รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯแนะคนไทยหลังเกษียณต้องมีขั้นต่ำ 4.36 ล้านบาทเพื่อใช้จ่ายอีก 20 ปีข้างหน้า



นักวิชาการด้านพัฒนาความรู้ตลาดทุนแนะคนไทยหลังเกษียณต้องมีเงินอย่างน้อย 4.36 ล้านบาทไว้ใช้อีก 20 ปี เผยปัจจุบันคนอายุ 20-59 ปีมีเพียง 15 จาก 40 ล้านคนที่มีเงินออมเพื่อเกษียณแนะหากไม่มีจะทำให้เกิดภาวะเกษียณทุกข์

 

นายกฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าคนไทยควรมีเงินหลังเกษียณขั้นต่ำ 4,361,799 บาท เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายเดือนละ 1.6 หมื่นบาทไปตลอด 20 ปีหลังจากเกษียณ

“อยากเกษียณสบายต้องมีเงินอย่างน้อย  4.36 ล้าน ให้พอใช้จ่ายเดือนละ 1.6 หมื่นไปอีก 20 ปี”นายกฤษฎากล่าว

ทั้งนี้นายกฤษฎาเปิดเผยว่าคำนวณจากผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อคน (GNP per capita) ของคนไทย จะอยู่ที่ปีละ 192,812 บาทหรือเท่ากับ 16,068 บาท/เดือน แต่ในอีก 20 ปีข้างหน้า ค่าใช้จ่าย 16,068 บาท จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 29,255 บาท จากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 3%

ดังนั้นเมื่อปรับด้วยอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและรวมอัตราเงินเฟ้อแล้วคิดออกมาเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 4.36 ล้านบาท จึงเป็นจำนวนเงินหลังเกษียณขั้นต่ำที่คนไทยควรมี

นายกฤษฎา กล่าวว่าเมื่อประเมินจากเงินออมเพื่อวัยเกษียณในระบบ ซึ่งประกอบด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนประกันสังคม,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีเงินออมเฉลี่ย 1-5 แสนบาท ซึ่งอาจจะทำให้มีเงินออมไม่ถึงระดับเงินออมขั้นต่ำที่ควรมีในวัยเกษียณ

นอกจากนี้ ยังมีคนไทยวัย 20-59 ปี เพียง 15 ล้านคน จาก 40 ล้านคน ที่อยู่ในระบบการออมเพื่อเกษียณซึ่งอาจทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีความเสี่ยงให้เกิดภาวะเกษียณทุกข์  

หมายเหตุ -The Gross Domestic Product per capita ของประเทศไทยโดยธนาคารโลกบันทึกไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2015 อยู่ที่ 5,775.1 ดอลลาร์ ถือว่าเป็น GDP per Capitaสูงสุด ส่วนบันทึกต่ำสุดเมื่อปี 1960 อยู่ที่ 570.86 ดอลลาร์

ดร.กฤษฎา เสกตระกูล

รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (หัวหน้าสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน)

ปริญญาตรี สาขาการเงิน

ปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ (DBA.) จาก Southern Cross University ประเทศออสเตรเลีย

เป็นผู้เขียนหนังสือหลายชุดอาทิเช่น

ชุดความรู้ “Happy Retirement สร้างสุขวัยเกษียณ”   ส่งเสริมความรู้การวางแผนเพื่อการเกษียณอย่างเป็นระบบ  

หนังสือชุด ครบเครื่องเรื่องลงทุน : คัมภีร์วิเคราะห์งบการเงิน  เป็นต้น

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 19 เมษายน 2560    
Last Update : 19 เมษายน 2560 5:48:25 น.
Counter : 402 Pageviews.  

ทหารคุมตัว 8 ผู้ต้องหาเครือข่าย “ซินแสโชกุน” ส่งกองปราบฯฝากขัง-ดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกงอั้งยี่ ซ่องโจรฯ



คุม 8 ผู้ต้องหาเครือข่ายคดีซินแสโชกุนส่งกองปราบปรามดำเนินคดีและขออนุญาตฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญา เบื้องต้นทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ยืนยันไม่ได้หลอกขายทัวร์ไปญี่ปุ่น ขอพิสูจน์ในขั้นศาล ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์รุดสอบปากคำ เตรียมแจ้งข้อหา ร่วมฉ้อโกง ซ่องโจร

