ทริปเมืองตรัง (วันที่สอง).....ทะเลหน้าฝน
วันเสาร์ที่ 5 กันยา 52.....

วันนี้ตื่นแต่เช้า เปิดผ้าม่านดูท้องฟ้าซะหน่อยว่า ฝนตกมั๊ยน้อ

ฟ้าเริ่มสาง ปรากฎว่า ฝนตกอ่ะค่ะ แต่ตกปรอยๆ ไม่แรงมาก

ปลอบใจตัวเอง เอาน่า เดี๋ยวคงหยุดแหล่ะ ฝนตกไม่แรงซักหน่อย

ว่าแล้วก็อาบน้ำอาบท่า ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย

ก่อนจะเดินลงไปทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมค่ะ

อาหารมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไร

อาจจะเพราะส่วนใหญ่ เค้าออกไปทานมื้อเช้าแบบคนตรัง คือ ติ่มซำมากกว่ามั้งคะ






พออิ่มท้องดีแล้ว เดินออกไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม

เซลล์ทัวร์ของโรงแรมเดินเข้ามาทักทายบอกว่า

โทรไปเช็คที่ท่าเรือแล้วค่ะ ไม่มีปัญหา ฝนไม่ตกทางนู้น ไปเที่ยวทะเลได้ค่ะ

เราก็โอเชค่ะ รวบรวมสมาชิกผู้ร่วมทริปทั้ง 8 คน ขึ้นรถตู้ไปท่าเรือปากเมงค่ะ






รถตู้มาส่งที่ท่าเรือ แต่แล้วก็ยังออกเรือไม่ได้

เจ้าหน้าที่ทัวร์บอกว่า ใจเย็นๆ ดีกว่าเนาะ รอดูฟ้าฝนให้แน่ใจดีกว่า

เพราะตอนนี้ถึงฝนจะหยุดแล้ว แต่ทะเลยังมีลมอยู่เลย

ท้องฟ้าก็ยังไม่ใส คลื่นยังแรงอยู่

ครอบครัวเราก็โอเช ไม่มีปัญหา นั่งเล่นชิวๆ รอที่ท่าเรือได้อยู่แล้ว






นั่งเล่นได้ซักพัก เริ่มหาอะไรทำดีกว่า เดินไปถ่ายรูปบริเวณท่าเรือ

แอบเห็น.....หมาทะเล นอนให้ถ่ายอย่างดีเชียว

เดินข้ามถนนไปซื้อขนมที่มินิมาร์ทแถวนั้น

เจอน้องหมา 2 ตัว น่ารักจังเลย






นั่งเล่นอยู่ซักพัก น้าเกิดนึกอยากกินกาแฟขึ้นมา

เห็นหน้าบริษัททัวร์มีขนมขบเคี้ยว + ชา กาแฟ กระติกน้ำร้อนตั้งอยู่

ก็เลยเข้าไปถามว่า กาแฟแก้วละเท่าไรคะ จะขอซื้อกาแฟ

ทางทัวร์ตอบมาว่า ชงเลยครับ ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก

น้าเกิดอาการไม่สบายใจเพราะปกติไปเที่ยวที่ไหนๆ ก็จ่ายตังค์ตลอด

ขนาดน้ำเปล่าเรายังต้องเสียตังค์กันเลย ก็เลยพูดอีกทีด้วยความเกรงใจว่า

ไม่เป็นไรๆ คิดเงินก็ได้ จะซื้อขนมกินกับกาแฟด้วยจ้ะ

พี่คนเดิมตอบกลับมาว่า

"ไม่เป็นไรจริงๆครับ แค่กาแฟกับขนมแค่นี้เอง คิดเงินก็เกินไปแล้วครับ

เราคนไทยด้วยกัน ของแค่นี้เรื่องเล็กครับ" พูดจบพี่ท่านก็ส่งยิ้มให้ด้วย

อึ้งค่ะ....น้าเรามีอึ้ง แบบคาดไม่ถึงเลยจริงๆ

เลยชงกาแฟมากินแก้วนึงพร้อมกับเดินกลับมานั่งที่โต๊ะแบบ....ปลื้มค่ะ

แป๊บนึงเจ้าหน้าที่ทัวร์ยกขนม + น้ำดื่ม มาให้กรุ๊ปเราบอกว่า ตามสบายครับไม่ต้องเกรงใจ

