Group Blog
 
All blogs
 

หาแรงจูงใจ ออกกำลังกาย

รู้ใช่ม้าว่า การออกกำลังกายน่ะ มีประโยชน์ ต่อสุขภาพ ขนาดในทีวียังรณรงค์ให้ประชาชนเซ็กเซอร์ไซส์ เอ้ย...เอ็กเซอร์ไซส์เลย เพราะสมัยนี้น่ะถ้าไม่ดูแลตัวเองแล้วจะให้ใครมาสนอีกล่ะจ๊ะ (ยิ่งนิยมเป็นโสดกันเยอะซะด้วย) เออ...แล้วไม่ต้องรอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยไปออกหรอก เพราะตอนป่วยน่ะ ควรพักผ่อนมากกว่า ขืนไปโหมออกกำลังมากๆ เข้าเดี๋ยวร่างกายจะทรุดเข้าไปใหญ่
แต่ถ้าอยากยืดเส้นยืดสายตอนป่วยจริงๆ ควรออกเล็กๆ น้อยๆ พอสงสารสังขารของตัวมั่งเหอะ ใช่ว่าร่างกายเป็นเหล็กที่ไหนล่ะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เป็นไง ไม่ค่อยไปออกกำลังวังชายืดเส้นยืดสายให้เป็นเรื่องเป็นราว เท่า ทว่า มีข้ออ้างต่างๆ นานา นี่นาว่า...ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกายอย่างจริงจังได้ เพราะสัปดาห์นึงมีวันหยุดเพียงวันเดียว พอถึงวันนั้นเราก็เหนื่อยจากงานจะแย่ คงมีแรงไปออกกำลังกายหรอก
หรือหากใครโชคดีทำงานแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ แม้มีเวลามากกว่ากลุ่มแรกหน่อย แต่บางรายก็ ต้องทำงานบ้านเอง ไม่ได้มีคนรับใช้มาคอยทำให้นี่หว่า แล้วทำงานบ้านน่ะ ถ้าใครไม่เคยทำคงไม่รู้หรอกว่าหนักหนาสาหัสขนาดไหน? ยิ่งมีบ้านใหญ่โตมากเท่าไหร่ก็ต้องทำความสะอาดกันหน้ามืดมากเท่านั้น แค่นี้ก็หมดเวลาไปยืดแข้งยืดขาในท่าสวยๆ แล้วล่ะ
เอ...ที่จริงการทำงานบ้านก็เท่ากับออกกำลังกายไปในตัวไม่ใช่เรอะ แต่แทนที่จะออกในท่าวิ่งบนเครื่องสายพานหรือยกดรัมเบล ก็เปลี่ยนมาเป็นการเช็ดถู และยกถังน้ำแทน ส่วนข้ออ้างที่ใครๆ งัดมาใช้กันมากที่สุด เห็นจะไม่พ้นคำว่า “ขี้เกียจ” น่ะซี แต่บางคนยืนยันว่าไม่ได้ขี้เกียจร้อก กลับรู้สึกเสียเวลามากกว่า เช่นแทนที่จะเอาเวลาไปกะหนุงกะหนิงกะแฟน, เล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรือไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบมากกว่า อย่างไปดูคอนเสิร์ต หรือไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ก็สู้ไปทำกิจกรรมเฮฮาหยั่งนี้ไม่ดีกว่าเหรอ เรื่องไรจะออกกำลังกายคนเดียวโดดเดี่ยวอย่างเดียวดายล่ะ
จึงพอสรุปได้ว่า ที่ไม่ค่อย ได้ออกกำลังกายกันเพราะขาดแรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจ นั่นเอง ทั้งๆ ที่รู้นะ ว่าออกกำลังแล้วดี ยิ่งใครมีเวลาว่างมากก็ยิ่งได้เปรียบ ที่จะไปเล่นกีฬาหรือเข้าโรงยิมฯเผื่อคลายเหงา ส่วนคนมีงานทำก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน ถ้ามีเวลาก็เจียดไปหน่อยเหอะ แล้วคิดดูดิว่าอะไรล่ะเป็นแรงกระตุ้นให้อยากไปออกกำลังกายมั่ง? ถ้านึกไม่ออกบอกให้ก็ได้

