Simple Life in the UK By CJDJ
 

ของฟรีในลอนดอน

ถ้านักเรียนกำลังตัดสินใจว่าจะมาเรียนที่ภาษาที่ไหนดี ลอนดอนคงเป็นตัวเลือกหนึ่งของนักเรียน ใครๆก็รู้ว่าค่าใช้จ่ายในลอนดอน แพ๊ง แพง จากการสำรวจ ค่าใช้จ่ายในลอนดอน ขึ้นจากอันดับ 5 ในปี 2006 เป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2007

ไม่ว่าจะอยู่เมืองไหน มีทั้งของถูกและของแพง เราสามารถอยู่ได้อย่างฉลาด พยายามหาของฟรี เอ้า มาดูกันอะไรฟรีกันบ้าง

1. ไปตามที่เที่ยวต่างๆ ไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ อันนี้ฟรี มีหลายที่ที่น่าสนใจเช่น Trafalgar square – มีรูปปั้นเท่ห์ให้ถ่ายรูปด้วย ; หอนาฬิกา BigBen ; รัฐสภา
2. พิพิธภัณฑ์ และ ห้องแสดงงานศิลปะ เมื่อก่อนปี 2001 ทุกที่เปิดฟรี แต่ไม่ใช่ตอนนี้แล้ว แต่ก็ยังมีบางที่ที่เปิดฟรีอยู่เช่น พิพิธภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่กรีนิช
3. ไปตามสวนสาธารณะ อุทยาน สถานที่พักผ่อน ที่นักเรียนสามารถไปพักผ่อนหย่อนใจ ที่สวยๆ เพียบ นั่งตากแดด กินลม เช่น นักชมวิวของตึกบีทีที่ริชมอน พาร์ค หรือพักผ่อนที่ อเล็กซานเดอร์ พาเลส หรือจาก Royal Observatory ที่กรีนิช
4. ไปตามตลาดต่างๆ ตลาดวันเสาร์ อาทิตย์ หรือเหมือนตลาดเปิดท้ายบ้านเรา นักเรียนสามารถชมวัฒนธรรมของคนเชื้อชาติต่างๆในตลาดนี่แหละ ตลาดที่น่ารักๆน่าเดิน ก็เช่น แคมเดน ( อยากเรียนภาษาใกล้ แคมเดน คลิกที่นี่) พอร์ททาเบลโล มาเก็ต หรือ ใกล้ นอตติ้งฮิว (อยากเรียนภาษาใกล้ นอตติงฮิว คลิกที่นี่) แถม ยังมีตลาดตรงถนน Crips ที่มีโชว์กะพวกดนตรีเท่ห์อยู่บ่อยๆ
5. กินฟรี อันนี้ไม่รู้อาจจะน่ารักเกิน แต่ว่าจริงๆ มีอาหารฟรีให้ ไม่รู้น่าเกลียดไม๊แต่ว่าอ่านเจอเด็กนักเรียนฝรั่งเค้าทำกัน มีของกินฟรีที่แคมแดน หลัง6 โมงเย็น มี คนของกินฟรีไปให้จากศาสนาที่เรียกว่า แฮร์ คริสนา แจกฟรี อาหารมังสวิรัติตามหอของมหาวิทยาลัย ลอนดอน ถ้าใครรู้อันนี้เข้ามาคอนเฟิร์มหน่อย แล้วก้อ ชิมฟรีที่แฮร์รอด( อยากเรียนภาษาใกล้ แฮร์รอด คลิกที่นี่)
6. เที่ยวกลางคืนฟรี อันนี้หมายถึงเข้าฟรีค่ะ ไม่ใช่ดื่มฟรี แต่ค่าเข้าในลอนดอน ค่อนข้างแพง ตั้งแต่ 3 ปอนด์ ขึ้นไปอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะมีพวกประชาสัมพันธ์แจกบัตรเข้าฟรี หรือ เอาชื่อไปใส่เกสลิสค่ะ หรือ อาจจะไปนั่งฟังตลกฟรี อันนี้มีหลายที่ เช่น ที่ถนนวาเรน ที่โซโห ถ้าสนใจเขียนมาถามได้ มีรายชื่ออยู่
7. เข้าไปดูเค้าอัดเทปโชว์ เช่น รายการของบีบีซี นักเรียนสามารถเข้าไปดูในเวปเค้าแล้วก็สมัครได้ นักเรียนมีโอกาสได้ของแถมฟรี และอาจจะได้เจอดาราฟรีอีก
8. คงรู้กันอยุ่ว่า เรดคาร์เปต หรือ เปิดตัวหนังดัง ดังที่สุดในลอนดอนเลสเตร์สแควร์ พบ ดารา ฮอลลิวูด ฟรี อะไรกันเนี่ยแต่จริงค่ะ ไปยืนสิ รอดู เจออยู่บ่อยๆ
9. ไปดูกีฬาฟรี อันนี้ชอบ ลองดูตามหนังสือพิมพ์ จะลงอยู่ บ่อยๆ อีกอย่างเล่นสเกตฟรีมีอยู่หลายที่อันนี้ต้องลองกูเกิลดู

