ดอยหัวเสือ....อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
หลายคนใช้เวลาของการเริ่มต้นปี เป็นจุดออกตัวเพื่อเริ่มทำเรื่องใหม่ๆ ในชีวิต เราเองก็วาดวางโครงการมากมาย ทั้งโครงการส่วนตัว โครงการส่วนรวม ร่วมกับคนนั้นคนนี้ คิดทำโน่นทำนี่ และในหลายปีที่ผ่านมา เราเหมือนมีชิวิตอยู่ในกล่อง กล่องที่โดนมือที่มองไม่เห็นเขย่าอยู่เรื่อยๆ พอปีที่แล้วเหมือนเพิ่งคลานออกจากกล่องมาได้ครึ่งตัว ปีนี้....หวังว่าจะออกมาอยู่นอกกล่องได้สำเร็จ
เมื่อปีใหม่ไปเดินขึ้นดอยมา... ได้ทบทวนเรื่อง "อยู่ในกล่อง" ไปตลอดการเดิน...ขึ้นๆ...ลงๆ แล้วก็รู้สึกขึ้นมาในใจว่า....การดำเนินชีวิตก็ไม่ต่างจากการขึ้นดอยเลย... ปีนี้เดินไม่เหนื่อยมากถ้าเทียบกับเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เดินสองชั่วโมง....ก็ถึงจุดกางเต็นท์ บรรยากาศบนดอยหัวเสือ ที่ไปนอนก็เงียบมากๆ มีดอกไม้ป่าขึ้นเต็มไปหมด...เรารู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอากระดาษกับสีน้ำไป
เรามีคนนำทางและช่วยเเบกสำภาระขึ้นดอย เป็นเด็กเเนวท้องถิ่น...เก๋ไก๋เป็นที่สุด... ธรรมดาไปมาหลายทริป เจอเเต่คนแก่ พวกหนุ่มน้อย(ความหนุ่มเหลือน้อย) มาทริปนี้เจอวัยรุ่นที่สุด เป็นชาวปกาเกอะญอ ธรรมดางานที่ทำประจำ คือทำนาและรับจ้างทำงานกับโครงการหลวง น้องๆ เค้าอยู่ที่บ้านแม่กลางหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ตอนที่ทำอาหารเย็นกินกัน...น้องเค้าเอาข้าวที่ปลูกเองมาหุงให้กินด้วย คงเเบบเป็นข้าวปลอดสารพิษ เพราะเราเคยได้ยินมาว่า ถ้าชาวนาเค้าปลูกข้าวไว้กินเองเค้าไม่ค่อยใส่ยาฆ่าแมลง ข้าวสารของที่นี่เป็นเม็ดป้อมๆ คล้ายข้าวญี่ปุ่น รสชาติอร่อยดี.... อยากจะบอกว่าเด็กแนวเเถวนี้เค้า ปลูกข้าว และทำกับข้าวให้ลูกทริปกินกันด้วย...เท่จริงๆ
จากดอยหัวเสือ สามารถมองเห็นดอยอินทนนท์ เห็นพระมหาธาตุเจดีย์สององค์ได้ถ้าฟ้าเปิด.... เราถ่ายภาพติดมาเห็นไกลลิบๆ เพราะมีเมฆก้อนใหญ่ลอยมาบัง ดอยหัวเสืออยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ทำการอุทยานฯ การเดินป่าเส้นทางจะเป็นแบบ One Way ไม่ย้อนกลับทางเดิม ขากลับต้องปีนเขาขึ้นไปแล้วก็ไต่ลงมา.... เดินผ่าป่าดึกดำบรรพ์ มีซากไลเคนที่เกาะตามต้นไม้ใหญ่ เป็นเหมือนที่เค้าเรียกว่าต้นไม้ใส่เสื้อ... ถ้ามาช่วงฤดูฝนคงสวยงามมาก...แต่เห็นท่าว่าคงไม่มีปัญญาเดิน เพราะทางขึ้นและลงคงเป็นดินโคลน...น่าจะใช้กลิ้งๆ ไถๆเอา...
ตอนกลางคืนที่นอนอยู่บนดอย...ฟ้าเปิดมาก เห็นพระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ กับดาวประจำเมืองลอยสว่างกลางฟ้าเลย
ขาลงเดินนานกว่าขาขึ้นเล็กน้อย.... เล่นเอาปวดเมื่อยเหมือนกัน...ไม่รู้ว่าปวดเพราะแก่ หรือเพราะทางชัน... น้องคนนำทางถามเราว่า...คิดอย่างไรถึงมาเดินป่า ที่น้องเค้าถามคงเพราะว่า เห็นมีแค่ผู้หญิงสี่คนเท่านั้นที่ขึ้นไป.. ประกอบกับพิจารณาดูอายุเเล้วก็...(ให้ผู้อ่าน...คิดเอาเอง) เราก็ตอบไปว่า "เที่ยวแบบนี้บ่อย ที่น้องเห็นว่าเดินช้านั้น แท้จริงคือ สังขารมันร่วงโรยต่างหาก"
อากาศตอนเช้าที่ไม่ได้หนาวเย็นมากๆ อย่างที่คาดไว้ เราว่าน่าจะราวๆ 15 องศาได้.... เห็นเเสงทองของพระอาทิตย์ตอนเช้าวันใหม่ของปีใหม่แล้วรู้สึกดี...
ทางลงจากดอยหัวเสือ....กลับเข้าทางบ้านแม่กลางหลวง บรรยากาศน่ารักมาก...มีดอกนางพญาเสือโคร่งบานให้เห็นทั่วหมู่บ้านเลย
ก่อนจะจบบล๊อกนี้...ขอทิ้งภาพนางพญาเสือโคร่ง ที่สถานีวิจัยเกษตรหลวงขุนวางไว้... เดี๋ยวบล๊อกหน้าจะเอามาให้ชมกันเต็มๆ... กับดอกนางพญาเสือโคร่งในสายหมอก....
ปล.ออกจากกล่อง...ฉลองชีวิตใหม่เสียที
Create Date : 08 มกราคม 2552 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 15:58:01 น. |
|
16 comments
|
Counter : 2482 Pageviews. |
|
|
Si Satchanalai historical park
แวะมาชมความงามของดอยครับ เคยไปครั้งหนึ่งแต่ภาพไม่ค่อยมี แบบว่ายังไม่มีกล้องน่ะ