คนที่รัก รักเรา เราก็รัก คนไม่รัก มิรักเรา เราไม่สน ขอเพียงคน ทีรักรักเรา เพียงหนึงคน ใยต้อง สนคนที่ ไม่รักเรา

คนเมืองตำน้ำกิน

Group Blog
 
All blogs
 

เที่ยว..ทะเล!! หน้าฝน จังหวัด จันทบุรี-ระยอง(น้ำตก/สวนผลไม้/อาหารทะเล)

ลุงจ้าหนูอยากไปทะเล !!!



เสียงของหลานสาว ที่คอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่า ได้เวลาเที่ยวละนะปีนี้ ทำมั้ยไม่ไปสักที รึว่าปีนี้จะไม่ได้ไปซะแล้ว...และนั้นก็เป็นเหตุ!!!

เป็นเหตุของการคิดทริปนี้ อาจจะช้าหน่อยเพราะวันว่างไม่ตรงนัก อีกทั้งติดธุระมากมาย ทำให้เกิดการล่าช้ากว่าทุกปี
แต่ก็นะ พูดแล้วไม่ไปก็เสียผู้ใหญ่หมด(นิสัยพูดแล้วต้องทำไม่งั้นร้อน^ ^) พูดไปพูดมาก็ทำให้การเดินทาง ย่างเข้าหน้าฝน อย่างไม่ต่องสงสัย ในทุกๆปี ที่ไป ก็ต้นเดือนก่อนเปิดเทอมเล็กน้อย ปีนี้ล่าช้าไปพอสมควร พลางปลอบใจตัวเอง ช้าๆก็ดีเหมือนกันผลไม้จะได้พอดีกับการเดินทาง(เป็นชว่งผลไม้สุกเต็มที่ของทุกปี) แต่!!!ปีนี้ผลไม้ดันออกเร็ว กรรม..!! อย่ากระนั้นเลยเอาเป็นว่าไม่วางแผนมันเลยดีกว่าลุยๆไปเลย....GOGO!!



ว่าแล้วก้เตรียมตัว จัดการเก็บข้าวของ เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่่ม
ทริปนี้เริ่มต้นการเดินทาง ที่จังหวัดสระแก้วเข้าจันทบุรี สิ้นสุดที่ ระยอง ใช้เวลาจังหวัดละ3วัน2คืนเว้นสระแก้วขอผ่านไว้งวดหน้าคอยมา แบบ สบายๆเหน่อย
เป้าหมายหาดแรกที่เล็งไว้ คือ อ่าวยางจังหวัดจัน เหตุผลเพราะเป็นหาดสว่นตัว และร้านอาหารทานได้ทุกร้าน คำว่าอาหารทานได้ทุกร้านของตัวกระผมคือ อาหารที่ผมชินปากนะขอรับ เป็นคนชอบรสจัด แต่ทานจืดได้ อาหารทะเลสดๆตามร้านริมหาด บ้างครั้งทำผมพูfไม่ออกเหมือนกัน!!!




ที่เลือกหาดนี้เพราะว่า เป็นหาดเล็กๆ หากฝนตกลมมา พายุเข้า ยังพอได้เล่นน้ำบ้าง และก็ไม่เดือดร้อนในการหาร้านทานข้าว
คนอาจจะไม่เยอะ เพราะเป็นวันเปิดเรียนแล้ว(ไม่ชอบคนเยอะเท่าไรเป็นทุนเดิม) แต่คงพอมีบ้าง ได้เป้าหมายหลัก
แล้วก็มาถึงวันออกเดินทาง จัดแจงเตรียมน้ำ+ขนม+ของเล่นริมหาด แว่นตา เสื้อชูชีพ หว่งยาง พร้อมแล้วก็แพ็คลง
กล่อง เตรียมน้ำ ถังน้ำแข็งแช่ ไว้ทานระหว่างทาง กะว่าคงต้องลุยพอสมควร จึงเลือกเจ้ากระบะแดงTFR มาลุยกันเลย




เริ่มเดินทางเวลา 7โมงเช้า วิ่งสายสระแก้ว-จันทบุรี ใช้เวลากว่า6ชั่วโมง ถนนมีรถนิดหน่อย ฝนตกตลอดทาง
หยุดๆตกๆ วิ่งแบบสบายๆ ตามนิสัย 60-80 โดยประมาณ ถนนถือว่าใช้ได้เลย วิ่งมาสักพักตัวแสบก็หลับใหล(สบายหูละงานนี้)
บรรยากาศ สองของทางก็สบายหูสบายตาดี ฟังเพลงเก่าๆแกมบรรยากาศ ก็คุ้มละงานนี้






อาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย กับถนน เพราะผมมักใช้เส้นทางลัด เพราะว่ามันดูวิ่งสบายๆ ดี เพราะรถไม่คอยมี
วิ่งไปสัก5-10นาทีจะเห็นรถสวนมาสักคัน แต่ถ้าจะถามว่าเปลี่ยวมั้ย ก็ไม่ถึงขนาดนั้นขอรับ ^ ^
สองข้างทางจะมีร้านอาหาร ปั้มน้ำมันเป็นระยะๆ แถมดว้ยสวนผลไม้ และก็พืชไร่ หลากหลายชนิด แล้วแต่ว่า
จุดไหน ควรปลูกอะไร เหมาะกับอะไร หรือใกล้แหล่งรับซื้อพืชผลชนิดไหน




ระหว่างทางจะมีถ่ำบ้าง น้ำตกบ้าง แต่กระผมมิได้เข้าไปชมแต่อย่างใด เนื่องจากดูสภาพอากาศแล้วคงจะเดิน
เที่ยวลำบาก อยู่มิใช้น้อย ใช้เวลาไม่นานนักก้เดินทางถึงตัวจังหวัด ดูเวลาก็เที่ยงๆบ่ายๆแล้ว ลองโทรไปถามทีพัก
ดูสักหน่อย ว่าว่างไม่ว่างยังๆไง จะได้เก็บข้าวของ
ยกมือถือกดไม่นาน ก็ได้ยินเสียงที่สบายหู ^ ^ เป็นคำตอบที่สบายใจ ว่า ห้องว่างคะ เข้ามาได้เลย ระหว่างทางก็ ผ่านสะพานแหลมสิง ตึกแดง คุกขี้ไก่ ก็เอาสะหน่อย ไหนๆก็ไหนๆแล้วใกล้แค่นี้ สว่นโช้ปลาโลมาไว้พรุ่งนี้ดีกว่า เวลามีเยอะ ที่ทางก็ใกล้ๆ




ลงจากสะพานมาหน่อย เข้าซอยไปจนสุดก็ถึงที่พัก อ่าวยางบีซรีสอท ค่าที่พัก คืนละ500 มี 3 ราคา 500/800/1000 แอร์เย็นฉ่ำ
ห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ ดูทึ่มๆไปนิด เพราะไม่มีหน้าต่าง แต่ก้อยู่สบายขอรับ อาหารมือแรกวันนี้ ทานที่ร้านเจ๊น้อง




