจาก เปลือกวอลนัต ช่วยทำความสะอาด * ควบคุมความมัน ด้วยเม็ดสครับละเอียดที่ทำความสะอาดขจัดความมันส่วนเกิน * เพื่อผิวหน้าอ่อนเยาว์ ด้วยส่วนผสมบำรุงคือ Collagen และ Vitamin E ส่วนผสม: Ditilled Water, Coco-Glucoside, Decyl Glucoside, Cocamidopropyl Betaine, Propylene Glycol, Butylene Glycol, Glycol Distearate, Glyceryl Stearate, Cyclomethicone, Walnut Shell Powder, Tocopherol, Fragrance, Phenoxyethanol, Methyl Paraben, Ethyl Paraben, Isobutyl Paraben, Butylene Paraben, Propyl Paraben ดูเนื้อผลิตภัณฑ์กัน เป็นครีมขาวๆ ผสมสครับ เป็นสีธรรมชาติ คาดว่านั่นคือ เปลือกวอลนัตที่เป็นเนื้อสครับนั่นเอง ทดสอบขัดที่แขน โฟมสครับแบบไม่มีฟอง รู้สึกเหมือนลูบๆ ครีมที่มีผงละเอียดๆ ฟีลแบบเนื้อทราย ผสมอยู่ รู้สึกว่าเป็นสครับที่อ่อนโยนกับผิวดี และเม็ดละเอียดน่าจะทำความสะอาดได้ดี ทดลองใช้บนผิวหน้าตัวเอง วิธีใช้ ก็ทำให้หน้าเปียกซะก่อนนะคะ เสร็จแล้วก็เอาครีมสครับถูบนมือให้เนื้อครีมแตกตัวก่อนซักนิด ค่อยๆ ลูบเบาๆ ให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณใต้ตาค่ะ โดยเน้นนวดวนๆ บริเวณที่ต้องการดูแลมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือ บริเวณที่มีสิวเสี้ยนเช่น จมูก และ คาง ใต้ริมฝีปากค่ะ นวดวนๆ ซักพักก็ล้างออก แล้วซับหน้าให้แห้ง ความรู้สึกหลังใช้ครั้งแรก กลิ่นหอมแบบสมูตอี รุ่นปกติ แต่จะมีกลิ่นวอลนัตผสมอยู่นิดๆ จากสครับ เนื้อครีมนิ่มๆ และมีผสมเนื้อสครับเม็ดละเอียดมากๆ รู้สึกว่าอ่อนโยนกับผิวดี รู้สึกไม่ค่อยชินกับครีมล้างหน้าแบบไม่มีฟองนิดนึง เพราะปกติจะใช้แต่แบบมีฟองตลอด แต่หลังล้างก็รู้สึกว่าหน้าสะอาดดี มันจะไม่รู้สึกลื่นๆ มาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าตึง รักษาบาลานซ์ของผิวได้ดีนะ ความเห็นส่วนตัว เรื่องควบคุมความมัน นับว่าทำได้ดีจริงๆ หน้ามันน้อยลง ทั้งๆ ที่คนอาจจะคิดว่า ครีมล้างหน้าแบบไม่มีฟองอาจจะล้างความมันออกได้ไม่ดี แต่อันนี้ทำได้ดีค่ะ หลังการใช้ 4 วัน ** สภาพผิวโดยรวมดีขึ้น บริเวณสิวเสี้ยนที่จมูกก็ลดลง ผิวหน้านุ่มขึ้น ละเอียดขึ้น ** ไม่ทำให้เป็นสิว หลังจากลองใช้ 4 วัน ยังไม่มีสิวขึ้นแต่ประการใด แปลว่าทำความสะอาดผิวได้ดี ** ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นมากขึ้นนิดนึง เพราะครีมล้างหน้าแบบนี้จะรักษาสมดุลของผิวได้ดีกว่าแบบฟองมากๆ ** เรื่องไวท์เทนนิ่ง ทำได้ดีบริเวณผิวหน้าโดยรวม คงเป็นเพราะการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกบ่อยๆ ทำให้หน้าดูใสขึ้น แต่บริเวณรอยสิวใต้คาง ไมได้เกิดผลด้านไวท์เทนนิ่งมากนัก จากรูปเห็นได้ว่า ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าตอนยังไมได้ใช้ น่าจะเป็นเพราะมันรักษาสมดุลของน้ำในผิวของเราได้ดีกว่าขณะที่ทำความสะอาด สรุป เป็นครีมล้างหน้าแบบไม่มีฟองที่ทำได้ดีมากในการขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนใบหน้า เนื้อสครับก็เนียนละเอียด ทำความสะอาดรูขุมขนได้ดีมากๆ แนะนำสำหรับสาวผิวมันที่มีปัญหาสิวเสี้ยน (เช่นเรา) เรื่องการรักษาบาลานซ์ของผิว ก็ทำได้ดีมากๆ เพราะทดลองใช้มาสี่วันแล้ว รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื้นขึ้นเพราะครีมล้างหน้าแบบนี้ รักษาความชุ่มชื้นของผิวได้ดีกว่าแบบที่มีฟองเยอะๆ จริงๆ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพง และหาซื้อได้ง่ายสุดๆ (เซเว่นก็มีขาย) แนะนำสำหรับทุกๆ คนค่ะ มีวีดีโอรีวิวขณะใช้นิดหน่อยค่ะ ให้ดูเนื้อสครับแบบใกล้ๆ อีกนิด ** เพลงประกอบ Boa – Shine We are ค่ะ**   Create Date : 11 สิงหาคม 2554     Last Update : 11 สิงหาคม 2554 10:41:00 น. Counter : 13449 Pageviews.   8 comment Share Tweet

**REVIEW:: VASELINE Healthy White Skin Lightening Lotion ช่วงที่ผ่านมา เราต้องทำธุระหลายเรื่อง ที่ทำให้ต้องตากแดดมากขึ้น มากกว่าตอนอยู่เกาะเฉยๆ เพราะอันนั้นพอจะหลบในร่มได้ ช่วงนี้เลยมีผิวคล้ำเสียจากแดดอยู่บ้าง เลยลองมองหาโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่งมาลองใช้ดูบ้าง เลือกขวดนี้มาค่ะ Vaseline healthy White ที่บอกว่า ขาวกระจ่างใสเห็นผลในสองสัปดาห์ ว้าวๆมาลองใช้ดูดีกว่า ข้างหน้ามีไอคอนรูปบรรยายสรรพคุณ นั่นก็คือ ให้ความชุ่มชื้น มีสารบำรุง และมีสารป้องกันแสงแดด ขวดปั๊ม 400 ml เราซื้อมาที่ 195 บาทจากโลตัส ไม่แพงเลยหล่ะ สรรพคุณและส่วนผสมด้านหลัง บอกว่า **มีวิตามินบี 3 บำรุงผิวให้กระจ่างใส **ผสมทริปเปิ้ลซันสกรีน สารป้องกันแสงแดดสามชนิด ป้องกันความหมองคล้ำ และจุดด่างดำ **โยเกิร์ตเซรั่ม บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ดูตรงส่วนประกอบสำคัญ จะเห็นว่า Niacinamideหรือ วิตามิน บี 3 ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เลย ดีมากๆ กับสารบำรุงผิวตัวนี้ ส่วนผสมกันแดดที่เห็นๆ ก็มี titanium dioxide ที่เราว่าตัวนี้ดี และได้ผลมากๆ กับสารกันแดด ขวดเป็นหัวปั๊ม สะดวกกับการใช้งาน และดีกับการป้องกันแบคทีเรียเข้าไปผสมในเนื้อโลชั่น เนื้อโลชั่นจะดูเหมือนครีมข้นๆ พอลูบไปก็กลายเป็นเหมือนเจลครีม ไม่หนืด เหนอะหนะ ลูบแป๊บเดียวก็ซึมเข้าผิวหมดแล้ว สบายผิวมากๆ กลิ่นออกหอมแล้วเหมือนมีกลิ่นเย็นๆ ให้ความสดชื่นดี (แต่ไมได้รู้สึกว่าเย็นผิวนะคะ แค่กลิ่นเย็นๆ แป้งหอมๆ นิดนึงค่ะ) ได้ทดลองใช้ มาห้าวัน ช่วงที่ใช้ก็ต้องขึ้นๆ ลงๆ เกาะเสม็ดระยอง แถมขับรถไปไหนมาไหน มาดูกันซิ หลังทดลองใช้ได้ห้าวัน (ไม่ถึงสองอาทิตย์ที่เค้าเคลมไว้) ผิวดูเหมือนจะขาวขึ้นเล็กน้อยจริงๆ นับว่าเป็นโลชั่นบำรุงผิวขาวที่ดีตัวหนึ่ง ที่อยู่คู่กับซุปเปอร์มาร์เก็ตไทยมานาน หาซื้อง่าย และราคาไม่แพงค่ะ มีวีดีโอรีวิวให้ดูเนื้อผลิตภัณฑ์เล็กน้อยค่ะ TIP เล็กๆ น้อย:: ทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำแล้วเช็ดตัวหมาดๆ เลยจะบำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ***อย่าลืมบำรุงผิวกายด้วยการทาโลชั่นเป็นประจำทุกวัน ผิวตัวจะได้เปล่งประกายมีสุขภาพดีเหมือนกับผิวหน้ายังไงล่ะ***   Create Date : 01 สิงหาคม 2554     Last Update : 1 สิงหาคม 2554 17:00:26 น. Counter : 6015 Pageviews.   8 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• Gallery ของ Ai Yazawa
• เลือกสีแต่งบล๊อก จากพี่รำเพย
• เกมหนุก ๆ viridian room
• cosmetic-ingredients.net
• BlogGang.com