ผมก็แค่คนที่ไม่มีสื่อในมือ
 
 

จดหมายเปิดผนึก จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย

//www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4134575/P4134575.html

เรียน สมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่รัก

ตามที่ได้มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่ประสงค์ให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ได้ทำการเคลื่อนไหวกดดันและกล่าวหาผมและครอบครัว ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้พี่น้องประชาชนสับสนและเข้าใจผิดต่อผมและพรรคไทยรักไทย

ผมขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้สมาชิกพรรคไทยรักไทย และพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนผมและพรรคไทยรักไทย ได้ทราบข้อเท็จจริง ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

1.ทำไมต้องขายหุ้นชินคอร์ป?

วันแรกที่ผมประกาศลงสนามการเมือง ในนามหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ผมถูกจ้องเล่นงานด้วยเรื่องหุ้น ในที่สุด ผมก็รอดมาได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าผมไม่มีเจตนาที่จะปกปิด หรือซุกหุ้น

เมื่อพ้นคดีซุกหุ้นมาได้ ผมตั้งปณิธานว่าจะทำงานเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมืองของผมด้วยชีวิต และสติปัญญาที่มีอยู่ เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ผมก็จะทำเพื่อสนองคุณแผ่นดิน และสนองพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

เพื่อจะยุติปัญหาทั้งปวงเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องหุ้น และบริษัทผมได้ปรึกษากับครอบครัวว่า ผมต้องการทำงานการเมืองด้วยความอิสระ การที่คนในครอบครัวยังทำธุรกิจ ถือหุ้นอยู่ อาจจะเกิดความผิดพลาดโดยไม่เจตนาขึ้นอีก ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเจตนารมณ์ของผมดี จึงยอมขายบริษัทที่สร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของทุกคน

แต่การขายหุ้นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ เช่น ชินคอร์ป ไม่ใช่เรื่องที่ขายได้ง่ายๆ เพราะครอบครัวผมตั้งเงื่อนไขกับผู้ซื้อว่า ซื้อไปแล้ว ต้องให้คนไทยบริหารไม่ปลดพนักงาน และต้องดำเนินการใต้กฎหมายไทย เนื่องจากกิจการนี้เป็นสัมปทาน บริษัทได้สิทธิในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยรัฐยังคงเป็นเจ้าของ หากบริษัทหรือผู้ซื้อกิจการทำผิดสัมปทาน รับก็ยังคงยกเลิกได้

คณะที่ปรึกษาของลูกๆ ได้ใช้เวลานานพอสมควร จึงเจรจาขายหุ้นบริษัทในส่วนที่ครอบครัวผมถืออยู่ได้สำเร็จ ซึ่งในครั้งแรกผมถือว่าเป็นโชคดีของผม ที่จะสามารถทำงานการเมืองได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องหุ้นของคนในครอบครัวอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นว่า เจตนาดีที่ตั้งใจไว้ กลายเป็นคราวเคราะห์เมื่อมีผู้บิดเบือนข้อมูล ทำความจริงเป็นความเท็จ ทำให้เรื่องปกติกลายเป็นเรื่องผิดปกติ จนเกิดการเข้าใจผิดแก่ประชาชน และขยายวงกว้างจนทำให้สังคมเข้าใจผมผิดๆ

ถ้าผมทราบล่วงหน้าว่าเจตนาดีที่ผมตั้งใจจะทำงานให้บ้านเมืองอย่างอิสระจะถูกบิดเบือนเช่นนี้ ผมคงจะไม่ให้ความเห็นให้ครอบครัวขายหุ้น เมื่อครอบครัวมาขอความเห็น เพราะทำให้ทุคนเดือดร้อน ทั้งๆ ที่ถ้าถือหุ้นอยู่ก็ยังได้รับเงินปันผลและกำไรจากบริษัทอยู่ ซึ่งดีกว่าการขายออกไป ทำให้หมดสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากกำไร แล้วยังถูกโจมตี ใส่ร้าย เช่นที่เกิดขึ้นในเวลานี้


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็เพราะครอบครัวผมยังไม่สามารถทำให้ประชาชนเข้าใจเจตนาดีของพวกเราทุกคนได้ เนื่องจากไม่มีโอกาสที่จะชี้แจงต่อประชาชน ทำให้ผู้ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงเร่งโหมสร้างข้อมูลเท็จ และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อผมและครอบครัวอย่างมาก

ผมมั่นใจว่าด้วยหัวใจที่เป็นธรรม และปราศจากอคติของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน จะเข้าใจเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ปได้ หากได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริง ครบถ้วน และไม่ถูกบิดเบือนเช่นที่ผ่านมา

2.ขายหุ้น ได้กำไร ต้องเสียภาษีหรือไม่?

กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 126 ซึ่งประกาศใช้เมื่อ พ.ศ.2509 ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (23) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 187 พ.ศ.2534 กำหนดไว้ว่า เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษี

หมายความว่า ทุกคนที่มีรายได้จากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหุ้น ไม่ต้องเสียภาษี ทุกคนที่ซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้น ได้รับสิทธิได้รับการยกเว้น เสมอภาค เท่าเทียมกัน และปฏิบัติกันเช่นนี้มาเป็นเวลา 16 ปีแล้ว คือตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2534 ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาใช้กับครอบครัวผมเป็นรายแรก และไม่ใช่ว่าครอบครัวผมได้รับสิทธิพิเศษใดๆ เหนือกว่าคนอื่นๆ ขอให้คนไทยนับแสนที่เคยเล่นหุ้นช่วยเป็นพยานด้วยว่ารายได้จากการเล่นหุ้น ขายหุ้นในตลาดหุ้นนั้น ท่านต้องเสียภาษีหรือไม่

แต่มีผู้บิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลแก่ประชาชนว่า ครอบครัวผมมีรายได้จากการขายหุ้น 73,000 ล้านบาท แล้วไม่ยอมเสียภาษี เป็นการเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ส่วนรวม ซึ่งมีเจตนาที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อผมและครอบครัว

ไม่ใช่ว่าครอบครัวผมไม่ยอมเสียภาษี แม้ครอบครัวผมอยากจะชำระภาษี กรมสรรพากรก็ไม่สามารถรับได้ เนื่องจากว่ารายได้ที่เกิดขึ้นเป็นรายได้จากการขายหุ้นในตลาดหุ้นทั้งสิ้น เพราะหุ้นที่ขายเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดหุ้น ไม่ใช่หุ้นที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่ารายได้จากการขายหุ้นในตลาดหุ้น ได้รับการยกเว้นภาษี เช่นเดียวกับนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้น ก็ได้รับการยกเว้นภาษีทุกคน

คุณบุญชัย เบญจรงคกุล และครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทยูคอม จำกัด (มหาชน) เจ้าของโทรศัพท์ DTAC ขายหุ้นไปก่อนหน้าชินคอร์ป ประมาณ 3 เดือน ก็ไม่เสียภาษี เพราะได้รับการยกเว้นเช่นเดียวกัน

ผู้บริหารบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด ผู้บริหารบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์เนชั่น กรุงเทพธุรกิจ คม-ชัด-ลึก ผู้บริหารโพสต์พับบลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โพสต์ทูเดย์ ขายหุ้น ก็ไม่ได้เสียภาษีเพราะได้รับการยกเว้นตามกฎหมายฉบับเดียวกับที่ครอบครัวผมได้รับ


นักการเมืองฝ่ายค้านในพรรคประชาธิปัตย์บางคนเป็นนักลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นเป็นอาชีพ ได้กำไรปีละหลายร้อยล้านบาท ก็ไม่เคยเสียภาษีรายได้จากการขายหุ้นสักบาทเดียว เพราะกฎหมายยกเว้นให้เช่นเดียวกัน

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทชินวัตรขึ้นมา ผมและครอบครัวชำระภาษีรายได้เต็มจำนวนเป็นประจำทุกปี ไม่เคยขาดแม้แต่บาทเดียว นับถึงวันนี้ คิดเป็นเงินที่ผมและครอบครัวชำระภาษี ร่วม 3,000 ล้านบาท ในส่วนของบริษัทชินคอร์ป นับแต่ก่อตั้งขึ้นมาจนถึงขณะนี้ ได้ชำระภาษีและค่าสิทธิการดำเนินงานต่างๆ แก่รัฐไปแล้วเกือบ 200,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นได้ว่าผมและครอบครัวไม่เคยมีเจตนาที่จะหลบหนีภาษี

กรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเพราะมีผู้บิดเบือนข้อมูล ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าครอบครัวผมทำผิดกฎหมาย ไม่ชำระภาษี โดยผมให้การสนับสนุนการทำผิดกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งผมต้องขอความกรุณาประชาชนได้พิจารณาไตร่ตรองข้อมูลที่ได้รับก่อนจะเชื่อและคล้อยตาม

3.ขายชาติใช่ไหม?