ลอนดอนเป็นเมืองที่น่าสนใจ ถ้ากำลังคิดว่าอยากมาที่ลอนดอน ลองติดต่อเรา advice for you london / Thailand




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 14:55:12 น.
Counter : 885 Pageviews.  

King's College from my experience

King's College from my experience

ตอบคำถามหลังไมค์ของคุณ oldarlinglo

สวัสดีค่ะ คุณ CJDJ
อยาก ถามข้อมูลเกี่ยวกับ King's College London ค่ะ เห็นคุณ CJDJ จบจาก King's college เลยอยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับที่พักค่ะ ว่าควรอยู่หอของมหาลัยดี หรือควรหาที่อยู่เองดีค่ะ
และช่วยแนะนำเรื่องการปรับตัวในการเรียนให้หน่อยนะคะ (เราไม่ค่อยดีเรื่องภาษาค่ะ โดยเฉพาะ speaking ไม่ดีมากเลยค่ะ)

ตอบนะคะ

สวัสดีค่ะจะเล่าเรื่องKing’s College London ให้ฟังนะคะเอาตามคำถามเลยค่ะ
เรา จบมาจากคิงส์ปี ๐๕ เริ่มเรียนโทหนึงปี ในสาขาบริหารค่ะ ตอนเราเข้าเราไม่ได้ดูว่าในสาขาอยู่ในอันดับ แต่เราได้เปิดดูไกด์จากหนังสือพิมพ์ Independent ; good university Guide subject: Business Studies ปีนี้คิงส์อยู่ใน อันดับ ๔ ค่ะ
1 London School of Economics
2 Imperial College
3 Bath
4 King's College London
5 Warwick 6 Aston
7 Exeter
8 Loughborough
9 Strathclyde
10 Lancaster
อย่างไรก็ตามแต่ละหนังสือพิมพ์จะจัดอันดับแตกต่างกันไปค่ะ
ไม่ ทราบว่าคุณจะมาเรียนสาขาไหนคะ คิงส์มีแคมปัสหลายที่ค่ะ ด้านแม่น้ำเทมส์จะมีอยู่ทั้งหมด ๔ที่ค่ะ จะอยู่ระหว่าง House of Parliament และ London Bridge
๑ ที่ Strand จะอยู่ในเมืองมากค่ะ ใกล้สถานที่สำคัญเช่นใกล้ศาล สมาคมนิติศาสตร์ ที่ที่เราชอบไปก็ Coven Garden West End Soho ใกล้ทุกอย่างเลย
๒ ที่ Waterloo เราเรียนอยู่ที่นี่ค่ะ ส่วนใหญ่แต่บางวิชาเราเรียนที่ Strand เราก็เดินข้ามแม่น้ำเทมส์ ชมวิว แล้วบางที่ก็เปียกฝนไปเรียน ค่ะ เหอ เหอ ที่นี่ใกล้กับ South Bank ริมแม่น้ำเราก็ไปเดินลอยชายอยุ่บ่อยๆ ว่างๆก็นั่งผับดริ้งค์ริมน้ำสุขซะไม่มี
๓ ที่ Guys Hospital อยู่ ตรง London Bridge, Tower Bridge เราไปมาเหมือนกันวันก่อนไปทำฟันฟรีค่ะ แต่คิวยาวมากที่นี่ถ้าจะทำฟรีนะคะ
๔ St Thomas Hospital อันนี้ก็จะอยู่ใกล้ๆ กับ Waterloo Central หลัง Central London

