ชีวิตติดเกาะ ..... 26 ตุลาคม 2554
หลังจากน้ำเข้าท่วมตำบลลาดสวาย รังสิต คลองสี่ได้หลายวันก่อน
หมู่บ้านของเรา ..... พฤกษ์ลดา 2 ยังคงยืนหยัดสู้กับน้ำ น้ำไม่ท่วมในหมู่บ้านมาหลายวันแล้ว เขื่อนดิน กำแพงกระสอบทรายหน้าหมู่บ้านยังเอาอยู่ ยังสู้ไหว แต่ ณ วันนี้ ...... หมู่บ้านเราก็เริ่มจะสู้ไม่ไหวแล้ว น้ำเจ้าเล่ห์นัก ไม่เข้าด้านหน้า แต่มาด้านข้าง ด้านใต้ดิน แทรกซึมมาตามท่อ เผลอแป๊บเดียวเท่านั้น พอตกบ่าย น้ำมาตามท่อค่ะ ชั่วโมงเดียวผ่านไป หน้าบ้านเรากลายเป็นเช่นนี้  ระดับน้ำมาปริ่มๆ เกือบถึงประตูรั้วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  บ้านเรา เตรียมตัวเก็บของไว้ล่วงหน้าแล้ว พอเห็นน้ำมาขนาดนี้ขอปั่นจักรยานไปดูที่หน้าหมู่บ้านดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถนนหนทางในหมู่บ้าน เต็มไปด้วยน้ำ - -"  หน้าบ้านพี่สาวใจดี ที่ใช้ชื่อล็อคอินใน pantip.... มุกดื้อ  สภาพถนนในหมู่บ้าน   ปั่นจักรยานจากท้ายหมู่บ้าน (บ้านเราอยู่ท้ายหมู่บ้านเลย) ผ่านวงเวียนกลางหมู่บ้าน เรื่อยมาจนถึงทะเลสาปกลางหมู่บ้าน ท่าทางที่ตรงนี้สูงค่ะ เพราะน้ำยังมาไม่ถึง ^^   ปั่นจักรยานต่อไป ให้ถึงหน้าหมู่บ้าน   ถึงหน้าหมู่บ้านแล้วค่ะ น้ำปริ่มคันดินเต็มที   รังสิต คลองสี่ ก็มีเรือกอนโดล่า ด้วยอ่ะ  นอกจากเรือ ยังคงมีรถที่วิ่งแบบสู้ตาย  ท่อไอเสียของรถถูกดัดแปลงยกสูงหนีน้ำ เตรียมพร้อมเต็มที่ ^^  ฝั่งตรงข้าม คือ ศูนย์อพยพ โรงเรียนแย้มสอาด  คนในคลองสี่ ยังคงอพยพอยู่เรื่อยๆ ค่ะ  ดูน้ำที่หน้าหมู่บ้านแล้ว ก็ นะ....พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ปั่นจักรยานกลับบ้านดีกว่าค่ะ ระหว่างกลับบ้าน น้ำบนถนนในหมู่บ้านเริ่มสูงขึ้นเต็มหมดแล้ว ผ่านทะเลสาปกลางหมู่บ้าน เห็นน้ำพุ่ง ปุด ปุด กลางทะเลสาปเลย  ภาพในหมู่บ้านหมดแล้วค่ะ ฟ้ามืดแล้วเลยถ่ายรูปไม่ได้แล้ว ขอจบการรายงานภาพในหมู่บ้านเพียงเท่านี้นะคะ พรุ่งนี้เช้า ..... ไม่รู้ว่าจะเป็นยังงัยบ้าง น้ำจะสูงขึ้นจนว่ายน้ำในหมู่บ้านได้เลยหรือเปล่า เราจะซื้อบ้านริมทะเลสาปเหมือนกับคนอื่นๆ ด้วยมั๊ยนี่ ?  ปั่นจักรยานกลับมาถึง ค้นหาเสบียงเท่าที่มีในครัวเตรียมทำกับข้าวค่ะ  นาทีนี้ขี้เกียจหุงข้าว ทำกับข้าวค่ะ หลายสิ่งหลายอย่างต้องประหยัด ทำอาหารจานเดียวดีกว่า ต้มเส้นสปาเก็ตตี้เลยค่ะ  ต้มเส้นเสร็จแล้ว  มีหอยลายกระป๋อง ติดครัวอยู่หลายกระป๋อง พร้อมกับใบโหระพาที่เหลือในตู้เย็น  กระเทียมสดค่ะ ก่อนหน้านี้เราเตรียมปั่นกระเทียมสดใส่กล่องไว้ในตู้เย็น เวลาทำอาหารแต่ละทีค่อยหยิบมาใช้จะได้ไม่ยุ่งยาก  ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปนิดนึง  เจียวกระเทียมให้เหลืองค่ะ  ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกลงไปผัด มีมันกุ้งเหลือติดตู้เย็นเลยเอามาผัดด้วยกันเลยค่ะ  ตามด้วยหอยลายกระป๋อง  ผัดให้เข้ากันค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทราย ก่อนใส่ใบโหระพาลงในกระทะ  อิ่มไปอีกหนึ่งมื้อ กับของเหลือๆ ติดตู้เย็น ติดครัวในช่วงชีวิตติดเกาะเช่นนี้ ^^  ชีวิตติดเกาะ ..... 23 ตุลาคม 2554