 

จากกรณี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถูกจับกุมได้ที่ จ.ระนอง ระหว่างหลบหนี ภายหลังจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำแล้วลอยแพผู้เสียหายนับพันคน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะนี้ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนยอดผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วกว่า 300 ราย คาดทั่วประเทศมีมากกว่า 1 พันราย และยังมีการออกหมายจับแม่ข่ายซึ่งเป็นญาติพี่น้องกับคนสนิทอีก 8 คน ซึ่งถูกคุมตัวอยู่ที่ มทบ.11 พร้อมกับเพิ่มข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมดอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 เวลา 10.00 . พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. พร้อมกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) คุมตัว นางมณฑญาณ์ นิรันดร อายุ 55 ปี มารดาของ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ น.ส.ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 939/2560 ลงวันที่ 12เมษายน 2560 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน, นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี, น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี แฟนสาวของซินแสโชกุน, นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน, นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี, นางพารินธญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี, น.ศ.สุดารัตน์ เอนกนวล อายุ 25 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี รวม 8 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 951-958/2560 ลงวันที่ 17 เมษายน 2560 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 และ 343 ประกอบมาตรา 83 ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินคดี

โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เดินทางไปที่กองปราบปราม มารับมอบตัวและสอบสวนพร้อมแสดงหมายจับแจ้งข้อหา 8 ผู้ต้องหา โดยหลังจากสอบปากคำและแจ้งข้อหาเสร็จสิ้นก็จะนำตัวไปขออนุญาตฝากขังผลัดแรก ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ต่อไป

สำหรับคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 360 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจ ทหาร สามารถติดตามยึดทรัพย์สินต่างๆ จากกลุ่มผู้ต้องหาในเบื้องต้น เช่น รถยนต์ เงินในบัญชีธนาคาร ทองรูปพรรณ คอนโดมิเนียม ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 8 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันไม่ได้หลอกลวง

นางมณฑญาณ์ นิรันดร มารดาของ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธข้อกล่าวหาและตนไม่ได้เชิญชวนใคร ถ้าไปดูในเฟซบุ๊กส่วนตัวจะเห็นว่าตนอยากจะช่วยเหลือคนที่ฐานะยากไร้ ประสบความเดือดร้อน ถ้าคุณเข้ามาเป็นสมาชิกของบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด แล้วก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี เพียงแต่ว่าคุณต้องเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน และเป็นคนดี ไม่ใช้อำนาจทำให้ใครเดือดร้อน ส่วนกรณีที่มีการชักชวนให้ผู้เสียหายสมัครเป็นสมาชิกบริษัทนั้นตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ ตนเป็นแค่มารดาของซินแสโชกุนเท่านั้น และขอยืนยันว่าบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ไม่ได้ขายทัวร์ สำหรับการนำไปเที่ยวนั้น เพียงแค่ต้องการให้โอกาสแก่คนที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย

ขณะที่นางประนอม เลขานุการของซินแสโชกุน กล่าวว่า ไม่เคยเชิญชวนใครให้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แต่มีเพียงให้มาสมัครเป็นสมาชิกของบริษัท อลิเชี่ยน จำกัด เท่านั้น ส่วนโปรโมชันต่างๆ นั้นทางซินแสโชกุนเป็นคนที่กำหนดออกมา ตนไม่ทราบว่าส่วนต่างของเงินค่าสมัครสมาชิกนั้นไม่เพียงพอต่อการพาสมาชิกไปเที่ยวต่างประเทศได้ ที่ผ่านมาตนเคยถามซินแสโชกุนว่าได้เงินส่วนต่างมาจากไหน ซินแสโชกุนตอบว่ามีงบจากนายทุนในต่างประเทศเป็นผู้ออกโฆษณาให้ ทุกครั้งที่สมาชิกสอบถามก็จะบอกรายละเอียดให้ทราบ ส่วนเรื่องรายได้ต่างๆ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะจะรับรู้ข้อมูลผ่านทางซินแสโชกุน เท่านั้น แต่ตนและสมาชิกของบริษัทก็ไม่เคยได้เจอตัวนายทุนชาวต่างประเทศ มีเพียงซินแสโชกุนเพียงคนเดียวที่ได้พบ ส่วนตัวเคยไปท่องเที่ยวที่ฮ่องกงมาครั้งเดียว ครั้งนั้นก็เป็นเพียงการไปท่องเที่ยวธรรมดา ไม่ได้ใช้ชักชวนอวดอ้างต่อสมาชิกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด

ทั้งนี้  ได้สั่งอายัดทรัพย์สิน นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน จำนวน 3 ล้านบาท ส่วนรถยนต์หรูจำนวน 6 คัน และคอนโดมิเนียม กองปราบปรามอยู่ระหว่างทำเรื่องส่งให้ ปปง.ทำการอายัดทรัยพ์สิน เบื้องต้น ปปง.ต้องรวบรวมตรวจสอบว่าทรัยพ์สินที่ยึดมา ว่าจะเพียงพอในการชดใช้คืนให้ผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งทำเรื่องเยียวยาผู้เสียหาย​

มีรายงานว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.บัณฑิต ทิศาภาค รอง ผบก.ปคบ. มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.1 บก.ปคบ. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปคบ., บก.ปอศ., บก.ปอท. และสคบ. นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 71/2560 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2560 เข้าตรวจค้นบริษัท อลิเชี่ยน จำกัด เลขที่ 219 ชั้น 18 อาคารอโศกทาวเวอร์ ถนนอโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จากการตรวจค้นและตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้จดทะเบียนถูกต้อง พร้อมกันนี้ได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ผลิตภัณฑ์อาคารเสริม 300 กระปุก รวมทั้งเอกสารการทำธุรกรรมทั้งหมดมาทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม

ในเข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ถึงที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารว่าได้นำเข้า เสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ ในส่วนของตัวอาหารเสริมจะต้องตรวจสอบตัวเม็ดยาว่าได้รับอนุญาตจากทาง อย.หรือไม่ เนื่องจากตัวเม็ดยาของแท้ต้องเป็นสีน้ำตาล แต่ที่ตรวจสอบพบว่าเม็ดยาเป็นสีขาว ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการปลอมแปลงหรือไม่ รวมทั้งทาง สคบ.จะพิจารณาว่าเข้าข่ายธุรกิจขายตรงหรือไม่ ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ทาง บก.ปอท.ตรวจสอบหาความเชื่อมโยง

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 19 เมษายน 2560    
Last Update : 19 เมษายน 2560 2:11:22 น.
Counter : 351 Pageviews.  

รัสเซีย-จีนส่งเรือรบจับตากองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐหวั่นถล่มเกาหลีเหนือ-ทรัมพ์อาจสั่งจัดการเหมือนท



รัสเซีย-จีนส่งเรือรบจับตาการเคลื่อนไหวของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ในทะเลจีนตะวันออกกำลังมุ่งสู่คาบสมุทรเกาหลีหวั่นถล่มเกาหลีเหนือเหมือนปฏิบัติการต่อซีเรีย โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ที่ปรึกษาความมั่นคงยอมรับทรัมพ์มีหลายทางเลือกรวมทั้งสั่ง“ถล่มทันที”

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2017 ด้วยการอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่ารัสเซียและจีนได้ส่งเรือรบออกติดตามเรือบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิด USS Carl Vinson ของสหรัฐที่มุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี

รายงานข่าวเปิดเผยว่าขณะนี้เรือบรรทุกเครื่องบินที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ด้วยพร้อมด้วยเรือบริวารกำลังแล่นอยู่ในน่านน้ำทะเลจีนตะวันออกและมุ่งสู่คาบสมุทรเกาหลี

ทั้งจีนและรัสเซียมองว่าคาบสมุทรเกาหลีถือเป็นความมั่นคงอันดับแรกในช่วงนี้ หลังจากที่สหรัฐแสดงความสนใจต่อเกาหลีเหนือ  ในขณะที่นายเซอร์จี้ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขด้วยการเมืองและการทูตเพื่อให้เกิดความสงบ  

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองวิเคราะห์ว่าการที่จีนและรัสเซียส่งเรือรบออกสอดแนมและเฝ้าระวังเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐเป็นสัญญานที่ถูกส่งไปยังสหรัฐว่าอย่ารุกล้ำเข้าไปก่อเหตุในคาบสมุทรเกาหลี

จากการรายงานก่อนหน้านี้พบว่าเกาหลีเหนือเองก็ยังไม่ยุติที่จะทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้การทดลองยิงขีปนาวุธจะล้มเหลวในวันครบรอบ 105 ปีวันเกิดของนายคิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือซึ่งเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในปัจจุบัน

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่าการที่เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อสร้างความกดดันทางทหารต่อเกาหลีเหนือและให้เปียงยางพิจารณาให้รอบคอบถึงการทดลองขีปนาวุธ 

รายงานจากสำนักข่าวเอพี มีดังนี้

จากแหล่งข่าวมีรายงานว่า ทั้ง 2 ประเทศ (จีนและรัสเซีย)จับตาไปยังความเคลื่อนไหวของสหรัฐ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าสหรัฐจะต้องไม่ปฏิบัติการทางทหารต่อเกาหลีเหนือ ทั้งนี้กองกำลังป้องกันตนเองแสดงออกถึงการเตือนและจับตามองปฏิบัติการในน่านน้ำและทางอากาศบริเวณรอบๆ (คาบสมุทรเกาหลี)

กองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐประกอบด้วยเรือหลักคือ Carl Vinson จากนั้นยังมีเรือยิงขีปนาวุธ (guided-missile destroyers) และเรือบรบอื่นๆ ขณะนี้กำลังแล่นอยู่ในทะเลจีนตะวันออก (the East China Sea)และมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี   

ปรากฎว่าทั้งจีนและรัสเซียส่งเรือออกไปสังเกตการณ์เป็นเรื่องของ“สัญญาณเตือน”สหรัฐเช่นกัน

ผู้อ่านเสนอความเห็นเพิ่มเติม

หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมงผู้อ่านข่าวที่ใช้ชื่อว่า OlucyOlucy  เขียนเพิ่มเติมว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ญี่ปุ่นได้ส่งเรือรบของตนเข้าร่วมกับเรือรบสหรัฐในกองเรือ US Vinson ดังนี้บริเวณคาบสมุทรเกาหลีก็จะมีเรือรบของญี่ปุ่น,สหรัฐและรัสเซีย ขณะที่กองกำลังของเกาหลีใต้ก็อยู่ในอาณาบริเวณชายฝั่งและชายแดน พร้อมกันนี้จีนได้วางกองกำลังของตน 150,000 นายไว้บริเวณชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับรัสเซียที่วางกองกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ของตนไว้ชายแดนที่ติดเกาหลีเหนือเช่นกัน

เป็นที่เชื่อได้ว่าเป็นความพยายามของ“พันธมิตร” ที่จะกดดันทรัมพ์กรณีที่พูดว่าเขาจะกำจัด (คิม)จอง อึน จำได้ว่าเมื่อวันที่ 13 เมษายน ทรัมพ์พูดไว้ว่า “ผมมั่นใจเต็มที่ว่าจีนจะติดต่อกับเกาหลีเหนือได้ หาก(จีน)ทำไม่ได้ สหรัฐพร้อมด้วยพันธมิตรจะทำเอง”

เป็นเรื่องบังเอิญหรือ ? – ทรัมพ์พบกับสี (จิ้น ผิง) วันที่ 6-7 เมษายน,ทิลเลอร์สันพบกับปูติน วันที่ 12 เมษายน, รองประธานาธิบดีเพนซ์พบกับฮวาง กิโย-อัน รักษาการผู้นำเกาหลีใต้ วันที่ 15-16 เมษายน และวันที่ 18 เมษายนเพนซ์จะพบกับนายกรัฐมนตรีอาเบะ  เรื่องนี้ไม่ใช่การบังเอิญแน่นอน

ทรัมพ์พร้อมที่จะถล่มเกาหลีเหนือทันที  

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 16 เมษายนโดยอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบขาวว่า หลังจากที่เกาหลีเหนือล้มเหลวในการทดลองยิงขีปนาวุธเมื่อสิ้นสัปดาห์ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมพ์ยินดีที่จะออกคำสั่งให้ปฏิบัติการทางทหารกับเกาหลีเหนือรวมทั้งการ“ถล่มทันที”(a sudden strike) เพื่อทำให้เกาหลีเหนือไร้เสถียรภาพในภูมิภาค

อย่างไรก็ตามนายทรัมพ์ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้จีนพูดคุยกับเกาหลีเหนือในเรื่องนี้ รวมทั้งในสัปดาห์นี้นายทรัมพ์จะประชุมร่วมกับทีมสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเกี่ยวกับเกาหลีเหนือว่าจะทำอย่างไร

