Group Blog
 
All blogs
 

work and travel 2006 ตอนที่ 5


มันก็ถามชื่อ ถามประสบการณ์ ถามว่าให้ Take Order ทำได้มั้ย ไอ้เมย์ตอบๆไปว่าเคยเป็น Waitress ในร้านอาหารของโรงแรมที่ประเทศไทย เรื่อง take order I'm not sure because my English is not good enough. คือไอ้เมย์บอกว่า มันไม่แน่ใจเรื่อง take order เพราะไม่ค่อยเก่งอังกฤษ  

 


                มินท์บอกว่า "ถ้าให้เวลาพวกเราหน่อย เราจะพยายามให้ดีที่สุด" .... นี่.........เป็นไงล่ะ มินท์ ของไอ้เมย์

 


                คนที่คุณก็รู้ว่าใครหันมาบอกพวกเราว่า " Good "

 


                ทีงี้ทำมาชม ขู่กูนี่หว่า

 


                ไอ้เมย์ได้งานที่ Chick Fil-A ด้วยเหตุฉะนี้แล....

 


                -..-

 


                คนที่คุณก็รู้ว่าใครมันบอกให้ไอ้เมย์เดินไปทำงาน ซึ่งขอโทษเถอะค่ะ บ้านที่อยู่กับที่ทำงานมันไม่ใช่ใกล้เลยนะคะ ถ้าใกล้ขนาดได้กลิ่นไก่ก็ว่าไปอย่าง บ้าป๊ะเนี่ย เลยถามมันอีกที

 


                "ไกลมากเลยอ่ะ จะให้เดินจริงเหรอ"

 


                มันบอกว่า แค่ 15 นาที ...แด๊ดดี้เมิงเส่ะ ไกลซะขนาดนี้ ขนาดขับรถยังใช้เวลาตั้งเกือบ 10 นาที เดินจะขนาดไหน แต่เอาวะ เพื่อเงิน ประหยัดค่ารถตั้ง Week ละ $30 เดินก็เดินวุ้ย

 


                จบกิจกรรมจำเป็นแล้วไอ้เมย์ก็ออกไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านซะหน่อย อากาศร้อนแบบแปลกๆ แห้งๆ เหงื่อไม่ออก พอกลางคืนนี่ก็หนาวซะ ...

 


 




 


                ไอ้เมย์ไปเดิน Publix เป็น Super market หน้าหมู่บ้าน กะว่าจะซื้อของกิน เอามาม่ามาจากเมืองไทย 5 ห่อ ด้วยความที่เสร่อ ไม่คิดว่าบ้านที่นี่จะมีหม้อให้ต้มมาม่ากิน กลัวเอามาแล้วต้องกินดิบเหมือนเมื่อสมัยประถม ทุบๆๆ แกะห่อ ใส่ผง จกเข้าปาก ที่ไหนได้ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ไม่ขาดอะไรเลย เสียดายมาม่าขึ้นมาตงิดๆ น่าจะเอามาเยอะๆ

 


                อยากกินผลไม้มากๆ ต้องการความสดชื่น กานต์เอาสตรอเบอรี่มาอวดเมื่อเช้าก่อนย้ายไป ลูกบักเอ้ก ใหญ่มาก แพ็คละ $5 น่ากินที่สุด

 


 



และแล้ว ไอ้เมย์ก็กลับมาจาก Publix ที่จับจ่ายใช้สอยแหล่งเดียวที่มันไปถูก สตรอเบอรี่แบบที่กานต์เอามาให้กิน ราคา 3 แพค $5 ถูกมาก คงจะกำลังโดนโละ เพราะกานต์มันเคยซื้อมาตอนแพคละ $5 นี่ถ้าประชาชนทุกคนรวมใจกันชื่อช่วงใกล้เน่า ได้ราคาถูก คนขายสตรอเบอรี่ไม่ขาดทุนแย่หรอวะ

 


