มีใครเคยดูรายการ "น้ำพริก" ทาง True Vision ช่อง Expore 2 บ้างครับ ผมนี่เรียกได้ว่าเป็นแฟนเหนียวแน่นเลยครับ ดูทั้งที่ออกอากาศจริงแล้วก็รีรันทุกครั้ง จนมาเมื่อไม่นานมานี้ถึงได้รู้ว่ารายการนี้มีที่มาจาหนังสือชื่อเดียวกันของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เลยไปตามหามาจนได้จากร้านดอกหญ้าครับ
จริงๆได้มาพักใหญ่แล้วครับ ยังไม่ได้เปิดทำซักสูตร แต่ได้ทำสูตรที่จดออกมาจากทีวีไปแล้วสูตรนึงคือน้ำพริกมาตราฐาน
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=chubbylawyer&month=18-02-2010&group=2&gblog=105
สิ่งที่ผมชอบหนังสือนี้มากที่สุด ก็เพราะว่าเป็นหนังสือที่มีเมนูน้ำพริกหลายสิบเมนูเลยนะครับ ล้วนแต่เป็นน้ำพริกที่หาเครื่องปรุงง่ายๆมีในครัวของเราทั้งนั้น
วันนี้ขอเสนอเมนู "น้ำพริกพริกไทยอ่อน" ในบทที่ 14
(ในหนังสือเค้าเรียกว่า "น้ำพริกพริกไทยสด" อิอิอิ)
ส่วนผสมก็มีกระเทียม พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง กระปิดี พริกไทยอ่อนรูดเอาแต่เม็ด แล้วก็เนื้อหมูติดมันหั่นชิ้นเล็กๆ
ขั้นแรกก็โขลกกระทียมให้ละเอียดก่อนครับ แล้วใส่กระปิลงไป ตำให้เข้ากัน
พอกระปิกับกระเทียมเข้ากันดีก็ใส่พริกชี้ฟ้าลงไปตำให้แหลกพอประมาณนะครับ ไม่ต้องให้ละเอียดมาก ใส่พริกไทยอ่อนลงไปตำบุบพอแหลกครับ
จากนั้นหันไปตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปหน่อยนึงครับ พอน้ำมันร้อนได้ที่ก็ใส่หมูติดมันหั่นชิ้นเล็กๆลงไป พอหมูใกล้ๆจสุกทั่วก็ใส่น้ำพริกที่ตำเอาไว้ลงผัดให้เข้ากันดี
ใช้ไฟอ่อนๆนะครับ เพราะจะต้องผัดให้แห้งนิดๆครับ พอเริ่มงวดก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผมว่าผมใส่หมูเยอะไปแน่ๆ เพราะทำออกมาแล้วเหมือนหมูผัดน้ำพริกมากกว่าเป็นน้ำพริก อิอิอิ เดี๋ยวแก้ตัวใหม่นะครับ อิอิอิ
รับประทานกับผักสดต่างๆ ตามชอบเลยครับ ที่สำคัญในรายการโทรทัศน์เค้าจะใส่กากหมูลงไปผัดด้วย จะเป็นกากหมูบางๆนะครับ แต่ผมเอามากินแกล้มครับ อิอิอิ
น้ำพริกตำหรับนี้ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ชิมที่บ้านของ ม.ล. คลอง ไชยยันต์ ท่านบอกว่าน้ำพริกนี้ไม่มีรสเปรี้ยวเหมือกับน้ำพริกครกอื่นๆ และไม่ได้มีความเผ็ดจากพริกขี้หนูเลย แต่น้ำพริกครกนี้จะได้ความเผ็ดมาจากพริกไทยอ่อน ซึ่งเป็นพริกดั้งเดิมของคนไทย
ท่านยังได้ให้ความรู้เรื่อง "พริก" เอาไว้อีกว่า ..
เดิมเรามีแต่พริกไทยเท่านั้น ดังนั้นสูตรอาหารที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจะใช้พริกไทยในการปรุงอาหาร เช่น แกงเลียง เป็นต้น
ส่วน "พริกขี้หนู" นั้นบาทหลวงชาวตะวันตกเป็นผู้นำเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีแหล่งกำเนิดจริงๆอยู่ในอเมริกากลาง ท่านจริงเรียกพริกพวกนี้ว่า "พริกเทศ" ให้ต่างจาก "พริกไทย" ซึ่งเป็นของไทยแท้ๆ
ถึงไม่ได้มีรสเปรี้ยวและเผ็ดพริกเทศ แต่เรียกได้ว่าน้ำพริกครกนี้ เผ็ดได้ลึกซึ้งกว่าจากพริกไทยที่ใส่เข้ามา ผมว่าพริกไทยมันจะเผ็ดลึกซึ้งกว่าพริกเทศนะครับ สังเกตุดูเวลาเราทานข้าวต้ม เหงื่อจะออกมาก แล้วจะรู้สึกว่าร้อนอยู่ในปากนานทีเดียว ส่วนพริกเทศจะเป็นอาการ "แสบ" ซะมากกว่า
เมนูนี้ก็เช่นกันครับ นึกว่าจะไม่เผ็ด แต่พอกินไปเรื่อยๆ เหงื่อออกหัวเลยครับ ร้อนนนมากกกกก
ครัวทนายอ้วน........................ Home ............... for food lovers.
เด๋วลองทำตามพี่ทนายดูนะค่ะ