การตัดสินใจของนายทรัมพ์เชื่อว่าจะมาจากนายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีลาโหมที่ใช้คำพูด 22 คำเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 15 เมษายน ขณะที่พลเอกเอช.อาร์ แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงใช้ภาษาคล้ายคลึงกันเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่อธิบายเกาหลีเหนือว่า “มีพฤติกรรมยั่วยุ,ทำให้เกิดความวุ่นวายและมีการข่มขู่” พร้อมกับเปิดทางเลือกหลายทางที่จะปฏิบัติต่อเกาหลีเหนือผ่านการพิจารณาของทีมงานสภาความมั่นคง

ในการให้สัมภาษณ์รายการ This Week ต่อสถานทีวี ABC พลเอกแมคมาสเตอร์เปิดเผยว่านายทรัมพ์ได้สั่งการตรงไปยังสภาความมั่นคงรวมทั้งกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศตลอดจนหน่วยข่าวกรองให้ “เสนอทางเลือกต่อตัวนายทรัมพ์หากพบว่าพฤติกรรมของความวุ่นวาย”ที่เกาหลีเหนือยังแสดงออก

หลังจากการทดสอบยิงขีปนาวุธล้มเหลวของเกาหลีเหนือผ่านไปหลายชั่วโมง พลเอกแมคมาสเตอร์กล่าวเน้นย้ำถึงความต้องการของนายทรัมพ์ที่จะมีการปฏิบัติการทางทหารโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นเดียวกับการโจมตีทางอากาศต่อซีเรีย  เขายอมรับว่ายุทธศาสตร์ของสหรัฐฯซับซ้อนมาก เพราะไม่อาจคาดการณ์ผู้นำเกาหลีเหนือได้   

นายแมคมาสเตอร์เป็นพลเอกกองทัพบกกล่าวว่ายุทธวิธีที่จะทำต่อเกาหลีเหนือจะต้องให้ประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนือเช่นจีนเห็นด้วยว่าพฤติกรรมของผู้นำถือว่า “ป่าเถื่อน”มาก เช่นการสั่งสังหารพี่ชายของตัวเอง การสังหารบุคคลในครอบครัวเดียวกัน,การกระทำอันเป็นที่น่าสยองต่อประชาชนจำนวนมากเพื่อเหตุผลทางการเมือง ดังนั้นผู้นำคนนี้เป็นเหตุผลที่ทั่วโลกจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนชาวจีนและผู้นำจีนก็เช่นกัน

อย่างไรก็ตามการจะปฏิบัติการใดๆเกี่ยวกับเกาหลีเหนือจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ที่รบกันมาและแยกกันอยู่ 60 ปีที่แล้ว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 18 เมษายน 2560    
Last Update : 18 เมษายน 2560 7:43:27 น.
Counter : 350 Pageviews.  

มหันตภัยภัยไซเบอร์ ปัญหาที่เรายังนิ่งเฉย : โดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธาน



ปัจจุบันเรามีความเสี่ยงในโลกไซเบอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นโลกที่ถูกควบคุมด้วยข้อมูล โดยข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับทุกๆด้านในชีวิต ทั้งในชีวิตส่วนตัวและในงานสาธารณะ จนมีการแบ่งปัน แจกจ่าย จัดเก็บ และเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว ในปริมาณมหาศาล และมีความเสี่ยงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่มีการ hack ข้อมูลที่สำคัญ เช่น ที่เกิดขึ้นใน Target, Yahoo และ Ashley Madison ได้แสดงให้เห็นว่า การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกที่มีการเชื่อมต่อและเป็นศูนย์กลางข้อมูลมากยิ่งขึ้น ทุกวินาที

 

ที่สำคัญ เราควรตระหนักว่าในที่สุดแล้วความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น มิใช่เป็นเพียงการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การ hack และการโจมตีนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของผู้คน ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะถูกจำกัดอยู่ในโลกเสมือน และไม่สามารถเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงได้ หรือไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรงก็ตาม แต่มันกลับมีผลกระทบต่อสังคมและชาติ อย่างร้ายแรงที่สุด