โห....ยังไม่ทันได้เที่ยวด้วยกันเลย ก็รู้สึกถึงรังสีมิตรภาพส่งถึงกันแล้วอ่ะค่ะ






รอจนฟ้าเริ่มใส ก็ได้เวลาลงเรือกันแล้วค่ะ ประมาณสิบโมงได้

เรือลำนี้แหล่ะค่ะ ที่จะพาเราเที่ยว

บังเอิญว่าวันนี้มีเฉพาะกรุ๊ปเรากลุ่มเดียวที่ซื้อทัวร์

เราก็เลยเหมือนกับได้เหมาลำ ทั้งๆ ที่ความจริงซื้อเป็นแบบแพคเกจต่อคน

ตอนแรกเลยก่อนมาเที่ยวก็ตั้งใจจะเหมาลำอยู่เหมือนกันค่ะ

แต่นึกขึ้นได้ว่า ถ้าเหมาลำก็เป็นเรือหางยาว จะเล็กกว่าเรือที่เที่ยวเป็นกรุ๊ป

ไม่อยากให้แม่ + น้าๆ ตื่นเต้นเกินไปถ้าจนะเที่ยวด้วยเรือลำเล็ก

เพราะแม่กับน้าเพิ่งมาเที่ยวทะเลใต้ครั้งแรกด้วยนี่สิ

สรุปแล้วเราก็เลยซื้อแพคเกจแทนดีกว่า โชคดีค่ะ ที่มีแต่กลุ่มเราในวันนี้

เลยเที่ยวเป็นการส่วนตัวกับเรือหวานเย็นลำนี้เลย

(แอบตั้งชื่อเรือเสร็จสรรพ เพราะสีสันของเรือเหมือนน้ำแข็งไสหวานเย็นจริงๆนะ)

ออกมาจากฝั่งได้ไม่ทันไร

ถึงฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ทะเลก็ยังคงมีคลื่นอยู่ดี

เล่นเอาครอบครัวเรา เฮกันทีเวลาที่เรือโต้คลื่น

ไม่ได้มีเกรงมีกลัวกันเร้ย ให้ตายเหอะ






จริงๆ ตามกำหนดการเราตั้งใจจะไปเที่ยวถ้ำมรกตกันค่ะ

แต่วันนี้เข้าไม่ได้จริงๆ พี่ที่เป็นไกด์ชื่อว่าพี่ใหม่บอกว่า

วันนี้เข้าไม่ได้หรอกเพราะวันนี้หลัง 15 ค่ำมาแค่วันเดียว น้ำขึ้นครับ

แล้วทะเลก็มีลมแบบนี้ มันอันตราย แป่วววว

มะเป็นไร ไม่ได้ไปถ้ำมรกตก็ไม่เป็นไร

เลยได้ไปที่เกาะไหงก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้แม่กับน้าฝึกการใช้สนอคเกิ้ล

ในรูปที่เห็นคือ รีสอร์ทเกาะไหงแฟนตาซีค่ะ

น้าๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ ส่วนแม่....ตอนแรกก็ตื่นเต้นบอกว่า

มันบังคับยากนะเนี่ย ให้หายใจทางปากแทนจมูกอ่ะ

เราก็ลุ้นๆ อยากให้แม่ดำน้ำตื้นเป็น เพราะแม่เป็นคนชอบเลี้ยงปลา

ถ้าแม่เห็นปลาจริงๆ ในท้องทะเล แม่น่าจะชอบมากๆ

สุดท้าย แม่ก็ทำได้ พอเริ่มดำสนอคเกิ้ลเป็นล่ะทีนี้.....

