• It's an ordinary life
• The diary from far far away
• มั๊งค๊ะ? (manga)
• อยากสวยเราช่วย(ไม่ค่อยจะ)ได้
• my resume
• เอะอะ ก็ญี่ปุ่นๆ

ว่าด้วยเรื่องน้องหมาสุดที่รัก ช่วงนี้ คิดถึงน้องสาวสุดที่รักเหลือเกิ๊น ถึงขนาดเก็บเอามาฝันถึงเลยนะนี่ ว่าแล้ว ก็เลยเขียนถึงคุณเธอซะหน่อยดีกว่า คุณเธอ ชื่อ แหมมๆ อย่าถามความหมายนะคะ เพราะชื่อนี้ เสด็จพ่อพูดเองเออเอง ไอ้เราก็คาดไม่ทันเพราะ พอมาถึงบ้าน พ่อก็เรียก "แหมมๆ" ไปเรียบร้อยแล้ว (พ่อเป็นคนพาแหมมๆมาที่บ้านน่ะ)เสด็จพ่อเค้าว่า ตอนเค้าพามา มันคราง"แหมมๆ"น่ะ (หมามันร้องแหมมๆได้ด้วยเหรอฟะ?) แหมมๆเป็นลาบาดอร์ผสมกะอะไรไม่รุ รู้แต่ว่า ผสมออกมาได้หน้าตาน่ากลัวสุดๆ บวกกะขนที่ดำเมี่ยม เงาวับ ตัวสูงใหญ่ ตีนโตอีกตะหาก เลยพาลทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา เพื่อนๆที่มาที่บ้านอิชั้น รวมทั้งบุรุษไปรษณีย์ หนุ่มส่งพิชช่า พาลกันกลัวคุณเธอไปหมด ทั้งๆที่เธอวิ่งควบมาจะเล่นด้วยแค่นั้นเอง (ที่ใช้ verb ควบ เพราะ เสด็จแม่เคยบอกว่า แหมมๆวิ่งที่บ้านกระเทือน วิ่งอย่างกะม้า เลยใช่คำว่า"ควบ"แทน ตอนนี้ แหมมๆอายุได้ 2 ปีครึ่งแล้ว กำลังโตเป็นสาว ขี้เล่นตามประสาหมาพันธุ์นี้ แต่เนื่องจากตัวที่ล่ำ บึกบึน คุณเธอเลยชอบเล่นแบบแรงๆแบบไม่มียั้งด้วยน้ำหนักสามสิบกว่าโลฯของคุณเธอเลยทีเดียว คนที่ซวยสุดคือ เราน่ะเอง เพราะมันเล่นแบบไม่เกรงใจเลย แหมมๆจะกลัวพ่อกะน้องมากที่สุด แล้วแหมมๆไม่กลัวเราเลย ดุก็ไม่ฟัง ทำท่าฮึ่มๆใส่ก็ไม่สน เรื่องเล่าวีรกรรมของแหมมๆ 1. แหมมๆเคยเป็นฆาตกร เหตุเกิดที่โรงพยาบาลสัตว์ เมื่อเราพาแหมมๆไปตรวจสุขภาพตามปกติ แต่พอดีวันนั้นลูกค้าเยอะมาก แหมมๆต้องรอนาน พอคุณเธอเริ่มเบื่อ ก็เริ่มหาเพื่อนคุย คุณเธอเริ่มที่จะไปทำความรู้จักเพื่อนข้างๆ ข้างหน้า สรุปคือ คุณเธอเห่าไปเรื่อย จนกระทั่งเหยื่อของแหมมๆเดินเข้ามา เจ้าของเหยื่ออุ้มเหยื่อมาแบบประคบประหงมสุดๆ ใส่กล่องโอบมาอย่างดี เราแอบมองไปเห็นว่า มันคือลูกแฮมสเตอร์สี่ห้าตัว นอนขดอยู่บนผ้าขนหนูนุ่มๆ น่ารักมากมาย เสด็จแม่ไม่รอช้า เข้าไปทักทายตามประสาคนกำลังเบื่อ (ตอนนั้นรอนานมาก จนเบื่อกันทั้งคนทั้งหมา น่ะแหล่ะ) คุยกันแป๊ปๆ แต่ก็พอรู้ว่าแฮมสเตอร์ของเธอป่วย เลยเอามาให้คุณหมอเชคอาการดู แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แหมมๆคงอยากจะแจมบทสนทนาด้วย เงียบๆอยู่ดีๆ กลัวโดนลืมเลยเห่าออกมาทีนึงดังๆ ลูกแฮมสเตอร์สะดุ้งเฮือกนึง เจ้าของแฮมสเตอร์ก้มหน้าดู พร้อมจับๆเขย่าๆ เจ้าของแฮมเตอร์เงยหน้ามา มองมาทางเรา ยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกะบอกว่า "สงสัยแฮมสเตอร์หนูมันคงหัวใจวายตายไปแล้วอ่ะค่ะ" เรากะเสด็จแม่ ---เงียบฉี่---หันไปมองหน้าแหมมๆ ส่วนแหมมๆก็มองกลับ ทำนองว่า หนูทำไรผิดเหรอคะ? ประมาณนั้น ว่าแล้ว เราก้อยิ้มเจื่อนๆกลับ แล้วบอกว่า "ขอโทดนะคะ หมาหนูมันไม่ได้ตั้งใจ" แต่เจ้าของเหนื่อผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่ได้ถือสาอะไร กลับบอกว่าไม่เป็นไรเสียอีก ว่าแล้วแม่ก็รีบไปจ่ายตังค์ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลมาแบบรู้สึกผิด 2. แหมมๆคือนักล่า(หนู) "วิ่งไล่จับหนู" คือ กิจกรรมที่ทำให้แหมมๆถึงกะลืมกินข้าวได้ และทุกครั้งที่จับได้ จะต้องเอามาอวดเราซะทุกครั้งไป ถ้าเจอเราก็จะคาบมาอวด แต่ถ้าไปเจอก็จะคาบมาวางไว้ที่หน้าบ้าน บางทีมีครบทั้งตัว บางทีก็มาแค่ครึ่งบน หรือครึ่งล่าง ตามโอกาส แต่ที่รู้ๆคือ มันก็หนู น่ะแหล่ะ เคยไปเอาไปทิ้งทีนึง แต่พอดีขี้เกียจเดินไกล เลยโยนๆไปตรงแถวๆรั้วข้างบ้าน แหมมๆมันคงโกดอ่ะ ที่เอาหนูที่คุณเธออุตส่าห์ไล่จับมาไปทิ้ง คุณเธอเลยไปคุ้ยกลับมา แถมคราวนี้ คาบมาโยนใส่เราเลย เราก็กรี้ดสิคะ หลบแบบmetrixเลย บิดทุกส่วนของร่างกายที่คิดว่าจะโดนซากหนูได้ไปมา ปล. ไม่ได้เกลียดหนูนะ แต่มาเป็นศพแบบนี้ ไม่ว่าอะไรก็ม่ายอาวทั้งนั้นอ่ะ วีรกรรมแหมมๆยังมีอีกเยอะแยะ แต่วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า เพราคนเขียนเมื่อยแล้ว ฮิฮิ ปล. ตอนนี้ สายคาบข่าวมาบอกว่า แหมมๆมีหนุ่มข้างบ้านมาติด ถึงขนาดมาของอนุญาติแม่ พาแหมมๆไปเดินเล่นกันทีเดียว แต่ขอโทดทีคะ สิบห้านาทีเท่านั้น หอบทั้งคนทั้งหมา (ไม่รู้ฤทธิแหมมๆซะแล้ว คุณเธอเดินเล่นไม่เป็นหรอก เป็นแต่วิ่งควบเท่านั้นแหล่ะ อิอิ) คิดถึงแหมมๆนะจ๊ะ   Create Date : 25 เมษายน 2550     Last Update : 25 เมษายน 2550 11:22:46 น. Counter : 415 Pageviews.   7 comment Share Tweet

มือใหม่หัดสร้างblog เลยขอแนะนำตัวกันซักนิ๊ดส์ สาว(ตัวไม่)น้อยที่ชื่อเสียงเรียงนามช่างขัดกะบุคคลิกอย่างชัดเจนชื่อออกจะอ่อนหวาน น่าทะนุทะนอมเป็นที่สุด แต่จิงๆแล้วกลับเป็นคนห้าวนิดๆ สมบุกสมบันสุดๆ เป็นคนง่ายๆ เฉื่อยๆแฉะๆ ไม่ค่อยคิดอะไรมาก จนบางครั้งก็ตามไม่ทันชาวบ้านเค้าเหมือนกัน โดนหลอกใช้มาก็มาก แต่เพราะไอ้ไม่คิดอะไรเนี่ยแหล่ะ เลยไม่ค่อยซีเรียสกะมันเท่าไหร่นัก ปกติเพื่อนชอบว่า หน้าดุ เงียบ แต่ก็เฉพาะกะคนทั่วไปอ่ะนะ ถ้าสนิทแล้วจะรู้เลยว่า อีนี่ ใจเย็นและยังหน้าตายได้อ่ะ ถึงจะเงียบๆ แต่ถ้ารักใครแล้ว รักเลยนะ เต็มใจช่วยสุดๆ ยอมแทบทุกอย่างอ่ะ คำพูดติดปาก คือ "ช่างมันเหอะ"   Create Date : 13 เมษายน 2550     Last Update : 13 เมษายน 2550 18:08:56 น. Counter : 222 Pageviews.   13 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com