ถาม เรื่องเกี่ยวกับหอนี่เราไม่รู้จริงๆนะคะ เพราะตอนเรียนเนี่ยเราอยู่เองค่ะ แต่ถามว่าหอที่นี่เป็นอย่างไร ก็คงสะดวกดีค่ะ คุณจะได้อยู่หอของ มหาวิทยาลัยลอนดอนทั่วกรุง ก็เลือกเอาบางทีอาจได้อยู่ที่ใกล้ บางทีอาจได้อยู่ที่ไกล อันนี้ต้องลองเลือกเอา ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเมื่อไหร่และที่ไหนด้วย แต่ไม่มีคำแนะนำว่าที่ไหนดี ราคาก็ไม่ถูกเลยนะคะ บางคนโชคดีได้ตรงใจกลางเมืองแต่บางคนไม่ได้กลางเมืองค่ะ แล้วแต่จริงๆ เราเข้าไปดูในเวปแต่มันเยอะเหลือเกินเอาลิ้งค์มาฝากค่ะ //www.london.ac.uk/accom.html
อยู่เองอาจจะถูกกว่าค่ะ แต่ว่าต้องเลือกที่ที่ปลอดภัยนะคะ และที่สำคัญต้องระมัดระวังตัวเองด้วยตอนนี้เราอยู่ด้านใต้ของลอนดอน ราคาถูกแต่ว่าเราไม่เคยออกไปไหนค่ำๆคนเดียวเลยค่ะ กลัวข่าวมันเยอะเหลือเกินค่ะ

สุดท้ายนะคะก็คือการเรียนและใช้ชีวิต เราชอบนะอยู่ในลอนดอน เพื่อนๆสาขาทีเราเรียนส่วนใหญ่จะเป็นคนอังกฤษหรือยุโรปที่โตๆแล้ว ส่วนใหญ่เราก็ไม่ได้ไปไหนกะเค้า แต่บางวิชาเราจะได้เรียนกับสาขาอื่นเราก็จะมีเพื่อนที่รุ่นเดียวกัน บางคนเป็นอังกฤษ บางคนเป็นจีน แล้วก็มีเพื่อนไทยบ้าง ก็จะคุยกันไปค่ะ เที่ยวกันด้วย แล้วที่คิงส์จะมี ไทยซอค ( Thai Society)คุณก็จะมีเพื่อนไทยจากที่นี่ และได้ไปทำกิจกรรมด้วยค่ะ
เรื่อง การเรียนตอนมาอยู่ใหม่ๆ ปัญหาเราไม่ใช่ พูด ปัญหาเราคือฟังที่นี่คนอังกฤษเราว่าเค้าใช้ศัพท์สูงกว่าที่เราเรียนมา คำศัพท์บางคำไม่เคยได้ยินมาก่อน ที่นี่อาจารย์จะมีสำเนียงกลางๆส่วนใหญ่ไม่มีคนไหนที่ฟังยากแต่ทียากคือคำ ศัพท์ เราก็อาศัยเพื่อนค่ะ ถ้าไม่เข้าใจถามอาจารย์ได้ แกยินดีแต่เราก็ยังฟังไม่ค่อยเข้าใจ ถามแล้วก็ต้องไปเปิดดิคอีกทีนึง เฮ้อ แต่ตอนหลังๆ เริ่มชินค่ะ อาศัยเพื่อนที่เก่งกว่านี่แหละ ส่วนใหญ่ตอนเช้าจะเป็นห้องเรียน ตอนบ่ายจะเป็นที่เค้าเรียก ทิวทอเรียล จะมีการสนทนาและตั้งคำถาม ส่วนใหญ่เราก็จะนั่งฟังเงียบๆค่ะ ไม่ต้องกลัวถ้าพูดไม่ถูกเค้าจะช่วยต่อคำให้ค่ะ เพราะอาจารย์เข้าใจว่ามีนักเรียนต่างชาติค่ะ ช่วงมาเรียนแรกๆ สำหรับนักเรียนต่างชาติคุณจะสามารถไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มได้ค่ะ ฟรีด้วย ต้องลองดูอีเมล์ทีส่งมาหรือไม่งั้นลองโทรไปถามดูที่โรงเรียนสอนภาษาของคิงส์ ที่ Chancely lane อย่ากังวลค่ะ เค้าช่วยเราอยู่แล้ว
หวังว่าคงตอบคำถามคุณไม่มากก้อน้อยเน้อ