หลังจากเตรียมพร้อม ย้ายข้าวย้ายของขึ้นชั้นสองพร้อมรบแล้ว
ชีวิตของเราก้อละม้ายคล้ายติดเกาะยังงัยยังงั้นเลย  น้ำหน้าหมู่บ้านท่วมสูงมากจนรถเล็กของเราไปไม่ได้ เราเอารถไปฝากไว้ที่ ม.นอร์ทแล้ว ตอนนี้ก้อเลยไปไหน มาไหน ลำบากนิดนึง โทรไปคุยกับที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว พี่ที่เป็น HR บอกว่า เข้าใจ หยุดไปเถอะ ดูแลบ้านช่องให้เข้าที่ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ช่วงนี้เราเลยอยู่ที่บ้าน ทำงานส่งผ่านทางอีเมลล์แทน ^^ ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก้อซิ่งน้องส้มจี๊ดไปดูสถานการณ์น้ำท่วมที่หน้าหมู่บ้านกับคุณแฟนทุกวัน  สภาพถนนหน้าบ้าน  ขับผ่านวงเวียนหน้าปากซอยบ้านเรา  ถนนเมนในหมู่บ้านช่วงท้ายโครงการ  ขับผ่านวงเวียนแรก ใกล้ๆ ทะเลสาปกลางหมู่บ้าน  หันกลับไปถ่ายที่วงเวียนชัดๆ ค่ะ สภาพถนนยังปกติดีอยู่  คนในหมู่บ้านเอารถมาจอดบนเนินสนามหญ้า  ขับถึงหน้าหมู่บ้าน สภาพน้ำบนถนนหน้าหมู่บ้านค่ะ ด้านซ้ายมือไปทางถนนองครักษ์  สภาพน้ำบนถนนด้านขวามือไปทางถนนลำลูกกา  ลุ้นแทนเจ้าของรถคันนี้ค่ะ ยืนดูอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน รถค่อยๆ วิ่งสู้น้ำมาจนถึงหน้าหมู่บ้านเราแล้วก้อดับ ซักพักสตาร์ทติดแล้วจึงไปต่อ ^^  จนเย็นๆ เริ่มหิวข้าว ขับน้องส้มจี๊ดกลับบ้านไปทำกับข้าวกินดีกว่าค่ะ ^^ ค้นของสดที่มีในตู้เย็นเก็บไว้เป็นเสบียงก่อนหน้านี้แล้ว เพราะชีวิตช่วงนี้เหมือนติดเกาะ ไปตลาด หรือไปไหนมาไหนไม่ได้แล้วค่ะ ต้องทำกับข้าวเท่าที่มีไปก่อน (ซึ่งเท่าที่มีของเราก้อเยอะเหมือนกันค่ะ) .... เนื้อวัว ไข่ไก่ กระเทียมสดที่เราปั่นเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นไว้ กระเทียมเจียว  น้ำมันรำข้าว มีติดครัวที่บ้านหลายขวดอยู่แล้วค่ะ  เอากระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันจิ๊ดนึง ตักกระเทียมสดที่มีในกระปุกใส่ลงในกระทะเลยค่ะ  เจียวกระเทียมสดให้เหลืองกรอบค่ะ  เอาเนื้อวัวที่หั่นเป็นชิ้นๆ ไว้แล้วลงไปผัดในกระทะ  ผัดจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยกับซีอิ๊วขาว  ใส่กระเทียมเจียวที่มีอยู่แล้วกับน้ำตาลทรายนิดนึงลงในกระทะ  เสร็จแล้วค่ะ ..... เนื้อกระเทียม  ดาวไข่สองฟอง แบบสุกของเรา กับแบบไม่สุกของคุณแฟน  หุงข้าวเสร็จพอดี ตักใส่จานได้เลย  อาหารมื้อนี้ กับชีวิตติดเกาะวันแรก ..... พร้อมแล้วค่ะ  มีตบท้ายด้วยเฉาก๊วยเป็นของหวาน ซื้อติดตู้เย็นไว้นานแล้วค่ะ  ชีวิตติดเกาะของเราในวันนี้ ลงท้ายด้วยดี ยังไม่มีอะไรที่น่าห่วงค่ะ ไม่รู้ว่าวันต่อไปจะเป็นยังงัยบ้าง แต่ก็นะ ไฟท์ติ้ง !! สภาพบ้าน หนีน้ำท่วม (ช่วงวิกฤติน้ำท่วม)
22 ตุลาคม 2554 .....