สั่งมา 5 อย่าง 600 บาท อิ่มจนเย็น วันแรกอากาศดี ครึมฟ้าครึมฝนแต่ยังไม่ตก ก้พาหลานสาว เล่นน้ำซะหนึ่งรอบ
เล่นได้สักพัก ลมเริ่มแรง ฝนเริ่มมา แต่หาดนี้ น้ำตื้นมาก ออกมาเลยทุ่นกัน พอสมควรยังลึกแค่เอว +คลื้นก็สูงเกือบ อกเท่านั้นเอง เสียรึดีไม่รู้ต้องใส่รองเท้าเล่นเพราะ เป็นก้อนกรวดเล็กๆ
สรุปแล้วก็พอแค่นี้กอนละกัน ไว้เล่นวันหลัง ลมเริ่มแรง กอนเข้าห้องพัก กลัวว่ากลางคืนจะหิว เลยไปส่งอาหารไว้
เบ็ดเสร็จ เกือบ 500 เจ้าของร้าน ยังถามเพื่อความแน่ใจ ไม่เอาจานไปหรอครับ เดียวพรุ่งนี้คอยเอามาคืนก็ได้
กระผมเลยบอกไม่เป็นไรขอรับ เตรียมมาแล้วที่ห้องมีครบ





กลางคืนก็หนาวสุดใจ พอดีเตรียมผ้านว่มไปดว้ยขอรับ(แบบว่าเป็นคนขี้หนาวอ่ะนะ) นอนฟังเสียงลมเสียงฝน สักพัก ก็หลับยาวรู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้า แต่ฝนก้ยังคงตกอยู่ วันนี้เลยตุยกันว่าไป อ้าวคุ้งกระเบนกันดีกว่า
ไปเดินออกกำลังกาย ถ้าฝนตกหนักคอยกลับมา ดูโช้ปลาโลมากัน




ศูนศึกษาป่าชายเล่นอ่าวคุ่งกระเบน ระยะทางก็ไม่ใกล้ ไม่ไกลขอรับ แบบ พอให้เหนื่อยได้ เดินเล่น ดูปลาดูปู
ก็เพลินๆดีนะขอรับ อากาศคอนข้างดี เพราะฝนพึ่งตกไป ก็เย็นๆดีครับ มีคนมาเดิน เป็นชว่งๆไม่มากไม่น้อย ไม่รู้คิดอะไรมองหาปลาทีน แต่ไม่เจอสักตัวเลย อยู่ดีๆก็ยากเห็นขึ้นมา!!!
เดินกันไป ถ่ายรูปกันไป เป็นกิจกรรมที่ทำไม่แต่งต่างกันนัก



ข้างใน เขาห้ามนำอาหารและสิ่งมึนเมาเข้าไปยกเว้นน้ำเปล่า เท่านั้นที่น้ำไปทานได้ แต่ละจุดจะแบ่งเป็นที่สำหรับ
ให้ข้อมูล ถ่ายรูป นั้งพัก รวมๆแล้วก็หลายจุดหลายฐาน เหมือนกัน เดินเพลินๆกระผมเลยลืมนับ




มีทั้ง สะพานแขวน หอดูนก ต้นไม้ก็ตามธรรมชาติครับ จะไม่คอยตัด บางจุดเลยต้องมีปีนบ้าง หลบบ้าง แล้วแต่ถนัด




นกมาหลายชนิดขอรับ ต้องเบาๆถ้าจะถ่ายรูปเขา ไม่รู้ว่านกตัวไหนเป็นชนิดไหน แต่ก็สวยดีขอรับ เพลินๆดี




ที่นี้มีห้องน้ำให้ดว้ยนะขอรับ สอาดน่าใช้ทีเดียว กอนจะเข้าก็หยอดตู้สักนิดนะขอรับ ไม่มีการเก้บค่าเข้า แต่เป้นตู้แทน
ตามแต่ใครสะดวก ออกจากที่เดินชมป่า
แล้วก้เลี้ยวขวาจะเป้นหาดครับ แต่ไม่ได้ไปเล่นน้ำแต่อย่างใด ต้องการไปชมปลาตู้ขอรับ และก้ชว้งนี้ในแรงลมแรงห้ามลง
เล่นน้ำดว้ย มีป้ายปักเตือนเอาไว้ ว่าแล้วก้เข้าไปดูสถานแสดงสัตว์น้ำของทะเลจันทบุรีกันเลย




ที่นี้ก้ไม่เก็บ ค่าเข้าชมนะขอรับ เป็นวิธีเดียวกันกับห้องน้ำ เลย คือแล้วแต่สะดวกขอรับ สถานที่ไม่ใหญ่นะขอรับ







มีอุโมงดูปลาดว้ย สวยงามตามสถาพขอรับ ยังเพลินได้อีก มีมุมจัดแสดงเปลือกหอย ให้ความรู้ไว้เยอะเชียว



ว่าแล้วก้ได้เวลา ไปดูโช้ปลาโลมาแล้ว เมฆฝนเริ่มมาแล้ว เหลือเวลา15นาที จะเปิดโช้ รอบบ่าย 1 ไม่รู้ว่าจะไปทันรึป่าว
ว่าแล้วก้รีบขึ้นรถไปกันเลย เหยีบคันเร่งเต็มที่ๆ 60 พอ ^ ^ ไม่ทันก้รอบอืนมีจะรีบไปไหนเวลามีเยอะ ถ้าไม่ทัน ก็ตกลงกัน
ว่า ไปน้ำตกพลิ้วกันกอน หรือถ้าฝนตกหนัก ก็น้ำตกกอน ....แ่ต่ก็ทันแถมเหลืออีกตั้ง5นาที คนไม่เยอะเพราะเป็นวันธรรมดา
แต่การแสดงก้เริ่มปกติ สนุกดีเหมือนกันนะนี้ ^ ^


//youtu.be/zvHjOqp_JYg


จบการแสดงหาข้าวทาน ฝนก็ตกหนัก วิ่งหลบฝน ไปๆมาๆก็เปียกซะงั้น พอจะออกจากจุดนี้ฝนก้ดันหยุดตกพอดี
นี้ก้เกือบๆ4โมงเย็นละ ไหนๆก้ไหนน้ำตกก็ไม่ไกล ไปมันวันนี้เลย ละกัน ว่าแล้วก็ต่อกันเลย สามคนป้าลุงหลาน
ไปเที่ยวน้ำตกกันต่อ ไปถึงน้ำตกจะจอดรถไว้ ณ จุดจอดก็ไกลไป ไปหาจอดที่ร้านค้าข้างบนดีกว่า






ที่น้ำตกพลิ้วห้ามนำรถขึ้นไปข้างบนคือใน อุทยาน นั้นเอง นอกจากมาพักทีนี้เท่านั้น แต่ร้านค้าก็รับฝากรถฟรีนะขอรับ
เพียงแต่ซื้อของที่ร้านเขาก้พอ กระผมเลยซื้อถั่วมาให้ เจ้าพวกปลาพวงขอรับ ที่นี้มีเยอะเชียว





กระผมก็ไม่ไหวจะเดินนะขอรับ แบบว่าแก่ก้แก่ อว้นก้อว้น เลยอาศัยนั้งรถกอฟ อุทยาน 20บาทสบายกว่ากันตั้งเยอะ
ระหว่างทางก้จะมีคนมากดรูปเรา ไปทำกรอบมาขายในราคา 120 บาท เป็นที่ระรึก