All the Best
CJ




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2551 19:02:24 น.
Counter : 3504 Pageviews.  

How to Choose the Ideal Language Course

ข้อได้เปรียบในการเรียนในต่างประเทศคือนักเรียนจะได้เรียนทั้งภาษาและวัฒนธรรมของประเทศนั้น วิธีการใช้ชีวิต ผู้คน และกิจกรรมต่างๆ เช่นกีฬา หลักสูตรการเรียนภาษามีให้เลือกทั่วโลก นักเรียนควรจะเลือกประเทศที่เราชอบกับการดำเนินชีวิตและบุคคลิกภาพ ก่อนที่จะเลือกที่เรียนภาษา ให้คิดก่อนว่าการไปเรียนภาษานั้นเหมือนการไปเที่ยวต่างประเทศ บางคนอาจจะชอบเมืองใหญ่ที่ประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ บางคนชอบเมืองท่องเที่ยว บางคนชอบเมืองชนบทเงียบๆ หรือบางคนอาจจะชอบเมืองติดชายทะเล นี่แหละค่ะนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการเรียนและท่องเที่ยว จะได้ไม่เบื่อกันซะก่อนค่ะ มีหลายเรื่องที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะตัดสินใจว่าจะไปเรียนภาษาต่างประเทศ อาจจะต้องคำนึงถึง เช่น นักเรียนจะไปเรียนโรงเรียนอะไร หลักสูตรอะไร จะไปอยู่ที่ไหน และจะเตรียมตัวอย่างไร เอาเรามาเริ่มกันดูกันว่า จะเลือกอะไรกันดี

โรงเรียนสอนภาษา

มีโรงเรียนสอนภาษาอยู่มากมายทั่วโลก หลักสูตรที่จะเรียนก็มีต่างๆกันไป น่าสนใจทั้งนั้น เลือกไม่ถูก อย่างไรก็ตามคุณภาพของหลักสูตรและการสอนเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราควรจะคอยตรวจสอบดูจากองค์กรอิสระที่โรงเรียนดังกล่าวเป็นสมาชิก เช่น โรงเรียนที่ได้รับการยอมรับจากบริติชเคาน์ซิลในกรณีของการศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร

