ร.10 โปรดเกล้าฯทหารมหาดเล็กกำจัดผักตบชวาเขตดอนเมือง-จตุจักร



เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ร่วมกับหน่วยราชการและประชาชนจิตอาสาในเขตพื้นที่ ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมและการระบายน้ำให้ออกจากพื้นที่ชุมชนได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการกำจัดผักตบชวาที่กีดขวางการไหลของน้ำในคูคลองต่างๆ  บริเวณหมู่บ้านวังทอง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง และบึงประชานิเวศน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังจากดำเนินการแล้ว ทำให้คูคลองต่างๆ ไม่มีสิ่งกีดขวางการระบายน้ำทำให้ระบายน้ำออกไปสู่แม่น้ำได้อย่างรวดเร็ว และสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้เป็นอย่างดี


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2560    
Last Update : 8 มิถุนายน 2560 14:43:21 น.
Counter : 263 Pageviews.  

รฟม.สั่งห้ามใช้'รถเครน'ทั้งหมด เร่งทบทวนแผนความปลอดภัย



จากอุบัติเหตุรถเครนพลิกคว่ำขณะย้ายก้านเสาเข็มเจาะ บริเวณเกาะกลาง ถนนพหลโยธิน หน้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ในงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต –สะพานใหม่ – คูคต เมื่อวันที่ 7 มิ..ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า อุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.35 ของวันที่ 7 มิถุนายน 2560 บริเวณเกาะกลาง ถนนพหลโยธิน หน้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช โดยขณะเกิดเหตุนั้น กิจการร่วมค้า UN-SH-CH ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ได้ใช้รถเครน 55 ตัน หมายเลข 87 ทำงานยกก้านเสาเข็มเจาะจากรถเทรลเลอร์เพื่อเตรียมงานในพื้นที่ก่อสร้าง ในระหว่างที่กำลังจะวางก้านเสาเข็มเจาะไปยังด้านหลังรถเครนจนเกือบถึงพื้นนั้น กว้านรอก (wrinch) ที่ใช้ยกเกิดการล๊อคตัวในขณะที่ปล่อยลวดสลิงลง ทำให้เกิดแรงกระชาก (Shock load) ส่งผลทำให้รถเครนสูญเสียเสถียรภาพและพลิกคว่ำลงจากแรงกระชากดังกล่าวทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม. ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างฯ ระงับการปฏิบัติงานที่ใช้เครนทั้งหมดโดยทันทีพร้อมทั้งกำชับให้ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างและผู้รับจ้างฯ ดำเนินการทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขณะนี้ผู้รับจ้างฯ อยู่ระหว่างดำเนินการนำรถเครน 220ตัน จำนวน 2 คัน มาทำการกู้และเคลื่อนย้ายรถเครนคันที่พลิกคว่ำดังกล่าวออกจากพื้นที่ก่อสร้างโดยเร็วต่อไป.


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2560    
Last Update : 8 มิถุนายน 2560 9:53:35 น.
Counter : 227 Pageviews.  

รองโฆษกตร.ยืนยัน รถแลนด์ครุยเซอร์ในคดีค้าอาวุธสงครามจังหวัดตราด ไม่ใช่รถของผู้บริหารระดับสูงของประเท



พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่พบระเบิดลูกเกลี้ยง 6 ลูก น้อยหน้าอีก 2 ลูก และครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งที่บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ย่านบางเขนนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการคุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติม และในส่วนของทหารยศ "สิบโท" ที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ส่งและอยู่ในความควบคุมของทหารนั้น ยังไม่ได้รับประสานส่งตัวให้ตำรวจ ซึ่งทางพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สั่งการให้ตรวจสอบโดยละเอียด โดยสั่งให้ขยายผลไปถึงต้นทางและปลายทาง