ข้อกล่าวหาที่รุนแรงที่สุดสำหรับคนไทยอย่างผม ก็คือ ขายชาติ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นประชาชนธรรมดา ผมไม่มีวันที่จะขายชาติ หรือนำสมบัติของชาติไปขาย อย่างที่มีผู้กล่าวหาผม

การขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวผม ให้แก่ เทมาเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสัญชาติสิงคโปร์ เป็นการขายหุ้นของบริษัท ไม่ใช่การขายใบอนุญาตการให้บริการสัญญาณดาวเทียม โทรศัพท์ และโทรทัศน์ ไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อกิจการของประเทศอื่น สิทธิทั้งหมดยังคงเป็นของประเทศไทย และใช้ประโยชน์เพื่อคนไทย เทมาเล็กเป็นเพียงเข้ามาบริหาร เข้ามาลงทุน และได้ผลตอบแทนทางธุรกิจในรูปแบบของกำไร หรือราคาหุ้นที่สูงขึ้นในอนาคตเท่านั้น

ประเด็นสำคัญก็คือ บริษัทชินคอร์ป เป็นบริษัทสัญชาติไทย ตั้งอยู่ และประกอบกิจการในประเทศไทย ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทยเท่ากับว่าเทมาเล็ก ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ขณะกิจการโทรคมนาคม มีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เป็นผู้กำกับดูแลรักษาประโยชน์ของประเทศ ที่จะได้รับจากการให้สิทธิบริการโทรคมนาคม เป็นไปไมได้ที่เทมาเล็กจะชี้นำให้บรษัท ชินคอร์ปดำเนินการฝ่าฝืน หรือขัดต่อกฎหมายไทย เพื่อประโยชน์ของชาติอื่น เพราะ กทช.จะไม่ยอมให้มีการดำเนินการเช่นนั้นแน่ จริงๆ แล้วสิทธิและความเป็นเจ้าของอุปกรณ์ทุกอย่างยังเป็นของรัฐบาลไทยตามกฎหมายเดียวกับวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคมทุกประการ

มีคำถามมากว่าทำไมไม่ขายให้คนไทยด้วยกัน เท่าที่ผมทราบ ผู้บริหารบริษัทชินคอร์ป ได้พยายามแล้ว แต่ไม่มีกลุ่มใดสนใจ เมื่อกลุ่มธุรกิจในประเทศไม่สนใจจึงมีการไปเจรจาหาผู้ซื้อในต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่เทมาเส็กรายเดียว แต่มาจบได้ที่เทมาเส็ก

ผมขอยืนยันว่า การขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวผม ไม่ใช่การขายชาติ หรือนำสมบัติของชาติไปขาย เป็นเพียงการขายหุ้นส่วนที่เป็นของครอบครัวในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น

เพื่อความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผม และบริษัทชินคอร์ป ขอความกรุณาพิจารณา เปรียบเทียบกรณีตระกูลเบญจรงคกุล ขายหุ้นบริษัทยูคอม ให้แก่บริษัทเทเลนอร์ สัญชาตินอร์เวย์ ไม่ได้แตกต่างกันเลย บริษัทยูคอมทำธุรกิจโทรคมนาคม ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ DTAC และขณะนี้บริษัทเทเลเนอร์ได้เข้าไปบริหารบริษัทยูคอม และธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ DTCA แล้ว

กรณีตระกูลเบญจรงคกุล ขายหุ้นบริษัทยูคอม ให้กับต่างชาติ 38% เมื่อเดือนตุลาคม 2548 ก่อนที่ครอบครัวผมจะขายหุ้นชินคอร์ป 3 เดือน ไม่ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ หรือขายสมบัติชาติ แต่กรณีครอบครัวผม ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปกลับถูกกล่าวหาว่าขายชาติ หรือขายสมบัติชาติ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดจากการบิดเบือนข้อมูลของผู้ที่ต้องการทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อผมและครอบครัว

เป็นที่น่าสังเกตว่ากรณีการขายหุ้นบริษัทยูคอม และบริษัทอื่น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตรวจสอบและไม่ได้นำมาเปรียบเทียบกับการขายหุ้นชินคอร์ปเลย อาจจะเป็นเพราะผู้บริหารในบริษัทเหล่านั้น เลยเป็นกรรมการบริหารพรรค ผู้อำนวยการพรรค เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ หรือเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ในทางหนึ่งทางใด

ผมขอยืนยันว่าการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปของครอบครัวผม ไม่ใช่การขายชาติ ไม่ใช่การขายสมบัติชาติ สิทธิทุกอย่างยังคงอยู่ในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของคนไทยไม่เปลี่ยนแปลง และบริษัทชินคอร์ปยังเป็นคู่สัญยากับรัฐบาลไทยโดยรัฐบาลเป็นเจ้าของสิทธิเหล่านั้นตามเดิม

4.แก้กฎหมายโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ชินคอร์ปจริงหรือไม่?

มีการกล่าวหาว่าผมใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ไปสั่งการให้มีการแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากกว่า 25% เพื่อเอื้อประโยชน์แก่การขายหุ้นชินคอร์ป ให้แก่เทมาเส็ก เนื่องจากกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2549 ในขณะที่ครอบครัวผมขายหุ้นชินคอร์ป วันที่ 23 มกราคม 2549 ซึ่งหากดูตามเวลาที่ปรากฏเช่นนี้ก็ชวนให้สงสัยว่ามีการแก้กฎหมายเพื่อการนี้จริงหรือไม่

กระบวนการแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม เริ่มต้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2544 โดยบริษัทโทเท็ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ TAC ในเครือบริษัทยูคอม บริษัทซีพีออเรนจ์ และบริษัทไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น หรือทีทีแอนด์ที ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเลยกับธุรกิจของครอบครัวผม ร้องขอให้บริษัทต่างชาติถือหุ้นในบริษัทประกอบกิจการโทรคมนาคมได้มากกว่า 25% เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างอค์การ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันเมื่อเปิดเสรีโทรคมนาคม ซึ่งกระทรวงคมนาคมรับเข้าสู่กระบวนการพิจารณา และดำเนินการกันมาตามขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จนเลือกตั้งใหม่ก็ยังรับช่วงพิจารณาต่อจนเสร็จ โดยใช้เวลานานถึง 4 ปี จึงประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ได้

ในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายครั้งนั้น บริษัทชินคอร์ป หรือบริษัทในเครือไม่ได้เป็นผู้ร้องขอ และถ้าไปตรวจสอบรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ จะพบว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อภิปรายคัดค้าน และไม่ได้ลงมติคัดค้านการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ข้อมูลนี้ไม่เคยมีการนำมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ

การกล่าวหาว่าผมเป็นผู้ผลักดันแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์แก่การขายหุ้นชินคอร์ป จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มคนที่ไม่ต้องการให้ผมอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

5.บริติชเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ คืออะไร?

แอมเพิล ริช เป็นของใคร


บริษัทบริติชเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ เป็นเกาะในทะเลแคริบเบียน เป็นเขตปกครองใต้อาณัติของอังกฤษพูดกันง่ายๆ ก็คิดคล้ายๆ กับอาณานิคมของอังกฤษ เป็นชุมนุมชนทางธุรกิจของบริษัทจำนวนมาก ที่มักจะไปจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อเจรจาทางการค้า การลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายของบริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ ไม่มีการจัดเก็บภาษีมรดก และภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gain Tax) จึงทำให้ธุรกิจมีต้นทุนต่ำ และคล่องตัว

บริษัทธุรกิจไทยหลายบริษัทไปเปิดบริษัทบ่อยที่ บริติเวอร์เจ้น ไอส์แลนด์ และเกาะเคย์แมน ที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนกัน เช่นบริษัท ทีพีไอ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย บริษัท ปตท. ก็จัดตั้งบริษัทย่อย ของตัวเอง ที่บริษัทบริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุลก็จัดตั้งบริษัทเอเซียเทเลคอม โฮลดิ้งส์ จำกัดที่ บริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์มาแล้ว นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ อย่างคุณกร จาติกวณิชย์ ก็เคยทำธุรกิจกับบริษัท ในบริติเวอร์จิ้นไอแลนด์

แอมเพิลริช เป็นบริษัทที่ผมตั้งขึ้นบนเกาะ บริติเวอร์จิ้น ไอสแลนด์ ตามคำแนะนำของที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งขณะนั้นผมไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและไม่มีตำแหน่งใดๆ ทางราชการเมื่อครั้งที่ผมมีความตั้งใจ ที่จะนำบริษัทชินคอร์ปฯ ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยถือหุ้น บริษัทแอมเพิลริช 100% และโอนหุ้นของผมเอง จำนวน 72.93 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท ไปอยู่ในบริษัทแอมเพิลริชเพื่อเตรียมจะไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น แนสแดกของสหรัฐฯ และต่อมามีปรับเปลี่ยนราคาหุ้นจาก 10 บาทเป็น 1 บาท ส่งผลให้หุ้นบริษัทแอมเพิลริชที่เคยมี 32.92 ล้านหุ้น กลายเป็น 329.2 ล้านหุ้น เมื่อคิดเป็นจำนวนเงิน และเท่ากับ 329.2 ล้านบาท เท่าเดิม ไม่ได้มีการเพิ่มหุ้นแต่อย่างใด

แต่ต่อมา สภาวะการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลง การตัดสินใจที่จะนำบริษัทชินคอร์ปฯไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแดก ก็ไม่ได้เดินหน้าต่อ ประกอบกับการที่ผมตัดสินใจ เข้าสู่การเมือง ด้วยการตั้งพรรคไทยรักไทย จึงยุติการทำธุรกิจทั้งหมด และโอนหุ้นที่ถืออยู่ให้กับลูกๆ ที่บรรลุนิติภาวะ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือห้ามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีถือหุ้นบริษัทเกิน 5%

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2543 ผมได้โอนหุ้นทั้งหมด ให้แก่ลูกชาย ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าผมไม่มีหุ้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อีกกับบริษัทชินคอร์ปทั้งทางตรงและทางอ้อม ก่อนที่ผมจะชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจึงไม่เข้าข่ายซุกหุ้นภาค 2 และไม่เข้าข่ายการเข้าไปมีส่วนในการบริหารจัดการบริษัท ตามที่สมาชิกวุฒิสภา พยายามยื่นเรื่องให้ ตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ตรงตามที่ต้องการก็โกรธเคืองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปด้วย