1. บางท่านแนะว่า จงไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสที่ไหนสักแห่งไว้ก่อน เมื่อจ่ายตังค์ไปแล้ว เดี๋ยวความเสียดายก็ต้องไปออกกำลังกายเอง เพราะค่าสมาชิกหลายตังค์อยู่ ถือเป็นแรงจูงใจที่ใช้ได้ทีเดียว

2. ถ้าอยากมีกำลังวังชาดี บางทีไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกที่ไหนก็ได้ แค่หาสวนสาธารณะที่ปลอดภัยสักแห่งแล้วขี่จักรยาน หรือเดินดมกลิ่นดอกไม้ซะมั่งก็ได้นี่ แต่อากาศบ้านเราเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนจึงควรกะเวลาให้ดีๆ

3. ลงทุนซื้อชุดออกกำลังให้สวยๆ ดิ จะได้เพิ่มความอยากใส่ไปออกกำลังกายไง


ที่มา ไทยรัฐ




 

Create Date : 06 กันยายน 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 19:01:30 น.
Counter : 418 Pageviews.  

ยาทาเล็บแบบใส . . .ทำอะไรได้บ้าง

ยาทาเล็บแบบใสไม่เพียงแค่เคลือบเล็บให้แข็งแรงและน่าดู มันยังช่วยงานอื่นๆ ของคุณได้ด้วย

ถ้าคุณกำลังสนุกกับการทำโมเดลหรืองานฝีมือที่ต้องใช้กาวติดชิ้นส่วนพลาสติก แต่กาวเกิดขาดมือ ลองใช้ยาทาเล็บแบบใสติดชิ้นส่วนพลาสติกแทนกาว มันใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน หรืออาจใช้ในการติดอัญมณีปลอมๆ บนเครื่องประดับที่หลุดออกมา หรือใช้ตรึงน็อตที่หลวมก็ได้


เครื่องประดับแบบราคาไม่แพงอาจสูญเสียความมันวาวไปได้เมื่อใช้ไปนานๆ เพื่อรักษาความงามของมันเอาไว้ ใช้ยาทาเล็บแบบใสทาเคลือบเอาไว้ แล้วคุณจะสามารถบอกลาคราบดำและสีสันที่ซีดจางไปได้เลย


กำจัดหูด พูดเป็นเรื่องน่าอายและเป็นการติดเชื้อ เพื่อกำจัดมัน ใช้ยาทาเล็บแบบใสทาทับลงไป หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์มันจะหลุดออกไป แต่ควรโยนยาทาเล็บขวดที่ใช้ทาหูดทิ้งไปหลังจากการใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสจากหูดแพร่กระจายไปที่อื่นอีก


เคล็ดลับยอดนิยมของบรรดาคุณแม่ทั้งหลายก็คือ เวลาที่คุณทำมีดบาดตัวเองเล็กๆ น้อยๆ รอให้เลือดหยุดไหลเสียก่อน แล้วทายาทาเล็บแบบไร้สีทับลงไปบนรอยแผล มันจะช่วยปิดรอยแผลแทนพลาสเตอร์ได้เลย


ที่มาจาก นิตยสาร Lisa




 

Create Date : 01 กันยายน 2552    
Last Update : 1 กันยายน 2552 13:51:59 น.
Counter : 365 Pageviews.  

ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับสิว

1. กินช็อกโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ยืนยันว่า อาหารพวกช็อกโกแลต มันฝรั่งทอด ถั่วทอด พิซซ่า อาหารมัน ๆ น้ำอัดลม ไอศกรีม เป็นตัวกระตุ้นให้สิวขึ้น เคยมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกไม่ให้กินช็อกโกแลตเลย อีกกลุ่มให้กินช็อกโกแลต ผลปรากฏว่า ไม่พบว่าอัตราการเกิดสิวในทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยยืนยันว่า อาหารบางชนิดกินแล้วสิวกำเริบก็ควรงดอาหารนั้น ๆ เป็นราย ๆ ไป


2. เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น หรือทำให้สิวกำเริบ บางคนเชื่อว่า เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น ความเชื่อนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งยุโรปโบราณ ที่ว่าการแต่งงานทำให้สิวหายไปได้ แต่แท้ที่จริงผู้ที่แต่งงานแล้วอาจมีสิวหายไป เพราะวัยที่แต่งงานนั้นผ่านพ้นวัยรุ่น จึงเป็นวัยที่พบสิวน้อยลง ในทางตรงกันข้ามบางคนเชื่อว่า สิวจะกำเริบเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่เป็นจริง การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้ฮอร์โมนเพศชายซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวหลั่งออกมา จึงไม่เกี่ยวกับการเกิดสิว สรุปแล้วเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนทำให้สิวเลวลงหรือดีขึ้นแต่อย่างใด


3. แสงแดดทำให้สิวดีขึ้น แสงแดดอาจทำให้ดูเหมือนว่าสิวดีขึ้น เพราะแสงแดดทำให้ผิวไหม้แดงและคล้ำลง ช่วยบดบังรอยแดงรอยดำจากสิวอักเสบและรอยจากการอักเสบ แต่แท้ที่จริงแล้วนอกจากแสงแดดจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังแล้ว แสงแดดยังทำให้ผิวระคายเคืองและสิวกำเริบ


4. ผิวมันทำให้สิวกำเริบ สิวไม่ได้เกิดจากผิวมัน แต่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่บุท่อรูขุมขนที่หลุดออกตามธรรมชาติ ไม่ถูกขจัดสู่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการตกค้าง เมื่อรวมกับไขมันที่ต่อมไขมันสร้างขึ้น จะก่อให้เกิดสิวอุดตัน ฉะนั้น ผิวมันเป็นอาการ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว


5. การรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี วัยรุ่นเป็นวัยที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี เช่น ถ้าใช้ยาทา 2.5% benzoyl peroxide แล้วได้ผล ถ้าเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10% ก็น่าจะได้ผลมากขึ้นอีก แต่ที่จริงแล้วถ้ายาความเข้มข้นต่ำได้ผลดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงขึ้น นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น การระคายเคืองมากขึ้นตามมาได้


ที่มา sanook.com




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2552    
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 11:36:08 น.
Counter : 329 Pageviews.  

7เคล็ดลับ กินแบบ Intrend กินแบบสุขภาพดี

ในยุคที่กระแสคนรักสุขภาพกำลังได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก รวมทั้งคนไทย การกินเพื่อสุขภาพคือสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจ เพราะการกินไม่ใช่แค่การสนองความต้องการหรือให้อิ่มท้องเท่านั้น หากแต่ยังต้องคำนึงถึงผลที่มีต่อสุขภาพด้วย

อ.กัญชลี ทิมาภรณ์ นักโภชนาการโรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า อาหารและสุขภาพเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน การเกิดโรคบางชนิดก็มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม หลายคนเคยหลงรูป รส หรือความสะดวกรวดเร็วของอาหารที่แฝงไปด้วยพิษภัยอย่างเงียบๆ เช่น ฟาสต์ฟูด อาหารสำเร็จรูป เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลมฯลฯ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินที่ผิดและตกยุค

ทั้งนี้ ปัจจุบันคนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น จนเกิดกระแสรักสุขภาพและการกินเพื่อสุขภาพตามมา ดังนั้น จึงขอแนะนำ 7 เคล็ดลับการกินเพื่อสุขภาพเพื่อให้นำไปใช้กัน

เคล็ดลับที่ว่ามีดังนี้

1 . ทานอาหารเช้าเป็นประจำ เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดและควรเป็นมื้อที่มีคุณค่าครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและสมองแล้ว ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดช่วยให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น

2.เลือกอาหารจากธรรมชาติไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์(มอลต์) ถั่ว ข้าวสาลี (โฮลวีต) เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุ วิตามิน โปรตีนที่ปราศจากคอเลสเตอรอลและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีสารแอนติออกซิแดนท์ ใยอาหารและปัจจัยอื่นช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตได้ หรืออาจเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีต ซีเรียลจากมอลต์ เป็นต้น

3.เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารและทานเป็นประจำ เพื่อเพิ่มวิตามิน เกลือแร่และสารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยนำคอเลสเตอรอลและสารก่อมะเร็งบางชนิดออกจากร่างกาย ทำให้ลดการสะสมของสารก่อมะเร็งบางชนิด และมีกากใยช่วยในการขับถ่าย ช่วยให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ลดขนมขบเคี้ยวและขนมอบ ที่มีแต่ไขมัน เกลือ น้ำตาลและสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากอยากทานขนมอาจหันมาทานขนมที่มีส่วนผสมของธัญพืชเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับขนมที่มีประโยชน์น้อย อย่างไรก็ตาม ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น