                ไอ้เมย์ซื้อนมสดมา 1 ขวด $1.45 เกือบลิตร เขาว่ากันว่า พวกของเกษตรราคาถูกเกือบทุกอย่าง นมคุณภาพดีกว่าบ้านเรา ก็ไม่รู้ว่าดีกว่าตรงไหนหรอก มีคนบอกมาอีกที ก็แค่นมอ่ะนะ คงไม่ต่างกันมากหรอก ถ้าอีกนมหนึ่งนี่สิ ต่างกัน นมบ้านเราถึงจะน้อยแต่ก็คุณภาพคับตึงไม่หย่อนยาน

 


                ได้ไปเห็นมะเขือม่วง กะหล่ำ จะใหญ่ไปไหน ของฝรั่ง อะไรๆก็ใหญ่ไปหมด

 




               -..-






 

Create Date : 14 มกราคม 2552    
Last Update : 14 มกราคม 2552 10:51:31 น.
Counter : 383 Pageviews.  

work and travel 2006 ตอนที่ 4

เช้าวันแรกในฟลอริดา (Panama City Beach)

วันนี้อาจจะได้ย้ายบ้านนะ ย้ายไม่ย้ายไม่รู้ แต่ไอ้เมย์แพคของเสร็จแล้ว ยกกระเป๋ามาไว้ขอบประตูละ ยังไงๆต้องย้ายให้มัน


                ห้องน้ำที่อเมริกาไม่มีที่ฉีดตูด ถ้าไอ้เมย์ท้องเสียจะทำไง ใช้ทิชชูเช็ดก็ไม่หมดหรอก ติดตูดไม่พอ แห้งแล้วคันอีก นี่ดีนะ ที่ไอ้เมย์ยังไม่มีปัญหากับเรื่องนี้


                เพื่อนใหม่ของไอ้เมย์ นอกจากกานต์กับศิ ยังมีเก่ง เพศชาย (นามสมมติ) อีกคน ซึ่งมันเป็นแฟนกันกับ ศิ ขานี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่มาถึงบ้านช่วงประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง มันก็นอนหลับอยู่ในห้อง จนค่ำๆมีไอ้เมย์ มินท์ กานต์และศิกินมาม่ากัน เก่งก็ยังนอนอยู่ในห้อง ได้ข่าวว่า เที่ยงคืน ตี 1 ลุกขึ้นมากินมาม่าที่พวกเราทำเผื่อไว้ให้ แต่นั่นมันมาม่าอืด 3 ชั่วโมงมาแล้วนะคุณ ทั้งเย็นทั้งบวม แถมตอนเช้ามีงัวเงียๆ เดินมาบอกศิว่า


                " เฮ้ย...ทำโจ๊กเสร็จแล้วเรียกด้วยนะ "


                แล้วมันก็เดินไปนอนต่อ แค่นี้ก็รู้ละ ว่าไอ้นี่มันเป็นคนแปลกๆ ซึ่งยิ่งได้รู้จัก ยิ่งได้รู้ว่ามันแปลกจริงๆ ไว้จะเล่าให้อ่านทีหลัง


                เช้านี้ ไอ้เมย์กิน เนสวีต้าไป 1 แก้ว เอามาจากเมืองไทย ไม่อิ่ม ต่อด้วยมาม่าอีก 1 ชาม วันๆคงได้กินอยู่แค่นี้ เงินก็เหลือแค่ 600 เหรียญ (ตอนนั้น 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 40 บาท) จากที่ไอ้เมย์เอามาพันนึง นี่ยังไม่ได้งานเลยนะ ฟังๆเขามาว่า คนสั่งงานโหด แต่ส่วนใหญ่พวกดำๆจะใจดี หวาดๆหวิวๆเหมือนกัน แต่มันก็ท้าทายคนอย่างไอ้เมย์