การโอนหุ้นให้ลูกชายเป็นการโอนจริง เพราะลูกชายก็บรรลุนิติภาวะแล้ว อยู่ในวิสัยจะรับผิดชอบธุรกิจได้ ผมโอนแบบ"พ่อให้ลูก" ซึ่งกฎหมายให้ทำได้โดยธรรมจรรยา กฎหมายยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการโอน เช่นเดียวกับที่บิดาคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยกเงินได้จากการขายที่ที่หัวหิน ให้คุณอภิสิทธิ์ และเหมือนกับบิดาคุณกร จาติกวณิชย์ รองเลขาพรรคประชาธิปัตย์ โอนหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เจเอฟ ธนาคม จำกัด ให้แก่คุณกรณ์ ทั้งคุณอภิสิทธิ์และคุณกร ก็ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับลูกชายผมไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นหลักความเสมอภาคตามกฎหมายที่ประชาชนทุกคนพึงได้รับ ความคุ้มครองไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้

การกล่าวหาว่าลูกชายผมไม่ยอมเสียภาษี จึงเป็นการบิดเบือนข้อมูล เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ และเข้าใจผิดต่อผมและครอบครัว ทั้งๆที่คุณอภิสิทธิ์และคุณกรก็ทราบกฎหมายดีและเคยใช้สิทธิตามกฎหมายยกเว้นภาษีในกรณีรับโอนทรัพย์สินจากบิดามาแล้ว การกล่าวหาผมและครอบครัวในประเด็นนี้ จึงเป็นการกล่าวหาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผมและครอบครัวเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น

ลูกชายและลูกสาวของผม นำหุ้นจำนวนดังกล่าวไปขายในตลาดหลักทรัพย์ ตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ก็ย่อมได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายกำหนดไว้ แต่กลับมาการกล่าวหาลูกชายและลูกสาว ผมหนีภาษี ซึ่งบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ถ้าลูกชายและลูกสาวผมต้องการหนีภาษีก็สามารถขายหุ้นในต่างประเทศและฝากเงิน ไว้ในต่างประเทศ ก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่การนำหุ้นกลับมาขายในประเทศไทย เงินที่ได้ทั้งหมดเมื่อนำมาฝากในสถาบันการเงินไทย ก็ต้องเสียภาษีเงินได้จากดอกเบี้ย ปีละไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

ผมขอยืนยันว่า การขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปครั้งนี้ครอบครัวผมปฏิบัติตามข้อกฎหนดของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาทุกขั้นตอนและไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย แตกต่างจากบุคคลทั่วไป ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ คุณกรณ์ จากติวณิชย์ รองเลขาฯปชป.เคยเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์มาก่อน เคยแนะนำ และจัดการซื้อขายหุ้นในลักษณะนี้มาแล้วจำนวนมาก็ใช้วิธีการไม่แตกต่างจากครอบครัวผมทำ บางกรณี อาจจะมีความซับซ้อนมากกว่าเสียอีก

ทุกขั้นตอนการขายหุ้นชินคอร์ป ครอบครัวผม ได้แต่งตั้งตัวแทน ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและประชาชนแล้ว แต่ก็ยังมีความพยายาม ที่จะขุดคุ้ย หาความผิดปกติ เมื่อไม่พบ ก็ใช้วิธีการบิดเบือนความจริงให้เป็นความเท็จเพื่อกล่าวหาใส่ร้ายผมและครอบครัวตลอดมา

การดำเนินการของกลุ่มคนนี้ ไม่ต้องการให้ผม เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ เป็นการจงใจบิดเบือนความจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงหลักการ แห่งกฎหมายที่ตัวเองก็เคยได้รับความคุ้มครองมาก่อน จึงขอความกรุณาประชาชน ได้พิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม ต่อครอบครัวผมด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแม้จะไม่เคยโอ้อวดว่าเป็นผู้มีจริยธรรม มีคุณธรรมแต่ผมและครอบครัวได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

นโยบายต่างที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน 30บาทรักษาทุกโรค พักชำระหนี้เกษตรกร ธนาคารประชาชน OTOP การแก้ปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหาความยากจน ผมและคณะรัฐมนตรี ได้พยายามทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อทำให้นโยบายเหล่านี้ปรากฎเป็นรูปธรรม เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และยังยึดมั่นที่จะต้องทำนโยบายเหล่านี้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ ของพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะต้องยากลำบากเพียงใดก็ตาม หรือมีผู้ที่ไม่พอใจการทำงานของผม ที่ไปขัดผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาก็ตาม ขอแต่เพียงพี่น้องประชาชนได้เข้าใจข้อเท็จจริงและให้การสนับสนุนผมและพรรคไทยรักไทยต่อไป

ผมขอถือโอกาสนี้ชี้แจง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง ตามที่ถูกกล่าวหา และขอเรียนว่า ทุกเรื่อง ทุกบรรทัดมีพยานหลักฐาน ที่พร้อมจะแสดงในโอกาสอันควรทุกเมื่อ และขอให้เชื่อมั่น ว่าเจตนารมณ์ในการทำงานของผม และพรรคไทยรักไทย คือ " ไทยรักไทย หัวใจ คือประชาชน" ขอได้โปรดมั่นใจว่า ผมขอยอมตาย ดีกว่าที่จะทำชั่ว และผมจะไม่ยอมทำลาย ความไว้วางใจ ที่ประชาชนมอบให้ผม


พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

หัวหน้าพรรคไทยรักไทย




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 7:26:58 น.   
Counter : 149 Pageviews.  


[justgig]เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ กิเลศหนา...วางไม่ลง...ปลงไม่ตก)-ถึง กลุ่มผู้สนับสนุนสนธิ (และจำลอง)

ขอนำข้อเขียนของคุณ justgig มาลง blog ครับ

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4131304/P4131304.html
คุณ justgig โพสท์วันที่ 23 ก.พ. 49 15:30:24

เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ กิเลศหนา...วางไม่ลง...ปลงไม่ตก)


"ถึง กลุ่มผู้สนับสนุนสนธิ (และจำลอง)

กลัวกันเหลือเกินว่าทักษิณจะเป็นซูฮาโต้ เป็นมากอส ... ไม่ต้องกลัว ผีเผด็จการ หลอกหลอนหรอกครับ คุณสนธิ ... ประเทศไทยวันนี้ไม่เหมือนสมัยรุ่นปู่จำลองแล้วครับ ... แค่ทำ Tax planning หน่อยเดียว ... ยังถูกสหบาทาแทบตาย ... ถึงขั้นโกงแผ่นดินขนาดนั้นคนไทยไม่โง่หรอกครับ ... ผมจะเป็นอีกคนที่ไปช่วยไล่ไม่ให้มีแผ่นดินจะอยู่ครับ ...

พวกคุณรอให้ประเทศมันแสดงอาการล่มจมให้ชัดกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือครับ (มีไข้สูงหน่อยเดียวพวกก็โวยวายราวกับเป็นมะเร็งจะตายแล้ว จะหามส่งโรงพยาบาลให้ได้) ... ตอนนี้คนส่วนใหญ่เขาสบายดีมีความสุขกับประเทศนี้ ... ตอนนี้พวกคุณจะขี้ช้าง (เอาความเจริญของชาติมาเสี่ยง) ไล่จับตั๊กแตน (เงินทองและครอบครัวคุณทักษิณ) ไปทำไม ... ผมว่าคนรู้มากอย่างคุณทักษิณรู้ดีว่าเกิดมาก็มือเปล่า ตายไปก็มือเปล่า ... จะเหลือไว้ก็เพียงชื่อตราไว้ในแผ่นดิน ... คงไม่อยากสร้างชื่อให้ลูกหลานเล่าถึงคุณทักษิณว่าขาดวิสัยทัศน์ พาคนไปตายหรอกครับ ...

คนรวยไปไหนมาไหนนั่งเบนส์ ... เพราะรถช่วงล่างมันดีครับ เขาไม่รู้หรอกครับว่าถนนประเทศนี้มันเฮงซวยแค่ไหน ... หลายท่านมีรถนำขบวนยิ่งไม่รู้ใหญ่ว่าลูกผมมันต้องนั่งรถเมล์ติดวันละหลายชั่วโมงกว่าจะถึงบ้าน ... ประสาทเด็กมันจะเสียขนาดไหน ... ผมไม่มีคอนโดกลางกรุงให้ลูกอยู่อย่างคุณอภิสิทธิ์ครับ ...

ให้ผมกินแต่อุดมคติ ... ผมเองก็ไม่ได้โลภอะไร อยู่อย่างพอเพียงอยู่แล้วครับ (จริงๆ ก็แทบจะไม่มีจะกินอยู่แล้วโว้ย อุ้ยขอโทษ) ... ไม่ได้ต้องการรถเบนซ์เหมือนพวกท่านท่านหรอก ... ผมต้องการแค่คนที่ไม่ต้องดีเด่มีจริยธรรมอะไรอย่างคุณทักษิณมาบริหารประเทศ ... อยากให้ประเทศนี้เจริญพอที่จะสร้างสิ่งที่ลูกผมจับต้องได้ในช่วงชีวิตเขา ... ขอแค่มีรถไฟฟ้าที่วิ่งไม่กี่นาทีก็ถึงโรงเรียน ... ลูกผมจะได้มีเวลาเล่น ดูทีวี ดูหนังสือ และพักผ่อนได้เต็มที่อย่างบ้านอื่นเมืองอื่นเขา ... ผมแค่อยู่กับโลกความเป็นจริง ผมก็เลวแล้วหรือครับท่านผู้บรรลุธรรมขั้นสูงทั้งหลาย ... ขอโทษจริงๆ ที่ผมไม่มีปัญญาเรียนรู้เข้าใจโลกชั้นสูงของพวกท่าน ...