ช่วงก่อนหน้านี้จิตตกอย่างแรงเรื่องน้ำท่วม เป็นช่วงที่ลุ้นระทึกตลอดเวลาว่า น้ำจะมามั๊ย เราจะรอดมั๊ย พอดูข่าวบ่อยๆ เข้า เริ่มรู้สึกทำใจได้ทีละนิดว่า คุณน้ำมาแน่ๆ แต่จะมาสูงมั๊ยแล้วมาอยู่กับเรานานเท่าไร เป็นคำถามที่ค้างคาใจร่วมสัปดาห์ ...... อยู่บ้านได้ยินเสียง ฮ.บินใกล้ๆแต่ละทีรู้สึกใจหาย คล้ายตัวเองเล่นหนังคู่กรรมเป็นอังศุมาลินยังงัยยังงั้น --" ในใจได้แต่นึก ฮ.มาทำไมเนี่ย บ้านช้านใกล้แล้วเรอะ ข้าศึกใกล้โจมตีแล้วใช่มั๊ยเนี่ย ....... ภาพหมู่บ้านของเรา ในเวลาที่เป็นปกติค่ะ  ระหว่างที่รอคุณน้ำมาหา เราก็ได้แต่ทำใจเพราะที่บ้านตกแต่งด้วยเฟอร์บิ้วอินเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อวานนี้เอง ..... ช่วงบ่ายๆ รปภ.โทรเข้ามือถือบอกว่า พี่ครับ เทศบาลแจ้งว่า คันตรงดรีมเวิล์ดกั้นไม่อยู่แล้ว พี่รีบเก็บของโดยด่วนครับ วางสายไม่ทันไร ได้ยินเสียง รปภ.ขี่มอเตอร์ไซค์มาแจ้งข่าวอีกทางว่า ให้เก็บของขึ้นชั้นสองภายใน 1 ชั่วโมง ....... แม่จ้าววว ตอนแรกก็ทำใจไปแล้วว่า จะท่วมก็เข้ามาเหอะ ท่วมมาเลย ไม่เก็บอะไรแล้ว แต่คิดอีกที เก็บบ้างดีกว่า อิอิ เบาะโซฟาห้องรับแขกที่ว่าหนักนักหนา พอถึงเวลาคับขันจริงๆ เรากับคุณแฟนสองคนสามารถยกไปไว้ชั้นสองได้อ่ะ ....ไม่น่าเชื่อจริงๆ ........ ภาพภายในบ้านชั้นล่าง ในเวลาปกติค่ะ       ........ ภาพภายในบ้านชั้นบนในเวลาปกติ เตรียมเคลียร์พื้นที่เพื่อขนของไปไว้ชั้นบน     ........ หลังจากเล็งมุมต่างๆ สถานที่พร้อมแล้ว เริ่มปฎิบัติการเฉพาะกิจ (ขนของ) โดยด่วนค่ะ ชั้นวางของรูปบันได ขนขึ้นชั้นสองเอาไปวางไว้หน้าห้องน้ำค่ะ  กลายเป็นมุมกาแฟ (ชั่วคราว) ตามเดิม  ตู้เย็นใหญ่ เคยวางไว้ที่หน้าห้องน้ำชั้นล่าง มีน้อง รปภ.มาช่วยขนของไปไว้ที่หน้าห้องทำงานชั้นบนแทนค่ะ  ของในตู้เย็นตู้นี้ส่วนใหญ่เป็นน้ำดื่ม  น้ำดื่มที่เตรียมไว้ ยังไม่ได้กรอกใส่ขวดเล็กแช่ตู้เย็นยังมีเผื่อไว้ค่ะ  ทางเข้าห้องทำงาน ..... ที่กลายเป็นห้องครัวชั่วคราว  สภาพห้องทำงานของช้านนนนน  โต๊ะทำงาน ..... กลายเป็นโต๊ะวางอุปกรณ์เครื่องครัว เตาไมโครเวฟและเต๊าแก๊สปิคนิคจะตามขึ้นมาในไม่ช้า เวลาที่น้ำมาแล้วจริงๆ  ตู้บิ้วอินห้องทำงาน ทำไว้สำหรับวางแฟ้มเอกสาร กลายเป็นที่วางเครื่องปรุงอาหาร และอาหารแห้งที่ขนมาจากครัวชั้นล่างชั่วคราว  ของแห้งทั้งหลาย เสบียงพร้อม  ส่วนตู้เย็นเล็กที่เคยวางอยู่ใต้บันได วันนี้ น้อง รปภ.