อีกเรื่องที่ควรคำนึงถึง คือในเรื่องในสถานที่ตั้งของโรงเรียนซึ่ง สำคัญมาก ถ้านักเรียนอยากจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ นักเรียนควรเลือกที่ตั้งที่เราสนใจและเหมาะกับการใช้ชีวิตของเรา อยู่ที่ที่เราชอบ มีสิ่งที่นักเรียนสนใจอยู่รอบตัว นักเรียนจะเรียนรู้ได้เร็วอย่างไม่รู้ตัวที่เดียวเลยค่ะ เช่น ถ้านักเรียนชอบไปดูอะไรที่ออกจะศิลปะ ของเก่าน่าสนใจ ก็ควรที่จะเลือกโรงเรียนที่ใกล้กับพิพิฒภัณท์สถานแห่งชาติค่ะ

สถานที่อยู่

อันนี้หมายถึงที่ที่นักเรียนอยากจะอยู่คะ ในเมืองเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนชอบชอปปิ้ง เที่ยว เพราะว่าในเมืองจะมีร้านอาหารและ บาร์ เก๋ๆอยู่มาก อีกทั้งมีที่ให้ซื้อของเพียบ ร้านสวยๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่นในลอนดอน มีอะไรให้ทำตลอดเวลา เหมือนที่กรุงเทพบ้านเรา แต่เตือนไว้ก่อนเลยว่าคนเยอะมาก มากจริงๆค่ะ และเยอะตลอดเวลาด้วยค่ะ นักเรียนอาจจะต้องพักอยู่ห่างจากโรงเรียนหน่อยและเดินทางไปเรียนเอา อาจจะหาบ้านพักหรือหอใกล้ได้บ้างแต่ก็ต้องดูราคาด้วย

ถ้านักเรียนอยากเรียนที่ไม่ต้องเดินทางมาก ชานเมืองหรือเมืองที่ไม่ใช่เมืองหลวงน่าจะดีกว่า นักเรียนอาจจะได้พักที่ใกล้โรงเรียนสอนภาษาและเดินไปเรียนได้ค่ะ คนจะไม่พลุกพล่านเหมือนในเมืองหลวงแต่ที่กินที่เที่ยวที่ชอป ก็จะน้อยลงไปด้วย

ถ้านักเรียนชอบทำกิจกรรมนอกเมือง เช่นเดินเขา ขี่จักรยาน สูตรอากาศดีๆ ดูวิวสวยๆ ชอบบรรยากาศเงียบๆ อยู่นอกเมืองหรือที่เค้าเรียกว่าคันทรี คิดว่าน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ขนาดของโรงเรียน

มีข้อแตกต่างทั้งข้อดีและข้อเสีย โรงเรียนใหญ่จะมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบครัน อาจจะมีห้องสมุด ห้องแลป และมีหลักสูตรการศึกษาให้เลือกมากมาย อย่างไรก็ตาม ข้อเสี่ยคือราคาแพง และชั้นเรียนหรือจำนวนนักเรียนอาจจะใหญ่ ถึงแม้จะมีการดูแลทั่วถึง แต่การดูแลเป็นส่วนตัวระหว่างโรงเรียนกับนักเรียนและนักเรียนกับนักเรียนอาจจะมีน้อยมาก

โรงเรียนเล็กจะแตกต่างกันไป จะเป็นการดูแลที่เป็นส่วนตัว ห้องเรียนค่อนข้างเล็กกว่าโรงเรียนใหญ่ นักเรียนอาจจะมีเพื่อนต่างชาติต่างห้องมากกว่าโรงเรียนใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียนก็จะมีมากกว่า ครูอาจจะจำชื่อนักเรียนได้ทั้งชั้น อย่างไรก็ตามโรงเรียนเล็กกว่าอาจมีหลักสูตรให้เลือกน้อยกว่าและอาจจะไม่ทันสมัยเท่าโรงเรียนใหญ่ๆ