ส่วนกรณีที่จับกุม พันจ่าอากาศเอกภคิน เดชพงษ์ อายุ 40 ปี  พร้อมนายจักรพงษ์ ไกรเรือง และนายพิสิษฐ์ เลียง ชาวกัมพูชา พบอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนภายในรถทะเบียนตรากงจักร ที่ประสบอุบัติเหตุตกถนน ใน จังหวัดตราด เมื่อคืนวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา  พร้อมมีประเด็นระบุว่ารถยนต์ยี่ห้อแลนด์ครุยเซอร์ที่นายพิสิษฐ์ขับนั้นเป็นของ ผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพูชา พันตำรวจเอกกฤษณะ ยืนยันว่าตรวจสอบแล้วรถคันดังกล่าวไม่ใช่ของบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งตรงกับที่ผู้บริหารระดับสูงของประเทศเพื่อนบ้านได้ออกมาให้ข้อมูล

ขณะที่ พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่าตรวจสอบการเดินทางเข้าและออกของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง พบว่าพันจ่าอากาศเอกภคิน ไม่พบการเข้าออกเลย ขณะที่นายจักรพงษ์ พบเดินทาง 11 ครั้ง ส่วนนายพิสิษฐ์ ชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออกบ่อยถึง 231ครั้ง โดยทุกครั้งเป็นการเข้าและออกถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงบุคคลเท่านั้น ส่วนสิ่งของหรือสัมภาระจะเป็นหน้าที่ของกมศกากร 


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2560    
Last Update : 8 มิถุนายน 2560 9:33:16 น.
Counter : 229 Pageviews.  

เรื่องสนุก-ทุกสัปดาห์ : "ผู้หญิง-ยิงเรือ"



"นี่ยายเจี๊ยบ  ไปจ้องอีตาคนนี้ได้ยังไง ไม่เห็นหล่อสักกะนิด"

พูดพลางมองตามหนุ่มทื่อ ๆ ที่ยืนขวางอยู่ข้างหน้า

      "ดูให้ดีซี เขาไม่หล่ออย่างเธอว่า แต่สมาร์ทมาก ทรวดทรงตรงเป็นเสาไฟฟ้า อย่างทหาร  ทุกสัดส่วนราบเรียบ สัมพันธ์กันหมด"

      "เอ้อ!! แต่นั่นมันหุ่นนะ ไม่ใช่คนสักกะหน่อย" เพื่อนพูดก่อนหัวเราะ

      "น้อย เธอชอบผู้ชายแบบไหน"

      "ซื่อ ๆ ซิ ฉันเป็นคนตรงอยู่แล้ว แล้วเธอล่ะนิด"

      "เราชอบเจ้าชู้นะ"

      "ต๊าย..ตาย ไหวเหรอ" น้อยร้องเสียงหลง

      "นี่จะบอกให้ คบผู้ชายเจ้าชู้ ถือว่าได้เรียนลัด ไม่ต้องบายสะเต็บเลื่อนทีละชั้น" นิดกระซิบแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อม ๆ กัน

     "นี่ !! จะบอกให้ ที่แนะเราไว้เข้าท่าเชียวล่ะ" ศรีสุดาทำมือประกอบ

     "เออเล่ามาเลย ไปถึงไหนกันแล้วล่ะกับพ่อหนุ่มน้อยหน้ามน" กุนซือถามเร็วปรื๋อ

     "เราชอบเขานะ ช่างสุภาพเสียจริง ๆ รูปก็หล่อ ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา แมนมาก ๆ"

     "ก็เห็นพูดอย่างนี้หลายครั้งแล้ว  ถามว่าไปถึงไหน เล่ามาซี" กุนซือหงุดหงิด

     "ก็ไปได้ไกลเชียวนะ ไปกินข้าวกัน 2 หน นี่กำลังนัดจะไปฟังเพลงด้วยกัน" ศรีสุดาพูดอ้อยสร้อย

    "ก็มัวแต่ไหว้ครู"

    "ต๊ายตาย ของอย่างนี้ต้องค่อย ๆ ซีคะ ต้องรู้เขารู้เราก่อนไม่ใช่หรือ แต่ที่แนะเราไว้น่ะเข้าท่า" ศรีสุดา ขยับเข้ามาใกล้เพื่อน

     "แนะเรื่องอะไรไว้จ๊ะ"

     "ก็ให้เขาเรียกเราว่าพี่ไงล่ะ เดี๋ยวนี้เขาเรียกพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้ บางทีก็จั๊กกะจี้นะ

ดูแล้วเขาแก่กว่าเราตั้งเยอะ"

