Group Blog
 
All blogs
 

เคล็ดลับลดน้ำหนักให้ถูกวิธี

“ต้องลดน้ำหนักให้ได้” นี่อาจเป็นหนึ่งในรายการที่ใครหลายคน กำลังคิดว่าจะต้องทำให้ได้ในปีใหม่นี้

ก็นับว่าดีอยู่หรอกค่ะที่มีความหวังความตั้งใจในปีใหม่ที่จะทำ เรื่องดีๆ แต่ขอบอกเสียก่อนว่าจะลดน้ำหนักทั้งทีก็ต้องลดให้ถูกวิธี ด้วยการเลือกกินอาหารให้ถูกถ้วนตามหลักโภชนาการดีกว่าจะได้ ไม่เสียใจ เสียสุขภาพในภายหลัง

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเตือนว่า คนที่อยากลดน้ำหนักนั้นไม่จำเป็นต้องงดกินอาหารอย่างขาดสติ แต่วิธีที่ถูกที่ควรนั้นอยู่ที่การเลือกกินอาหารง่ายๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมาย

กลอเรีย ซาง ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวว่า ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อมากที่สุดในการเลือกกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทุกวันนี้เราอาจจะยุ่งเกินกว่าที่จะเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพ แต่ที่จริงแล้วก็มีหลักง่ายๆ ในการเลือกกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักให้ถูกวิธีได้ นั่นคือหลีกเลี่ยงการกินเนื้อที่ผ่านกรรมวิธี ไม่ควรงดอาหารเช้า และควรหลีกเลี่ยงการกิน ข้าวหรือขนมปังขัดขาวที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่า

เมื่องดหรือหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น แล้ว ก็ควรจะกินอาหารจำพวกผักที่มีสีสันสดใส จำนวนมากๆ หน่อย เพราะในผักมีใยอาหารมากและมีแคลอรีต่ำ และถ้าอยากกินของหวานก็ควรเลือกของขบเคี้ยวที่เป็นผลไม้สดหรือผลไม้แห้งก็ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารยังแนะนำด้วยว่า ควรจะกินป๊อปคอร์น เพราะว่าเป็นอาหารที่มีกากใยและสารต้านอนุมูลอิสระ และแทบจะไม่ให้พลังงานซักกี่แคลอรีเลย แต่ถ้าจะกินป๊อปคอร์นจริงๆ กลอเรีย ซาง ย้ำว่า ต้องเลือกอย่างที่ไม่อบเนย จึงจะดีและมีประโยชน์จริง.




 

Create Date : 18 มีนาคม 2552    
Last Update : 18 มีนาคม 2552 16:48:55 น.
Counter : 1315 Pageviews.  

วิธีดูแลสุขภาพหน้าร้อน

เริ่มเข้าสู่ หน้าร้อน หลายคนมักมีอาการไม่สบายบ่อย เพื่อไม่ให้หน้าร้อนมาบั่นทอนสุขภาพกาย และลามไปสู่สภาพจิตใจ "เกร็ดน่ารู้" สัปดาห์นี้ มีวิธี ดูแลสุขภาพรับมือ หน้าร้อน มาฝาก เพื่อความปลอดภัยห่างไกลการเจ็บป่วย


+ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เนื่องจากหน้าร้อนจะสูญเสียเหงื่อมาก ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน เพราะจะยิ่งทำให้กระหายน้ำมากขึ้น อาจดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพรที่มีรสไม่หวานจัดแทน

+ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น อาจทำให้เกิดการขาดน้ำ นอกจากนี้ ในหน้าร้อนแอลกอฮอล์จะซึมเข้าสู่กระแสโลหิตได้เร็ว ทำให้เมาง่าย และอาจช็อกหมดสติได้

+ อาหารที่เหมาะสำหรับหน้าร้อน คือ อาหารรสขมเย็น เช่น แฟง มะระ สะเดา ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นอกจากนี้ ควรเลือกทานอาหารที่สะอาด สด ใหม่ เพื่อป้องกันการเกิดโรคทางเดินอาหารในหน้าร้อน