ผมรู้แค่ถ้าขืนใช้คนดีอย่างพรรค ปชป. ในตอนนี้ ... ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ลูกแต่เป็นหลานผมก็คงต้องใช้ถนนผุพังไปอีกหลายปี ... เหลนผมก็คงต้องใช้ชีวิตทารุณอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมงอย่างทุกวันนี้ ... คุณจำลองไม่เดือดร้อนหรอกครับ ... คุณจำลองหนีไปอยู่ป่า ... จะให้ทุกคนไปอยู่ป่าอย่างคุณจำลองหรือครับ ... ผมก็อยากทำ ... แต่ชีวิตคนอีกหลายล้านเขาไม่เก่งอย่างคุณจำลองครับ ... เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบจากภาครัฐ ... ระบบขนส่งที่ทำให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างจิตไม่เสื่อม ... ระบบสวัสดิการที่ไม่ทำให้ต้องนอนตายเหมือนหมาข้างถนน ... สิ่งเหล่านี้มันสร้างไม่ได้ครับถ้าประเทศไม่ขยายตัว ... ไม่ปั่นเงินขึ้นมาเหมือนอาระยะประเทศเขาทำกัน ... ไปถามลูกหลานสิงคโปร์หน่อยว่ามันอยากได้คนมีจริยธรรมมาปกครองประเทศมันมั๊ย ... จะได้ใช้ชีวิตลำบากเหมือนคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ... ถ้ามันตอบว่าอยากได้ ... เราจะส่งคุณสนธิ คุณจำลอง และนักการเมืองรุ่นคุณบัญหารคุณเสนาะคุณสุเทพไปช่วยบริหารเพื่อทำลายประเทศมันให้ล้าหลัง ...

เขาบอกว่าความเจริญมันเลวร้าย ... เงินทองเป็นของไม่ดี ... แต่พอเดินทางไปอยู่มาหลายประเทศที่มันตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาประเทศ ... ปั่นจีดีพีกันสุดฤทธิสุดเดช ... ก็ไม่เห็นว่ามันจะเลวร้ายอย่างท่านผู้รู้หลายท่านในประเทศพยายามจะบอกลูกหลาน ... กลับพบว่าถนนมันก็ดี ... บ้านเมืองมันก็สะอาด ... ป่าไม้ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ ... เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย (ไม่ต้องมีรถเบนซ์) ... สังคมก็น่าอยู่ ปลอดภัยแม้ยามค่ำคืน ... ไม่เห็นมี ผีความเจริญ อย่างที่ท่านผู้รู้หลายท่านพยายามจะบอกลูกหลานผมว่ายิ่งเจริญยิ่งเลวร้าย ... คนประเทศเขาก็หน้าตาผ่องใส ดูอายุยืนมาก และสุขภาพจิตก็ดีกว่าคนบ้านเราเยอะ ... อังกฤษยุคไม่เจริญขยะเต็มเมืองแม่น้ำเทมก็เน่าเสีย ... พอเจริญน้ำก็ใสบ้านเมืองก็สะอาดสะอ้าน ... อเมริกายุคไม่เจริญตำรวจโกงกินก็เต็มเมือง อันธพาลก็คุ้มประเทศเหมือนบ้านเราทุกวันนี้ ... พอเจริญขึ้นมาด้วยระบบทุนนิยม ... กลับมองหาตำรวจทุจริตรับสินบนได้ยากเต็มทน ... ผมเบื่อเต็มทีกับผู้ใหญ่ขาดวิสัยทัศน์ในบ้านเรา ... ไม่ต้องพูดถึง พระ ที่ปล่อยวางไม่ลง (แค่นึกในใจนะ ... ไม่รู้เรื่องทางโลกแล้วยัง????อีก ...) ... เด็กมัธยมเด็กมหาลัยไร้เดียงสาขาดประสบการณ์จะหลงยึดติดก็ไม่แปลกใจพอทนได้ ... เหมือนเด็กอยากเที่ยวกลางคืน ... อธิบายไปก็เท่านั้น ... จนกว่าจะเจ็บตัวกลับมานั้นหละ ค่อยมาคุยกัน ... แต่ผู้ใหญ่ไม่รู้นี้ผมกลุ้มใจ ... สงสารก็แต่ประเทศไทย ...

ตอนประเทศชาติล้มจม ... เงินต่างจากต่างประเทศที่ไหนก็ยอมรับหมด ... เขาอยากซื้ออะไร ปชป. ก็ไม่แอะสักคำ ... ไปกราบกรานเขามาซื้อประเทศทั้งประเทศ ... ก็ไม่มีใครมา ... ต้องไปขอร้องคุณพ่อ IMF ... ตอนนี้กระแดะออกมาโวยว่าขายบริษัทสื่อสารไปหนึ่งบริษัท ... ปัดโธ่เอ๋ย ... ชาติพวกเราก็เคยขายมาแล้ว ... ตอนนั้นไปอยู่ไหนครับคุณสนธิคุณจำลอง ... เรื่องจริยธรรมมันไปอยู่ไหนหมด พ่อคนดีของแผ่นดิน ...

ผมเริ่มเห็นลักษณะเฉพาะของคนที่พูดเรื่องขายสมบัติชาติ ... มีอยู่ 2 ลักษณะคือ ... คนที่รู้ดีว่าไม่ได้เป็นการขายชาติอะไร แต่หวังผลทางการเมืองหรือธุรกิจ ... กลุ่มที่สองคือคนที่โลกแคบ ขาดการศึกษา หรือยังขาดประสบการณ์ เห็นโลกภายนอกไม่มากพอ ... อ้อ ความจริงมีอีกหนึ่งคือ กลุ่มผู้ใหญ่ขี้เหงาขี้น้อยใจ (แถมพวกขี้อิจฉารวมเข้าไปด้วย) ...

แม้แต่ประเทศคอมมิวนิสอย่างจีนยังพยายามแปรรูป ... ประเทศประชาธิปไตยอย่างเรากลัวอะไร ... ผมสงสัยว่าถ้าเรามีเงิน เราอยากเอาเงินเราไปซื้อสมบัติของชาติอื่นมั๊ย ... คุณไม่กลัวเขาออกกฎหมายมายึดธุรกิจคุณหรือถ้าคุณไปยุ่งกับความมั่นคงของประเทศเขา ... เหมือนคุณให้คนเช่าห้องแถวทำมาหากิน ... ถ้าเขาทำไม่ดีกับห้องแถวคุณ ... คุณจะทำอะไรก็ได้ ... ถ้าเป็นประเทศ กฎหมายอยู่ในมือเรา ... ออกกฎหมายบังคับอะไรก็ได้ (โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงของชาติ) ... ไม่เห็นต้องวิตกจริตอะไร ... พวกรู้ทำแกล้งโง่หลอกพวกไม่รู้ให้กลัว ... เหมือนผู้ใหญ่หลอกเด็กให้กลัวผี ... ผมเศร้าใจที่เรายังอ้างเหตุผลโง่ๆ ขัดความเจริญของชาติในภาพรวมโดยอาศัยคนชั้นกลางที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจที่แท้จริง (ผมไม่ว่าคุณขาดการศึกษา หลายคนจบสูง แต่ไม่เข้าใจจริง) และยังเห็นโลกภายนอกมาน้อยเป็นเครื่องมือ ... ผมไม่ได้อวดรู้ว่าผมเดินทางไปอยู่และทำงานต่างประเทศมาหลายประเทศแล้วจะรู้มากกว่าพวกคุณ ... ผมแค่สังเกตุว่าพวกต่อต้านคุณทักษิณมักเป็นพวกอุดมคติ รู้ตัวหนังสือดี จำได้ทุกบรรทัด แต่พอปฏิบัติจริงแล้วก็เศร้าใจ ... พาชาติวนในอ่าง ... ดูแลชีวิตก็งั้นๆ แล้วจะดูแลประเทศชาติกันได้อย่างไร ...

ผมคิดว่าหลายคนที่อ้างก็รู้อยู่แก่ใจว่า กรณีอเมริกาเขาไม่ขายบางธุรกิจอย่างยูโนแคลหรือท่าเรือที่เป็นเรื่องในขณะนี้ ก็เป็นเหตุผลที่ธุรกิจเหล่านี้เกี่ยวโยงกับความมั่นคงของชาติสูง ... รู้มั๊ยครับ port ที่อเมริกาไม่อยากขายให้อาหรับนั้น ความจริงก็อยู่ในมือของต่างชาติอยู่แล้ว ... ประเทศอังกฤษ ... เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องขายให้ต่างชาติหรอกครับ ... มันเป็นเรื่องว่าเราจะคุมมันได้อย่างไร ...

ถ้าเรากลัวมากเราก็ออกกฎหมายให้เขาต้องถูกตรวจสอบอย่างหนักหรือให้เขาเปิดเผยข้อมูลในระดับที่ลึกพอที่เราจะควบคุมได้ ... ไม่เห็นยากอะไร ... ถ้าเขาสร้างปัญหากับความมั่นคงของประเทศก็เป็นเหตุให้เราอ้างพอที่จะออกกฎหมายมายึดอำนาจการบริหารธุรกิจนั้นๆคืนมา ... ของกล้วยๆ อย่างนี้คุณอภิสิทธิ์ไม่รู้หรือครับ ... (... เรามีความรู้เรื่องรถน้อย ... แปลว่าเราต้องบอกลูกหลานเราว่ารถมันเป็นของไม่ดี ... เป็นสิ่งชั่วร้าย ... ห้ามใช้รถนะลูก ... เดินเอาดีแล้ว ธรรมชาติ ... ลูกบางคนมันก็ชักสงสัยว่า เอ ลูกบ้านโน้นมันมีรถนั่งไปโรงเรียนสบาย ไม่เห็นมันเป็นอะไร ... ถึงโรงเรียนก็เร็ว ไม่เหนื่อยจนต้องนั่งหลับในห้องเรียนเหมือนเรา ... เรากว่าจะถึงโรงเรียนเดินแทบตาย ... วันไหนฝนตก เท้าก็เปื่อยก็เน่า ... แต่พ่อเราไม่รู้จักรถ และดูเหมือนจะเกลียดรถเป็นชีวิตจิตใจ ... เจอพ่อแม่อย่างนี้เด็กก็ลำบากอีกนาน ...)

