พี่หมู เป็น Executive Secretary อยู่ที่บริษัทที่ผมทำงานสมัยกลับมาจากเมืองนอกใหม่ๆ วันแรกที่เห็นพี่หมูทำงานรู้สึกว่าพี่คนนี้เก่งโค ตะ ระ .... รู้ทางหนีที่ไล่ของนายทุกอย่าง ไม่ว่านายจะมีคำถามอะไรพี่หมูตอบได้หมด แถมยังมี option ให้นายเลือกได้อีกนะว่าจะเอาอย่างไหน พร้อนความเห็นประกอบ สุดยอดเลขาจริงๆอ่ะ ในใจคิดเลยตั้งแต่วันที่ได้เจอพี่หมู ซักวันเราจะต้องเก่งอย่างพี่เค้าให้ได้
เมื่อปี 2008 ตั้งแต่ต้นปีเลย พี่หมูเจอเคราะห์หนัก .... ตรวจเจอมะเร็งเต้านม .... ขั้นที่ 1-2 พี่หมูซึม เครียดไปเกือบเดือนในช่วงที่ยังไม่รู้ว่เป็นแน่หรือเปล่า เล่นเอาแผนกระส่ำระสายไปพักใหญ่ เพราะปกติพี่หมูจะเป็นคนสนุกสนานร่าเริง หัวเราะได้ตลอด คราวนี้พี่หมูเครียดจัดข้าวปลาไม่กิน เงียบเป็นคนละคนเลย ... น้องๆ รู้สึกน้อยใจอยู่อย่างนึง ทำไมพี่ถึงไม่บอกให้น้องๆรู้เลย... อย่างน้อย น้องๆจะช่วยปลอบให้พี่เบาใจได้บ้าง
จนพี่หมูแน่ใจแล้วว่าเป็นแน่จึงตัดสินในเด็ดขาด ผ่า !!! พี่หมูเป็นหญิงใจเด็ดมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะใจเด็ดขนาดนี้ พี่หมูลาไปผ่าตัด 3 เดือน กลับมาก็ยังต้องไปทำเคโม อีกเกือบปี...ตอนนี้พี่หมูกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมทุกอย่าง
พี่หมูบอกว่าปี 2008 เป็นปีชง เพราะเป็นปีชาว และพี่หมูก็เกิดปีชวด.... ใครจะไปคิดว่าเป็นเรื่องจริง พอสิ้นปีผมก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลด้วย ... ผมเกิดปีชวด ห่างจากพี่หมู 12 ปี พอดี !!!
อาหารสูตรนี้ได้มาจากร้านของพี่หมูเองที่ตลาดน้ำบางนกแขวก พี่หมูและ "เฮียเกียรติ" พี่ชายของพี่หมู ได้ไปลงทุนทำร้านอาหารมานานแล้วตั้งแต่ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ อาหารตามสั่งอื่นๆ จนมาถึง "ข้าวแห้ง" สูตรโบราณของเตี่ยพี่หมู คราวนี้ขายดิบขายดีดังเป็นพลุแตก ถึงขั้นออกรายการ "ปิ่นโตเถาเล็ก" เล่นเอาพี่หมูหน้าบานไปพักใหญ่ เพราะงานนี้ปิ่นโตเถาเล็กสัมพาษณ์พี่หมูเต็มๆ
พี่หมูบอกเคล็อชดลับมาว่า "ทนายอ้วน...." พี่หมูชอบเอาชื่อล็อกอินพันทิบมาล้อผม
"อย่าลืมใส่ข่า กะ ตั้งฉ่ายนะ ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว กะ ซีอิ๊วดำ หน่อนนึงด้วยล่ะ ถึงจะอร่อย" ..............จ้า พี่หมู อิอิอิ
ที่ร้านพี่หมูมีข้าวแห้ง หมู ไก่ กระดูกหมู ให้เลือก แต่ร้านผมใส่ไก่กะหมู อิอิอิ
ผมใส่เลือดไก่ด้วยอ่ะ เพราะชอบกันเป็นการส่วนตัว ไม่ลืมใส่ข่าทุบๆ ซัก 2 แว่น ตั้งฉ่ายหยิบมือนึง มีกระเทียมเจียวกรอบๆ ไว้โรยหน้า ต้นหอม ผักชี คึ่นฉ่ายซอย เตรียมไว้ให้พร้อมครับ
เอาหมูสับกะไก่ไปผัดในน้ำมันน้อยๆ เพราะเราไม่ต้องการให้มันมากครับ เติมน้ำลงไปหน่อยนึงครับ เอาแค่ขลุกขลิกพครับ เพราะว่าเราจะไม่ให้น้ำเยอะๆเหมือนกันครับ ใส่ข่าลงไป นอกจากจะดับคาวแล้วยังสร้างกลิ่นพิเศษให้ข้าวแห้งอีกด้วย ใส่ตั้งฉ่ายลงไปด้วยเลยครับ
ปรุงรสด้วย น้ำตาลหน่อยนึง ซีอิ๊วขาว และ ซีอิ๊วดำ พอไก่สุกดีก็ปิดไฟได้ครับ
ส่วนเลือดก็ใส่หม้อต้มเอาไว้ พอเดือดสักพักก็ปิดไฟได้ครับ
ตักราดข้าวเลยครับ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี คึ่นฉ่ายซอย ปรุงรสด้วย น้ำส้มพริกดอง พริกป่น เพื่อรสชาติที่เพิ่มขึ้นครับ
รสชาติจะเหมือนข้าวต้มนะครับ มันจะมีน้ำขลุกขลิกเท่านั้น เป็นรสชาติที่แปลกดีครับ ไม่เลยทานที่ไหนมาก่อนเลย อร่อยดีครับ
ผมว่าเหมาะกันหน้าร้อนนะครับ ไม่ต้องซดน้ำร้อนๆ ให้เหม่งเปียก อิอิอิ ไม่ถึงกับแห้งมากนะครับ เพราะว่ามันจะมีน้ำขลุกขลิกๆ
ถ้าจะเอาที่อร่อยจริงๆ ต้องไปร้าน "ข้าวแห้งเฮียเกียรติ" ตลาดน้ำบางนกแขวก เลยครับ รับรองว่าอร่อยกว่าของผมเป็นไหนๆ ..... มันจะเข้าข่ายโฆษณาป่าวหว่า...
ครัวทนายอ้วน................... Home ............. for food lovers.