อุทยานนี้ดูปลอดภัยดีนะขอรับ เจ้าหน้าทีเขาจะยืนทุกจุดที่ดูอันตราย คอยเตือนนักท่องเที่ยวว่า ตรงไหนไปได้ไม่ได้

//youtu.be/g_L-IN53C5c


ตรงไหนไม่ปลอดภัย ยังไงก้เชื่อๆเขาหน่อยนะขอรับ ทุกหลุมทุกแอ่ง ทุกจุดจุด จะมีเจ้าพวกปลาพวงนี้ละขอรับ เยอะไปหมด
สะดวกตรงไหนก็ลงไปว่ายกับเขาได้เลย หรือจะให้แต่อาหาร ก้ไม่มีใครว่า ตามสะดวกรุ้ยขอรับ






วันต่อมา ข้าวของเก็บเรียบร้อยแล้ว อากาศก็กำลังดี เล่นน้ำอีกรอบ ก็ออกเดินทางไป รอยองต่อ ประมาณ 4โมงเช้า ฝนตก
ตลอดทาง ตกๆหยุดๆ จังหวะนี้เลยเข้าไปชมมันทุกหาดเลย ตลอดทาง




เดินทางมาสักพักก็ถึงจุดหมายแรก เรือรบหลวงประแสร์






เหลือบดูเวลาก้เที่ยวไปบ่าย ออกเดินทางต่อเป้าหมายต่อไปคือร้านเกี๊ยวปลานายเคี้ยม
ถามรสชาติว่าอะไรแค่ไหนสำหรับผมแล้วปกติขอรับ แต่คนอื่นนี้ไม่รู้ ที่รู้ๆคนเต็มร้านเลยกว่าจะสั่งได้กว่าจะได้ทาน
รอนานเป็นชั้วโมง สำคัญเจ๊แก บอกสั่งได้เลยไม่ต้องรอ แต่แกไม่จด แถมไม่บอดดว้ยว่ารู้แล้ว หรือได้ยินอะไร
ถึงเวลา ของมาคือ รู้กันว่าสั่งแล้ว สว่นของผมรอต่อไปเพราะส่งผิดไปโต๊ะข้างๆ ซะกอน ^ ^


หลังทานเสร็จ ก้หาที่พัก ที่ประจำของกระผมคือแถวๆหาดสวนสน เพราะสงบดี ทะเลพอเล่นได้ ไม่สวยเวอร์ แต่ปลอดภัย
ปละก้ไม่ถึงกะขี้เหล่เกินรับไหว เพราะชอบที่หาดนี้ไม่คอยมีคน ที่สำคัญคนตายไม่เยอะซะดว้ย หากรอบไหนวันไหนกระผมมามากมายหลายคน จะเลือกพักที่ บ้านสวนหาดสวยรีสอท เพราะทำอาหารสะดวกพื้นที่เยอะและใกล้จุดซื้ออาหารทะเลสดๆ
แต่!!! วันนี้มา3คน ก้เลือกพักที่เดิมอีกเช่นกัน เอสแลนรีสอท ค่าห้องพัก 500 ต่อคืน แอร์เย็นก็นอนได้แล้วขอรับ




หลังจากได้ห้องพัก ก็ไปดูสวนผลไม้เอาไว้ ว่าจะไปซื้อสวนไหนเข้าสวนไหน ผลไม้ยังมี สว่นที่เที่ยวก็เที่ยวจะหมดละเพราะมา
บ่อย สรุปว่ามาระยองเพื่อซื้อของ ฝาก ทานอาหารทะเลสดๆ และซื้อผลไม้ ซื้อของฝากประเภทของแห้ง ตื้นเช้ามาก้
เริ่่มดว้ยการไป หาดสวนสน เพื้อซื้อ ของทะเลที่ ประมงชาวบ้านจับมาได้ ปีนี้ ของทะเลเพียบ มีทั้ง แมงดา ปลาหมึก หอย ปู
และก็ปลา สดๆ ราคาก้ไม่แพง สะดวกซื้อไปทำเองก้ตามใจ หรือจะ ให้แม้ค้าแถวนั้น ซึ้งรับทำอาหารทะเลตามสั่ง ซื้อแล้วสั่งทำกันตรงนั้น ได้ของสด อร่อยไปทานที่ห้องกันเลย สว่นตัวกระผมนั้น ได้ปูม้า มา5กิโล สั่งนึ่งคิดเป็นโลๆละ20บาท น้ำจิ้มสั้งตำอีก50
ก็จบกระบวนการ การหาอาหารมือนี้ กลับที่พัก





ทานข้าวทานปลาเรียบร้อย ก้ไปดูสวนผลไม้ อีกที สรุปได้สวนยายดา ส่วนเดิม ขากลับก็เแวะสักหน่อย ที่สวน
ปาหนัน มาทุกปีเข้าทุกปี ไปเก็บผลไม้เองทุกปี ปีนี้มีน้อยหน่อย ป้าแกบอกเหลือแค่นี้ละ มันวายหมดละ เหือเก้บไว้รอ
กลุ่มทัวร์ อีกกลุ่มที่จองไว้อีกสองสามวันก้หมด คุยเล่นกับป้าสักพัก ก็ลากลับพร้อมจ่ายค่าผลไม้ที่เหมามาเต็มคันรถ
...(ของฝากไม่ได้เอาไปขายหรอกขอรับ) ขากลับก็ขับรถกินลมชมวิว ไปเรื่อยเปื่อย ถึงเวลาอาหารก้ร้านเดิม
เจ้าเก่าเจ้าประจำ ครัวบ้านทะเลซีฟูด




เป็นอันว่าอาหารมือเที่ยง ก้ฝากท้องไว้ที่ร้านนี้ซะสว่นใหญ่ เย็นๆก้ทานแถวที่พัก






เย็นๆหลานก็อยากเล่นน้ำก้พาไปเล่นต่อ แต่ไม่ลงดว้ยนะเมื้อยแว้ว



นั้งดูหลานเล่นไปถ่ายรูปไป เรื่อยๆเปื่อย กลางวันก็นอน กลางคืนก้นอนมาพักผ่อนจริงๆ ที่สำคัญมาระยอง3วัน
ฝนไม่ตกเลย ให้ตายซิต่างกันสุดๆเลย สองจังหวัดนี้ อีกที่ตกทั้งวัน อีกที่ไม่ตกทั้งวัน ^ ^


เอาละเป็นอันว่าขอจบทริปหยุดยาวไว้เท่านี้ ระหว่างทางกลับเส้นทาง ชลบุรี-โคราช ก้เที่ยวตามทางไปเรื่อยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ยังไงแล้วเดียวจะมาลงข้อมูลเพิ่มเติม เก็บเส้นทาง ในการเดินทาง และ รูปภาพ วิดีโอ อีกเล็กน้อยครับ มีความสุขกันทุกคนนะขอรับ





 

Create Date : 04 มิถุนายน 2555    
Last Update : 11 กันยายน 2556 19:43:57 น.
Counter : 16261 Pageviews.  