เรื่องภาษีก็เป็นเรื่อง Tax planning ตามปกติของธุรกิจ ... ประเทศไหนไม่ชอบ ... ก็ออกกฎหมายมาปิดรูเอาไว้ให้รัดกุม ก็เท่านั้นเอง ... ถ้ากฎหมายบอกว่าทำได้ เขาก็ทำกัน ... อยู่ๆ คุณเหม็นหน้าเขา (จะเรื่องอะไรก็เบื่อจะพูดถึง) ... เอาเรื่อง พระราชอำนาจ มาอ้าง ... อ้างไม่ขึ้น ก็เอาเป็นว่า มันขายชาติ .... อ้างไม่ขึ้นอีก ก็ว่ามัน โกงภาษี ก็แล้วกัน ... อ้างไม่ขึ้นอีก เอาเป็นว่ามัน ไม่มีจริยธรรม ก็แล้วกัน (ว่ะ) ... เฮ ในที่สุดก็มีหางเครื่องแล้ว ...

ผมว่ามันเป็นตลก ที่ตลกไม่ค่อยจะออก ... จะเอาบรรทัดฐานอะไรมาใช้ในสังคมก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยครับ ... สมมติว่าอยู่ๆ ผมเหม็นหน้าคุณอภิสิทธิ์ (ความจริงผมชอบคุณอภิสิทธิ์ และอยากเก็บไว้อีกสักพักใหญ่ๆ เพื่อให้มีบารมีพอ ไม่อยากให้พังหรือมีมลทินเพราะเรื่องโง่ๆ นี้) ... ผมขนคนออกไปตั้งเวทีที่ลานพระบรมรูป ... โว่กเว่ก ว่าคนร่ำรวยอย่างคุณอภิสิทธิ์ไม่ควรหักลดหย่อนภาษี ... การขอหักลดหย่อนถือว่าคุณอภิสิทธิ์ขาดจริยธรรมในการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหลักของประเทศอย่างประชาธิปัตย์ ... ออกไป ... ออกไป ... คนชั่วคนเลว ... คุณอภิสิทธิ์จะรู้สึกอย่างไรครับ ... "




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 7:12:10 น.   
Counter : 104 Pageviews.  


[justgig]เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)-ถึง ปวงชนชาวไทย (ตอน กบเลือกนาย 2)

ขอนำข้อเขียนของคุณ justgig มาลง blog ครับ

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4110387/P4110387.html
คุณ justgig โพสท์วันที่ 16 ก.พ. 49 11:12:49

เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)

"ถึง ปวงชนชาวไทย (ตอน กบเลือกนาย 2)

คนดีแบบสมบูรณ์แบบนั้นไม่มี และถ้ามี บ่อยครั้งก็มักเอามาใช้ประโยชน์อย่างจริงๆจังๆ ไม่ค่อยได้ ... แต่ละท่านก็มาแบบขอได้เป็นนายกสักครั้งในชีวิตเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ... ฉะนั้น กรุณาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้ ดีกว่าโลกอุดมคติที่โศกาอาดูรอดมื้อกินมื้อ ... จะพูดไปทำไมครับจริยธรรม ... คนพูดไม่น้อยก็ยังไม่แน่ใจเลยว่ามันแปลว่าอะไร ... นักการเมืองคอรัปชั่น ตำรวจอิทธิพล ทหารแสวงหาประโยชน์ นักธุรกิจโกงภาษี ฯลฯ เห็นอยู่เต็มเมือง ... ไม่มีใครทำอะไร ... ตอนนี้กระแดะออกมาพูดถึงจริยธรรมกันทำไม ... คนเลวมีเต็มเมืองพวกคุณองค์กรบ้าบออะไรไม่เคยคิดจะทำอะไร ... สิ่งเดียวที่พวกคุณทำได้เป็นรูปธรรมคือพาคนออกมาเดิน พอเขาตาย คุณก็คอยสร้างอนุสรณ์ให้ ... คุณอยากได้คนดีมีจริยธรรมอย่างคุณจำลองมาเป็นนายกฯ กันหรือครับ

เด็กติดเหล้าเมายากันเต็มเมือง ... คุณจำลองนอนหลับได้สบายดี ... ไม่มีปัญญาทำอะไร ... แต่บริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัยพ์ดันร้อนทุรนทุลายจะเป็นจะตายให้ได้ ... ผมไม่เข้าใจคุณจำลองมานาน ... ตอนนี้ยิ่งงงวิธีดูแลประเทศของคุณจำลองไปใหญ่ ... สิงคโปร์มันก็ห่วงเด็กติดเหล้าครับ ... มันไม่เคยห่วงบริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์หรอกครับเพราะมันเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ... คุณเป็นนายพลแยกมหภาคกับจุลภาคไม่ออกหรือครับ ... ถ้าคนไทยคิดได้แค่นี้ ... คุณโง่คนเดียวไม่พอ ... เอาลูกหลานออกมาเป็นหมื่นนั่งเฝ้าหน้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย ... สิงคโปร์มันก็คงหมดห่วง มันคงขำกลิ้งประเทศไทย ... เพราะมีผู้ใหญ่อย่างนี้ดูแลบ้านเมืองมันถึงมาได้แค่นี้ ...

ราษฎรอาวุโสหลายท่านบอกว่าไม่ต้องไปแข่งกับเขาหรอก เราอยู่ของเราอย่างนี้ ... ใช่ซิครับพวกท่านอยู่อีกไม่กี่ปี ... ท่านห่วงบ้างมั๊ยครับว่าลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร ... ต่อไปพรมแดนไม่มี ... ความแข็งแรงภายในไม่มีเราจะรักษาสถาบันไว้ได้อย่างไร ... ทหารไม่ใช่คำตอบสุดท้ายนะครับ ... จะรักษาแบบพม่าเกาหลีเหนือหรือครับ ... อย่าได้ทำตลกไปนะครับ ... ถ้าคิดอย่างพวกท่านอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ... เราอาจถูกมองเหมือนที่เรามองลาวกัมพูช่าทุกวันนี้ ... สถาบันจะอยู่รอดในระยะยาวก็ล้วนต้องอาศัยความมั่นคงและการพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นคำตอบสุดท้าย ... หันไปมองให้รอบโลกซิครับ ... ตัวอย่างมีให้เห็นทุกแบบ ... บทเรียนในอดีตมีให้เรียนรู้มากมายอยู่แล้ว ... ทุกคนมีความสุขทุกสิ่งก็อยู่ได้ ... มรดกของพวกท่านก็คือป่าไม้ที่หมดไป ... ออกไปดูโลกกว้างกันบ้าง ... ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์สร้างตัวจากความไม่มีอะไรเลย ... แม้แต่มาเลย์ที่ไม่รังเกียจเผด็จการอย่างมหาเธร์ก็ยังสร้างบ่อนอย่างเก้นติ้งให้คนไทยไปผลาญเงิน สร้างตึกปิโตนัสพร้อมกับยังเหลือป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานได้ภูมิใจได้ ... ปล่อยให้ประเทศที่ใหญ่กว่าอย่างไทยที่มีแต่ผู้ใหญ่เอาตัวรอด ชิงดีชิงเด่น แข่งกันสร้างฐานะ อิจฉาริษยากัน ยึดแต่อารมณ์ความรู้สึกของตนเป็นที่ตั้ง ยึดตัวหนังสือ ไม่ยึดเนื้อหาเป็นสรณะ ...

ผมเห็นสิ่งที่คุณทักษิณฝันจะสร้างสิ่งมากมาย ... ฝัน 20 สร้างได้ 3 ก็ดีกว่าคนไม่ฝันเลยครับ ... ถ้าคนจะคิดทำลายคุณก็จะเอาไอ้ที่คุณล้มเหลว 17 มาพูด ... แต่ผมมองเห็น 3 ที่คุณทำเสร็จแล้วก็ชื่นใจแล้วครับ เมื่อเทียบกับผมเห็นนักการเมืองรุ่นที่ผ่านมาทำทิ้งไว้ในช่วงชีวิตผม ... สิ่งปลูกสร้างทางวัตถุที่เป็นสาระอย่างที่มาเลเซียสร้างตึกปิโตรนัส ... หรือเกาะต้นปาล์มของดูไบ ... ผมก็เชื่อว่าคุณทักษิณฝันถึง ... เราจะคอยหากินกับของเก่าต่อไปไม่ได้ ... ชาติอื่นเขาสร้างขึ้นจากไม่มีอะไรเลย ... แม้ว่าไนท์ซาฟารีและสวนพฤกษชาติจะไม่ได้อย่างใจที่ผมคิด ... แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณทักษิณไม่เพียงฝัน แต่สร้างจนเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้ ... คุณทักษิณคงกลัวว่าลูกหลานจะนึกถึงคนรุ่นเราว่าขาดวิสัยทัศน์ เป็นรุ่นทำลายความอุดมสมบูรณ์ของชาติ โดยไม่เหลืออะไรไว้ให้เขาได้ภาคภูมิใจเลย ... ดูคนว่าเสแสร้งหรือมีเจตนาจริงนั้นดูไม่ยากหรอกครับ ... ดูรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ ... ดีหรือเลวมันปิดไม่มิดหรอกครับ ถ้าดูกันยาวๆ ...