+ อย่าออกกำลังกายหักโหม หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือแดดเปรี้ยง จะทำให้เจ็บป่วยง่ายขึ้น การออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 วัน ประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค

+ สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายความร้อนได้ง่าย และดูแลความสะอาดของร่างกายไม่ให้เกิดการอับชื้น หากเกิดผดผื่นคันควรปรึกษาแพทย์

+ ใช้ครีมกันแดดเมื่อออกกลางแจ้ง หรือในที่แดดแรง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดผิวไหม้จากการได้รับแสงแดดมากเกินไป และควรสวมแว่นกันแดดเพื่อปกป้องสายตา


ดูแลสุขภาพกายกันแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพใจกันด้วย
ไม่หงุดหงิดไปกับสภาพอากาศ และอย่ายอมให้ความร้อนมาบั่นทอนสุขภาพนะคะ

ที่มา :เดลินิวส์




 

Create Date : 17 มีนาคม 2552    
Last Update : 17 มีนาคม 2552 9:53:14 น.
Counter : 322 Pageviews.  

วิธีเตรียมสมองพร้อมรับงานหนัก

บ่อยครั้งที่พอสมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก หรืออารมณ์ไม่ดี หลายคนมักจะเป็นประเภทรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง คือ เฟ้นหาสาเหตุจากปัจจัยภายนอก ก่อนที่จะตั้งคำถามเช็กสมรรถภาพกับตัวเอง แล้วความจริงก็ชอบแสดงให้เห็นว่า หลายปัญหาคาใจ แท้จริงแล้วมีคำตอบอยู่ข้างหน้านั่นเอง ชนิดที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขาแท้ๆ เลย

ดังนั้น ถ้าวันนี้ใครรู้สึกว่าสมองแล่นช้า ลองสลับหยุดนิ่ง ก่อนจะหันไประเบิดอารมณ์ใส่เพื่อน หรือหาทางออกจากอะไรๆ รอบตัว ลองมาเช็กและรีเฟรชระบบภายในร่างกายกันก่อน ด้วย 8 วิธีที่ทำได้ในออฟฟิศ

- เพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานสมอง : เขียนเลข 8 ในอากาศ ด้วยมือทั้งสองข้าง ข้างละ 5 ครั้ง โดยเริ่มจากด้านซ้ายของเลขก่อน แล้วเขียนวนไปให้เป็นเลข 8 วิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการอ่าน การทำความเข้าใจดีขึ้น และทำให้สมองด้านซ้ายและด้านขวาประสานงานกัน

- หล่อเลี้ยงสมองด้วยน้ำเปล่า : วางขวดน้ำไว้ใกล้ๆ โต๊ะของคุณเป็นประจำ และคอยจิบทีละน้อย วิธีนี้จะช่วยให้จิตใจและร่างกายของคุณตื่นตัวตลอดเวลา สมองเปิดว่าง สามารถรับสารหรือข้อมูลได้ดี เพราะน้ำจะช่วยปรับสารเคมีที่สำคัญในสมองและระบบประสาท ถ้าเวลาที่รู้สึกเครียด จึงควรจิบน้ำเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเพื่อไปหล่อเลี้ยงระบบของร่างกาย

- นวดใบหูกระตุ้นความเข้าใจ : นั่งพักสบายๆ แตะปลายนิ้วทั้งสองข้างที่ใบหู เคลื่อนนิ้วไปยังส่วนบนของหู จากนั้นบีบนวดและคลี่รอยพับของใบหูทั้งสองข้างออก ค่อยๆ เคลื่อนนิ้วลงมานวดบริเวณอื่นๆ ของใบหู ดึงเบาๆ เมื่อถึงติ่งหู ดึงลง ให้ทำซ้ำกัน 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการได้ยิน และทำให้ความเข้าใจดีขึ้น เพราะเป็นการคลายเส้นประสาทบริเวณใบหูที่เชื่อมสมอง