                สายๆ วลาเดเมียร์ หรือ โวลเดอมอลท์ เพศชาย (นามสมมติ) หรือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งก็คือผู้ที่ฝากเราคนไทยและจาไมก้า (เท่าที่รู้นะ) เข้าทำงานตามสถานที่ต่างๆ เปรียบได้กับมาเฟียนั่นเอง มาหาที่บ้าน พาเมย์มินท์ไปสัมภาษณ์ที่ร้านอาหาร Fast Food แห่งหนึ่งซึ่งดังในอเมริกา (แถบๆรัฐฟลอริดาและจอร์เจีย) แต่ดับในไทย เอ่ยชื่อไปบางคนอาจไม่รู้จัก ...ซึ่งชื่อร้านก็คือ....... Chick Fil-A....คนอเมริกันทั่วไปชอบที่จะกินที่ร้านนี้มากกว่า เพราะใช้เนื้อไก่สดๆ เอามาชุบ milk&egg ชุบแป้ง แล้วจึงทอด แต่ Fast Food ชื่อดังบางแห่งในเมืองไทย ใช้ไก่สำเร็จแช่แข็ง แกะถุงทอดได้เลย ที่อเมริกาทำแบบนี้ ไม่รู้ที่เมืองไทยทำแบบนี้รึเปล่านะ ดังนั้น ไก่ที่ Chick Fil-A จึงน่าไว้วางใจในการกินมากที่สุด


                แล้วไอ้เมย์ก็ผ่านการสัมภาษณ์ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ผ่าน มา...จะแหลให้อ่าน


                ตอนแรก ที่ไอ้เมย์บอกว่าจะย้ายบ้านใช่ป่ะ ไม่ย้ายละ เนื่องจากถ้าย้ายมันจะไกล Chick Fil-A ซึ่งต้องนั่งรถเสีย $30 ต่อสัปดาห์ คนอย่างไอ้เมย์ไม่มีทางยอมแน่นอน อยู่ที่เดิม เดินไปทำงานได้ อยู่ก็อยู่วะ ไอ้หัวรุนแรง 3 คนนั้น ต่างคนต่างอยู่คงไม่เป็นไรมั้ง


                ส่วนคนที่ได้ย้าย คือกานต์คนเดียว คนที่คุณก็รู้ว่าใคร บอกเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียว่า


                " มีบ้านก็ไม่ชอบบ้าน มีงานก็ไม่ชอบงาน ไม่ชอบเพื่อนคนนั้นคนนี้ มีเด็กมาทำงานเป็นร้อย จะชอบคนให้ได้ทั้งร้อยมันไม่ได้อยู่แล้ว ไม่หัดทนซะมั่ง " ...


                แต่กานต์มันบ้านรวยไง มันมาหาความสุข ไม่ได้มาหาตังแบบพวกไอ้เมย์  ก็คงทนไม่ไหว โชคดีละกันกานต์ กลัวว่ามันจะอยู่ที่ไหนไม่ได้เลยแล้วต้องกลับเมืองไทยไปก่อน


                คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ที่มารับกานต์ไปส่งบ้านหลังใหม่ ก็รับไอ้เมย์ไปสัมภาษณ์ด้วยเหมือนกัน พูดออกสำเนียงรัสเซียเลยฟังไม่ค่อยออก มันว่าไอ้เมย์โง่อังกฤษ แถมขู่อีกว่า Chick Fil-A รับแต่คนเก่งอังกฤษ คือต้องเก่งกว่ามัน ถึงจะรับ เมย์มินท์ ผวาตลอดทาง ถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านมันจะให้เรา 2 คนแยกกัน แล้วฝากเข้าทำงานเป็น House Keeper เป็นแม่บ้านในโรงแรมซะ เหนื่อยตาย...


                พอไปถึง Chick Fil-A ภายในนั้นรู้สึกได้ถึงกลิ่นไก่หอมกรุ่น เตะจมูกให้บิดซ้ายบิดขวา เวรกรรม ทำไอ้เมย์หิวอีก ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ก็ไปเรียก Manager  ออกมาสัมภาษณ์ ด้วยสำเนียงอเมริกันค่อยฟังง่ายขึ้นหน่อย แม้จะน้อยก็ตาม


-..-







 

Create Date : 12 มกราคม 2552    
Last Update : 12 มกราคม 2552 22:12:07 น.
Counter : 343 Pageviews.  