ทริปเที่ยวทะเล 3วัน2คืน ระยอง พัทยา หาดสวนสน เที่ยวเชิงเกษตร สวนนงนุช ตลาดน้ำ เวอเตอเวิลพัทยา








 



 


สวัสดีกันอีกครั้ง กับทริปท่องเที่ยวทริปนี้ทริปนี้ครับ


คนเมืองตำน้ำกิน พึ่งจะมีเวลาว่างรีวิวให้ชมกัน เอาไว้เป้นแนวทางท่องเที่ยวกันได้ครับ ถึงจะช้าไปหน่อย


ทริปนี้เกิดมาจากการอยากพาเด็กไปเที่ยวทะเล(รวมถึงคนโตดว้ยครับ) ทำให้เกิดผลที่ตามมาคือ หาข้อมูล


ทั้งจากเว็ป บ้าง รีวิวจากเพื่อนชาวกล่องบ้าง หลังจากได้ข้อมูลที่พอใจละก้อกสำรวจพื่นที่จริงกันกอน


ก้ไปๆมา3-4รอบ ผลสรุปที่เหมาะสม สำหรับครอบครัวของคนเมืองตำน้ำกินก้ได้บทสรุปตามนี้ครับ


เที่ยวไปกลับใน3วันสองคืน สถานที่เที่ยวก้ เยอะกว่าที่คิดแต่ไปจริงก้ตัดไปเยอะครับ ดว้ยเวลานี้ได้นะ


แต่ติดตรงคนขับรถครับ คือ พ่อเขาเหนื่อยขับไม่ไหว พอดีเอากระบะไปสองคัน ผู้รว่มอุดมณ์การมีเด็ก2คน


ผู้ใหญ่7คน มาจากสองทางคือขอนแก่นทางบุรีรัมย์ทาง นัดเจอกันที่ สีแยกปักธงไชย ทริปที่วางก็เข้าพัทยา


ไปวอเตอร์เวิล เข้า ตลาดน้ำสี่ภาค ต่อดว้ยสวนนงนุช วิ่งยาวเข้าที่พักที่หาดสวนสน(ที่ไม่ได้ไปก้มีสวนองุ่นกับเมืองจำลอง)


วันที่สองวางไว้ แบบสบายใครไม่เหนื่อยก็เที่ยวใครเหนื่อยก็นอนพัก ทริปวันนี้เป็น เข้าสวนผลไม้ แล้วจบดว้ย


น้ำตกเขาชะเม่า วันที่สามก้เดินทางกลับ


แบบเวะรายทางขับแบบสบายๆครับหลังจากวางทริปเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันละครับ


เริ่มเดินทางตอนตี4ออกจากบุรีรัมย์(ถนนหมายเลข218)


ขับความเร็ว80กิโลเมตรไปยังจุดนัดหมายที่ปกธงไชย(ถนนหมายเลข24) ที่เวลา6โมงเช้า ทานข้าว


เข้าห้องน้ำทำธุระสว่นตัวเรียบร้อยก้ออกเดินทางวิ่ง ถนนหมายเลข304 เข้ากบิน ต่อดว้ยถนนหมายเลข314 ต่อถนนหมายเลข7


เข้าถนนสุขุมวิท(ถนนหมายเลข3)ถึงที่หมายแรกครับ


วอเตอเวิลพัทยา ราคาเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 เด็ก 200 เปิดเวลา 9.00น ถึง 18.00น โดยประมาณ


ผมหมดไป2700บาทครับ ยังไงก็สอบถามราคากันกอนนะครับ


Less than 1 km from Tesco Lotus, South Pattaya
22/22 Moo 11, Sukhumvit Rd., Nongprue, Banglamung, Chonburi 20260


Tel : 66 (0) 38 756 879 Ext. 114, 115 & 119 for Marketing
Ext. 116 for Education


Fax : 66 (0) 38 756 875



ก้มีสัตว์น้ำทั้งที่เคยเห็น และไม่เคยเห้นอยู่เยอะพอสมควรครับ ดูตื่นตาพอดู โ


ดยเฉพาะเจ้าหลานสองคน คนหนึ่งชอบมาก อีกคน กลัวมากที่เดียว เพราะเห็นปลาว่ายข้ามหัวไปมา


แถมตัวใหญ่ดว้ยสิ ร้องให้กันเลยเชียว ที่อุโมงน้ำน๊ ก้แยกย่อยออกเป็นโซนๆครับ


จากทางเข้าด้านหน้ามีการจำลอง ชายฝั่งหาดทราย และแก่งหิน มีการแสดง ปะการังสีสดใส


มีปลาต่างๆ ว่ายน้ำให้ดู และยังมีฉลามกบ กาวทะเล สถานที่แห่งนี้มีการจัดทางเดินอย่างเป็นระบบ


คนเดินทางเดียว ห้ามย้อนศร ซึ่งจากด้านหน้า ต่อไปคืออุโมงค์ปลาล้วนๆ เดินชมตามลงไป


เหมือนเดินอยู่ใต้ทะเลเลยครับ จุดเด่นของอุโมงอันเดอร์วอเตอร์เวิลด์พัทยา แห่งนี้


ท่านจะได้ชมปลาอย่างใกล้ชิด เหมือนเดินไปในทะเล ฉลามว่ายผ่านหัวไปมา




 





หลังจากนั้นก็ เดินทางกันต่อ มาที่ เป้าหมายที่สองครับ อยู่ไม่ห่างกันเท่าไรนะครับ ตลาดน้ำสี่ภาคนั้นเอง


ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นตลาดที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่ทำเป็นเชิงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต


สังเกตุได้จากร้านค้าจะทำมาจากไม้ทั้งหมด และตลาดแห่งนี้ได้รวบรวมของดีทั้ง 4 ภาค


ไว้ในตลาดน้ำแห่งนี้ เรียกได้ว่า วันเดียวเที่ยวได้ 4 ภาคเลย เหนือ กลาง อีสาน ใต้


และที่น่าจะถูกอกถูกใจคือตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเนื่องจากเปิดกันจนถึงค่ำ


เข้าชมได้ฟรี เอาละ ผมพาเข้าไปชมด้านในกันเลยครับ ข้างในตลาดน้ำ 4 ภาคจะแบ่งออกเป็นภาคๆ


ให้เลือกเดินชมกันครับ ที่เป็นเป้าหมายหลักๆก้เป็น อาหารทั้ง4ภาคครับผม


เป็นตลาดที่น่าเดินพอตัวที่เดียว หลังจากที่เดินดูเดินชมก็พบว่าเป็น สถานที่ท่องเที่ยว


ที่ได้รับความนิยมของคนในพื่นที่พอสมควรเลยครับ สินค้าต่างๆก็อารมประมาณตลาดน้ำทั่วไป


จะแตกต่างกันหน่อยก้ตรงที่มีเครื้องเล่น แบบเอ็กสตีมมาให้เล่นบ้างเหมือนกันครับ


เอาเป็นว่าเป็นอีกทางเลือกละกันครับ สำหรับคนที่ต้องเปลี่ยนบรรยากาศละกันครับ






หลังจากหาของทานกันที่ตลาดน้ำ ก้เกิดการลังเลกับสถานที่ต่อไปครับ


สวนองุ่นซิลกับสวน นงนุชนั้นเอง แต่ดูจากเวลาแล้วคิดว่ามานอาจจะดึก


กว่าจะถึงที่พัก ประกอบกับสถานที่ต่อไปคือที่ต้องไปแน่ๆ สวนนงนุชพืนที่ใหญ่มาก


อาจมีเวลาไม่พอ แถมคนขับก็หมดสภาพละครับ สรุปก้เข้าสวนนุงนุชเป็นที่สุดท้าย


ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวสวนนงนุช
เวลาให้บริการ : 8:00-18:00 ทุกวัน


ค่าใช้จ่ายสำหรับการมาเที่ยวสวนนงนุช
ค่าบริการ : ชมสวน ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (ต่ำกว่า 11 ปี 50 บาท)
ชมการแสดงศิลปะและช้างแสนรู้ 09:45 น., 10:30 น., 15:00 น.