- บริหารกล้ามเนื้อหัวไหล่ : ใช้มือซ้ายจับไหล่ขวา บีบกล้ามเนื้อให้แน่นพร้อมหายใจเข้า

จากนั้นหายใจออกและหันไปทางซ้ายจนสามารถมองไหล่ซ้ายของตัวเอง จากนั้นสูดลมหายใจลึกๆ วางแขนซ้ายลงบนไหล่ขวา พร้อมกับห่อไหล่ ค่อยๆ หันศีรษะกลับไปตรงกลางและเลยไปด้านขวา จนกระทั่งสามารถมองข้ามไหล่ของคุณได้ ยืดไหล่ทั้งสองข้างออก ก้มคางลงจรดหน้าอกพร้อมกับสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อของคุณได้ผ่อนคลาย

เปลี่ยนมาใช้มือขวาจับไหล่ซ้าย บ้าง และทำซ้ำกันข้างละ 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อตรงส่วนลำคอและไหล่ การได้ยิน การฟัง และช่วย ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการนั่งโต๊ะทำงานเป็นเวลานานอีกด้วย

- นวดจุดเชื่อมสมอง : วางมือข้างหนึ่งไว้บนสะดือ มืออีกข้างหนึ่งใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้วางบนกระดูกหน้าอกบริเวณ ใต้กระดูกไหปลาร้า และค่อยๆ นวดทั้งสองตำแหน่งประมาณ 10 นาที วิธีนี้จะช่วยลดความงงหรือสับสน กระตุ้นพลังงาน และช่วยให้มีความคิดแจ่มใส

- บริหารขา : ยืนตรงให้เท้าชิดกัน ถอยเท้าซ้ายไปข้างหลัง โดยยกส้นเท้าขึ้น งอเข่าขวาเล็กน้อยแล้วโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย ก้นของคุณจะอยู่ในแนวเดียวกับส้นเท้าขวา สูดลมหายใจเข้าและผ่อนออก ในขณะที่ปล่อยลมหายใจออกนี้ ค่อยๆ กดส้นเท้าซ้ายให้วางลงบนพื้นพร้อมกับงอเข่าขวาเพิ่มขึ้น หลังเหยียดตรง สูดลมหายใจเข้าแล้วกลับไปตั้งต้นใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนจากขาข้างซ้ายเป็นข้างขวา ทำแบบเดียวกันทั้งหมด 3 ครั้ง การบริหารท่านี้เหมาะสำหรับปรับปรุงสมาธิ รวมทั้งช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านหนังสือ และยังช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขา และกล้ามเนื้อน่องผ่อนคลายอีกด้วย

- กดจุดคลายเครียด : ใช้นิ้ว 2 นิ้ว กดลงบนหน้าผากทั้งสองด้าน ประมาณ กึ่งกลางระหว่างขนคิ้ว และตีนผม กดค้างไว้ประมาณ 3 - 10 นาที วิธีนี้จะช่วยคลายความตึงเครียดและเพิ่มการหมุนเวียนโลหิตเข้าสู่สมอง

- บริหารสมองด้วยการเขียน : เขียนเส้นขยุกขยิกด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน ลายเส้นที่เขียนอาจจะดูเพี้ยนๆ แต่ได้ผลดีต่อระบบสมองเป็นอย่างดีทีเดียว วิธีนี้จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงการประสานงานของสมอง ด้วยการทำให้สมองทั้งสองซีกทำงานพร้อมกัน และเพิ่มความชำนาญด้านการสะกดคำ คำนวณดี และรวดเร็วขึ้น อีกด้วย

เป็นไปได้จริงที่เส้นผมสามารถ บังภูเขาทั้งลูกได้ ถ้าสายตาไม่มีสติกำกับ ดังนั้นประตูบานแรกที่จะทอดนำไปสู่การหลุดพ้นแห่งความทุกข์ ปัญหา คือ สภาพจิตใจที่สมบูรณ์จากภายใน จำง่ายๆ ว่า เมื่อใดสติเกิด สมองก็บรรเจิด และแน่นอนว่าผลของงานก็จะดีขึ้นทันใด

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์




 

Create Date : 16 มีนาคม 2552    
Last Update : 16 มีนาคม 2552 22:14:35 น.
Counter : 415 Pageviews.  

