ยินดีต้อนรับสู่ club.bloggang.com
...magazine online โดยหนุ่มสาวชาว =Neo=
ความหลังกับโรคเกล็ดเลือดต่ำ โรคเลือดแบบแปลกๆ

ก็เรามันแก่แล้ว ทำให้นึกถึงอดีต วันนี้ป้าดาริเข้าไปสนทนาประสาสาวๆ กับเวบนักเขียนคนโปรด ก็เลยได้คุยถึงเรื่องโรคประจำตัวของผู้หญิง ทำให้คนเกลียดโรงพยาบาลอย่างป้านึกถึงเรื่องสมัยสาวๆ (ก็สมัยตั้งแต่อายุ 15 นี้น่า) กับโรคแปลกๆ ที่ใครจะไปคิดว่าเกิดกับคนร่างกายแข็งแรงอย่างเราได้กัน

ไม่รู้มีหลานๆคนไหนเคยได้ยินหรือรู้จักโรคเกล็ดเลือดต่ำกับบ้างหรือเปล่าจ๊ะ สำหรับป้านะเข็ดขยายกับไอ้เจ้าโรคนี้ไปเลยล่ะ ก็เพราะทำเอาป้าเข้าๆออกๆโรงพยาบาลอยู่ตั้งนาน

เรื่องมันต้องเริ่มต้นด้วยว่า สมัยโน่น(นานมาก) ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นโรงเรียนสตรีล้วนแถวๆ วัดดอน บรรดาสาวๆที่ซนหยั่งกะลิง ที่แท้จริงแล้วพ่อแม่อยากให้เรียบร้อยเพราะคิดว่ามาเรียนโรงเรียนหญิงล้วนจะดีขึ้นแต่ขอโทษด้วยนะจ๊ะพ่อกับแม่ เพราะเมื่อมีแต่หญิงล้วนดีกรีความซ่าเลยเพิ่มตาม

มาเข้าเรื่องต่อดีกว่าว่า ระหว่างพักเที่ยง ไม่มีอะไรให้ทำกันเลยเล่นวิ่งไล่กันในห้องนี้ล่ะ แล้วป้าโดนเพื่อนนั่งทับหลังมือ มันก็เจ็บหรอกนะ แต่ไม่คิดว่าพอเพื่อนลุกขึ้น หลังมืองี้เขียวเลย ชั่วไม่นาที ปูดเป็นลูกมะนาวเลย แต่ป้าดาริก็ไม่คิดอะไรเพราะโดนทับไปจังๆคงต้องบวมล่ะ

พอรุ่งขึ้น เดินผ่านที่เพื่อนๆกำลังตีแบตฯ โดนไม้แบตฟาดเบาๆ ก็เขียวอีกแล้ว แต่ไม่ปูดแค่ช้ำเป็นจ้ำ เราก็เริ่มสงสัยว่าพักนี้ผิวบางจังเลย แต่เพราะกลัวหมออย่างแรงเลยไม่ยอมบอกพ่อแม่ แต่ว่าหลังจากสองเหตุการณ์นั้น ตามเนื้อตัวจะปรากฏจ้ำเลือดง่ายมากขึ้น บางแห่งใหญ่มาก แถมสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเป็นทุกเดือนมานานจนเข้าเกือบยี่สิบวัน จนต้องบอกแม่ และพอดีว่าน้องชายป้าไม่สบายแม่พาไปหาหมอพอดีเลยถามหมอว่าอาการของลูกสาวเป็นแบบนี้น่าจะเป็นอะไร ปรากฏว่าหมอไม่บอกอะไรนอกจากสั่งว่าให้พาลูกสาวมาหาหมอพรุ่งนี้ด่วน

วันรุ่งขึ้นป้าเลยโดนแม่ลากไปหาคุณหมอแต่เช้า สิ่งที่ทำเอาป้ารู้สึกใจไม่ดีเลยคือ ป้าโดนหมอตรวจนานมาก แถมหมอยังไปหยิบหนังสือเล่มเบ้อเร่อมาดูอีก ยิ่งทำเอาความมั่นใจว่าเราไม่เป็นอะไรตกวูบ หลังจากอยู่ในห้องตรวจเป็นนาน หมอก็จับป้าไปเจาะเลือดครั้งแรกในชีวิต เป็นอะไรที่สยองมาก เพราะต้องผ่านการเทสต์หลายอย่างอันดับแรกก็เจาะเลือดธรรมดาๆ หลังจากนั้นก็ใช้อะไรก็ไม่รู้ทิ่มมือเราแล้วคอยใช้กระดาษซับเลือดตรวจนับว่าเลือดเราใช้เวลาหยุดกี่นาที ซึ่งป้าเราแปลกใจว่าทำไมมันนานจังเลยล่ะกับแผลนิดเดียวเอง หลังจากนั้นจึงทำให้หมอพอจะรู้ว่าเป็นอะไรบ้างแต่ยังไม่แน่ชัด แต่หมอก็พูดซะเราใจแป้วว่า “หมอกลัวว่าหนูจะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองแบบที่คุณพุ่มพวงเป็นนะ เพราะอาการคล้ายๆ แต่ยังไงหมออยากจะตรวจให้ละเอียดอีกทีด้วยการเจาะไขสันหลัง หนูคงต้องนอนโรงพยาบาลสักสองสามวันนะจ๊ะ” คุณหมอขา ตอนนั้นคุณพุ่มพวงเสียชีวิตจากโรคภูมิแพ้ตัวเองไปไม่กี่ปีเอง ทำเอาป้ากลัวไปเลยเพราะใครๆก็รู้ว่าโรคนี้ใช้เงินเยอะและแทบจะไม่มีทางหาย แต่ป้าก็คิดแง่ดีๆไว้ว่าคงไม่เป็นไร แล้วก็เข้าโรงพยาบาลให้หมอเจาะไขสันหลัง แต่ก่อนจะเจาะในวันที่สองของการนอนโรงพยาบาล กิจวัตรประจำของงป้าคือการให้หมอเจาะเลือดทุกเช้า และเย็น เจาะจนพรุนไปหมดแล้ว เจาะจนหมอไม่ยอมเจาะที่ข้อพับแขน ต้องเปลี่ยนมาเป็นหลังมือซึ่งมันเจ็บมากๆๆๆๆๆ ขอย้ำว่าเจาะเลือดตรงนี้ทรมานที่สุด แต่หลังจากเริ่มชินชากับการโดนเจาะเลือดตอนนี้ป้าเลยไม่กลัวการเจาะเลือดอีกแล้ว ฉีดยายังเจ็บกว่าอีก