      "ไม่เป็นไรน่า" กุนซือให้กำลังใจ "แทนตัวเองว่าพี่น่ะเป็นเท็คนิคเชียวล่ะ เขาจะได้สนิทกับเราอย่างง่ายดาย พอถึงคราวสำคัญ จะสั่งอะไร บอกอะไร เพียงแค่ยกนิ้วก็ได้ตามที่ต้องการ"

      แล้วทั้งลูกศิษย์ทั้งกุนซือก็หัวเราะพร้อมกัน

     "บอยเฟรนด์ทรงผมชะโงกคนนั้นไปถึงไหนแล้วเพื่อน"

    "ไม่ไหว คบกันไปถึงรู้ว่าทัศนะไม่ตรงกัน"

    "ไม่ตรงยังไงจ๊ะ"

    "คือเวลาเราผายลมก็จะค่อย ๆ ปล่อยไปทีละนิด ๆ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม"

    "แล้วะขาทำลายสิ่งแวดล้อมล่ะซี"

    "ยิ่งกว่านั้นเสียอีก ทั้งส่งเสียงดัง,ทั้งหัวเราะ ทั้งอบอวลด้วยกลิ่นที่ชวนให้สลบในทันที"

   "อ้อ!  เห็นด้วยอย่างยิ่งจ้า.."

   "คุณรู้ไหม...ว่า. ยามที่ผมอยู่ใกล้คุณ มันเหมือนกับน้ำทิพย์ชะโลมหัวใจ" หนุ่มขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวที่ถอยร่น

   "ปากหวานอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนใช่ไหมคะ"

   "กลีบดอกไม้ที่สดสวย มีหรือที่ภมรจะไม่ดอมดม". หนุ่มเริ่มบทลิเกโบราณ

   "เชยชมแล้วก็บินหนี". สาวเจ้าหลงเข้าไปในวงลิเกด้วย

   "นี่น้อง ทำไมมานั่งอยู่ที่มืด ๆ อย่างนี้ล่ะ".  หนุ่มสมาร์ทเดินเข้าไปทักสาวทันสมัยระเบียงผับของยามค่ำ

      อนงค์นั้นยิ้มพราย หลบสายตาลงต่ำจนหนุ่มย่ามใจ ขยับกายเข้าไปใกล้

   "คืนนี้อากาศอบอ้าวเสียจริง. คุณหนวกหูเสียงเพลงใช่ไหม" พลางสบตาให้ล้ำลึก สาวไม่ตอบ แต่ส่งสายตาเป็นนัยของไมตรี

หนุ่มยิ้มสุดกว้างขวาง มองเห็นชัยชนะอยู่ข้างหน้า

   "ผมมาคนเดียว คุณมากับเพื่อนใช่ไหม"

     อนงค์นั้นส่ายหน้าช้า ๆ ทำให้หนุ่มลำพองจนเนื้อตัวสั่นเทา

  "เข้าไปเต้นกับผมให้สนุกกันดีกว่านะครับ" คราวนี้เอื้อมไปประคองอนงค์นั้นจนสุดที่จะขัดขืน

 "น้องยังไม่ได้บอกว่ามาคนเดียวใช่ไหม" หนุ่มถามรุกใกล้ใบหน้าที่หอมกรุ่นด้วยแป้งประทินโฉม

   "บอกมาซีว่ามาคนเดียว" หนุ่มรุกพลางลูบไล้ผมจนอนงค์ถอยกรูด

  "เบา ๆ เดี๋ยววิกหลุดพี่  มาคนเดียวครับ"

"รู้ไหมว่ายายแดงมีแฟนใหม่แล้ว" เพื่อนบอกเพื่อน

"อ้าว ! แล้วกัน.เธอก็อยู่คนเดียว" เพื่อนที่ได้ฟังกังขา

"เปล่า เธอก็มีแฟนใหม่ ทั้งหล่อทั้งรวย"

"ก็สบายไปซี"

"จะสบายยังไง รวยไม่จริง หนี้เยอะแยะ ผ่อนทั้งนั้น" เพื่อนเล่าต่อ

"ว้า!! อย่างนี้ก็โชคไม่ดี"

"ก็ไม่ถึงอย่างนั้นนะ หนี้เก่าเธอไม่เกี่ยว เลิกกันไปอีกแล้ว ได้เงินทองมากองหนึ่ง"