วิธีง่ายๆเข้าห้องน้ำสาธารณะไม่ติดเชื้อ

น.พ.เชิดพงษ์ ชินวุฒิ สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช สาทร-คอนแวนต์ เผยว่า เชื้อโรคที่มักพบในห้องน้ำสาธารณะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เชื้อในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อหนองใน เชื้อเริม และเชื้อที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น เชื้ออุจจาระร่วง เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด เอ เป็นต้น

เชื้อพวกนี้อาจแฝงอยู่ตามจุดต่างๆ ของห้องน้ำ เช่น ชักโครก อ่างล้างมือ หรือแม้กระทั่งลูกบิดประตูแต่ โอกาสที่เราจะติดเชื้อพวกนี้จนทำให้เกิดโรคหรือเป็นอันตรายนั้นน้อยมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลที่ว่า

1.เชื้อพวกนี้จะสามารถก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีปริมาณที่มากพอ เราอาจไปสัมผัสกับเชื้อพวกนี้ก็จริง แต่ปริมาณไม่มาก จึงไม่เกิดอันตรายใดๆ

2.เชื้อพวกนี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีในร่างกายคนเรา แต่เมื่อออกมาสัมผัสกับแสง และอุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป เชื้อมักจะมีชีวิตอยู่ไม่นานพอที่จะติดต่อไปสู่คนอื่น

3.เชื้อพวกนี้จะก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีหนทางที่จะผ่านเข้าไปในร่างกายของคนเรา เช่น ผ่านเข้าทางผิวหนังที่มีแผล หรือรับเข้าทางปาก การที่เราไปสัมผัสและเชื้อนั้นติดอยู่กับผิวหนังเฉยๆ จะไม่ทำให้เกิดโรค เพราะผิวหนังเป็นปราการด่านแรกที่ป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี

4.หากได้รับเชื้อเข้าไปจริง ร่างกายของเรามีระบบภูมิคุ้มกันที่คอยจัดการเจ้าเชื้อโรคแปลกปลอมนี้อยู่แล้ว

น.พ.เชิดพงษ์ แนะนำวิธีปฏิบัติตัวแบบง่ายๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคจากการเข้าห้องน้ำสาธารณะไว้ว่า ใช้เวลากับการทำกิจธุระในห้องน้ำสาธารณะให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ชักโครก เลือกที่ดูสะอาด ทำความสะอาดที่รองนั่งด้วยกระดาษทิชชูสักหน่อย แล้วจึงใช้งาน ไม่ต้องถึงกับใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ

ที่สำคัญเมื่อเสร็จกิจธุระแล้วต้องล้างมือทุกครั้ง เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคติดมากับมือของเรา




 

Create Date : 15 มีนาคม 2552    
Last Update : 15 มีนาคม 2552 9:11:55 น.
Counter : 310 Pageviews.  

เคล็ดลับน่ารู้สำหรับไปทะเล

ทะเล..ทะเล สถานที่พักผ่อนติดอันดับ 1 ตลอดกาล

โดยเฉพาะยามนี้ อากาศร้อนเริ่มทวีความแรง ไอแดดเต้นไหวระริก หน้าร้อนให้นั่ง ๆ นอน ๆ ร้อนอยู่กับบ้านบางทีก็เบื่อ แต่การได้เปลี่ยนบรรยากาศนี่สิ ช่วยได้มาก เปลี่ยนจากโซฟาที่บ้านเป็นเตียงผ้าใบที่วางอยู่บนชายหาด เปลี่ยนจากนั่งจ้องจอทีวี เป็นริ้วคลื่นเอื่อย ๆ ลมอ่อน ๆ มีเสียงน้ำทะเลซัดสาดเบา ๆ รู้สึกว่าดีกว่ากันเยอะเลย ว่าแต่จะไปเที่ยวทะเลที่ไหน ก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะคะ รู้ไว้..ใช่เปล่าประโยชน์ เป็นหัวข้อให้คุณได้เตรียมตัวรับมือกับเรื่องต่อไปนี้ ที่อาจเกิดขึ้นกับคนรักทะเลแบบเรา ๆ ก็ได้ค่ะ