คุณนายไม่ยอมเลิก เอะอะ อะไรก็จะดำน้ำดูปลาท่าเดียว ไม่ยอมขึ้นกันเลย^^

จนได้เวลาขึ้นเรือ กินมื้อเที่ยงบนเรือกันค่ะแบบบุปเฟ่ต์

บนเรือมีที่วางอาหารเป็นล็อคๆ กันอาหารหกเลอะเทอะด้วยค่ะ

พอเปิดฝาลิ้นชักปุ๊บจะเห็นอาหาร 5 อย่างอยู่ในถาด น่ากินมากๆๆ

เริ่มด้วยถาดแรก น้ำพริกกะปิใส่กุ้งต้มหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

ถาดที่สอง คือ ปลาหมึกยักษ์ชุปแป้งทอด (ตัวใหญ่มากๆ เค้าหั่นมาให้เรียบร้อย)

จริงๆ มีปลาหมึกเต็มถาดนะคะ แต่เราถ่ายรูปไม่ทันเพราะมัวแต่ตักไปกินก่อน

นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย เลยรีบไปคว้ากล้องมาถ่ายรูปต่อ

ตามด้วยปลาทูทอดกินกับน้ำพริก

เราไม่ได้กินปลาทูทอดค่ะ เบื่อแล้ว

แต่คุณแฟนบอกว่า ปลาทูอร่อยมากเห็นตัวเล็กๆ อย่างนั้นเถอะ

แล้วก็ยืนยันด้วยการเดินไปตักข้าว 3 รอบเลยทีเดียวเชียว

ปลาหมึกหมดเป็นอันดับแรกเลยค่ะ ทั้งเราทั้งน้องชายจัดการเรียบบบ

มีแกงส้มมะละกอใส่กุ้งตัวเบ้งๆ อีกหนึ่งถาด

เล่นเอาครอบครัวเราฮือฮากับกุ้งในแกงส้มกันเลย

ปิดท้ายกับข้าวด้วยน่องไก่เล็กทอด






กับข้าวทั้งหมดนี่เ้ค้าเตรียมมาให้กลุ่มเรา 8 คนเท่านั้นนะคะ

จนคุณแฟนเราถึงกับออกปากว่า ตั้งใจจะเลี้ยงคนซัก 20 คนหรือเปล่าอ่ะพี่

กับข้าวเยอะมาก แม่กับน้าเดินไปตามพี่ไกด์ + พี่ที่ขับเรือให้มากินข้าวด้วยกัน

เพราะยังงัยก็ต้องจอดเรือกินข้าวมื้อเที่ยงอยู่แล้ว

พี่ๆ ทัวร์บอกว่าให้พวกเรากินให้เสร็จก่อนก็ได้ เดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง

แม่เราถึงกับบอกว่า โอ๊ย ไม่ต้องมาดูแลพวกเราหรอก เรือจอดอยู่เฉยๆ

มากินข้าวด้วยกันดีกว่า กับข้าวเยอะแยะเลย สุดท้ายเลยนั่งกินข้าวด้วยกัน

ล้อมวง เม้าท์กันสนุกสนาน อิ่มข้าวแล้วต่อด้วยผลไม้ล้างปาก

พี่เค้าเตรียมแตงโม + สับปะรดมาปอกให้เรากินกันตรงนั้นด้วย

พออิ่มท้องซักพัก เรือก็พาเราไปเที่ยวต่อที่ เกาะม้า

พี่ไกด์ผูกเชือกไว้ที่เรือกับชะง่อนหิน แล้วให้แม่กับน้าๆ ดำน้ำแบบเกาะเชือกไปด้วย

เพื่อกันไม่ให้ไหลไปตามกระแสน้ำ เพราะวันนี้ลมแรงค่ะ

เราดำน้ำแป๊บเดียวก็ขึ้นเรือเพราะรู้สึกท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจ

เคยไปเที่ยวที่กระบี่ตอนฟ้าใสๆ มาแล้วด้วย ก็เลยเฉยๆ

ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าวันนี้ฟ้าใส ทะเลตรังคงสวยไม่แพ้กระบี่หรอก

ถึงฟ้าฝนไม่เป็นใจ ดำน้ำกันได้ไม่เท่าไร

ได้ไปเล่นน้ำบริเวณชายหาดที่เกาะไหง กับดำน้ำดูปลา + ปะการังที่เกาะม้าเท้านั้นเอง

เพราะเกาะเชือกก็ไปไม่ได้ ฝนตั้งเค้ามาอีกแล้วเราต้องรีบกลับเข้าฝั่งกัน

น้องชายบอกว่า ไม่ได้ไปเกาะเชือกจริงๆ แต่เราก็ได้เกาะเส้นเชือกดูปะการังแทนนี่งัย

เล่นเอาฮากันทั้งเรือ พี่ไกด์บอกว่า ขากลับอาจจะตื่นเต้นเล็กน้อยนะครับ

เพราะท่าทางฟ้าฝนไม่เบา ครอบครัวเราตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า

ไม่มีปัญหา.....น่านนน เอากับเค้าสิ แต่ละคนๆ ไม่ได้กลัวอะไรกันเร้ย






ขากลับ นอกจากลมแรงแล้ว ฝนเริ่มตกปรอยๆ คลื่นทะเลเริ่้มสูงขึ้นๆๆ

ครอบครัวเรายังคงเฮได้ทุกครั้งที่เรือโต้คลื่น

มีเสียงกรี๊ดกร๊าดพร้อมกับเสียงหัวเราะอยู่ตลอดเวลา

อาจจะเพราะไม่มีฟ้าแลบ ฟ้าร้องด้วยมั้งคะ เราก็เลยไม่กลัวกัน

จนเรือพามาใกล้ฝั่ง ไม่ไกลเท่าไรเพราะเห็นฝั่งอยู่ลิบๆ

อยู่ดีๆ พี่ไกด์ก็เดินมาบอกว่า เดี๋ยวเราต้องพักเรือก่อนนะครับ

เรือจะไปจอดหลบลมทะเลที่เกาะ ข้างหน้าแป๊บนึงก่อน

แล้วยังงัยทางฝั่งจะส่งสปี้ดโบ้ทมารับพวกเรากลับฝั่งแทน

พูดจบหันไปเห็นหัวเรือที่กำลังมุ่งหน้าเข้าฝั่งกำลังหมุนลำเรือกลับไปอีกทาง

เพื่อไปอีกเกาะนึงแถวๆ นั้น

จำได้เลยว่า นาทีนั้นเห็นคลื่นทะเลที่สูงที่สุด (ที่เห็นด้วยตาตัวเอง)

แล้วพี่คนขับเรือพยายามประคองเรือสุดฤทธิ์ พ้นคลื่นทะเลที่ม้วนๆ ตัวมาหาเรืออย่างหวุดหวิด

นาทีนั้นน่าจะทำให้พวกเราเกิดอาการช็อคกันบ้าง

แต่ความจริงแล้วพวกเราไม่มีใครช็อค นอกจากร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ว้าวว

มันอารมณ์แบบผจญภัยสุดๆ เพียงไม่กี่วินาที เรือก็พาพวกเรามาอยู่ที่หหน้าเกาะแห่งหนึ่ง

ลมทะเลนิ่งเหมือนอยู่คนละท้องทะเลกับตากี้นี้เลย

พี่ไกด์บอกว่า ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ไม่มีลมแล้ว ไม่ต้องกลัว