"ก็สบายไปซี" เพื่อนแสดงความรู้สึก

"จะสบายยังไง แฟนเก่ากลับมาขอคืนดี" เพื่อนเล่า

"อัยย่ะ !! อย่างนี้ก็โชคไม่ดี"

"ก็ไม่ถึงอย่างนั้นหรอก  แฟนเก่าคงสำนึกได้ ทำมาหากินก็ต้องมีเงินมีทองล่ะ"

"ก็สบายไปซี" เพื่อนแสดงความรู้สึกอีก

"จะสบายยังไง เดินอีท่าไหนไม่รู้รถชนต้องหามเข้าโรงพยาบาล"

"อัยยะ. อย่างนี้ก็โชคไม่ดี" พูดเสร็จกระโดดเข้าหาคนเล่าแล้วบอก

"อย่าพูดนะว่า ก็ไม่ถึงอย่างนั้นหรอก...."

      ทั้งคู่หัวเราะพร้อม ๆ กัน

"เย๊ ววว. ศรีสุดา คุยกันก่อน. ไม่มองกันเลยนะ แหม!! หน้าระรื่นเชียว นี่กี่เดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน"กุนซือสาวใหญ่รีบคว้ามือเพื่อน

      สาวเจ้าถอนหายใจก่อนหันมายิ้มแห้ง ๆ ดวงตาละห้อย

      "ทำไม!! เกืดอะไรขึ้น" กุนซือเขย่าแขน

      "ก็อีตาคนนั้น !!"

      "เขาตัดสัมพันธ์เธอล่ะซี" กุนซือรีบถาม

      "ไม่ได้ตัด ดีกันกว่าเดิมด้วยซ้ำ" ศรีสุดา

      "อ้าว! แล้วเป็นยังไง"

      "ก็พี่อย่างนั้น,พี่อย่างนี้. คำก็พี่,สองคำก็พี่ ทั้งแหวนทั้งสร้อยเอาของพี่ไปแล้ว"

      "ตายจริง ปอกลอกรึเปล่าเพื่อน"

      "ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรดี เขาเอาไปหน้าตาเฉย, บอกว่าจะไปทำให้ใหม่ เงียบไปเป็นเดือน ๆ

แล้วก็ยังเฉย" ศรีสุดาพูดเหมือนท้อแท้

      "นี่!! ไปแจ้งความ แนะให้ไปแจ้งความ"

      "แนะอีกแล้วหรือ"

      "เถอะน่า". กุนซือร้อนรน

      "ไม่ต้องแจ้งแล้วล่ะ ข้าวของไม่หายไปไหนหรอก เชื่อเรา"

      "เธอทำยังไง"

      "นี่ดูนี่"  พลางล้วงกระเป๋าหยิบกระดาษออกมาคลี่

      "ตั๋วจำนำล่ะซี"

      "เปล่า. เราให้เขาจดทะเบียนสมรสกับเราแล้ว"

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2560    
Last Update : 8 มิถุนายน 2560 3:48:36 น.
Counter : 253 Pageviews.  

เตือน 'ระนอง-พังงา-ชุมพร' รับมือดินถล่ม-ดินไหล-น้ำป่าไหลหลาก หลังปริมาณฝนตกเกิน 100 มม.



กรมปภ.เตือน 3 จังหวัดใต้ ระนอง-พังงา-ชุมพร เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย

 

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ วัดปริมาณฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร(มม.) ทำให้ระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้น และชั้นดินอุ้มน้ำไว้มาก อาจทำให้เกิดดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ โดยเฉพาะลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ระนอง พังงา) และลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ชุมพร) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 3 จังหวัดภาคใต้ รวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย ระนองจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์ พังงา 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี ชุมพร 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอละแม รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่มดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ให้จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย และติดตั้งป้ายเตือนบริเวณพื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือช่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี สื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนปฏิบัติการฯ แผนเผชิญเหตุของอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางการจัดการสาธารณภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน

"หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพ ให้รายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางเพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป"นายฉัตรชัย กล่าว


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2560    
Last Update : 7 มิถุนายน 2560 14:23:40 น.
Counter : 247 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.