มาช่วยขนวางไว้ในห้องครัว (ชั่วคราว)  เป็นที่เก็บของสดทั้งหลาย  จริงๆ ทั้งของสดและของแห้ง เราชอบซื้อติดบ้าน ติดตู้เย็นไว้ประจำ ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหาร เลยซื้อติดไว้นานแล้ว จนคนที่บ้านชอบแซวว่า ซื้อเก็บไว้ทำไมเนี่ยเยอะแยะ บ้านเมืองเราไม่มีสงครามซักหน่อย เราบอกว่า ถ้าตู้เย็นโล่งๆ มันไม่สบายใจอ่ะ ขอซื้อเก็บไว้หน่อยเถอะน่า เป็นงัยล่ะทีนี้ ...... ในเวลานี้ บ้านเราไม่เดือดร้อนเรื่องของในบิ๊กซี โลตัสหมดเลย เพราะเราซื้อเก็บไว้ล่วงหน้านานกว่า อิอิ  สภาพห้องนอนเล็กอีกห้อง กลายเป็นห้องเก็บของ เพราะเจ้าของห้อง คือ คุณหลานไม่อยู่ ไปเป็นอาสาสมัคร ทำห้องน้ำให้คนที่บ้านน้ำท่วมอยู่ต่างจังหวัด  หลังจากขนของไปไว้ชั้นสองเรียบร้อยแล้ว สภาพบ้านชั้นล่างโล่งเชียว คิดถึงบรรยากาศตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เมื่อสองปีที่แล้วเลย ^^    ส่วนห้องครัวตัวจริงที่อยู่ชั้นล่าง ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากเก็บของออกจากตู้ชั้นล่าง เอาของใช้ไว้ด้านบนแทนเพราะทำบิ้วอินไปแล้ว ถ้าน้ำมาจริงๆ ..... ทำใจได้อย่างเดียวเลยค่ะ ^^  พอขนของเสร็จเรียบร้อย ..... คนที่บ้านก้อนอนหมดสภาพ หมดเรี่ยวหมดแรงกันทีเดียวเชียว  เตรียมพร้อมรับข้าศึกแล้วค่ะ ..... จะมาเมื่อไหร่ เราอย่าได้แคร์ อิอิ อาหาร น้ำดื่มที่เตรียมไว้ใช้ประทังชีวิตช่วงนี้ที่เดินทางลำบาก ไม่สะดวกไปจ่ายตลาด วางแผนไว้ว่า หลังจากที่ข้าศึกโจมตี น้ำท่วมแล้ว เราก้อยังคงมีข้าวสารอาหารแห้งต่อไปได้อีก ตราบใดที่ยังไม่โดนตัดน้ำ ตัดไฟ เรากับคุณแฟนก้อยังสามารถค่ะ ยังอยู่ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่โดนตัดน้ำตัดไฟแล้ว เมื่อนั้นอาจจะต้องใช้แผนสำรอง คือ ย้ายถิ่นฐานทันที ^^ ช่วงนี้ก้อใช้ชีวิตอยู่กับบ้านแบบติดเกาะไปก่อนก้อแล้วกันเพราะออกไปไหนไม่ได้นิ   บรรยากาศภายในหมู่บ้านพฤกษ์ลดา 2 รังสิต คลอง 4 (ช่วงวิกฤตน้ำท่วม)
20 ตุลาคม 2554 .....