work and travel 2006 ตอนที่ 3

ตอนนี้ ไอ้เมย์จัดการเรื่องบ้าน สำเร็จไป 1 step มันได้อยู่บ้านเดียวกับเพื่อนที่นั่งเครื่องบินมาด้วยกัน ชื่อ มินท์ เพศหญิง (นามสมมติ) บ้านนี้เมท 3 คนหัวรุนแรง รู้มาจากเมทอีก 2 คนอีกต่อหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้จริงมั้ย แต่ไอ้เมย์มันกลัว จะขอย้ายไปอยู่ที่อื่นกับไอ้เมท 2 คนที่มาก่อนนั้นด้วย มัน 2 คนไม่อยากจะทนเหมือนกัน


เพื่อนใหม่ของไอ้เมย์ 2 คนนี้ ชื่อ กานต์ เพศชาย กับ ศิ เพศหญิง (นามสมมติ) ด้วยความกลัวเพื่อนเสียหาย.. แต่ระบุว่านามสมมติไปงั้นแหละ ใครๆจะได้ไม่คิดว่าเป็นพวกมันจริงๆ...


ได้เพื่อนใหม่เพราะเรื่องนินทาแท้ๆ.... เรื่องอะไรน่ะรึ ก็เมทอีก 3 คนนั้น ที่ว่าหัวรุนแรงอ่ะ (ทุกคนเป็นเป็นคนไทยนะคะ) มันชอบทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของทุกอย่าง เราทำไรมากไม่ได้นะ มันด่าเอา เวลามันทำกับข้าวกินกัน ก็ไม่ยอมเก็บ กานต์กับศิต้องคอยเก็บล้าง


ใช้ได้ที่ไหน !!!


ซักผ้าก็ด่า หาว่าเสียงดัง เปิดฮีทเตอร์ก็ไม่ได้ โธ่วุ้ย โมโหแทนจริงๆ


วันข้างหน้าจะต้องเผชิญกับชะตาชีวิตอะไรมั่งก็ไม่รู้ รู้สึกหวิวๆขึ้นมานิดๆ...





 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 7 มกราคม 2552 13:34:17 น.
Counter : 296 Pageviews.  

work and travel 2006 ตอนที่ 2


 


บนเครื่องที่ต่อจาก Seoul เพื่อไปลง Atlanta ที่ไอ้เมย์นั่งอยู่นี้ ไม่มีประกาศภาษาไทยปิดท้ายอีกแล้ว


“มาส่งแค่นี้เองหรือ


มีแต่เกาหลีกับอังกฤษ ซึ่งไอ้เมย์ต้องตั้งใจฟังมากๆ แม้จะฟังยังไงก็ฟังไม่ออก


เดี๋ยวพอเครื่องลงที่ Atlanta ไอ้เมย์ต้องเป็น Head ด้วยนะ ไม่รู้นึกยังไงพี่เจ้าหน้าที่ถึงเลือกมัน สงสัยหน้าตาเหมือนพวกมีความรับผิดชอบ


-..-


และแล้ว ไอ้เมย์และผองเพื่อนก็ลงเครื่องที่ Atlanta เดินมั่วไปมั่วมา หาสายพานลำเลียงกระเป๋า และในที่สุดก็เจอ


" ของข้า ของรักของข้า กระเป๋าของข้า " ... พอๆๆ ไม่ใช่สมีกอล


-..-


หลังจากได้กระเป๋า ไอ้เมย์ซึ่งเป็น Head ต้องเดินมั่วนำเพื่อนๆไปที่ช่อง X-Ray กระเป๋า เพื่อนก็ตามมาโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คงคิดว่าไอ้เมย์นั้นเชี่ยวชาญมาก โฮ่ๆๆๆ


“ กูเพิ่งมาครั้งแรกเหมือนพวกคุณแหละ” ไอ้เมย์คิด


อาศัยการประมวลผลเร็วโดยบังคับ เพราะไม่งั้นพวกเพื่อนๆจะไม่ไว้ใจ และในที่สุด มันก็มาถูกทางในขณะที่เหงื่อไหลลงร่องก้นจากความหวาดผวาว่าจะทำผิดพลาด