ว่ายน้ำเริงร่าท้าคลื่นมากไปหน่อยเลยเผลเรอไปเหยียบเอาเจ้าแม่เม่นทะเล แล้วโดนอาวุธรอบกายของเม่นคือหนามตำซะนี่ : วิธีแก้คือ รีบถอนหนามออก เพราะหนามตำจะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง และชา แต่ถ้าดึงหนามไม่ออกให้รีบหาน้ำร้อนมาแช่ ให้หนามอ่อนตัวและย่อย เพื่อเอาออกได้ง่ายขึ้น

ถ้าโดนแมงกระพรุนสีแดง ๆ ลำตัวคล้ายร่ม หนวดยาว ๆ แล้วรู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ นั้นแหละแมงกระพรุนไฟ : ไม่ควรใช้น้ำจืดล้างแต่ควรหาน้ำส้มสายชูแท้มาช่วยล้างแผลเป็นการด่วน จะช่วยล้างพิษได้

จะไปเที่ยวล่องเรือในทะเล แต่เมาเรือ เมาคลื่น และไม่มียามาด้วย จะทำอย่างไรเมื่อไม่อยากอ้วก : ให้นำผ้าเย็น ๆ มาประคบบริเวณหน้าผาก จะช่วนบรรเทาอาการได้ เพราะอาการเมารถ เมาเรือ เกิดจากการเคลื่อนไหวของกระเพาะที่ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ การประคบผ้าบริเวณหน้าผาก จะช่วยควบคุมกระเพาะให้เคลื่อนไหวน้อยลง อีกวิธีคือกินอาหารโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเข้าไป แต่ต้องเป็ฌนปริมาณที่น้อย จะช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน และที่สำคัญ เพ่งสายตาออกไปไกล ๆ

เล่นน้ำทะเลเพลินไป กว่าจะรู้ตัวผิวไหม้ไปแล้ว : หลังโดนแดดเผา ผิวจะแห้ง เพราะแดดทำลายน้ำหล่อเลี้ยงผิว ไม่ควรอาบน้ำด้วยสบู่ ให้ล้างตัวด้วยน้ำอุ่นจากนั้นตามด้วยน้ำเย็นแล้วเช็ดตัวให้แห้ง แล้วใช้โลชั่นทาผิว

เหยี่ยบเศษแก้วตามชายหาด เพราะคนไม่มีมารยาทมาทิ้งเอาไว้ : ให้ดึงเศษแก้วออกให้หมด อย่าใช้ทิงเจอร์ลาดปากแผล ให้ใช้ผ้าพันแผลห้ามเลือด แล้วรีบไปหาหมอ

ว่ายน้ำ ดำน้ำ ตีขาเพลินไป รู้ตัวอีกทีเป็นตะคริวเข้าให้แล้ว ที่บริเวณน่อง : หากว่ายน้ำอยู่แล้วรู้สึกปวดน่องให้หยุดทีนที ถ้าฝืนจะเป็นตะคริวและจมน้ำได้ รีบขึ้นฝั่งและนวดบริเวณนั้นเบา ๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียน จากนั้นยือกล้ามเนื้อให้ตึงก่อนจะลงเล่นน้ำ ทางที่ดี ควรจะวอร์มอัพร่างกายก่อนจะช่วยป้องกันได้




 

Create Date : 13 มีนาคม 2552    
Last Update : 13 มีนาคม 2552 17:15:35 น.
Counter : 463 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

icy_cute
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







CO.CC:Free Domain
Friends' blogs
[Add icy_cute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.