ไม่ได้เข้ามาอัพบลอคนานหลายเดือนเลยค่ะ มัวแต่วุ่นวายกับชีวิตเรื่องนู้น นี้ นั้นซะนาน ตั้งใจไว้ว่า หมดฝนนี้จะแต่งสวนใหม่ คงได้อัพบลอคเรื่องแต่งบ้าน แต่งสวนเพิ่มเติม  แต่ไม่ทันได้หมดหน้าฝน เมืองไทยของเราเจอวิกฤตน้ำท่วมเข้าไป ขณะนี้ก้อยังไม่ผ่านวิกฤตนี้ เราเองได้แต่ลุ้นระทึกอยู่ทุกวัน อ่านข่าว-ฟังข่าวน้ำท่วมทุกวันจนจิตตกไม่เป็นอันทำมาหากิน เพราะบ้านเรา ดันอยู่ในเขตอันตรายซะด้วย คือ รังสิต-คลองสี่ ที่สำคัญ เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะได้เข้าห้องชายคา และเห็นกระทู้ "พฤกษ์ลดา 345" ..... โอ้ว แม่เจ้า เห็นแล้วปวดใจอย่างแรงแทนคนที่อยู่ที่นั่น เพื่อนในบลอคที่เคยคุยกันผ่านทางนี้ ก้ออยู่หมู่บ้านนี้ด้วย บ้านน้องต้นฝน คุณ phazaa ป่านนี้ไม่รู้เป็นยังงัยบ้าง ก้อได้แต่ส่งกำลังใจไปให้ทางนี้ จิตตกเรื่องนี้ได้ไม่นาน เพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานเดียวกันอยู่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ บางบัวทอง ก้อโทรมาบอกว่า โดนข้าศึกเข้าโจมตีเสียแล้ว พี่ต้องทิ้งบ้านย้ายถิ่นฐานโดยด่วน ป๊าดติโธ่ ..... ข้อมูลล่าสุดที่คุยกันเมื่อเช้านี้ (วันที่ 20/10/54) พี่บอกว่า ได้ข่าวว่า ตู้เย็นของพี่ลอยเท้งเต้งในบ้านซะแล้วน้องเอ๋ย ชั้น 1 ของพี่ไปหมดแระ เอกสารสำคัญบางอย่าง พี่ลืมไว้ในตู้ชั้น 1 ก้อคงไปแล้วเช่นกัน  พี่เลยโทรมาบ่นปนเม้าท์ให้ฟัง แล้วเตือนเราว่า อย่าลืมเก็บเอกสารสำคัญไว้ชั้นบนเน้อ ...... พอวางสายจากพี่ เราก้อเริ่มเก็บของ (ไม่ได้เก็บเตรียมไว้เลยจริงๆ ให้ตายเหอะ) เก็บไป พร้อมกับทำใจไปว่า เอาเหอะ ถ้าน้ำจะมาก้อคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะบ้านเราเล่นบิ้วอินแทบทั้งบ้าน  (ได้แต่หัวเราะแบบเสียสติปนน้ำตา)บอกได้ว่า ทำใจค่ะ ทำใจได้อย่างเดียวเลย ^^ กำลังเซ็งๆ อยู่ เลยคว้าจักรยานไปขี่ปั่นรอบหมู่บ้าน ไปสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมดีกว่า ..... หน้าหมู่บ้านของเรา ที่หวังว่าจะสวยงามเช่นนี้ตลอดไป  หน้าหมู่บ้าน ถนนคลองสี่ด้ายซ้ายมือไปทางเส้นรังสิต-องครักษ์ ยังแห้งดีอยู่  ตรงข้ามหมู่บ้านเป็นสนามกอล์ฟ & โรงเรียนแย้มสอาด ที่กลายเป็นศูนย์อพยพของคลองสี่ชั่วคราว หากมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ยังคงแห้งสนิทเช่นกัน  หน้าหมู่บ้านด้านขวามือ ทางออกไปเส้นลำลูกกา ยังเป็นปกติเช่นกัน เห็นคนงานกำลังช่วยกันขนกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วมในหมู่บ้านค่ะ  ทางเข้าหมู่บ้าน ทำเป็นเนินเปิดช่องเฉพาะทางรถเข้า-ออกในหมู่บ้าน  การเตรียมความพร้อมที่ทางหมู่บ้านทำมานานหลายสัปดาห์แล้ว คือ กำแพงดินหน้าหมู่บ้าน และกันเหนียวด้วยกระสอบทรายก่อนจะเจอกับกำแพงดินค่ะ  หน้าหมู่บ้านเรา ปกติเป็นทะเลสาปสวยๆ อยู่ด้านหน้า