ระหว่างรอรถ Tram (คล้ายๆรถไฟใต้ดิน) เพื่อที่จะไป concourse ที่เท่าไหร่ไม่รู้ ลืมละ ซึ่งไอ้เมย์ก็ไม่เคยขึ้นมาก่อนในชีวิต เพื่อนที่มันนำมา ส่วนหนึ่งขึ้นรถไปก่อน อีกส่วนหนึ่งอยู่กับไอ้เมย์ เพราะมันดันทำท่าชักขาเข้าๆออกๆ ไม่แน่ใจว่าจะไปไม่ไปดี ไอ้พวกกล้าๆกลัวๆ ก็ยืนชักขาเข้าๆออกๆอยู่ข้างหลัง ดูคล้ายเป็นหางเครื่องวงลูกทุ่ง


สักพัก รถ Tram มาอีกคัน เอาวะ...ขึ้นๆไปก่อน


ถึง Concourse ถัดไป อ้าว ไอ้พวกนั้นที่กล้าดีขึ้นรถไปก่อน มันออกมายืนรออยู่นอกรถ...พอประตูเปิด ก็กรูกันเข้ามา


คือพวกมันไม่รู้ว่าต้องไปลงที่ไหน เลยลงที่นี่เพื่อรอให้ไอ้เมย์มาถึงแล้วไปพร้อมกัน แล้วอย่างกับไอ้เมย์มันรู้งั้นน่ะ


" เฮ้อ...แก้ตัวว่ารอไปพร้อมกัน ลงผิด Concourse อ่ะดิ๊ บอกให้ตาม Head ตาม Head " นั่น ทำเก่งเลยไง


ไม่ได้พูดหรอก คิดเฉยๆ


แล้วไอ้เมย์ก็บังเอิญนำเพื่อนๆไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย


-..-


ออกมาจากสนามบิน หลังจากเอากระเป๋าเรียบร้อย ก็มาขึ้นรถโคช (คล้ายๆรถทัวร์ แต่คันเล็กกว่า) เพื่อนั่งต่อไปยังเมือง Panama City รัฐ Florida โดยใช้เวลา 6 ชั่วโมง


ไอ้เมย์นั่งรออยู่บนรถเป็นเวลา 10 ปี คือ...นานมาก รถก็ยังไม่ออก


“เด๊วจัดการเลย กูเป็น Head นะเว่ย !!” ..นั่น บ้าอำนาจ อ่ะ ล้อเล่น....


-..-


และแล้ว...รถก็เคลื่อนออกจากหน้า Airport ไอ้เมย์นั่งตาแป๋วตลอดทางด้วยความตื่นเต้น ก็เพิ่งเคยมาอเมริกาเป็นครั้งแรกนี่คะ เพิ่งรู้ว่าอเมริกานี่มันเป็นแบบนี้นี่เอง


ถนนโล่ง อากาศเย็น ต้นไม้เต็มข้างทาง ลักษณะเหมือนทางอ้อมเมืองไปอำเภอ ชะอำ ในหน้าหนาวบ้านเราเลย เปรียบเทียบซะ....


-..-


คนขับรถโคชพามาหยุดที่หน้า Mc Donald's พลันให้ไอ้เมย์เกิดรู้สึกแปลกตาที่มันเป็นอาคารชั้นเดียวแยกออกมาต่างหาก เป็นตัวของตัวเอง เป็นเด็กแนวไม่ได้อยู่ในห้างเหมือนบ้านเรา


ไม่ยักหิวแฮะ...แต่ก็ลงไปสัมผัส Mc Donald's ของอเมริกาซะหน่อย กินน้ำซักแก้วก็ยังดี


ใน Mc Donald's จะมี น้ำแข็ง น้ำอัดลม บริการอยู่นอก Counter คือเราสามารถ Refill น้ำได้ฟรี แต่ไอ้เมย์ไม่ดื่มน้ำอัดลมอยู่แล้วอ่ะค่ะ อันนี้จริงๆนะคะคุณ มันไม่ได้กระแดะ ถึงมันจะกระแดะ แต่เรื่องนี้ไม่ได้กระแดะนะคะ


ไอ้เมย์เดินไปสั่งน้ำเปล่า


" I need a cup of water."