นักเรียนคนอื่นๆ

ถ้านักเรียนอยากได้รับประโยชน์จากการเรียนภาษามาก นักเรียนควรจะเลือกโรงเรียนที่มีจำนวนของนักเรียนเชื้อชาติ ต่างๆกันไป นักเรียนจะได้พบปะกับเพื่อนๆหลายๆวัฒนธรรมและต่างนิสัยกันไป และแน่นอนเพื่อนๆก็จะพูดภาษาต่างๆกันไปด้วย เวลาออกนอกห้องเรียน นักเรียนก็จะพูดภาษาอังกฤษ ทำให้นักเรียนได้เริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษและได้รับประโยชน์มากกว่าพูดภาษาไทยนอกห้องเรียน ถ้ามีเพื่อนมาจากชาติเดียวกันและพูดภาษาของตัว นักเรียนน่าจะอยู่เมืองไทยเรียนที่เมืองไทยน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าและประหยัดกว่า


หลักสูตรการศึกษา

โรงเรียนในสหราชอาณาจักรมีหลักสูตรหลากหลายให้นักเรียนได้เลือก เช่น

๑ หลักสูตรทั่วไป จะมีในโรงเรียนโดยทั่วไป เช่น General English จะมีประมาณ สามหรือสี่เวลาให้เลือกต่อวัน นักเรียนจะได้เรียนหลักๆ คือฟัง พูด อ่าน เขียน เนื้อหาจะเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้เน้นอะไรหนักๆ นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนหลักสูตรนี้ที่มาเรียนเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทางภาษา และต้องการใช้ชีวิตในต่างประเทศอย่างสนุกสนาน เหมือนเรียนไปเที่ยวไป หาประสบการณ์

๒ หลักสูตรเร่งรัด นักเรียนจะได้เรียนทั้งเช้าและบ่าย โดยทั่วไปประมาณวันละหกชั่วโมง ถ้านักเรียนต้องการเพื่อมาเรียนและได้ประโยชน์ในเวลารวดเร็ว หลักสูตรนี้น่าจะพิจารณา นักเรียนจะได้การบ้านไปทำ นักเรียนใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน ถ้าคิดว่ามาแล้วไม่พร้อม มาเรียนหนัก ไม่ควรสมัครหลักสูตรนี้ เพราะอาจจะเปลืองเงินคุณพ่อ คุณแม่เปล่าๆ และถ้าไม่ไหว นักเรียนอาจจะเริ่มโดดเรียน หรือ เบื่อโรงเรียนไปได้ ขอดือนไว้ด้วยว่า นักเรียนอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆเต็มที่ แต่สิ่งที่นักเรียนที่น้องจะได้รับตอบแทนคือวิชาการที่หนักแน่นค่ะ

๓ หลักสูตรเพื่อเตรียมสอบและศึกษาต่อ

นักเรียนบางคนอาจจะต้องการเตรียมตัวเพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยและต้องทำการสอบเพื่อวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษ ในกรณีของประเทศอังกฤษนักเรียนจะต้องสอบ IELTS และส่งคะแนนให้ทางมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะรับนักเรียนเข้าไปศึกษาต่อ ถ้าความรู้ทางภาษาอังกฤษถึงขั้นที่มหาวิทยาลัยยอมรับ ก็จะง่ายที่มหาวิทยาลัยรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อ โรงเรียนสอนภาษาจะสอนเทคนิคในการทำสอบให้ผ่าน ฝึกฝนข้อสอบเก่า วิเคราะห์ความเข้าใจของนักเรียน

๔ หลักสูตรตัวต่อตัว

แพงมาก แต่ว่าได้ประโยชน์มาก ครูจะวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของนักเรียน และสอนตามที่นักเรียนต้องการ ข้อดีที่สุดคือนักเรียนจะพูดกับครูเป็นภาษาอังกฤษ ครูสามารถที่จะประเมินผลและแนะนำข้อบกพร่องให้กับนักเรียนได้ในทันที บางโรงเรียนจะแนะนำให้นักเรียนเข้าเรียนหลักสูตรอื่นๆและหลักสูตรตัวต่อตัวควบคู่กันไป