ผ่านไป 4 ปี คุณทักษิณคงพบสัจจธรรมแล้วว่าประเทศนี้ไม่มีอะไร ... นอกจากทรัพยากรที่ผลาญกันแทบหมด ... ก็เหลือไว้แต่สิ่งที่เราจนปัญญาจะทำลายกัน อย่างเช่น อาหารวัฒนธรรมประเพณี ... เราขาดทั้งเงิน ขาดฐานความรู้ และที่สำคัญขาดคนที่มีวิสัยทัศน์ ... เมื่อมองสิงคโปร์เราก็อ้างว่าประเทศเล็กบริหารง่าย คนน้อยมันไม่ยุ่งยาก ... หันไปมองประเทศใหญ่อย่างจีน ก้าวหน้ารุ่งเรืองในเวลาอันสั้น ... จากล้าหลังข้ามหัวเราไปชั่วพริบตา ... ผมก็เดาว่าพวกปัญญาอ่อนก็คงอ้างว่าประเทศจีนใหญ่ มีคนเยอะแยะ มีของเก่าเยอะกว่าเรา อะไรทำนองนั้น ... ไม่จริงหรอกครับ ถ้าประเทศใดก็ตามถ้ามีนักการเมืองนักการบริหารที่มีวิสัยทัศน์อย่างเราก็ไปไม่ถึงไหนเหมือนกัน ... ไม่ว่าประเทศจะใหญ่หรือเล็ก ... คอมมิวนิสหรือประชาธิปไตย ... ไม่ต้องมองไกลอย่างอเมริกาหรือยุโรป หันไปมองญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน หรือมาเลเซีย ... เราน่าจะยอมรับแนวทางที่จะเจริญและจะจมอยู่กับความล้มเหลวกันเสียที ... ผมเห็นความตั้งใจที่ถูกต้องของคุณทักษิณ ... ผมเห็นแนวทางที่ชาญฉลาด (จะว่าไปก็ไม่ได้ฉลาดอะไรถ้าหันไปดูทุกประเทศที่รุ่งเรืองก็ล้วนทำกัน) คือการเปิดรับความรู้และเงินลงทุนจากต่างประเทศ ... แต่พวกมือไม่พายก็มักเริ่มโจมตีว่าขายชาติ ... พวกคุณจะเก็บเอาไว้ทำเองเพื่อให้กลายเป็นโครงการสามสี่ชั่วโคตร แบบเวียนเทียนกันกินหรือลงแขกกันกิน ได้อย่างไม่รู้จบหรือครับ คุณสุเทพ คุณเสนาะ คุณสนั่น คุณบรรหาญ คุณวัฒนา ...

แม้ต่างชาติจะถือครองอะไรของประเทศเราก็ตาม ... ถ้าประเทศมีนักการเมืองที่ดีก็สามารถใช้ระบบนิติบัญญัติที่มีคุณภาพดูแลผลประโยชน์ของชาติและประชาชนได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร จริงมั๊ยครับ คุณชวน คุณอภิสิทธิ์ ... ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ต่างชาติ ปัญหาอยู่ที่คนของเราเองมาตลอด ... แต่ผู้ใหญ่หลายคนกลับมองไม่ออก ... ผมให้ตัวชี้วัดง่ายๆ เอาไว้สักเกต ถ้าพวกเราต้องการแยกว่ารัฐบาลนั้นดีหรือเลว ... ดูคุณภาพทางหลวงแผ่นดินว่ามันเป็นโครงการประเภทสร้าง 3 ปีใช้ได้ 2 ปีก็พัง แล้วต้องเริ่มซ่อมหรือทุบสร้างใหม่หรือเปล่า ... งบแทนที่จะเหลือเอาไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ... เราต้องตัดงบพัฒนาประเทศมาสร้างถนนสายเก่าๆ กันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ... แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่มีเงินพัฒนาประเทศกัน ... ความจริงเงินเรามีเยอะแยะครับ ... ถ้าเราไม่เอาไปสร้างถนนพันธุ์อย่างว่า ... ไม่ต้องไปดูงบที่ท่านตั้งเอาไว้ซื้อของใช้ไม่ได้อย่างประปาหมู่บ้านหรืออีกสารพัดที่ท่านขยันคิดกันมาเหลือเกิน ... ซื้อติดตั้งไว้เป็นพันแห่ง แต่ใช้ได้จริงไม่ถึงร้อยแห่ง (เอาไว้โชว์ผู้ใหญ่ตาถั่วว่าโครงการนี้เวิคกนะจ๊ะ) ... หยุดบ่นดีกว่านะครับ มีเรื่องสนุกอีกสารพัดเรื่องครับถ้าเขียนคงเป็นนิยายเป็นเล่มๆ ... ยาวนานเหมือนถนนเส้นกรุงเทพสระบุรีโคราชนั้นหละครับ ... ใช่มั๊ยครับ คุณสุวัฒน์ ... ขอสรุปสั้นๆ ว่าประเทศจะอยู่อย่างหลบซ่อนต่อไปไม่ได้แล้วครับ ... ยิ่งหลบซ่อนจากความจริงลูกหลานก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปทุกวัน ... ถ้าคุณทักษิณไม่ปรับระบบลอจิสติกให้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ ... ไม่ว่าอุตสาหกรรมไหนเราก็สู้ใครเขาไม่ได้หรอกครับในอนาคตอันใกล้ ... จะพูดให้ลึกกว่านี้ก็คงมีอยู่คำเดียวครับโลกอนาคตที่เราจะอยู่รอด ... competitive transaction cost ... ซึ่งมันรวมคน เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และการเมือง เข้าไว้ด้วยกัน ... ถ้าไม่มีรัฐบาลที่เข้มแข็งยากที่เราจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ ...

คำตอบสุดท้ายผมคิดว่าเราต้องใช้คนที่คิดได้และทำได้เป็นรูปธรรมอย่างคุณทักษิณ ... คุณทักษิณดูแลตัวเองได้อย่างฉลาด (ขาดจริยธรรมในบางเรื่องไปบ้างก็พอเข้าใจได้ว่าคุณทักษิณก็ยังมีเรื่องต้องเรียนรู้เหมือนกัน) ก็หวังว่าจะดูแลประเทศได้อย่างนั้น ... ประเทศดำรงความสมถะอย่างราษฎรบางท่านไม่ได้ ... คนอยู่ได้ แต่ประเทศอยู่ไม่ได้ในระยะยาว ... คุณทักษิณอาจกร่างไปบ้าง เมาอำนาจไปบ้าง แต่ถ้าไม่หลุดเนื้อหา ก็ต้องให้อภัยกัน ... การมีสมบัติมาก ก็หวงห่วงมาก ทุกข์มาก ... หลายคนที่ไม่เข้าใจก็ปล่อยเขากระเสือกกระสนกันไป ... มีหมื่นล้านกับมีแสนล้านมันไม่สร้างความแตกต่างกันแล้วครับ ความเป็นมนุษย์ ... ผมเชื่อว่าคุณทักษิณเข้าถึงและเข้าใจ ... จึงขายบริษัทออกไป ... มองอย่างบูรณาการจากสิ่งที่จับต้องได้ที่คุณทักษิณทำมา ผมเชื่อว่าคุณทักษิณอยากสร้างแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินทองจริงๆ ... คุณทักษิณต้องการเงินก็ขอเชื่อว่าเพื่อแผ่นดิน ... เพื่อเอากลับมาหล่อเลี้ยงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพ ... บางทีไม่มีทุน หลักการอุดมคติอย่างเดียวมันก็ไปไม่ถึงไหน ... มันต้องมีจุดด่างบ้าง (ลีกวนยู มหาเธร์ ก็ไม่ได้สร้างชาติมาด้วยอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ผุดผ่อง) ...

คนอยู่อย่างพอเพียงแต่ประเทศอยู่อย่างพอเพียงวันนี้จะขาดอย่างมากวันข้างหน้า ... ต้องมีเพื่อความมั่นคงของชาติครับ ... แยกให้ออกระหว่างความเป็นปัจเจกบุคคลกับความเป็นประเทศ ... คนควรอยู่อย่างพอเพียง สมดุลยแก่สถานะ ... มีมากก็หนักมาก มีน้อยก็ไม่สบายตัว ... แต่ประเทศชาติจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะอยู่รอดอีกมากมาย ... ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกก็คงต้องบอกว่าเราอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ... รัฐธรรมนูญใหม่สร้างระบบถ่วงดุลยแล้ว ... แต่ละหน่วยงานยังขาดคนที่มีประสบการณ์ขับเคลื่อนมัน (อาจต้องรอคนรุ่นต่อไป) ... ยกตัวอย่าง เราไม่มีวุฒิสมาชิกที่มีฝีมือ (ออกกฎหมายผิดๆถูกๆ ... ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับของใหม่ ยิ่งใช้โดยคนมือไม่ถึงเข้าไปอีก ก็ยิ่งยุ่ง ... อยากรู้ว่าวุฒิสมาชิกมือถึงเป็นอย่างไรก็ลองไปนั่งฟังวุฒิสมาชิกอเมริกันเขาอภิปรายกันซิครับ ว่าหนึ่งนาทีเขาพูดเนื้อหาได้มากขนาดไหน ให้หนึ่งนาทเขาพูดหนึ่งนาที และเต็มไปด้วยเนื้อหา) ... แต่เราก็เดินมาถูกทางแล้ว ... อย่าใจร้อนหรือถูกรบกวนด้วยเรื่องในอุดมคติมากนัก ... หนทางยังอีกไกล ... อดทนและให้อภัยกับคนตั้งใจทำงาน ... ไม่อย่างนั้นเราจะได้แต่พวกพูดถูกใจ แต่ประเทศไม่เหลืออะไร ...