และ 15:45 น. (1 ชั่วโมง) ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท


คำแนะนำในการท่องเที่ยว
มาเที่ยวสวนนงนุชแนะนำให้มาแต่เช้าครับแดดจะไม่แรงมาก


แล้วเราจะได้เดินเที่ยวได้หลายจุดโดยไม่ล้ามากแต่สวนนงนุชสำหรับผู้ที่รักต้นไม้


ประเภทไม้ดอก ไม้ประดับคงจะชอบสวนแห่งนี้มากเป็นพิเศษกว่าผู้เยี่ยมชมท่านอื่น


ที่สวนนงนุชแห่งนี้มีการปรับปรุงสวนหรือดัดแปลงมุมต่างๆภายในสวนอยู่ตลอดเวลา


ผู้ที่ไปเยี่ยมชม หากได้กลับไปอีกครั้งแล้วจะรู้สึกแปลกตาไปกว่าครั้งแรกที่เคยมา


ที่สำคัญต้นไม้ที่อยู่ภายในสวนได้รับการดูแลรักษาอยู่เสมอเราจะเห็นพนักงานรดน้ำต้นไม้อยู่ไม่เคยขาด


แม้จะเป็นช่วงแล้งของปี ต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างรวมถึงสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายในก็ได้รับการดูแลที่ดีเช่นกัน


หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
ติดต่อสอบถามขอรายละเอียดได้ที่
สวนนงนุช สำนักงานกรุงเทพ 02_2512161, 2521786
ที่สวนนงนุช 038_709358-61, 238158
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.nongnoochtropicalgarden.com


img src="//i971.photobucket.com/albums/ae197/comnow1234/DSC01322-vert.jpg?t=1284395824" />



ในระหว่างที่เข้าชมสวนนงนุชเดินมั้งพักมั้ง บ้านพักก้โทรผมตามครับ


ว่าจะเข้ากี่โมงไปรึไม่ไป พอดีจองบ้านไว้ที่หาดสวนสน ระยอง


(ชอบหาดนนี้เป็นการสว่นตัวครับ คนไม่เยอะดีดูสบายๆที่ผักสะอาดหากจากตลาดบ้านเพไม่ไกลครับ)


ก้เลยตอบกลับไปว่าคงถึงประมาณทุ่มครับ ที่ทางบ้านโทรมาถามเพราะเรา


จองแล้วจ่ายแล้วจบไม่ติดต่ออะไรทั้งวันครับ และอีกอย่างคนดูแลบ้าน


เขาบอกว่าแม่บ้านจะกลับแล้วถ้าเรายังไม่เข้า หรืออะไรแม่บ้านจะได้ไม่ทำความสะอาด


อะไรยังงี้ ว่าแล้วก็มาชมบ้านกันสักหน่อย ราคาที่เลือก


สำหรับผมถือว่าเหมาะสมครับ บ้านคืนละ2500บาท


มีพื่นที่กว้างมากๆเลยมีทั้งพื่นที่ทำอาหาร และ ที่ปิกนิกทานข้าวนอกบ้านหรือสังสรร


ได้แบบไม่อึดอัดครับ ที่จอดรถจอดได้สองคนพอดีๆเลย(จริงๆก็สามคันสบายๆนะครับผม) บ้านหลังนี้มี


2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1ห้องรับแขก มีระเบียงหน้าบ้านเตียง


นอนแบบเตียงเดียว1ห้อง และเตียงคู่1ห้อง มีแอร์ พัดลม ตู้เย็น


โต๊ะทานอาหาร ทีวี ครบครับ มาดูบรรยากาศสถานที่พักเลยละกัน








:: บ้านพักสวย กว้างขวาง สะอาด ปลอดภัย :: ติดต่อสอบถามได้ทุกวัน ที่ 038 - 649021 , 081 - 9160454


บ้านสวน-หาดสวย


โครงการจัดสรรที่ดินแบ่งขายและบ้านพักตากอากาศให้เช่า ริมหาดสวน
สน บ้านแพ จังหวัดระยอง ทำเลดี ห่างจากกรุงเทพเพียง 180 ก.ม. ห่าง
จากตัวเมืองระยอง 20 กม. และห่างจากตลาดบ้านแพเพียง 6 กม. บรร
ยากาศที่เงียบสงบติดชายทะเลริมสวนสน เหมาะสำหรับการพักผ่อน
อย่างแท้จริง แวดล้อมด้วยแหล่งท่องเทียวที่สวยงานอาทิเช่น เกาะเสม็ด
เกาะมันนอก เกาะมันใน อุทยานแห่งชาติเขาชะเมาหาด แม่รำพึง แหลม
แม่พิมพ์อนุสาวรีย์สุนทรภู่ เป็นต้น


//www.hadsuay.com/


สนใจยังไงก็เข้าไปชมกันได้ครับ ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกละกันครับ(ไม่ได้ค่าตัวน่า แบบว่าชอบมาหลายรอบอ่ะครับที่นี้)


เป็นอันที่เที่ยวใน1วัน ที่สังขารไปได้ก็มีเท่านี้ละครับ พอมาถึง


ที่พักผมก็ตรงไปตลาดบ้านเพเลย พอดีมานก็ดึกพอสมควร กอนมา


ก็หุงข้าวมาดว้ยกะว่า เดียวมาหาซื้อกับข้าวเอาข้างหน้าแบบประยัดทรัพ


แต่อัดท้อง กอาจจะสงสัยกันนะครับว่าคนเมืองตำน้ำกินมาทำอะไรบ้านเพดึกๆดื่น


ก็ ซื้อกับข้าวนั้นละครับ พอดีหาดสวนสนไม่ไกลจาก


บ้านเพครับ(ลืมบอกไปวิ่งจากสวนนงนุชมาก็ถนนหมายเลข3ละครับวิ่งยาวมาเลย


สถานที่เที่ยวหรือหาดต่างๆ จะอยู่ขวามือทั้งหมดก็เลือกเอานะครับ


ว่าชอบหาดแบบไหนแนวไหน สว่นหาดสวนสนที่จะไปนั้นก้วิ่งมาเรื่อยแล้ว


จะมีป้ายบอกทางซ้ายมือ สั้งเกตุง่ายๆว่าเลยซอยตลาดบ้านเพมาหน่อยนั้นเอง ^ ^)