๕ หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ

คนที่ได้เรียนเกี่ยวกับธุรกิจมาก่อนจะได้ประโยชน์ที่สุด หลักสูตรจะเน้นที่การหลักการติดต่อสื่อสารในการทำธุรกิจ อาจจะครอบคลุมถึงการพูดจา การขาย การต่อรอง การประชุม การนำเสนอ กลุ่มของนนักเรียนจะไม่มากกว่า หกคนบางโรงเรียน อาจจะนำเสนอหลักสูตรโดยเฉพาะสำหรับสาขาอาชีพ เช่น เลขานุการ ทนาย

ที่อยู่

จะไปอยู่ที่ไหนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ มีที่อยู่หลายประเภท ที่อยู่อาศัยจะมีผลต่อการศึกษาและดำเนินชีวิตของนักเรียนมาก

๑ ที่อยู่ส่วนตัว เช่าห้องที่อยู่ส่วนตัว นักเรียนจะได้รับความเป็นส่วนตัวมากแต่การจัดการจะค่อนข้างยากกว่า นักเรียนที่จะมาเรียนระยะยาว ที่อยู่แบบนี้เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนี่ง

๒ โฮสแฟมิลี่ อยู่อาศัยกับครอบครัวชาวต่างชาติ เป็นที่นิยมสำหรับเด็กเล็ก และวัยรุ่น อย่างมากในสหราชอาณาจักร
ครอบครัวจะเตรียมอาหารให้นักเรียน และช่วยให้คำปรึกษาทางด้านความเป็นอยู่ในประเทศดังกล่าว นักเรียนควรจะศึกษาเกี่ยวกับครอบครัวที่นักเรียนจะไปอยู่ด้วยก่อนตัดสินใจ

๓ อยู่ร่วมกับนักเรียนอื่น เช่น หอ ห้องพักรวม หรือ ห้องพักแชร์ นักเรียนจะได้ห้องส่วนตัวแต่ต้องแชร์ห้องน้ำและห้องครัวกับนักเรียนอื่นๆ นักเรียนจะได้โอกาสใช้ชีวิตร่วมกับนักเรียนอื่นและเพื่อนใหม่ ต้องระวังว่าอย่าเที่ยวกันจนเพลินไม่ได้เรียนหรืออยู่ร่วมกับคนที่พูดภาษาเดียวกันและไม่ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ

Click here to read in English: How to Choose the Ideal Language Course





 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2551 2:56:44 น.
Counter : 718 Pageviews.  

เรียนที่สหราชอาณาจักร สิ่งที่ควรรู้

สหราชอาณาจักรคือประเทศที่มีนักเรียนต่างชาติเป็นอันดับ ๒ ของโลก จริงๆแล้วมีอยู่ประมาณ ๒๐ %ของนักเรียนต่างชาติในโลกนี้ ประมาณ ๓๔๐,๐๐๐ มาเรียนที่สหราชอาณาจักรในแต่ละปี ถ้านักเรียนคิดที่จะมาเรียนที่นี่ละก็ มีหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงนะคะ เช่น นักเรียนจะไปอยู่ที่ไหน ประเทศดังกล่าวเป็นอย่างไร ต้องเอาอะไรมาบ้าง ต้องลองศึกษาวัฒนธรรมของประเทศด้วย เอาเรามาดูกันว่าสหราชอาณาจักรหรือยูเค ให้อะไรเราได้บ้าง

ประเทศ

สหราชอาณาจักรประกอบไปด้วย ๓ ประเทศ คือ ประเทศอังกฤษ, เวลส์ และ สก็อตแลนด์ จากการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ ปีนี้ ๙๐ มาหาวิทยาลัยมาจากประเทศอังกฤษ ในขณะที่ ๑๔ มาจากสก็อตแลนด์, ๘ มาจากเวลส์, และ ๒ มาจากไอร์แลนด์เหนือ

