Group Blog
 
All blogs
 
menuอาหาร ที่คุณควรหลีกเลี่ยง

“อาหาร "!!! ถือเป็นหนึ่งใน " ปัจจัย 4 " ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ ซึ่งตามหลักทั่วไปอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายต้องคุณภาพดี มีสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ.....ที่สำคัญคือต้องสะอาดและปราศจาก " สารพิษ " เจือปน อันจะก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สุขภาพ
อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าการเลือกรับประทานอาหารในแต่ละ " เมนู " ของมนุษย์ จำเป็นต้องคัดสรรมากขึ้น เพราะปัจจุบันมี " อาหารอันตราย " ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากข้อ มูลของ " Team Content " สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) พบว่า มี " เมนูโปรด " ของใครหลายคน ถูกจัดเป็น " อาหารอันตราย " ได้แก่.....

1. แฮมเบอร์เกอร์
จัดเป็นอาหารประเภทที่ "มีความเสี่ยงสูง" เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ "เนื้อ" มาใช้ปรุงทำให้มี " แบคทีเรีย " เกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ " สารเคมีสีแดง " มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย ทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว นอกจากนี้ แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ " สารปรุงรส "( MSG = Monosodium Glutamate ) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย " MSG " เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้นด้วย

2. ฮอทด็อก
เป็นอีก " เมนูอันตราย " เพราะมีกระบวนการผลิตคล้าย แฮมเบอร์เกอร์ และ " ฮอทด็อก " ทั้ง หมดยังใส่ " สารไนไตรท์ " เพื่อช่วยทำให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม โดย " สารไนไตรท์ " เป็นสารที่ทำให้เกิด " โรคมะเร็ง " ในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมองและ มะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ " ถุงหลอด " ที่ใช้บรรจุ ฮอทด็อก ก็ทำจาก " คอลลาเจนสังเคราะห์ " ที่เป็นสารก่อให้เกิด " โรคมะเร็ง " ได้สูง มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำ ไปปิ้งย่าง มันจะทำให้มี " สารพิษร้ายแรง " ที่เรียกว่า " อะคริลิไมด์ "(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็น สารก่อมะเร็งและ " ทำลายประสาท "

3. เฟร้นช์ฟราย- มันฝรั่งทอด
เป็นอาหารที่มี " ความเป็นพิษสูง " โดยการทอด " เฟร้นช์ฟราย " ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี " สารอะคริลิไมด์ " ออกมา นอกจากนี้ " น้ำมัน " ที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ " ออกซิไดซ์ " ในมันฝรั่งยังมี " ดรรชนีกลีซิมิค "(Glycemic) อยู่สูงมาก.....นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก

4. คุกกี้
ที่เด่นชัดมาก คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำ ตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

5. พิซซ่า
" พิซซ่า " ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ "ตัดแต่งพันธุกรรม" 5 ชนิด คือ.....1." เนยแท้ "( cheese ) เพียง 10% เท่านั้น ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย.....2."แป้ง" ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโม เลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่.....3."ซอสมะเขือเทศ" ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง "ยาฆ่าแมลง" ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน.....4."แป้งสาลี" ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม

" น้ำมันฝ้าย " ประกอบอยู่ โดย ฝ้าย ไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆเอาไว้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณะสุข ต่างไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็น " น้ำมันไฮโดรจีเนต " และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ "ผิวหน้าแป้ง พิซซ่า" ที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจมี " สารอะคริลิไมด์ " เกิดขึ้นด้วย ขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า " เพ็พเปอโรนิ " หรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก " ไนไตรท์ " สารกันบูด และสารเคมีอื่นๆ รวมทั้ง ไขมันอิ่มตัว ที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน

6. น้ำอัดลม
สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน " น้ำอัดลม " คือ " กรดกำมะถัน "( Phosphoric acid ) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และ " น้ำโซดา " ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวของน้ำอัดลมจะเป็นตัวชะล้างแคลเซียม ออกจาก กระดูก จนทำให้เกิด " โรคกระดูกพรุน "
นอกจากนี้ใน น้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมี "น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน" อยู่ 12 ช้อนชา ใน น้ำอัดลม ที่ช่วยลดน้ำหนักตัว หรือ Diet soda ที่ใช้ " น้ำตาลเทียมสังเคราะห์ "( Artificial sweetener ) เพิ่มความหวาน จะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก ขณะที่ "สี" ที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็น " สารก่อมะเร็ง " ด้วย

7. ชิ้นไก่ทอด-เนื้อนุ่มไร้กระดูก
เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลัง งาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส "MSG" ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ " นัคเก็ตชิคเก้น " บางอันจะมี " สารอะลูมิเนียม " ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตะโบลิสซึมของร่างกายด้วย



Create Date : 18 พฤษภาคม 2552
Last Update : 26 มิถุนายน 2552 16:03:10 น. 0 comments
Counter : 423 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

icy_cute
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







CO.CC:Free Domain
Friends' blogs
[Add icy_cute's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.