และร้านอาหารที่ผมติดใจคือ ร้านครัวบ้านทะเลครับ ผมชอบ ปูม้ายำร้านนี้ครับ


และก็เจ้าของร้านตอนรับเป็นกันเองดี สรุปก็ได้กับข้าวไปสามสีอย่างครับ


หลังจากอิ่มหน่ำสำราญกันแล้วก้ไปเดินดูคลื่นกันพอดีเจ้าหลานทั้งสอง


ไม่เคยมาได้ยืนแต่เสียงเลยอยากเห็นครับ(พอดีไปชว่งจะเข้าหน้าฝนพอดี


คลื่นแรงมากปาช็อคน้ำเยอะพอดู) พอเจอของจริงก้กลัวกันเลย


อาจจะเป็นเพราะมันมืดๆเสียงดังๆมั้งครับ ก้เลยกลับมานอนพักเอาแรงกัน


มาถึงตอนเช้าก้ไปเดินดูหาดแต่เช้าๆเลย(ไม่มีใครตื่นผมเลยไปคนเดียว หุหุ ฉายเดี่ยวซะเยอะเลย)


นั้งสักพักก้ไปหาอาหารทะเลมาทำครับ


ตรงสว่นนี้จะเป็นสถานที่ๆน่าสนใจที่เดียว เพราะข้างๆที่พักเป็นตลาดเช้าครับ


เป็นตลาดเล็กๆ แต่มีของที่จะให้เรานำไปทำอาหารได้(ที่พักมีเตาให้ครับทำอาหารได้ แต่เครื้องมือต้องเอามาเอง)


และข้างๆกันก็เป็น ประมงพื่นบ้านครับผม ใช้แล้วครับ ปู ปลา ถูกๆ เราซื้อที่นี้ได้เลยครับ


ผมก็ช็อปไปพันกว่าๆครับ(ถ้าซื้อตลาดตามบ้านเราชาวน้ำจืด ก็สองสามพันละครับ)


ได้ปูมา7กิโลครับ ปูม้าสดๆ เนื้อรสโอชาหวานอร่อยไม่มีคำว่าเหม็นละครับงานนี้


ที่นี้ปูม้าตัวใหญ่ๆหน่อยก็160ครับ ซื้อเยอะก็ลดราคาลงมาอีก ถ้าตัวเล็กก็130ครับ(บ้านเรา200อัพครับเล็กที่ว่านี้)


สว่นใครที่อยากจะนำกลับบ้านรับทานที่นี้ก้มีกกล่องใสปูไว้บริการดว้ยครับ


รวมถึงบริการนึ่งปูให้ดว้ย ราคาเท่าไรก็ลืมถาม ขนาดรูปผมยังลืมถ่ายเลยครับ พอดีออกมาแต่เช้าไม่ทันคิด


พอ7โมงก็มาดูเขาแกะปู ปลาออกจากอวนรึแห~(ไม่รู้แถวนี้เขาเรียกอะไร เอาแบบบ้านๆนี้ละครับ )


สอบถามคุณป้าแกบอกว่าต้องไปซื้อแหจาก ขอนแก่นครับ สวนมากจากขอนแก่นครับแหนี้มาไกลเชียว


ถามไปถามมาก้ได้ข้อมูลเกียวกับปูมานิดหน่อยครับ คือถ้าเราจะนำปูกลับบ้านควรจะนึ่งกอนครับ


เนื่อปูจะหวานกว่าเรา เอาปูแช่เย็นไปครับ(วันกลับอีกวันผมเอากลับ2กล่องโฟมเลย นึ่งเองๆ)


ปลาหมึก กุ้ง หอยก็ตามสถาพอ่ะครับ จับได้น้อยบ้างมากบ้าง ก็ว่าราคากันไป


สรุปผมได้ปลาหมึก กับกุ้งมานิดหน่อย เพราะติดใจปูสดๆครับ ก้นำกลับบ้านพัก


เตรียมตัวทำอาหาร บรรดาแม่ครัวก็พากัรตื่นพอดีครับ


(งานนี้ผมไม่ทำครับอาบน้ำรอทานครับทำเป็นบางอย่าง ทำเยอะแล้วจะอิ่มครับ อันนี้เป็นนิสัยสว่นตัว - -*)


ก้จัดแจง ได้อาหารมาเป็นแบบนี้ละครับ


ป.ล.ทานเสร็จ ดันนึกขึ้นมาได้ลืม ทำยำปูมาทานเองซะงั้น ผมเอาไปนึ่งหมดเลยครับ


งงตัวเองจริง(ประมาณเห็นแก่กินอ่านะมองไรไม่เห็นละเห็นแต่ปูนึ่ง) อาหารที่ทำมือนี้ก็สถาพนี้ละครับ



     


      


     



หลังจากรับประทานอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มานั้งถกปัญหากันครับ ปัญหาที่ว่าคือฝนมันตกมากไปกลัวน้ำปล่า


บวกกับทางมานจะลื่นเกินไป เลยงดขึ้นน้ำตกเขาชะเม้าครับ


แบนเข็มไปอีกที่ๆ ตั้งใจไว้เป็นโปรแกรมสุดท้ายครับ คือ เที่ยวสวนเกษตร ความจริงคนเมืองตำน้ำกินอย่างผมนี้


มักจะติดนิสียหาข้อมูลเยอะๆไว้กอน อารมประมาณยิงเยอะยิ่งดีอะไรงี้ครับ


ก็เลยดูไว้หลายที่สว่นมากจะเป็นสว่นเกษตร แบบโฮมสเตร์ คือไม่เน็นแบบหรูหราเกินจำเป็น


รึว่าแพงเกินความเป็นจริง และอีกอย่างเที่ยวแบบบ้านๆสบายใจกว่าครับ เรามองเห็นกันดีทั้งชาวบ้าน


ที่ทำสว่นเกษตร และเราๆท้านผู้ไปรับบริการครับ อีกอย่างทางจังหวัดเขาก็สนับสนุน


พอสมควรทำให้เรามีตัวเลือกที่จะเขาไปใช้บริการ หลากหลายมากขึ้น สรุปแล้วเราลงความเห้นว่าไปที่


สวนเกษตร ปาหนัน โฮมสเตร์ครับ เพราะจังหวะที่ขับรถมาทางสวนสนเห็นป้ายพอดี


คงไม่ลงแน่นอน หลังจาก โทรไปสอบถามเพื่อความแน่ใจกับคุณป้าเจ้าของสวนแล้ว ว่าผลไม้ยังมีอยู่ ยังเปิด


สวนอยู่ ทางไปเข้าทางไหน ยังไงก็ออกเดินทางกันเลยพร้อมถามทางเป็นระยะๆครับ


แต่จริงแล้วเข้ามา ณ จุดนี้แล้ว สวนเยอะครับ เยอะมากเลยสว่นมากก็เป็นสวนที่เราหาข้อมูลมาบ้าง คือคุ้น


ชื่อนั้นเอง หลังจกขับรถมาสักพักก้พบกับลูกชายของคุณป้าครับ


ยื่นยิมต้อนรับดว้ยไมตรี พร้อมโบกไม้ โบกมือให้ไปจอดรถใต้ต้นไม้ ร่มๆครับ แต่ ไม่ทันละ


เราจอดเรียบร้อยแล้ว เอานะดับ


เครื้องแล้ว จอดนี้ละ คิดในใจ ในใจก็อดคิดคิดไม่ได้


เออทำคนหน้าแตกนี้บาปมั้ยเนี้ยแบบเกรงใจในร้อยยิ่มคนโบก


พอลงรถก็สำรวจบริเวณสว่นโดยรอบครับ แบบใช้สายตาอย่างเดียว


มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากอนแล้วอยู่สองสามกลุ่มครับ


