สภาการนสพ.-องค์กรสื่อสิ่งพิมพ์ จับมือตั้งคกก.รับเรื่องร้องเรียน จุดพลุ'ปฎิรูปสื่อ-ดูแลกันเอง'



วันที่ 17 .ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์แหงชาติ พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรสื่อมวลชน ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรหรือ Media Ombudsman ขึ้นในองค์กรสมาชิก ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์จากทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับดูแลกันเอง

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า การปฎิรูปสื่อที่สังคมเรียกร้องทำให้เกิดการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน เพื่อเป็นกลไกการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรสื่อนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปตัวเอง โดยคณะกรรมการ จะกำหนดให้มีกรรมการที่มาจากเจ้าของหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการ ผู้ปฎิบัติงาน และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกไม่น้อยกว่า 3 คนแต่ไม่เกิน 7 คน จากนั้นเมื่อมีการร้องเรียนว่า กรณีใดที่มีการละเมิดเกิดขึ้น ซึ่ฝตามธรรมนูญเดิมให้ร้องที่สังกัดหรือองค์กรนั้นๆ แต่ส่วนมากประชาชนจะมาร้องเรียนที่สภาการหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำให้กระบวนการตรวจสอบล่าช้า แต่เมื่อมีคณะกรรมการฯ ทำให้สามารถร้องเรียนได้ทั้งที่องค์กร และสภาการหนังสือพิมพ์รวมถึงมีอำนาจการสั่งการตรวจสอบได้โดยตรง และจะต้องพิจารณาให้เสร็จใน 30 วัน หากผู้ร้องไม่พอใจก็สามารถอุทธรณ์ได้

นายทพชัย หย่อง ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่แสดงความมุ่งมั่นในการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน อาจยังไม่เป็นคำตอบทั้งหมด แต่ต้องตอบสังคมได้ว่า สื่อสารมวลชนสามารถกำกับดูแลกันเองได้หรือไม่ในการควบคุมจริยธรรม แม้ยังไม่สมบูรณ์แต่ก็เชื่อว่าเป็นกลไกที่สามารถกำกับดูแลได้ หากมีอะไรไม่ถูกต้องก็จะมีกลไกดำเนินการกับสื่อเพื่อให้เป็นไปตามจริยธรรม และเสียงของประชาชนก็เป็นส่วนผลักดันที่จะคอยกำกับสื่อด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่นายมานิจ สุขสมจิตร คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร กล่าวว่า เป็นเครื่องพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่า เราสามารถดำเนินการกันเองได้ แต่อาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจน เพราะเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา ทุกอาชีพก็มีสภาวิชาชีพ ผู้บริโภคมีส่วนสำคัญที่จะคอยดูว่า สื่อไหนมีการละเมิดจริยธรรม ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็จะทำให้สื่อมีกรอบจริยธรรมที่ดี ส่วนการเรียกร้องเรื่องไม่ควรตีทะเบียนสื่อ คนมาทำหน้าที่สื่อควรจะเป็นคนจากไหนก็ได้ ที่มีใจในการอยากทำงานด้านสื่อมวลชน จึงเป็นจุดยืนเรื่องของการคัดค้าน.


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2560    
Last Update : 18 พฤษภาคม 2560 5:47:59 น.
Counter : 252 Pageviews.  

การบินไทยเผยรายได้ไตรมาสแรกปี 2560 กำไรลดลง 47.3% เหตุราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น



บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2560 มีกำไรสุทธิ 3,169 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนร้อยละ 47.3 ชี้สาเหตุหลักมาจากค่าน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงกว่าปีก่อน

 

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560 - นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2560 ว่า ในปี 2560 บริษัทฯ เข้าสู่ระยะที่ 3 ของแผนปฏิรูปองค์กรดำเนินงานภายใต้ 6 กลยุทธ์ โดยไตรมาสนี้มีการดำเนินการที่สำคัญ เช่น การยกเลิกทำการบิน ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองของสายการบินไทยสมายล์ โดยใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐานการบินเพียงแห่งเดียว โครงการติดตั้ง Crew Rest และอุปกรณ์ In-flight Connectivity บนเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 จำนวน 6 ลำ นอกจากนี้ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภากับบริษัท แอร์บัส อินดัสตรี และลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานระยะที่ 1 และการพัฒนาศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ ระยะที่ 1 กับกองทัพเรือ เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 โดยมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.6 มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยร้อยละ 82.8 สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ร้อยละ 77.5 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการบินที่ร้อยละ 80.1 และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 6.52 ล้านคน สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 10.1 ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาส 1 ของปี 2560 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 49,804 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยประมาณร้อยละ 0.8 สาเหตุสำคัญเนื่องจากรายได้จากค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกินลดลงจากการปรับอัตราค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายรวม 46,937 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3,934 ล้านบาท (9.1%) เนื่องจากค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 2,002 ล้านบาท (18.5%) จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 45.8% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 2,041 ล้านบาท (6.6%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยานเพิ่มขึ้น บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวมจำนวน 483 ล้านบาท และรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 1,017 ล้านบาท แต่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 1,560 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 3,169 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 3,157 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.45 บาท ลดลงจากปีก่อน 1.30 บาท (47.3%)

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2560    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2560 5:33:11 น.
Counter : 253 Pageviews.  