ขณะนี้โลกค่อยๆพัฒนาเข้าสู่ระบบ Cyber-physical โดยวิกิพีเดียได้ให้คำจำกัดความ cyber-physical system ว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบทางกายภาพและซอฟท์แวร์ ซึ่งระบบทางกายภาพจะถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเชื่อมโยงเข้าไปยังโลกไซเบอร์อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2020

ตัวอย่างของ Cyber-physical system ได้แก่ รถยนต์ที่ทันสมัย โดยประมาณ 60% ของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ มักจะต้องลงทุนกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 100 ชิ้น อยู่ในรถยนต์สมัยใหม่ ที่มีผลต่อองค์ประกอบทางกลไกและทางกายภาพที่สำคัญ เช่น ระบบเบรก ระบบพวงมาลัย และกลไกการล็อคประตู เป็นต้น

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือโรงงานผลิต ที่ไม่เพียงแต่ได้รับการตรวจสอบและบริหารจัดการโดยซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ในระดับภาพรวม จะต้องได้รับการควบคุมด้วยระบบ Cyber -physical system ที่มักใช้การสื่อสารควบคุมระยะไกล (remote wireless interfaces) นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย อย่างเช่น ระบบการขนส่งอัจฉริยะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และระบบอัตโนมัติภายในบ้าน หรือบ้านอัจฉริยะ เป็นต้น

ระบบ cyber-physical มีความใกล้เคียงกับ Internet of Things (IoT) แต่ไม่ได้มีลักษณะเหมือนกับ IoT โดยอุปกรณ์ IoT ส่วนใหญ่ มักจะเป็นตัวควบคุมหลักของระบบ Cyber-physical ที่มีการใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีเดียวหรือหลายเทคโนโลยี เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือบลูทูธ และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ให้บริการหรือผู้ใช้แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่นของ iPhone ที่ผู้ผลิตรถยนต์ทำให้คุณสามารถปลดล็อกรถยนต์ หรือสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากระยะไกล หรือแอพพลิเคชั่น Amazon Echo ที่สามารถควบคุมแสงสว่างภายในบ้านของคุณได้ เป็นต้น โดยสิ่งที่พบได้ทั่วไป ก็คือ การที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้ามาจัดการฟังก์ชั่นการทำงานทางกายภาพได้แบบไร้สายระยะไกล นั่นเอง

การควบคุมระบบเหล่านี้ที่ตัวควบคุม IoT จะสื่อสารกับวัตถุทางกายภาพ โดยใช้องค์ประกอบสำคัญสองประการ ได้แก่ เซ็นเซอร์ และตัวดำเนินการ (Actuators) โดยเซ็นเซอร์จะสามารถวัดคุณสมบัติทางกายภาพได้ (เช่น อุณหภูมิ) และรายงานให้ผู้ควบคุมทราบ ส่วนตัวดำเนินการจะเข้ามาจัดการทางกายภาพ (เช่น สั่งให้รถวิ่งอยู่ในเลน) ซึ่งจะทำตามคำสั่งของตัวควบคุมอีกทีหนึ่ง

สิ่งที่จะสามารถนำมาเชื่อมต่อระบบทั้งหมด ก็คือซอฟต์แวร์ที่อยู่ในรูปแบบของโค้ดและข้อมูล และเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้โลกในศตวรรษที่ 21 มีความชัดเจนในการเดินเข้าสู่ระบบอัตโนมัติยิ่งขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการที่ซอฟต์แวร์มีข้อบกพร่อง และมีการออกแบบที่อาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง แต่ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจริงในการเขียนโค้ดของซอฟต์แวร์นั้น ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการวิเคราะห์อย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้จาก hacker นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะมาตื่นตระหนกกับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เราควรจะต้องทราบก่อนว่าระบบมีความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้เพื่อประเมินถึงข้อบกพร่องของระบบที่อาจจะถูกโจมตีได้ ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดในรูโหว่ทุกจุด โดยมีหลายปัจจัยที่ควรต้องคำนึงถึง เช่น แรงจูงใจของผู้โจมตี และการเข้าถึงเป้าหมาย