หลายปีก่อน พลเอกเปรมเคยเดินจากพวกกบเลือกนายอย่างเราไป ... ท่านสร้างผลงานให้เยอะแยะ ... ไม่พอใจ จะเอาโน้นจะเอานี้ ท่านต้องเป็นอย่างโน้นต้องเป็นอย่างนี้ ... ผลเป็นอย่างไรครับ ... ท่านไม่อดทนครับ ... ท่านตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ปฎิเสธพลเอกชาติชายที่ไปยืนตากฝนขอร้องท่านอยู่หน้าบ้าน ... ถ้าท่านอดทนสักนิดประเทศเราคงยังอยู่ข้างหน้ามาเลย์หลายสิบปี แทนที่จะแข่งกับอิเหนา วิ่งไล่ตามก้นมาเลย์อย่างทุกวันนี้ ... เราเคยแข่งกับญี่ปุ่นสมัย ร.5 ต่อมาแข่งกับเกาหลี ตอนนี้แข่งกับเวียดนาม อนาคตคงต้องแข่งกับลาว อีกไกลๆ คงได้เทียบชั้นพม่า (ดูฟุตบอลไทยเป็นตัวอย่างซิครับ)

ตอนนี้ เราเริ่มไม่จำบทเรียนของกบอย่างเราๆ ... ประเทศเราคนรวยไม่ดูแลชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางไม่ดูแลชนชั้นล่าง (ความจริงตั้งหน้าตั้งตาเอาเปรียบกัน) ... เราปล่อยให้คนทำช๊อตเซลอ้างหลักการมาปั่นหัว รวมกับนักวิชาการขาดสติ นายพลนักเลง นายทุนอิทธิพล นักการเมืองโกงชาติรอการกลับมา พ่อค้าหวยใต้ดิน พ่อค้ายาเสพติดรอวันคืนชีพ ข้าราชการอกหัก ข้าราชการรัฐวิสาหกิจเห็นแก่ตัว และอีกสารพัดสารเพที่กำลังมีความหวัง ... ชนชั้นสูงไม่ดูแลกันเอง ไม่เลือกคนดี ไม่อุ้มคนตั้งใจทำดี ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ผมมองย้อนไปเห็นประเทศอย่างคิวบาก่อนคนอย่างฟิเดลคาสโตรมา ... แล้วก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ... ทำไมเราไม่ดูแลประเทศ ไม่ดูแลสถาบันให้ดีกว่านี้ ...

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดประเทศไทย "




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 7:05:17 น.   
Counter : 116 Pageviews.  


[justgig]เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)-ถึง คุณทักษิณ (ตอน คบคนชั่วเป็นมิตร)

ขอนำข้อเขียนของคุณ justgig มาลง blog ครับ

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4110387/P4110387.html
คุณ justgig โพสท์วันที่ 16 ก.พ. 49 11:12:13

เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)

"ถึง คุณทักษิณ (ตอน คบคนชั่วเป็นมิตร)

บทเรียนแรก คุณคงเรียนรู้แล้วว่าการตั้งใจทำดีอย่างจริงจังในประเทศนี้ทำได้ยากลำบากเลือดตากระเด็น ผมกำลังรอดูคุณเสรีย์อีกคน (ทำดีมากไป ประเทศนี้คนหมั่นไส้ ถูกดองไว้หลายปี ยังไม่เข็ด) ว่าประเทศนี้จะดูแลคนตั้งใจทำงานอย่างไร (คนชั่ว แต่นอบน้อม ไม่ซ่า เรียกทหารตำรวจว่า เจ้านาย ทุกคำ ประเทศนี้ดูแลดีครับ)

บทเรียนที่สอง คุณคงเรียนรู้แล้วว่าการกล้าไปคบคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำลายประเทศไทยเป็นมิตรอย่างสิงคโปร์นั้นพระท่านก็เตือนไว้แล้ว สิงคโปร์ไม่เคยกลัวความเก่งของคนไทย แต่กลัวความมีเอกภาพเสถียรภาพของเราต่างหาก คุณสอนคนมากเรื่อง KPI คุณไม่รู้หรือครับ ความอ่อนแอของการเมืองไทยเป็น KPI (จริงๆ แล้ว KSF มากกว่า) ตัวหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจของสิงคโปร์

สิงคโปร์รู้ดีว่าประเทศนี้ยึดถือหลักการแบบคนโง่ คนไทยอวดเก่งอวดรู้กันมาก ยึดหลักการจนบ่อยครั้งลืมหลักความมั่นคงของชาติ บ่อยครั้งก็แกล้งโง่เพื่ออำนาจผลประโยชน์ส่วนตน (โดยเฉพาะนักข่าว นักวิชาการ และนักการเมือง) เพราะฉะนั้นถ้าส่งข้อมูล (อย่าง Ample Rich ซึ่งบริษัทสิงคโปร์อย่าง DBS เป็นคนดูแล) มาให้นักการเมืองฝั่งตรงข้ามในประเทศไทย เดี๋ยวมันก็ซัดกันเองจนประเทศขาดเอกภาพล้มจมไปเอง เป็นนิทานเก่าที่สิงคโปร์เล่าให้ฟังใหม่มาหลายรอบแต่พวกเราก็ยังไม่รู้ตัวกันเสียที

ผู้ใหญ่บ้านเราไปสิงคโปร์บ่อยไม่เคยอ่าน นสพ. มันหรือครับ ... เราจะไม่ตกข่าวเลวๆร้ายๆ ของประเทศไทยเลย ... นักข่าวเขาขยันหาเรื่องเลวร้ายของเราไปเขียน ... แปลกก็ตรงนักข่าวไทยกลับไม่ทำอย่างนั้นบ้าง ... เราจ้องแต่ทำลายกันเอง ... นิทานเรื่องกลุ่มทุนจากไทยไปร่วมมือกับกองทุนฮ่องกงทำช๊อตหุ้นไทย ... โดยมีการ present ข้อมูลจนกองทุนเชื่อว่าคุณทักษิณต้องออกแน่ ... นักข่าวไทยกลับไม่ขุดค้นเหมือนนักข่าวสิงคโปร์ ... แมลงวันไม่ตอมแมลงวันหรืออย่างไร ... สงสารประเทศไทย ...

สิงคโปร์รู้ดีว่าการปล่อยให้ประเทศไทยมีเสถียรภาพสูงเป็นภัยต่อโครงสร้างทางธุรกิจของสิงคโปร์ (ตลาดยางพาราก็เป็นตัวอย่างที่ดี) ... ทักษิณ คุณอย่าหวังได้แตะ ธุรกิจพลังงาน หรือ ธุรกิจการบิน ... ต้องข้ามศพสิงคโปร์ไปก่อน ... คุณแค่คิดเขาก็หากลยุทธทำลายคุณแล้ว ... การยอมเสียเงินสักแสนล้านซื้อชินเพื่อทำลายโครงสร้างการเมืองไทย ดูเหมือนจะถูกเหลือเกิน (บทเรียนนี้คุณทักษิณซึ่งคิดว่าตัวเองฉลาดคงหน้าจะเริ่มตาสว่าง) สังเกตมั๊ยว่า มีข้อมูลค่อยๆ รั่วออกมาทีละหมัดสองหมัด ... ผมแปลกใจว่า ทำไมคุณทักษิณถึงไม่จำบทเรียน CTX ว่าข้อมูลมันทยอยมาจากไหน ... คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่เรื่อยไปใช่มั๊ยครับ คุณทักษิณ ...

ไหนๆ จะพูดก็ขอพูดให้จบ ... บทเรียนที่สาม ... เป็นบทเรียนที่ไม่รู้ว่าคุณจะต้องจ่ายค่าวิชาเมื่อไรคือการดูแลลูกชายคุณ ... ถ้าคุณยังรักลูกเหมือนคุณเฉลิมรักต่อไป ... สักวันลูกคุณจะเข้าใจคำว่า พ่อแม่รักแกฉัน ... เชื่อสุภาษิตไทยๆ เถิดครับ ... เรามีวิธีแสดงความรักกันได้ดีกว่านี้ ... อย่าให้มันเป็นภาระสังคมเลย ... ส่วนญาติพี่น้องคุณก็หาวิธีให้ไปใช้ชีวิตสบายทำสวนทำไร่ทำรีสอร์ทกันเถิดครับ ... ทำธุรกิจไปไม่ว่าจะสุจริตใจหรือไม่ก็มีแต่เสียกับเสีย ... นี้เป็นจุดตายที่ผู้ใหญ่หลายท่านยังตะขิดตะขวงใจที่จะอุ้มคุณ ... คุณมีเงินมากพอที่จะแก้ปัญหานี้ได้ ถ้าไม่เผลอไปติดกับคำว่า หลักการ (โง่ๆ) อีกคน ... ผมรักหลักการครับ ... แต่ถ้าหลักการมันทำให้คนมากมายทนทุกข์ก็ลืมมันไปเสียบ้าง ... mean มันมีค่ากว่า end ครับ ... แต่บ่อยครั้ง end มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องไปไม่ว่าจะด้วย mean อะไร ... ขอแถมให้อีกนิดเรื่องคนรอบข้างคุณ ... อำนาจเป็นสิ่งหน้าหลงใหลใช่มั๊ยครับ ... เรื่องนี้ขอให้ดูป๋าเป็นตัวอย่างครับ ... คุณเริ่มต้นจากมีคนดีหลายคนอยู่รอบตัว จึงมาถึงวันนี้ได้ ... อย่าให้คนอย่างคุณสมคิดและอีกหลายคนจากคุณไปนะครับ ... อย่าเหลือแต่ เนวิน สมศักดิ์ พวกนี้เป็นงาน แต่ไม่รู้ทำไม รักชาติไม่ค่อยจะเป็น ... บางทีอำนาจมันก็ทำเอาเราเป๋ไปได้เหมือนกัน ใช่มั๊ยครับ ... อย่าทำให้คนดีรังเกียจความเจ้าอารมณ์ของคุณ เหลือแต่คนสนองตอบดีพูดจาวาจาอ่อนหวานรอบตัว ... สัญญานอันตรายครับ ... น่าจะถือเป็นบทเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของนักการปกครองทั้งหลายกระมังครับ ... อ๋อ ฝากถึงคุณพงษ์ศักดิ์ด้วยว่าอย่าเล่นทีเผลอนะครับ เรื่องรถเมล์สองหมื่นล้าน ... นี้ก็อีกคนเรื่องอย่างนี้เนียนกันเหลือเกิน ... กลุ้มใจแทนคุณทักษิณ ... จะใช้คนดีมันก็เรื่องมาก ไอ้พวกสนองตอบก็สันดานยากจะเปลี่ยน ...