แต่เหนือความเจ็บใดคือการเจาะไขสันหลัง ตอนแรกก็คิดว่าไม่เจ็บเท่าไรเพราะหมอบอกว่าจะฉีดยาชาให้ แต่ปัญหาก็ยังเกิดว่าหาที่เจาะไม่จอ คลำแล้วคลำอีก หมอเลยลงความเห็นว่าตรงเจาะตรงขาหนีบนี้ละ แล้วก็ฉีดยาชาแต่ยังไม่ทันชาเลย แต่ว่าหมอถามเท่าไรว่าชาหรือเปล่าป้าก็ยังไม่รู้สึกชาเลยแม้แต่นิดเดียว หรือเพราะเห็นเข็มในมือหมอหรือไงก็ไม่รู้ ก็เข็มมันใหญ่มาก รูก็ใหญ่มาก แต่สักพักหมอคงทนไม่ไหวเลยเจาะเสียเลย

ป้าเจ็บมาก เจ็บจนนอนร้องไห้ไปเลย ความรู้สึกรับรู้ได้เลยว่าเข็มที่ถูกเข้าไปในกระดูกและน่าจะเป็นระหว่างข้อต่อกระดูกด้วยล่ะว่าเป็นยังไง พอหมอดูดไขกระดูกออกมาก็ให้เราดู มันดูขุ่นๆ ไงก็ไม่รู้ แต่การโดนเจาะไขสันหลังคราวนั้น ป้าดาริก็เขียวช้ำไปแถบหนึ่งเลยล่ะ แต่ป้าไม่กล้าดูตัวเองให้เพื่อนๆดู เพื่อนๆยังตกใจว่ามันช้ำมาก

และหลังจากผลการเจาะไขสันหลังออกมาก็น่าดีใจว่าไม่ใช่โรคภูมิแพ้ตัวเอง แต่เป็นแค่โรคเกล็ดเลือดต่ำ หรือไอทีพี โรคนี้จะทำให้เราเลือดออกใต้ผิวหนังง่าย เป็นจ้ำเลือดเห็นได้ชัด และที่อันตรายที่สุดคือ เมื่อเลือดออก เลือดจะหยุดช้ามากเพราะปริมาณเกล็ดเลือดของเรามีต่ำมากจนปากแผลไม่ยอมปิดง่ายๆ ทำให้เราเสียเลือดมากกว่าปกติ ถ้าเป็นแผลเล็กก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเป็นแผลใหญ่อย่างแค่มีดบาดก็อันตรายแล้ว เท่าที่ป้าจำได้คือ หมอบอกว่าตามปกติคนเรามีเกล็ดเลือดประมาณ 200,000 เซลล์ /ลบ.มม. (ป้าไม่แน่ใจเรื่องจำนวนแน่นอนเพราะฟังหมอมาสิบกว่าปีแล้ว) แต่สำหรับป้ามีแค่ 60,000 เซลล์/ลบ.มม ซึ่งมันต่ำมากๆ ป้าต้องกินยาอะไรก็ไม่รู้เม็ดเล็กนิดเดียวแต่ขมเหลือใจครั้งล่ะเป็นสิบๆหมด เจาะเลือดแทบจะทุกสัปดาห์ แต่ว่าป้าถือว่าโชคดีว่าหายจากโรคนี้ด้วยเวลาไม่นานนัก แค่ประมาณ 2 ปีเท่านั้นก็หาย แต่บางคนเท่าที่หมอบอกคือ รักษาเท่าไรก็ไม่หาย และบางคนก็เป็นๆหายๆ

เป็นโรคนี้ทำให้ป้าหายจากการกลัวเข็มและการเจาะเลือด แต่ว่าสิ่งเดียวที่ยังไม่หายเลยจากคราวนั้นเลยคือ ป้ายังคงกลัวหมอและโรงพยาบาลอย่างไม่เลิกรา ป่วยยังไงก็ขอดูแลตัวเองไปก่อนดีกว่าที่จะไปหาหมอ แต่หลานๆอย่าทำแบบป้านะจ๊ะ ไม่สบายก็ไปหาหมอดีกว่า

...เรื่องจาก blog ของป้าดาริ


Create Date : 31 ธันวาคม 2550
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 3:05:32 น. 0 comments
Counter : 2047 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

=Neo=
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add =Neo='s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.