ไอ้พนักงานเตรียมจะกดตัง ไอ้เมย์บอกเลยค่ะ


" Just a cup "


ประมาณว่า ขอแค่แก้วอ่ะค่ะ งกค่ะ


มันก็ส่งแก้วให้ใบหนึ่ง ด้วยความเข้าใจของไอ้เมย์แต่เพียงผู้เดียวว่าถ้ากินน้ำเปล่ามันจะฟรี แต่พอรับแก้วมากดน้ำแข็งเสร็จแล้ว ปรากฏว่า หาน้ำเปล่าไม่เจอ แต่มีช่องหนึ่งเขียนว่า


" Water " แต่กดออกมาเป็น “น้ำส้ม”


เอ๊า...ก็เขียนว่า " Water " นี่หว่า ไอ้เมย์ไม่ผิด เพราะมันสั่ง " a cup of water " มันกดที่ช่อง "water" แต่ดันออกมาเป็นสีส้มเอง ไอ้เมย์ไม่เกี่ยวนะคุณ


หะ หะ ได้กินน้ำฟรี 1 แก้วเลยไงล่ะ เฟี้ยวจัดอ่ะ กะว่าจะใช้แผนนี้ไปเรื่อยๆที่ร้านอื่นอีกต่างหาก


-..-


ตามถนนหนทางมีรถวิ่งเบาบาง ไม่ค่อยเห็นมอเตอร์ไซค์ จะมีบ้างก็พวกคันใหญ่ๆไปเลย ไม่ก็ สกูตเตอร์ที่พวกนักท่องเที่ยวเช่าขี่เล่น


-..-


 






 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 7 มกราคม 2552 13:40:06 น.
Counter : 310 Pageviews.  

work and travel 2006 ตอนที่ 1

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 นะฮะ นานมาแล้ว เมื่อสมัยยังอยู่ปี 3 ยังเป็นสาวเอ๊าะๆ


เอาล่ะ มาเปิดไดอารี่กันเลย


- เปิดไดอารี่ ตอนที่ 1-


               


                ก่อนเดินทาง ก็บอกลาผู้มาส่งอันได้แก่บุพการี พี่น้อง มิตรรักแฟนเพลง และผองเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย


                Flight KE 654 แอร์เกาหลีสาวขาวสวยหมวยใสไร้ริ้วรอย กำลังลำเลียงผู้โดยสารขึ้นเครื่องอย่างเมามัน ผู้โดยสารที่กร้านโลก แต่ไร้เดียงสาในการหาที่นั่งก็หลับหูหลับตากันขึ้นมา บ้างทำเก็ก ไม่ถามใคร แล้วก็หาที่นั่งไม่เจอ บ้างยอมบ้านนอก ถามแอร์เกาหลีหน้าใสให้เธอชี้ที่นั่งให้... บ้างบังเอิญมีไหวพริบ ดังเช่นไอ้เมย์นั่นเอง ที่ทำตัวเหมือนเชี่ยวชาญในการเดินทาง ทั้งที่สติปัญญาไม่ค่อยสมประกอบ เพราะเป็นโรคจิตหลายประเภท


                ช่วงเวลาอยู่บนเครื่องที่กำลังเหินฟ้าอยู่นั้น กิจกรรมส่วนใหญ่ของไอ้เมย์และคนหมู่มากคือ นอน พอถึงเวลากิน ก็ตื่นขึ้นมากิน กินให้คุ้ม พอกะจะกินให้คุ้ม ก็อิ่มจนจะอ้วก แกล้งกูรึไงวะ...         


                ...เครื่องแวะลงที่ Seoul ณ ประเทศเกาหลี ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากไทยร่วมๆ 4 ชั่วโมง เหล่าผู้โดยสารทยอยออกจากเครื่องเพื่อเข้าไปเดินเล่นในสนามบินด้วยความสนุกสนาน ไอ้เมย์และเหล่าเพื่อนนักศึกษา ก็ต้องเตรียมตัวขึ้นเครื่องอีกครั้งเพื่อออกเดินทางไปยังรัฐ Atlanta สหรัฐอเมริกา


                มันเริ่มมาจาก ไอ้เมย์...เป็นนักศึกษาแรดๆคนหนึ่ง และพอดีมีโครงการ "Work and Travel" ของบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดรับนักศึกษาที่แรดหรือไม่แรดก็ได้ ให้ไปทำงานและท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา พอดีคุณสมบัติถึงก็เลยได้ไปกับเขาด้วย