5.กินปลา ไข่และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ช่วยเสริมสร้างร่างกายในผู้เยาว์และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสลายในผู้สูงวัย เป็นส่วนประกอบของสารสร้างภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง เป็นต้น


6.ดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทนน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีน้ำตาลสูง การดื่มน้ำผักผลไม้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุกว่า 50 ชนิด เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัน


7.ดื่มน้ำและนมให้เป็นนิสัย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื่อช่วยระบบขับถ่ายและมีน้ำหล่อเลี้ยงในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย และควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการสูง ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็กๆ ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยชนิดของนม ขึ้นอยู่กับวัย หากเป็นเด็กทีกำลังเจริญเติบโตควรเป็นนมจืดธรรมดา แต่ในผู้สูงอายุควรเป็นนมพร่องมันเนยเพื่อมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล

“การกินเพื่อสุขภาพมีหลากหลายวิธี อยู่ที่ใครจะเลือกปฏิบัติแบบใด แต่หลักง่ายๆ คือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ครบทุกมื้อ แต่เลือกชนิดและปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยจึงจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อารมณ์ที่สดใส และห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ” อ.กัญชลี ให้คำแนะนำทิ้งท้าย



ที่มา : //www.newswit.com




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2552    
Last Update : 28 สิงหาคม 2552 10:57:54 น.
Counter : 371 Pageviews.  

สุดยอดอาหารสร้างความอ่อนเยาว์

ผิวหน้าเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับผู้หญิงทุกคนค่ะ ดังนั้นการดูแลรักษาผิวหน้าให้สวยใสมีสุขภาพดี จึงมีความสำคัญพอๆ กับผิวกายด้วยนะค่ะ ซึ่งเคล็ดลับการดูแลผิวหน้านั้น นอกจากการล้างหน้าให้สะอาด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี นอนหลับพักผ่อนอย่าเพียงพอแล้ว อาหารก็ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวพรรณสวยๆ ของสาวๆ อ่อนเยาว์ลงอีกด้วย สำหรับอาหารที่ทำให้ผิวหน้าสวยใสจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย

น้ำสะอาดบริสุทธิ์

เซลล์ผิวหน้านั้นต้องการความชุ่มชื่นเพื่อดำรงความเข็มแข็งอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าค่ะ และเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกาย หากอยากมีสุขภาพผิวดี อ่อนเยาว์ สาวๆ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วนะคะ

ผักผลไม้

อุดมไปด้วยวิตามิน เอ และซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น มันฝรั่งหวานและแครอท อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย และต่อสู้กับอนุมูลอิสระตัวการก่อมะเร็งร้าย วิตามินซียังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวตึงกระชับและมีเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติด้วยนะคะ

บลูเบอร์รี

อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็ง ซึ่งในบลูเบอร์รีมีสารชื่อว่า สารไฟโตเคมิคอล สารนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการลดผลกระทบจากบุหรี่ควันพิษ และสารเคมีรอบด้านซึ่งเป็นการปกป้องผิวพรรณโดยธรรมชาติ

จมูกข้าว

อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี ซีลีเนี่ยม ช่วยในการชะลอความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง และเพิ่มประสิทธิภาพครีมบำรุงผิวให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันริ้วรอยแห่งวัยได้ด้วยล่ะค่ะ

ปลาแซลมอน

อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 รวมทั้งมีกรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการดูแลสุขภาพผิว นอกจากนี้ปลาแซลมอนยังเป็นผลดีสำหรับหัวใจ และยังช่วยบำรุงผิวหนัง ผิวแห้ง ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์สดใส

อาหาร 5 ชนิดนี้จะช่วยให้การดูแลผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี แข็งแรง และทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย

ที่มา Woman's story




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2552    
Last Update : 26 สิงหาคม 2552 12:21:44 น.
Counter : 298 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

icy_cute
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







CO.CC:Free Domain
Friends' blogs
[Add icy_cute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.