แต่ละประเทศมีจุดเด่นต่างๆกันไป ดังนั้นนักเรียนมีตัวเลือกมากกว่าหนึ่งที่จะมาเรียนที่ยูเค นักเรียนสามารถเลือกการใช้ชีวิตและหลักสูตรที่นักเรียนต้องการต่างๆกันไป

วัฒนธรรม

สหราชอาณาจักรประกอบไปด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปเพราะในสหราชอาณาจักรประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษแท้ๆ สก็อตแท้ๆ เวลส์แท้ๆ หรือ อินเดีย อาหรับ จีน หรือแม้แต่แอฟริกัน และคาริเบียน และเมื่อสองสามปีที่ผ่านมาจำนวนของคนจากยุโรปตะวันออกหลั่งไหลกันมาค่อนข้างเยอะ นักเรียนจะได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่น ลอนดอน และเบอร์มิงแฮม

ที่เรียกว่าคนบริติช ลักษณะนิสัยจะเป็นคนที่สุภาพ อ่อนน้อม คำที่พูดประจำคือ กรุณา (Please) และ ขอบคุณ ( Thank you) ดังนั้นเขาจะหวังว่านักเรียนคงจะใช้คำที่สุภาพอ่อนน้อมกับพวกเขาด้วย อีกเรื่องคือการตรงเวลา การมาสายถือว่าเป็นสิ่งที่หยาบคายมากในวัฒนธรรม อีกหลายๆเรื่องนักเรียนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่มาอยู่ที่นี่จะเข้าใจกันไปเองค่ะ

สภาพอากาศ

นักเรียนอาจจะได้ยินมามากว่าอากาศในประเทศเค้าไม่ค่อยดี ฝนตกบ่อย ท้องฟ้าเป็นสีเทา ไม่มีแดด อะไรต่างๆนานา จริงๆแล้วไม่ได้แย่ขนาดนั้นค่ะ อยู่ไปก็จะชินไปเอง ช่วงแรกๆอาจจะคิดว่าต่างไปมาจากที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ประเทศเค้าไม่มี อากาศที่ร้อนมากแบบบ้านเรา ไม่มีฝนตกหนักมากๆแบบบ้านเรา ไม่มีหิมะตกหนามากแบบในอเมริกาหรือทางสแกนดิเนเวีย อากาศจะเป็นแบบกลางๆหมดค่ะ แต่จากประสบการณ์นะคะ นักเรียนควรจะพกร่มเล็กๆไว้กับตัวค่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่ฝนจะตกค่ะ

คนบริติชจะชอบพูดกันเรื่องอากาศมาก เพราะอากาศเขาจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เวลาทักทายกันถ้าเขาไม่รู้จะคุยอะไรเป็นพิเศษหรือยังไม่สนิท เขาจะเริ่มกันเรื่องอากาศก่อนเป็นการเปิดการสนทนาค่ะ ถ้านักเรียนได้เจอกับคนบริชจริงๆแล้วไม่รู้จะคุยอะไรก็บอกเขาก็ได้ค่ะ ว่านักเรียนรู้สึกอย่างไรกับอากาศวันนี้ค่ะ

หวังว่านักเรียนคงได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยจากบทความนี้ค่ะ




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2551 1:57:31 น.
Counter : 635 Pageviews.  

1  2  3  4  
 
 

CJDJ
Location :
London United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คิดถึงความสบายตอนอยู่เมืองไทยมาก แต่ตอนนี้งานอยู่ที่นี่ คู่ครองอยู่ที่นี่ ลอนดอนเหมือนบ้านที่สอง ต้องสู้กันไป ดีใจที่ได้ช่วยทุกคน ให้กำลังใจเพื่อนๆทุกคนที่อยู่ต่างแดนค่ะให้สู้ค่ะ หรือช่วยตอบคำถามจากประสบการณ์ส่วนตัว ยินดีค่ะ
[Add CJDJ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com