'สหประชาชาติ'ประณามเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ 'ฮวาซอง-12'



ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 14 ..ที่ผ่านมา จี้โสมแดงห้ามทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่ "ฮวาซอง-12" ซึ่งเป็นจรวดเชิงยุทธศาสตร์พิสัยกลางกึ่งพิสัยไกล ที่เกาหลีเหนืออ้างว่าสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้ ทำให้สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยชี้ว่าการกระทำยั่วยุครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกชาติเร่งใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนืออย่างเข้มงวด

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือละเมิดมติของสหประชาชาติที่ห้ามการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์นั้น ถือเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งในแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจาก 15 ชาติ ระบุว่าเกาหลีเหนือมีพฤติกรรมก่อกวน ต่อต้าน และยั่วยุ ซึ่งทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพอย่างมาก

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่เกาหลีเหนือ ต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการยึดมั่นตามข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรมในทันที และต้องให้ความร่วมมือเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ในภูมิภาคลงด้วย เพราะขณะนี้สหประชาชาติได้เตรียมพร้อมออกมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ครั้งใหม่แล้ว

ด้านนางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่จะนำมาใช้ลงโทษเกาหลีเหนือนั้น อาจรวมถึงการห้ามส่งออกน้ำมันและพลังงานประเภทอื่น ไปยังเกาหลีเหนือด้วย.


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2560    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2560 1:23:34 น.
Counter : 255 Pageviews.  

'อัศวิน' โพสต์เฟซบุ๊ค สั่งกทม.รับมือฤดูฝน-ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจุดเสี่ยง



วันที่ 16 .พล...อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทมโพสต์เฟซบุ๊คว่า "วันนี้ เวลา 01.30 มีฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ กทมต่อเนื่องจนถึงเวลา 09.30 โดยมีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน และกรุงเทพฯตอนล่าง วัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 100 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนเส้นทางสายหลักทั้งหมด 25 จุด ซึ่งทางกรุงเทพมหานครสามารถระบายน้ำและแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักได้ก่อนช่วงเวลาเร่งด่วน07.00 ."

"สำหรับกรณีซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ในเวลา 08.30 นั้น ถือว่ายังมีปัญหาอยู่มาก แต่หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปริมาณน้ำฝนใกล้เคียงกัน ต้องถือว่าการระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะสามารถระบายน้ำได้เร็วกว่าเดิมถึง 1 ชม. อย่างไรก็ตาม ผมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เตรียมการรับมือน้ำท่วมขังในฤดูฝนมาตลอดตั้งแต่ช่วงต้นปี ทั้งโดยการสำรวจและขุดลอกท่อระบายน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในบริเวณที่เป็นจุดอ่อนไหว"

"ผมเข้าใจและเห็นใจในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้โดยผมและเจ้าหน้าที่ กทม. มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะป้องกันและแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ครับ"


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2560    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2560 21:23:45 น.
Counter : 207 Pageviews.  

ตร.เผยองค์กรไทยถูก'มัลแวร์' เรียกค่าไถ่โจมตีแล้ว



ผบ.ตร.สั่งเฝ้าระวังมัลเเวร์'WannaCry' ด้านสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รับมีบางองค์การถูกโจมตีแล้ว

วันที่ 15 .. พล...ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการหามาตรการป้องกันการถูกโจมตีทางไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ WannaCry หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย หรือไทยเซิร์ท เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบได้มีการแจ้งเตือนให้แนวทางการปฏิบัติ แนวทางการป้องกันให้ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการหรือผู้ดูแลระบบ ต้องทำการอัพเดท windows ขึ้นไปอัพเดทซอฟท์แวร์ให้ทันสมัย หรือจะเข้าไปปรึกษาได้ที่www.thaicert.or.th

"ผู้ดูแลระบบ ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นคอมพิวเตอร์แรกขาย หากติดไวรัสแล้วจะส่งผลกระทบต่อลูกค้า และหากบริษัทใดหรือองค์กรใดถูกไวรัส จนได้รับความเสียหาย สามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งขณะนี้พบว่าในประเทศไทยมีองค์กรที่ถูกไวรัสโจมตีแล้วบางแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด"พล...ศิริพงษ์ กล่าว

ด้านพ...กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่ยอมรับว่า พล...จักรทิพย์ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆทั่วโลกก็มีความเป็นห่วงโดยเฉพาะตำรวจสากลได้แจ้งแผนประทุษกรรมมายังประเทศไทยแล้ว.


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2560    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2560 1:33:22 น.
Counter : 184 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.