รอบสวนก็มีเชือกแดงมัดไว้(เพื่อบอกบริเวณสว่นนี้ที่เราไปได้นอกเขตเชือกแดงก้ไม่ใช้ละห้ามผ่านๆ)


ผมก้ตรงเข้าไปทักท้ายเจ้าของสวนและ ชำระเงินค่าเข้าชมสว่น หรือ


ค่าบุปเฟ่ผลไม้อิ่มไม่อั้นในราคาคนละ 99บาทครับ


เรยบร้อยแล้วก้ออกเดินทางขมสวนกันในสวนจะมี เงาะ มังคุด ทุเรียน ระกำ ลองกอง


กล้วย บักต้อง หรือ กระท้อนนั้นเอง อันไหนอยากทานที่ต้นก็ทานไป สว่นอันไหนไม่ไหว


ก้จะมีคอยบริการที่หน้าสวนครับ เช่นทุเรียน อันนี้เปิดลูกเผิดฝาผ่ารอกันเลยที่เดียว







หลังจากเดินกันจนเงื่อทวมตัว แถมดว้ยท้องก็ตึงๆ


(เพราะดันทานข้าวมากอนจะ มาเที่ยว ชุดใหญ่ที่เดียวหนักเอาการ)


ก้หามุมนั้งพักกันสักหน่อย ที่สว่นนี้จะมีที่นั้งเป็นซุ่มให้สองสามที่ครับ


ใครชอบตรงไหนก็ตามสบาย หรือใครอยากจะยอนวัยเด็ก ก็ปืนไปนั้งบนต้นไม้เลยครับ


สว่นบรรดาน้องๆหลานๆแม่ๆพ่อๆ ก้ไปคนละมุมละครับ นั้งพักไปทานลองกองไป


ทานเงาะ แล้วแค่ถนัด


กันละครับ พอหายเหน่อยหายจุกก้ไป จุดรักแรกพบครับ(จุดททานอาหารแบบมีคนบริการอ่ะครับ)


ทานน้ำทานท่า ก้สนทนากันไปหม่ำทุเรียนกันไป สักพักก็มีสาวๆมากันสองกลุ่มครับ น่ารัก


กันทั้งนั้นเลย ไอ่เราก็ได้แต่มอง หุหุ ไม่กล้าจีบครับเป็นคนขี้อาย มองชื่นชมความน่ารักเพียงเล็กน้อย


มองมากไปมานจะดูน่าเกียจ อ่านะ ก้เลยไปคุยกับป้าเจ้าของสวน เรื่อยเปื้อยครับ แก้เขินๆ


พอดีอยากจะซื้อ ผลไม้กลับบ้านดว้ย พอดีป้าแกไม่มีคนเก็บ ลูกชายพึงเอาผลไม้ไปส่งที่ตลาด


แถมลุกน้องก้บ่มีมา สอบถามราคาได้ถูกกว่าท้องตลาดอยู่ 4-5บาท เอาวะเรา คิดในใจ คิดว่า


สนุกๆน่าไหนๆก้มาละ ของถูก เก็บสดๆ แถมเก็บเอง เวลาเอาไปฝากจะได้คุยได้หน่อย


สุดท้ายก็ชวนกันหอบถุงคนละใบสองใบไปเก็บเงาะ กับมังคุด และ ลองกอง เก็บอยู่นานเชียวครับ


ได้ไม่


ถึง20 กิโล ซึ่งเป้าหมายของเราคือ 80กิโลครับ อันนี้ไม่ใกล้เลย10กิโลยังไม่ถึง


จนสามสาวอีกกลุ่ม ออกแนวตลุยๆหน่อยมาสอบถามอยากเก็บมั้งครับ เขาเก็บไม่ทันไรได้มา


สามสี่ถุง ครับ แน่


นอนมากครับสามสาว ปืนเองเก็บเอง ไม่เอาไม้เกียวดว้ย สุดใจเลย ขากลับมีแวะมาบอก


พอละว่าจะปืนทุเรียน ต่อแต่กลัวเอากลับไม่ไหว นั้น ใจเธอ


ยอบรับว่าแมนมาก(มากกว่าเราอีก ออกจะสวย น่ารัก แต่คุณเธอลุยกันสุดๆเลย)


เก็บไปกินไปสักพักคุณป้า แกคงจะว่าไหวมั้ยหน้อ พวกนี้เลยมาดู คืดนานจัดอ่ะนะ


ท้ายแกมาชว้ยเก็บ แป็บเดียว ครับ เต็มทุกถุง นี้ละน่าเขาเรียก


ความชำนาญของมืออาชีพ ถึงจะแก่แต่แข็ง


แรงครับ ว่าแล้วก้แบกไปชั้งน้ำหนักวัดสว่นสูงกันเลย รวมๆแล้ว ทั้งหมดก็ ร้อยกว่าโลละครับ


สามสาวก็ยังไม่กลับ ก้เลยคุยกันสักครู่ตามประสาคนไทยใจดี มิตรไมตรีมีให้กันและกันครับ


ก็ได้ใจความมาว่า พักที่หาดแม่รำพึง มากันหลายคนแต่แยกมาสามคน


แถมคิดว่าเราเป็นเจ้าของสวนซะอีก --* ไม่ใช้ อะไรหรอกพอดี


ที่สวนนี้มีเด็กตัวเล็กวัย 3-4เดือน ครับผมมันคนชอบเด็ก


เห็นเขาร้องป้าแกไม่วางดู แกให้อุ้มได้ ผมเลยไปอุ้มลูกเข้าเดินเล่นไปเดินเล่นมา


เขาก็เลยนุกว่าเราเป็นเจ้าของสว่นดูลูกเลยไปเก็บผลไม้ให้ไม่ได้อะไรงี้


เอาละดูเวลาก้ปาไปบ่ายละได้เวลากับ


ที่พักนอนเอาแรงซะที่ ระหว่างเดินทางกลับ บ้านพักโทรมาหาพอดี


พอดีแม่บ้านจะมาทำความสะอาด แต่ไม่เห็นคนเลยนึกว่ากลับไปแล้ว - -*


เลยโทรมาสอบถามว่าเราจะยังไงพักต่อ รึเช็ค


เอ้าออก เพราะผมจองวันเดียว ก็เลยบอกไปว่ากลับพรุ่งนี้กาบบบ


วันนี้ขอกลับไปนอนละก้เล่นน้ำทะเลกอน


กลับมาจากสวนก็ลยแวะทะเลกอน(ความจริงข้ามถนนจากบ้านพักก็เจอหาดแล้ว หาดกะบ้านอยู่คนละฝั้งถนนนเอง)


ก็เลยได้ถ่ายรูปมานิดหน่อยนะครับ พอดีพาหลานเล่นน้ำ


ต้องดูหลานเลยไม่คอยได้ถ่ายรูปสักเท่าไร ไอ่ตัวกระพ้มก็ถือกล้องอยู่คนเดียว


วางไว้หาดก้ไม่ได้หายมาเป็นเรื่องเลย อุตสาถ่ายมาตั้งเยอะ(เสียดายรูปและเวลามากกว่ากล้องอีกนะจะบอกให้)