                ระหว่างอยู่บนเครื่อง แอร์เขาก็แจกหูฟังให้ฟังเพลงด้วยนะ ไอ้เมย์นี่เลย เก็บใส่เป้ อะไรฟรี มันเอาหมด ดันมาบอกตอนหลังว่าจะเก็บหูฟังคืนด้วย มันเลยต้องหยิบออกมาจากเป้ อายมั้ยล่ะ งกไม่ดูตาม้าตาเรือ


                อ๊ะ แต่ถ้าไม่เอาออกมาจากเป้ ใครจะไปรู้วะ ว่ากูแฮฟ !!!


                *มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง อันการที่คนไทยขึ้นเครื่อง Korean Air เกิดอะไรขึ้นคนไทยอย่างไอ้เมย์ จะรู้ทีหลังสุด เพราะเวลาเครื่องมีปัญหา ประสบภาวะอากาศแปรปรวน มันมาแล้ว


"ภาษาเกาหลี" .... "ยุงบินชุมคันพุงจังสมีดา"


...ต่อด้วย "ภาษาอังกฤษ" ..."dkfjkdgjdflgklhkfgoh;lfknlfmn;ldf"


....ซึ่งโง่พอดี ฟังไม่ออก


จากนั้น จึงเป็น "ภาษาไทย" .... "ขณะนี้..." ตู้ม!!!!!


กว่าจะรู้เรื่องไม่กลายเป็นผุยผงไปแล้วเรอะ แต่ช่างเถอะ อยู่ในเครื่อง เครื่องบินตกก็ตาย โดดออกจากเครื่องก็ตกพื้นด้วยตัวเองตาย ยังไงก็ตาย เลยตัดสินใจนอนรัดเข็มขัดไปตลอดทาง เผื่อไปตายที่ไหนเค้าจะได้รู้ว่า ตายในเครื่องบิน ตายไฮโซ


                หลังจากไปเปลี่ยนเครื่องที่ Seoul ประเทศเกาหลี แล้วก็เดินทางต่อ สู่จุดหมายปลายทางสนามบิน Atlanta ซึ่งไอ้เมย์ได้รับความไว้วางใจให้เช็คชื่อเพื่อนๆ และมันอยากจะบอกเหลือเกินว่า


                "ทำไมไม่ดูหน้ากูก่อน...เอ๋อ เฟอะฟะ ขนาดนี้ ถึงจะกรุ๊ปแค่ 8-9 คน หรือ 10 คนวะ นั่น เห็นมั้ย กี่คนยังจำไม่ได้เลย แล้วจะรอดมั้ย ซวยแล้วล่ะ พวกคุณน่ะ "


                ชะตากรรมของบุคคลเหล่านั้น ได้ตกอยู่ในกำมือไอ้เมย์โดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง


                อา... ตื่นมาแคะขี้ตาแล้วป้ายไว้ที่เบาะ อ๊ะ ล้อเล่นค่ะ มันไม่อุบาทว์ขนาดนั้นหรอกค่ะ แหม แค่บี้ให้แห้งติดนิ้วแล้วมันหายไปเอง อย่าว่าน่าเกลียดเลยนะ ต้องเคยทำกันมั่งล่ะ


                หลังจากขี้ตาระเหยไป ไอ้เมย์ก็หิวน้ำสุดชีวิต แอร์เดินผ่านมาสักคนจะขอบคุณมาก


                อ๊ะ...นั่น เดินมาแล้ว และมันก็หยุดคุยกับไอ้คนที่นั่งหน้าไอ้เมย์ แล้วก็เดินกลับไป -*-


                อ่ะ มาอีกคน เรียกมัน


                " Excuse me"


                " @#!$%^&*#$%++_)(|+$#@@!!! "


                พูดเห้ว..ไรเนี่ย!!! พร้อมกับโบกไม้โบกมือทำท่าเหมือน


"กำลังยุ่ง อย่าเพิ่งเรียกกู" และเดินจากไป


                ...ไม่อยากจะด่า เห็นแก่หน้าตาดี ขาว หมวย สวย ใส หรอกนะ แต่ไอ้เมย์มันกระหายน่ะสิ


                อ่ะ...มาอีกคน เสร็จละ !