มีเสียงน้าของเราตอบกลับไปทันทีว่า

ไม่ได้กลัวหรอก ว่าแต่ เกาะนี้เล่นน้ำได้มะ มีหาดทรายด้วยอ่ะ ดำน้ำกันได้ป่าว

พี่ไกด์ถึงกับบอกว่า พี่คร้าบ กลัวกันบ้างซักนิดก็ได้คร้าบ ยังจะเล่นน้ำอีกเหรอคร้าบ

เล่นเอาฮากันทั้งลำเรือ พี่คนขับเรือดับเครื่องแล้วเดินออกมาจากห้องคนขับเรือ

มายืนดูทะเล แม่กับน้าชมเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า พี่คนขับเก่งมากๆ

ระหว่างเรือพักที่เกาะนั้น เราก็ได้ถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อย

เห็นนกแร้งด้วยค่ะ สวยชะมัด เวลาบินที เท่ห์จริงๆ

นกแร้งมาโฉบกินปลาค่ะ






พี่ไกด์กำลังปอกสับปะรด หั่นผลไม้ มีกาแฟ + เค้กเมืองตรังให้พวกเรากินฆ่าเวลา

ซักพักเรือสปี้ดโบ้ทก็มารับพวกเราค่ะ

พี่ไกด์บอกว่า ถ้านั่งอยู่บริเวณหน้าลำเรือมันจะโต้คลื่นจังๆ เลย

มานั่งในตัวเรือเลยดีกว่าครับเพราะจะได้ไม่กระแทกมากนัก

แต่ขอโทษที....คำแนะนำนี้ใช้ไม่ได้กับครอบครัวเรา

เพราะทุกคนย้ายไปนั่งบริเวณข้างหน้ากันหมดเลย ^^

พอมาถึงฝั่ง มีสาวน้อยอายุประมาณ 5-6 ขวบลากรถเข็นมารอที่ท่าเรือ

ถามกลุ่มเราว่า เที่ยวสนุกมั๊ยคะ จะฝากกระเป๋าให้หนูเข็นไปให้มั๊ยคะ

ครอบครัวเราถึงกับอมยิ้มเลย แม่ถามว่า เข็นไว้เหรอลูกตัวเล็กนิดเดียว

สาวน้อยยังไม่ทันตอบยืนยิ้มตาหยีอยู่ใกล้ๆ

ไกด์เพิ่งขึ้นจากเรือตามเรามาบอกว่า ลูกสาวเถ้าแก่เจ้าของทัวร์ครับ

พ่อเค้าสั่งให้มาช่วยบริการเข็นของให้ลูกทัวร์

ที่บ้านเราเลยฮือฮากันเลย ตัวเล็กนิดเดียวรู้จักช่วยพ่อแม่ทำมาหากินด้วย

แต่ที่บ้านเราถือของกันเองไม่ได้ใส่รถเข็น สาวน้อยก็เลยเดินลากรถคุยกับเรามาตลอดทาง

พอถึงหน้าออฟฟิศทัวร์ตรงถนนใหญ่ เถ้าแก่เจ้าของทัวร์วิ่งเข้ามารับ

แล้วบอกว่า เก่งกันมากๆ เลย คิดว่าจะเมาเรือกันแล้วเพราะเห็นว่า

ผู้ร่วมทริปนี้มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้นเลย (แม่กับบรรดาน้าๆ) แต่ไม่ยักกลัวแฮะ

ที่บ้านเราต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่กลัวเลยค่ะสนุกดี

ที่สำคัญไกด์บริการดีมาก พี่ขับเรือก็เก่ง อาหารก็อร่อย ประทับใจค่ะ

เถ้าแก่ยิ้มหน้าบานยืนคุยทำคุ้นเคยกันเลย คุยกันจนขึ้นรถตู้เพื่อไปส่งเราที่โรงแรม

กลับมาถึงโรงแรมต่างคนต่างแยกย้ายกันพักผ่อน อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก่อนจะลงมาที่ล็อบบี้ วันนี้ตั้งใจจะไปกินมื้อเย็นที่ร้านโกชัยปลาเผากันค่ะ