ตอนนี้น้ำในทะเลสาปด้านหน้าแห้งลงไปเยอะเลย  เพราะทางหมู่บ้านระบายน้ำออก เตรียมพร้อมรองรับเป็นแก้มลิงเวลาที่น้ำมาจริงๆ ค่ะ  เครื่องสูบน้ำที่จัดเตรียมไว้ ในกรณีที่ข้าศึกโจมตี  ถนนเมนภายในหมู่บ้าน ยังคงแห้งสนิท (และหวังจะให้เป็นเช่นนี้ตลอดไป ^^)  บรรยากาศภายในหมู่บ้าน ที่เราอยากให้เป็นเช่นนี้ตลอดไป  บอร์ดประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวต่างๆ ที่สวนกลางหมู่บ้าน  หนึ่งในนั้นมีแผนปฎิบัติป้องกันน้ำท่วมจากทางลาดสวาย บอกถนนหนทางและเส้นทางน้ำค่ะ  อีกหนึ่งแผน คือ กระสอบทรายที่ทางหมู่บ้านเตรียมวางที่รั้วรอบโครงการ เพราะเกรงว่าน้ำจะมาทางด้านหลัง เซาะรั้วโครงการที่เป็นศิลาแลงเข้ามาค่ะ กระสอบทรายมากองไว้ตามจุดต่างๆ เพราะเห็นคนงานช่วยกันขนวางให้อยู่รอบหมู่บ้าน  ปั่นจักรยานกลับบ้านดีกว่าค่ะ ผ่านวงเวียนกลางหมู่บ้าน  ทางหมู่บ้านเตรียมรับมือน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง ลูกบ้านเองก้อเตรียมรับมือเช่นกัน ขออนุญาตเจ้าของบ้านผ่านทางนี้ลงรูปการป้องกันน้ำท่วมด้วยนะคะ (ขอถ่ายไกลๆ เพราะเกรงใจเจ้าของบ้านค่ะ)  มีหลากหลายเวอร์ชั่นเลยค่ะ ทั้งก่อปูน กั้นอิฐ วางกระสอบทราย มีบังเกอร์เหล็ก และบ้านนี้เจ๋งมากกก ใช้เสื่อน้ำมันหุ้มรอบรั้วเลยค่ะ  มีหลายบ้านที่ป้องกันน้ำท่วมแล้วก้อปิดบ้าน ย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เช่นในซอยบ้านเรา เหลืออยู่ไม่กี่หลังเองค่ะที่ไม่ยอมย้าย (เช่นบ้านเราเป็นต้น อิอิ) กระสอบทรายที่วางอยู่หน้าบ้าน รอคนงานมาขนไปวางที่ริมรั้วด้านหลังบ้านให้อยู่ค่ะ  สำรวจรอบหมู่บ้านแล้ว มาบ้านเราบ้าง บ้านหลังสุดท้าย ท้ายซอย หน้าบ้านไม่ได้ป้องกันอะไรเล้ย --"  ก่อนหน้านี้เราไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไรเลยค่ะ เพราะทำใจไว้ส่วนหนึ่งแล้ว เพราะบ้านเราเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วอิน ถ้าน้ำจะเข้าบ้านคงทำอะไรมากไม่ได้ จะมีก้อแต่ขนเครื่องใช้ไฟฟ้าไปไว้ชั้นสองเท่านั้นเอง เตรียมตัว เตรียมใจไว้นานแล้ว ปกติเราจะโทรคุยกับ รปภ.เรื่องสถานการณ์น้ำท่วมแทบทุกวันที่ออกจากบ้านไปทำงาน จนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ก้อโทรคุยกับ รปภ.เป็นปกติ น้อง รปภ.ถามมาว่า "พี่ครับ พี่ขนของไว้ชั้นสองหมดแล้วหรือยังครับ" เราตอบว่า "ยังอ่ะ บ้านพี่เป็นบิ้วอินเลยไม่รู้จะทำงัย" น้อง รปภ. ถามใหม่ว่า "แล้วพี่กั้นกระสอบทรายยังครับ" เราตอบว่า "ไม่อ่ะ หาทรายไม่ได้เลย" น้อง รปภ. เงียบไปชั่วอึดใจ (คงเซ็งยายลูกบ้านคนนี้เต็มที อิอิ) แล้วถามกลับมาว่า "เอางั้นเลยเหรอพี่ ไม่ป้องกันซักนิดเลยเหรอครับ" เราตอบว่า "อยากป้องกันอยู่ แต่พี่หาซื้อทรายไม่ได้เลย" น้อง รปภ.