เรื่องการ hack ที่เกิดขึ้นในอดีต ได้แสดงให้เห็นว่า ตลาดยังคงมีการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่มีความล้าหลัง เมื่อคอมพิวเตอร์เครื่องแรกมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยมีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่รายที่มีการพิจารณาถึงปัญหาสถาปัตยกรรมระบบที่ไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านั้นจะถูกละเลย เนื่องจากระบบความปลอดภัยเหล่านั้นไม่ได้ให้ผลกำไรต่อองค์กร แต่กลับจะต้องเพิ่มการลงทุน ซึ่งจะเป็นผลลบในทางธุรกิจ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะค่อยๆคุ้นเคยกับปัญหาทางโลกไซเบอร์ที่ถูกสร้างขึ้น เช่น ไวรัส เวิร์ม และมัลแวร์ ซึ่งต้องใช้เวลาที่อุตสาหกรรมจะตอบสนองในการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว จนมันอาจจะสายเกินไป...แล้วผู้นำและผู้บริหารระดับสูงเช่นคุณล่ะ ยังนั่งยิ้มอยู่หรือเปล่า?

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 18 เมษายน 2560    
Last Update : 18 เมษายน 2560 4:02:48 น.
Counter : 221 Pageviews.  

แจ้งกองปราบจับนาวาตรีแพทย์หญิงตั้งบริษัททัวร์หลอกเพื่อนฟันเงินไป 64 ล้านบาท



เรืออากาศโทแพทย์หญิงพร้อมแพทย์ วิศวกร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อาจารย์มหาวิทยาลัยและเจ้าหน้าที่ทหารเข้าแจ้งความกองปราบถูกนาวาตรีแพทย์หญิงโรงพยาบาลรัฐหลอกร่วมหุ้นบริษัททัวร์แล้วฟันไปประมาณ 64 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2560 เวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา รุทธพิชัยรักษ์ อายุ 30 ปี แพทย์รพ.รัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมกลุ่มผู้เสียหายรวมกว่า 10 คน ประกอบด้วยหลากหลายอาชีพ อาทิ แพทย์ วิศวกร สจ๊วต อาจารย์มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่ทหาร รวมตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในบริษัททัวร์ชื่อ วี สยาม เอเจนซี่ จำกัด มีผู้เสียหายกว่า 38 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 64 ล้านบาท

เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา กล่าวว่า เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา กล่าวว่า ว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของตนได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนบริษัททัวร์และจองโรงแรมบริษัทของนายโจ้ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงร้อยละ 6 ถึง 18 ต่อเดือน ทำให้เพื่อนหลากหลายอาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์ถึงร้อยละ 50 ร่วมลงทุนด้วย ในอัตราที่แตกต่างกัน โดยมีการลงทุนตั้งแต่ต่ำสุด 80,000 บาท จนถึง 12 ล้านบาท

ซึ่งสาเหตุที่คนร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าวมีอาชีพเป็นแพทย์รพ.ดัง ทำให้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามการลงทุนธุรกิจ ไม่เหมือนกับแชร์ลูกโซ่เนื่องจากไม่ต้องชักชวนสมาชิกเพิ่ม และไม่ได้รับผลตอบแทนในการชักชวนสมาชิกเพิ่มแต่อย่างใด อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนสูง

เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา กล่าวว่า ตนถูกชักชวนให้ลงทุนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแต่ตัดสินใจลงทุนจริงเมื่อเดือนสิงหาคมเป็นเงิน 500,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว ก่อนที่เดือนต่อมาจะได้ปันผล แต่ตนไม่ได้ถอนเงินออกมา แต่กลับเพิ่มยอดเงินร่วมลงทุนเพิ่มไป ซึ่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงกุมภาพันธ์ ได้เงินคืนทุกเดือน รวมแล้วกว่า 300,000 บาท แต่ยังมีเงินที่ตนลงทุนค้างอยู่อีก 1 ล้านบาท กระทั่งเดือนมีนาคม ตนไม่ได้รับปันผล จึงพยายามทวงถามว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิง แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงอ้างว่าบัญชีถูกอายัด และไม่สามารถติดต่อได้ จึงโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ติด พร้อมไปตรวจสอบที่บ้านและที่ทำงานไม่เจอตัวพบว่าลาพักร้อน จึงเชื่อว่าถูกหลอก ตัดสินใจรวมตัวกันเข้าแจ้งความในที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก่อนรายงานให้ พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก.ทราบ จากนั้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพราะเป็นหน่วยงานที่รับเรื่องนี้โดยตรง

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 เมษายน 2560    
Last Update : 17 เมษายน 2560 23:27:44 น.
Counter : 307 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.