ผมยังหวังอย่างลมๆแล้งๆ ว่าคุณจะสู้เขาได้ คุณต้องเข้มแข็งต่อไป คนเราไม่มีใครสมบูรณ์ ผมเชื่อว่าคุณตั้งใจดี อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ประเทศอับเฉาลงหลายคนเชื่อว่าเขาไม่เดือดร้อน คุณก็ไม่เดือดร้อน ผมก็ไม่เดือดร้อน ... ผมเองก็เป็นคนไม่สมบูรณ์อย่างคุณและก็อยากกลับใจ ... ถ้าผมคิดสั้นๆ อย่างคนบางคน ก็คงออกมาเชียร์ให้ล้มคุณ ผมจะได้ซื้อหุ้นได้ถูกลง ซื้อที่ดินได้ถูกลง อย่างที่หลายคนรอคอยการล้มของคุณอยู่ ... แต่ผมต้องตัดใจว่าเวรกรรมมันมีจริง ... เรามาไม่กี่ปีก็จากไป เอาอะไรไปก็ไม่ได้ ... ถ้าเราไม่ลุกออกมาช่วยคนดีบ้าง ... ลูกหลานเราคงไม่มีแผ่นดินที่เขาภูมิใจได้อยู่เหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นเขา ... คนรวยก็ต้องส่งลูกไปเรียนไปอยู่ที่อื่น ... คนจนก็ขาดโอกาสต่อไป ... "




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 7:00:46 น.   
Counter : 117 Pageviews.  


[justgig]เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)-ถึงคุณสนธิ (ตอน จอมบงการ)

ขอนำข้อเขียนของคุณ justgig มาลง blog ครับ

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4110387/P4110387.html
คุณ justgig โพสท์วันที่ 16 ก.พ. 49 11:12:13

เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ)

"ถึงคุณสนธิ (ตอน จอมบงการ)

ประเทศชาติกำลังล้มจม ... ทักษิณอาสามาแก้ ... คนไทยลืมตาอ้าปากได้ ... สนธิทำอะไร ...
นอนกลางดินทั่วไทย ... นายกไทย ... ต่อให้แสร้งทำก็ดีกว่า คนดีที่ไม่เคยทำอะไร ... สนธิทำอะไร ...
ยาเสพติดทั่วไทย ... พ่อแม่กลุ้มใจหมดปัญญาช่วยลูก ... ทักษิณมา ยาหมดไป ... สนธิทำอะไร ...
สนามบินสี่สิบชาติ ... ทักษิณไม่มา อีกกี่สิบชาติจะได้เห็นได้ภูมิใจสุวรรณภูมิ ... สนธิทำอะไร ...
การศึกษาคือคำตอบ ... ดีแต่พูด ... ทักษิณเปลี่ยนเงินหวยเป็นทุนให้ลูกหลานไทย ... สนธิทำอะไร ...
ปราบอิทธิพลมืดทั่วแผ่นดิน ช่วยคนจน ... สำเร็จหรือเปล่าไม่รู้ ... แต่ทักษิณตั้งใจ ... สนธิทำอะไร ...
ผู้ว่าซีอีโอ ... ดูเหมือนตลกเมื่อเริ่ม แต่ผลกระทบหยั่งรากลึกซึ้ง ... ทักษิณมุ่งมั่น ... สนธิทำอะไร ...
เขมรบุกเผาสถานทูต ... ซึนามิ ... พวกเราเสียขวัญ ... ทักษิณออกมาพวกเราอุ่นใจ ... สนธิทำอะไร ...
จากประเทศขอทาน ... ทักษิณไปเวทีไหน เรายืดคอภูมิใจว่านี้นายกประเทศไทยนะ ... สนธิทำอะไร ...
คนจนป่วย ไม่มีเงิน หมดปัญญารักษา ... ทักษิณให้โอกาสมีชีวิตแค่ 30 บาท ... สนธิทำอะไร ...
ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร ... ทักษิณเดินออกมาข้างหน้า คนไทยอุ่นใจ มั่นใจ ... สนธิทำอะไร ...


สนธิทำแค่ ... สร้างสถานการณ์ให้คนทั้งชาติหวั่นไหว เพื่อให้หุ้นที่กลุ่มผู้จัดการทำช๊อตเซลมีกำไร ...
คนนับล้านกำลังมีหวังมีอนาคต ... คุณแค่ต้องการเงินเข้ากลุ่ม กล้าทำลายความมั่นคงชาติเชียวหรือ ...
บีบทักษิณออก ... ถึงออกไป ทักษิณก็ไม่เดือดร้อนอะไร ... เศรษฐกิจพัง ... ใครเดือดร้อน ...
นักวิชาการก็ไม่เดือดร้อน ... มีงานทำ มีเงินใช้อยู่ดี ... ซุกหัวเงียบอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ...
พวกชนชั้นสูงอย่างคุณกรณ์ (จาติกวณิช) ... ก็ไม่เดือดร้อน ... ห่วงแต่อนาคตทางการเมืองของตัวเอง ...
คุณทุบหม้อข้าวประชาชน ... เพราะพวกคุณมีโกดังข้าวสารอยู่ในบ้าน ... อ้างนักหนาว่าเพื่อประชาชน ...
คนเดือดร้อนก็ประชาชนตาดำดำ ... ลูกหลานจบใหม่ไม่มีงานทำ ... ตอนนั้นไปหดหัวที่ไหนกันหมด ...


ทักษิณจะขายหุ้นก็ขายไป ... เงินของเขา เขาไม่ให้ ก็สิทธิของเขา ... เราคนไทยก็ไม่ใช่ขอทาน ...
ขอแรงทักษิณทำงานให้ชาติสุดกำลังก็พอแล้ว ... ยังต้องไปขอเงินเขาอีกหรือ ... ละอายใจกันบ้าง ...
พวกเราเสียภาษีก็ล้วนขอหักลดหย่อนกัน ... จะบาทเดียวหรือหมื่นล้านมันก็หลักการเดียวกัน ...

ผมเชื่อโดยสุจริตใจนะว่า ... ถ้าคุณทักษิณขอร้องให้คนออกไปยืนสนับสนุน ... จากลานพระรูปถึงสนามหลวงก็จะไม่มีที่ให้ยืน ... อย่าคุยนักเลย คุณสนธิ ... ด่าคนไม่ต้องหยาบคายหรอกครับ ... ยกเว้นคุณคิดพวกที่ไปฟังคุณเป็นพวกต้องการการปลุกเร้าอารมณ์ ต้องลากต้องจูง ... คุณยังเดินหน้าทำลายชาติต่อไป คุณจะรู้ว่าคนไทยนับล้านที่คุณบอกว่าไม่มีความหมายนั้น ไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิด ... และถ้าจะโง่ ก็จะขอโง่ยืนข้างคนทำงานให้ชาติมากกว่าคนที่ใช้ปากทำลายความมั่นคงของประเทศตนเอง ...

คุณออกมาพูดตอนประเทศชาติล้มจม ... ผมไม่ว่าอะไร ... แต่คุณออกมาทุบหม้อข้าวคนทั้งชาติตอนที่เขาพอมีจะกินจะใช้ รู้สึกสุขและภูมิใจกับประเทศได้บ้าง ... มันเห็นแก่ตัวเกินไป ... ทักษิณถูกผิดผมไม่อยากจะสน ... ทำให้คนจนมีความสุข ... สร้างสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ดีแต่ลมปากหลักการอย่างคุณ ... คุณรอไม่ได้หรือสามปี ... อ้างหลักการเล็ก (จริยธรรม) ทำลายหลักการใหญ่ (กฎหมายและความมั่นคงของชาติ) ... อย่าอ้างประชาชนเพื่อลิดรอนสิทธิประชาชน ...

ยุติอัตตาความเป็นจอมแบล๊กเมของคุณเถอะครับ คุณสนธิ ... ก่อนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ... ผู้ใหญ่หลายคนก็คอยแต่ดูทิศทางลมก่อนแสดงความคิดเห็น ... คนตัวเล็กอย่างผม ทนปล่อยให้คนมุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติเดินตามลำพังต่อไปไม่ได้แล้วครับ คุณสนธิ ...

ท้ายสุด ปีนี้เป็นปีของพระองค์ท่าน ... ทักษิณพยายามดันสุวรรณภูมิก็เพื่อให้มีสิ่งไว้อวดแขกบ้านแขกเมืองกับชาวบ้านเขาบ้าง ... คุณกล้าดีอย่างไร ... ไม่สนใจหน้าตาของพระองค์ท่าน ทำให้ประเทศดูหม่นหมอง ... ท่านจะยืนสู่หน้าแขกต่างเมืองอย่างไรถ้าบ้านเมืองมันพึ่งผ่านความวุ่นวายมา ... ใครก็เอาอำนาจพระองค์ท่านไปไม่ได้หรอกครับ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจดี ... อย่าเอาท่านมาอ้าง มันเกินไป ... คุณไม่คู่ควรเลยครับ ... "




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549   
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 6:57:41 น.   
Counter : 138 Pageviews.  



ชิบะจัง
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ชิบะจัง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com