เลยตอบว่า "เอางี้มั๊ยพี่ ทางนิติของหมู่บ้านเค้ากำลังสั่งซื้อทรายมาล้อมรั้วโครงการ เดี๋ยวผมถามเผื่อ สั่งเผื่อพี่ไว้ให้" เราก้อดีใจเลยสิ ตอบว่า "เอาดิ สั่งเผื่อพี่มาด้วยเลย แต่ว่าพี่ไม่รู้ว่าต้องสั่งเท่าไร ยังงัยอ่ะ" น้อง รปภ. เลยแนะนำมาว่า "พี่กั้นหน้าประตูตัวบ้านเลยดีกว่าครับ เพราะถ้ากั้นรั้วคงไม่ไหว ต้องใช้กระสอบทรายเยอะมาก บ้านพี่หลังในสุดด้วย พื้นที่เป็นสนามตัวแอล" (คุยกันจน รปภ.จำเราได้หมดแล้วว่าบ้านอยู่หลังไหน อิอิ) เราตอบไปเลยว่า "โอเช ตามนั้น แล้วต้องสั่งเยอะมั๊ยอ่ะ ใช้กี่กระสอบอ่ะ" น้อง รปภ. บอกว่า " ประตูหน้าบ้าน ประตูข้างบ้านและประตูหลังบ้าน ทั้งหมดประมาณ 70 กระสอบครับ" เราบอกว่า "ได้เลย ตามนั้น" น้อง รปภ. บอกราคากระสอบทรายและให้เลขที่บัญชีร้านค้าขายทรายให้เราโอนตังค์ให้เรียบร้อย ก่อนวางสาย เรานึกขึ้นมาได้ว่า ไม่ได้อยู่บ้านอ่ะ แล้วใครจะดูแลตอนที่เค้าขนทรายมาให้ น้อง รปภ.เลยตอบว่า "เดี๋ยวผมไปจัดการให้พี่ ไม่ต้องเป็นห่วง" ในใจน้อง รปภ.คงนึก อิพี่คนนี้เรื่องมากสุดๆ หาเรื่องมาให้ทำตล๊อด ตล๊อด แหะๆ พอเย็นเลิกงานกลับบ้าน เห็นผลงานน้อง รปภ.ที่มาจัดการบ้านเราให้เป็นเช่นนี้ .....ประตูหลังบ้าน  .....ประตูข้างบ้าน ติดกับบ่อปลา สวนน้ำของเรา ^^  และประตูหน้าบ้าน ที่มีกล่องพลาสติกอันใหญ่ ที่คุณแฟนของเราเตรียมไว้ใส่ปลาคาร์ฟเวลาที่น้ำมา  กระสอบทรายอีก 10 ถุงวางกองไว้ที่สนามหน้าบ้าน น้อง รปภ.บอกว่า "เตรียมเผื่อไว้ครับพี่ เวลาที่น้ำมา เอากระสอบทรายพวกนี้อุดตามท่อระบายน้ำและท่อน้ำในบ้าน" เราก้อโอเค พยักหน้าเข้าใจ น้อง รปภ.บอกว่า "เดี๋ยวถ้าเวลาน้ำมาจริงๆ ผมหรือ รปภ.คนอื่นๆจะมาช่วยขนกระสอบทรายอุดท่อน้ำนะครับ ถ้าพี่จะให้ช่วยขนของอะไรเพิ่มเติม โทรหาที่ป้อมหน้าหมู่บ้านได้ตลอดเวลา 24 ชม.นะครับ" เรากับแฟนยิ้มบอกขอบคุณ น้อง รปภ.ก่อนแยกย้ายกันไป ^^  ..... ในสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ วิกฤตที่น่าใจหายลุ้นระทึกอย่างนี้ก้อยังคงมีมุมดีๆ ในชีวิตบ้างล่ะน่า เราว่า เราโชคดีที่อยู่ที่นี่ ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกซื้อบ้านในหมู่บ้านนี้ เพราะเราว่าเราโชคดีที่เจอเพื่อนบ้านที่ดี (ที่คอยดูแลบ้านให้ โทรส่งข่าวบอกตลอดเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน) เจอสิ่งแวดล้อมที่ดีภายในหมู่บ้านและสภาพบ้านที่ไม่เคยมีปัญหามาให้กวนใจ (ต้องขอบคุณ บ.แลนด์) บังเอิญได้เจอพนักงานแลนด์ที่ดีตั้งแต่ซื้อบ้าน จนกระทั่งเข้ามาอยู่ที่นี่ได้จะสองปีแล้ว ในเวลาเช่นนี้ เราเองก้อจิตตกเพราะเห็น พฤกษ์ลดา 345 แล้วใจฝ่อขึ้นมาทันที อาจจะเพราะนิติของหมู่บ้านเราเข้มแข็งด้วย สมาชิกในหมู่บ้านพร้อมใจกันเสมอเวลาที่มีประชุม หรือเวลาที่ต้องรวมตัว รวมใจกันดูแลหมู่บ้านเราเป็นอย่างดี และที่สำคัญที่สุด ก้อคงจะต้องขอบคุณ น้อง รปภ.