แต่พอเอาเข้าจริง ไม่สามารถเพราะฝนตกไม่เลิกและทำท่าจะลงหนักขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายลงมติกันว่า กินแถวๆ นี้แระกัน เราก็เลยขอยืมร่มโรงแรม

เดินไปที่ร้านตะไคร้หวาน ที่เดิมเลยค่ะ

วันนี้ที่ร้านตะไคร้หวานคนเต็มร้านเลยค่ะ ครอบครัวเราเลยขึ้นไปนั่งที่ชั้น 2

สั่งอาหารมากินเล่นกันก่อน....ปอเปี๊ยะทอดค่ะ

ตามมาด้วยยำตะไคร้หวาน ที่เราไม่ได้กินคราวก่อนเพราะหมดซะก่อน

คราวนี้เลยจัดมาอย่าให้เสีย ไม่ผิดหวังเลยค่ะ รสชาติดีมาก

เครื่องเคียงต่างๆ มีตะไคร้ฝอยๆ ทอดกรอบ

กุ้งแห้งทอด เนื้อหมููทอด เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว

พริกขี้หนู มะนาว หอมแดง วางเรียงกันไปก่อน

ราดด้วยน้ำยำที่รสชาติกลมกล่อมมากๆ เปรี้ยวหวานกำลังดีเลยค่ะ

ลืมถ่ายรูปต้มยำทะเลมาค่ะ ต่อด้วยแแกงส้มปลา

รสชาติแพ้แกงส้มบนเรือตอนไปเที่ยวทะเลมา

แกงส้มบนเรือรสชาติดีกว่า แบบว่าชนะเลิศค่ะ

ตามด้วยยำถั่วพู อร่อยนะคะ ไข่ต้มกำลังดีเลย






ต่อด้วยเนื้อปูผัดต้นหอม เมนูนี้สั่งมา 2 จานเลยค่ะ

มีอาหารจานเดียวด้วยค่ะ จานนี้ข้าวผัดแกงเขียวหวาน

น้าบอกว่ารสชาติธรรมดา ไม่เข้มข้น ติดจืดไปหน่อย

สปาคาโบ อันนี้ไม่ผ่านอย่างแรง

เราชิมแล้วไม่ใช่เลยอ่ะ บอกกับทางร้านแล้วด้วยค่ะว่า ไม่โอเค

คุณแฟนสั่งก๋วยเตี๋ยวราดหน้าลงเรือ อร่อยดีค่ะ แปลกดี

เส้นก๋วยเตี๋ยวทอดกรอบ กินเพลินเลยค่ะ

น้ำราดหน้า รสชาติแปลกๆ อร่อยนะคะ

กับข้าวมีเพิ่มเติม เมนูเหมือนเมื่อวานนี้ คือ ลาบหมูทอดกับต้มข่าไก่ ค่ะ

ข้าวอีก 1 โถ รวมเบ็ดเสร็จค่าเสียหายราคา หนึ่งพันถ้วน






นั่งเม้าท์กันไป กินข้าวกันไป รอฝนหยุดตกลแล้วก็เดินกลับโรงแรม

แยกย้ายกันพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยววันพรุ่งนี้ต่อดีกว่าค่ะ

จบการผจญภัยท้องทะเลหน้าฝนในวันนี้ด้วยรูปช่างภาพประจำตัวทุกทริปนะคะ




Create Date : 11 ธันวาคม 2552
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 16:59:31 น.
Counter : 881 Pageviews.

2 comments
  
เคยไปแล้วแบบนี้เลยค่ะ แต่ยังไงก็สวย :D
โดย: deetogether วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:17:06:10 น.
  
น่าตื่นเต้นสุดๆ เลยค่ะ ภาพสวยมากๆ ด้วยจ้า
โดย: Virgo me วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:17:48:47 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

chicken demon
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]



All Blog
Friends Blog
[Add chicken demon's blog to your weblog]