                " Excuse me..May I have a cup of water please"


                " Water ? " พร้อมกับเงยหน้าดูเลขที่นั่ง และเดินหายไป


                คราวนี้ได้น้ำแน่...ฮ่าๆๆๆๆๆ


                ................


                ........


                1 ชั่วโมงผ่านไป...


                1 ชั่วโมงครึ่ง...


                ...แล้วจะดูเลขที่นั่งให้กูสดชื่นเก้อทำไมเนี่ย......


                -..-


                และแล้ว...แอร์สาวกำลังเดินมาอีกคน


                " ถือตะกร้าไรมาวะนั่นน่ะ "


                มีห่อขนมอะไรซักอย่าง อะไรไม่รู้เอาไว้ก่อน ...ลักษณะคล้ายข้าวเหนียว ดำๆ น้ำตาลๆ มีลูกเกด เม็ดบัว และอีกหลายอย่าง ไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนกัน ขนมเกาหลีเขาอ่ะนะ


                พอพลิกคว่ำ พลิกหงายซักพัก ก็เหลือบไปเห็นที่ข้างห่อเขียนว่า


                “Korean Traditional Rice Cake "


                " เค้กข้าว "


                เรียกซะหรู บ้านกูเรียก "บ๊ะจ่าง" ชิ!! รสชาติเหมือนกันเลย จริงๆนะคุณ


                -..-


                อ้าว...ลืมน้ำไปเลย


                ไอ้เมย์ก็นั่งรอ...ซักพักเดินมาคนหนึ่งจริงๆ


                " Excuse me. I need water please. "


                " Yes, we're preparing to serve."


                อา....สำเร็จ ประมาณไม่ถึง 5 นาที ไอ้เมย์ก็ได้ดูดดื่มความสดชื่นจากน้ำ และมันขอน้ำส้มเพิ่มอีกแก้วด้วยนะ เอาให้หนำ...






 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 7 มกราคม 2552 13:44:32 น.
Counter : 291 Pageviews.  

1  2  

coyotemomay
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






สวัสดีค่ะ

ขออนุญาตแนะนำตัวนะฮะ

เจ้าของบล็อกชื่อเมย์

นะเจ้าคะ

บางทีก็เรียกตัวเองว่า

ดั๊ฟฟี่ดั๊ค

เนื่องจากเป็นเป็ดดำฮะ

ไอ้เมย์ก็ออกน้ำตาลๆ

คล้ายๆกัน

ตามหารูปที่ซ่อนอยู่ในบล็อก

กันนะฮะ..

ส่วนลิงจึ๋งก็คือ

แฟนของไอ้เมย์นั่นเอง

ไอ้เมย์รักความสนุก

รักครอบครัว

รักเรียน (สร้างภาพ โฮ่ๆๆๆ)

รักสุขภาพ

รักสัตว์

รักเด็ก (สักวันหนึ่งจะรักนะ)

กำลังศึกษาเกี่ยวกับ

เรื่องจักรวาล

เผื่อวันนึงได้เป็น..

นางงามจักรวาล

จะได้ "เพียบพร้อม"

-..-

ไอ้เมย์มีฝันไว้ให้ฝัน

บางทีตามฝันไม่ถึงซะที

ก็ยังรู้สึกดีที่ได้ฝัน

ทุกคนมีข้อจำกัด

ทำตามฝันไม่ได้

ก็อย่าไปเสียใจ

ทำเพื่อคนอื่น

ทำให้คนอื่นมีความสุข

ก็ทำให้เรามีความสุข

ได้เหมือนกัน

โดยเฉพาะทำให้กับ

คนในครอบครัวของเรา

Smiley

สนับสนุนให้โลกนี้สงบสุขมากขึ้น

SmileySmiley




ขอบคุณโค้ดแต่งบล็อกสวยๆจาก...

KungGuenter's blog

lozocat's blog

ด้วยนะคะ























Friends' blogs
[Add coyotemomay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.