ในหมู่บ้านที่ช่วยดูแลสอดส่องความเรียบร้อยให้บ้านเราเสมอมา (ประทับใจตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาอยู่ เราไม่อยู่บ้านในเวลาที่พายุฝนเข้าแล้วร่มสนามบ้านเราปลิว น้อง รปภ.วิ่งตามเก็บร่ม เก็บข้าวของให้เรากระจาย แหะๆ จนปีต่อมา พายุเข้าเมื่อตอนต้นปี 54 น้อง รปภ.ทั้งหลายปั่นจักรยานส่งข่าวมาบอกก่อน เปลี่ยนไม้ล้อมตันไม้ด้วยนะครับพี่ พายุจะเข้า เดี๋ยวฝนตกต้นไม้จะล้มคร้าบบบ) คุยกับคุณแฟนเรื่องนี้ ว่าเราโชคดีเนาะ ที่เจอสิ่งรอบตัว คนรอบตัวดีๆ แบบนี้ คุณแฟนบอกว่า อืม และถ้าหมู่บ้านเราน้ำจะท่วม พายุจะเข้า หรืออะไรก้อแล้วแต่ ก้อช่างมันเถอะนะ ทำใจดีกว่า เพราะทั้งเราและทางหมู่บ้าน ณ เวลานี้ก้อเตรียมความพร้อม ตั้งรับ ป้องกันน้ำท่วมกันสุดกำลังแล้วนิ ถ้ามันจะเจอสถานการณ์ที่เลวร้าย ก้อถือซะว่า เป็น "ภัยธรรมชาติ" ที่เราไม่สามารถต้านทานได้แล้วกัน  เบื้องหลังกองถ่าย (เล็กๆ)
เหตุเพราะว่า คุณแฟนของเราทำงานผลิตรายการโทรทัศน์ รายการเล็กๆ รายการนึง
และด้วยเหตุสุดวิสัย เรื่องสถานที่การถ่ายทำในรายการต้องเร่งรีบถ่าย ทำให้หาสถานที่ในการถ่ายพิธีกรในรายการไม่ได้ซักกะที ไหนๆ ก้อไหนๆ แล้ว ..... อย่ากระนั้นเลย คุณพี่โปรดิวเซอร์ของรายการนี้ หรือ คุณแฟนของเรานั่นเอง ตัดสินใจได้ว่า ใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ถ่ายพิธีกรเองเลยแล้วกัน นอกจากจะไม่ต้องทำเรื่องขอยืมใช้สถานที่ให้ยุ่งยากแล้ว ที่สำคัญ คือ ไม่ต้องเสียค่าเช่าใช้สถานที่ในการถ่ายทำอีกตะหาก (อันนี้สำคัญสุดๆ) หลังจากที่นัดคิวพิธีกร เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วเมื่อวานนี้ช่วงบ่ายๆ ทีมงานเลยยกกองถ่ายมาที่บ้านเราเพื่อถ่ายพิธีกรซะเลย มีเพียง 5 เทป ใช้ 5 มุมภายในบ้าน เริ่มจากมุมแรก ถ่ายภายในบ้านค่ะ  เมื่อทุกอย่างพร้อม ก้อเริ่มถ่ายพิธีกรได้ค่ะ ในบ้านบริเวณห้องรับแขกถ่ายไป 3 เทป 3 มุมแน่ะ  จากนั้นก้อเริ่มย้ายขบวน หามุมถ่ายนอกบ้านกันบ้าง  เริ่มที่สวนน้ำข้างบ้าน  หามุมถ่ายกันไป  จัดไฟนิดนึง  ซักซ้อมบทกันหน่อย  5...4...3...2...1....Action  เทปที่ 5 ซึ่งเป็นเทปสุดท้ายแล้ว หามุมได้ที่สวนหน้าบ้าน มุมสวนตรงนี้ยังไม่เสร็จดีด้วยซ้ำเพราะต้นไม้ของเรายังไม่โต เราเองก้อยังไม่มีเวลาลงต้นไม้จัดสวนเพิ่มเลย แต่ทีมงานบอกว่า เอาตรงนี้แหล่ะ ....... เอ้า เอาก้อเอา  ซักซ้อมบทกันนิดนึง ดูมุมจากจอมอนิเตอร์ (จอภาพเล็กๆ ที่มีผ้าสีดำคลุมไว้) ว่ามุมนี้ผ่าน  จากนั้นก้อเริ่มถ่ายทำต่อค่ะ ใช้เวลาถ่ายพิธ๊กรทั้ง 5 เทปไม่นาน งานก้อเสร็จสิ้นลุล่วงไปด้วยดี ..... บ้านของเรายังแต่งไม่เสร็จเลย คุณแฟนเริ่มแระ เริ่มใช้บ้านตัวเองนี่แหล่ะถ่ายรายการ เพราะสะดวกสุดแล้ว ไม่ต้องเสียค่าเช่า แหม ..... ไม่ค่อยจะงกเท่าไรเลยนะเนี่ย แฟนช้านน  |
chicken demon
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?] Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