ตอนเย็นๆเกือบจะค่ำก็ คลื่นขึ้นมาเร็วซะดว้ยวางกล่อยไม่ถึง5นาที


ต้องย้ายใหม่เพราะน้ำมันขึ้นมา หุหุ ลำบากนิดหนึ่งแต่หลานสนุกก็พอใจละ


สนุกคนเดียว ตัวเล็กชื่อต้นข้าวชอบเล่นไม่มีกล้ว ลุงไปไหน หลานวิ่งตามติดๆ


สว่นอีกคนตัวโตกว่านิดๆหน่อยชื่อน้อง ฟ้า อันนี้กลัวเลย เล่นได้นิดหน่อยแต่ไม่ยอมห่างคน ติดจะยืนดูซะสว่นมากเลย




สรุปแล้วตอนเย็นก้หุ่งข้าวแล้วก้ไปซื้อกับข้าวมาเพิ้ม และก้ทำอีกนิดหน่อย


บวก ของเหลื่อเมือเช้า วันที่สามเดินทางกลับ  


แรก ถึงบ้านประมาณ 1ทุ่มกว่าๆ คือไม่ขับเร็วมากวิ้งที่80-100กิโลเมตร เต็มที่นะ


เอาเป้นว่าทริป 3วัน 2 คืนนี้ก้จบลงเพียงเท่านี้ พร้อมดว้ยภาพปิดท้าย เลยละกันครับ


เอาไว้ทริปหน้า จะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ พีๆ น้องๆ ชาวเราได้ลำคาญกันต่อ ถ่อยคำใด


หรือบ่างชว่งบางตอนที่อ่านไม่เข้าใจ รึงงๆอย่าไปสนใจเลยครับ คิดซะว่าดูไปงั้นๆ เนอะ คนเมืองตำน้ำกิน


ก้ขอจบทริปนี้ดว้ยภาพสุดท้าย ตลาดบ้านเพระยองครับผมสรุกค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะจ่ายเองหมดก้เป็นจะนวนทั้งสิ้นไม่ถึง 20000 บาทจากที่กำหนดค่าใช้จ่ายไว้ที่ 30000 บาท ครับ


ป.ล. บางรูปเป็นรูปที่ยิบยืมมาจากเจ้าของรูปขอบคุณไว้นะตรงนี้ดว้ยครับ เนื่องจากรูปที่ถ่ายมาหายไปเยอะลงได้แค่นี้ละครับ


 



   


 



 














 

Create Date : 13 กันยายน 2553    
Last Update : 14 กันยายน 2553 9:01:05 น.
Counter : 3169 Pageviews.  

เที่ยวบ้านเรา ณ เขากระโดง จ.บุรีรัมย์



>เขากระโดงภูเขาไฟที่หลับแล้ว
ปราสาทหินเขากระโดง เดิมเป็นปราสาททรายก่อบนอิฐศิลาแลง ฐานสี่
เหลียมขนาด 4X4 เมตร มีช่องทาง4ด้านต่อมา ปราสาทหินทรุดโทรมและปรักหักพัง ได้มีผู้นำมาเรียงก่อขึ้นใหม่แต่ไม่ตรงตามรูปแบบเดิม ต่อมาเมื่อ พ.ศ 2505 ตระกูลสิงห์ เสนีย์ ได้มีผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระพุทธบาทจำลองแล้วนำมาประดิษฐ์ไว้ในปราสาทหินเขากระโดง พร้อมกับได้สร้างมณฑป ครอบทับไว้ ดังที่เห็นในปัจจุบัน
ปราสาทหินเขากระโดง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ ของชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่15 วันที่ 8 มีนาคม 2518มีขอบเขตโบราณ สถาน 1งาน 50ตารางวา
รอยพระพุทธบาทจำลอง
พระยาประเสิรฐ สุนทราศรัย (อดีตเจ้าเมืงบุรีรัมย์)กับ คุณหญิงประเสริฐ
สุนทราศรัย มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้สร้างไว้เพื่อเป็นพุทธบูชาและปูชนียสถาน สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป นำมาประดิษฐานไว้ในปราสาท หินเขากระโดง เมือเดือนเมษา พ.ศ.2448
ต่อมาปราสาทหินได้พังลงและรอยพระพุทธบาทจำลองได้หายไป จนเมื่อ พ.ศ.2505 คุณหญิงนคราชสีมา(เจือ สิงห์เสนีย์)พร้อมดว้ย
บุตรธิดาของพระยาประเสริฐ สุนทราศรัยได้มีจิตศรัทธาสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองขึ้นใหม่และนะมาประดิษฐานไว้ที่ปราสาทหินเขากระโดง
ตั้งแต่ปี พ.ศ2505 เป็นต้นไป





























































































 

Create Date : 04 ธันวาคม 2552    
Last Update : 31 กรกฎาคม 2553 9:05:11 น.
Counter : 1948 Pageviews.  

ตลาดแลง[ตลาดตอนเย็น]จ.ขอนแก่น


เที่ยวแบบบ้านๆสบายๆ
วันนี้จะพาไปชมตลาดและบรรยากาศใกล้เคียง นะครับ
เป็นตลาดตอนเย็นเปิดตลาดประมาณ4โมงครึ่งปิดไม่เกิน 2ทุ่ม
อยู่ในหมู้บ้าน คำไฮ[ตลาดแลง] ใกล้ๆบึงหนองโคตร สินค้าที่ขายก้จะมีอาหารเป็นหลัก
เสื้อผ้า ของคาว ของหวาน อาหารแบบพื้นบ้านจนไปถึง ข้าวแกงที่เราๆทั้นๆรู้จักกันดี ปลา กบ มี่ทั้งของสดและของแห้ง ตลาดนี้มีความกว้างรวมๆกว่า
2 กิโลเมตร เป็นรูปแบบตลาดชาวบ้านขายของบนทางเท้า ถนนคนเดิน[มีรถนิหน่อย] ทางเดินเป็นแบบยาวเดินไปกลับ





















 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 12 กันยายน 2553 8:58:39 น.
Counter : 3391 Pageviews.  

หนาวๆอย่างงี้ วังน้ำเขียวสิครับ จ.โคราช








เพื่อนๆคนไหนอยากสัมผัสกับบรรยากาศ หนาวเย็นสดชืน
ไปเที่ยววังน้ำเขียวได้เลยครับ แถวๆตำบลไทยสามัคคี หนาวเย็นจับใจ

ไปกางเต็นก่อกองไฟครับ นอนดูดาว เผามันเทศ ได้อารมสุดๆเลยครับ

มีที่พักใหเลือกมากมาย แต่ถ้าจะเอาบรรยากาศจิงๆ ต้องกางเต้นครับ รึจะพักแบบโฮมสเตรก็ไม่ว่ากัน สรุปว่าคุ้มค่าครับ มาแล้วคอนเฟิม
อากาศดีจิงๆ ไม่ไกลไม่ใกล้ -0-




















 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 12 กันยายน 2553 13:03:24 น.
Counter : 883 Pageviews.  

1  2  

คนเมืองตำน้ำกิน
Location :
บุรีรัมย์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




รักป่ารักเขา รักธรรมชาติ รักเสียงเพลง
รักความสงบสุข รักประเทศไทย รักพ่อหลวง
ความหล่อไม่คอยมี แต่ความดีเต็มถังครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add คนเมืองตำน้ำกิน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.