Poetry is wisdom that enchants the heart.
Wisdom is poetry that sings in the mind.
Poetry is not an opinion expressed.
It is a song that rises from a bleeding wound or a smiling mouth......
"If you can't love me, love my poetry."
|
||||
ส่องนกที่ทะเลน้อยเมืองพัทลุง วันก่อนไปชมนกที่อุทยานทะเลน้อย เมืองพัทลุงมาคับ ด้วยความที่ไม่รู้ รายละเอียด สภาพอากาส ความกว้างใหญ่ไพศาลของทะเลน้อย กว่าที่ผมจะออกจากหาดใหญ่นั่งรถมาถึงพัทลุง ก็ปาเข้าไปสิบโมงเช้า แดดก็ร้อนเปรี้ยง ๆ แล้ว ประสมกับความไม่รู้ถึงความกว้างของพื้นที่ทะเลน้อยที่ต้องนั่งเรือหางยาวไปกลับ เป้นระยะทางกว่าสิบกิโลเมตรที่อยู่บนเรือตอนที่จ้างเรือ ลุงคนขับเรือหางยาวแกมาเสนอราคาว่า จะพาเที่ยวนี่คิดสี่ร้อย ผมก็อุตส่าห์ไปต่อแก "ซ่องหร่อยได้มาย" ผมพยายามเลียนสำเนียงวรรณยุกต์แบบคนใต้ "ซี่" ลุงแกยืนยัน ผมก็คิดในใจว่า สี่ก็สี่วะ แต่พอแกพานั่งกินระยะเวลาเป็นสามสี่ชั่วโมงแบบนี้ แล้ว สี่ร้อยบาทถือว่าไม่แพงเลย ยังรู้สึกตะหงิด ๆ อยู่ว่าไปต่อราคาแกเหลือ "ซ่องหร่อย" ผลที่ได้รับก็คือ ต้องตากแดดกันจนผิวแสบ ๆ ไปตาม ๆ กัน "รู้อะไรให้กระจ่ายเพียงอย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล" ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินบทกวีที่กล่าวไปนี้กันมาบ้าง ความหมายที่มหากวีไทยได้เรียงคำร้อยสัมผัสรจนาออกมาก็คงจะประมาณว่า ในจักรวาลนี้มีสิ่งให้เราเรียนรู้ไม่จบสิ้น จะให้รู้ทุกเรื่องคงเป็นไปไม่ได้ ขอแค่ให้เรารู้ลึกรู้จริงรู้จริงในสิ่งที่ตนเชี่ยวชาญก็ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก ๆ แล้ว หลังจากที่โง่มานาน (ตอนนี้ก็ยังโง่อยู่) ผมเพิ่งมาค้นพบ คำโต้แย้งบทกวีดังกล่าวว่า บางที การรู้ลึกรู้จริงในสิ่งเดียว โดยไม่สนใจเรื่องอื่นเลยก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน คือถ้าประมาท หรือสำคัญตัวเองผิด มันจะทำให้คนที่มั่นใจว่าตัวเองมีความรู้ ในเรื่องเดียวนั้น ๆ อาจจะยอมอ่อนน้อมถ่อมตน แต่กับผู้ที่ถือว่า "มีความรู้" ในวงการความรู้วิชาชีพที่ตัวเองถนัด โดยไม่ยอมรับนับถือ คนในวงการอื่นที่มีความรู้แบบอื่นเลย ถ้าเลยเถิดไป ความรู้สึกดูถูกผู้อื่น ก็อาจผุดขึ้นมาได้ ซึ่งไม่ดีเลย หนึ่งในวิธีกำราบความรู้สึกอย่างว่า ก็คือ เราอาจจะต้องลองศึกษาหาความรู้ในเรื่องอื่นที่เราไม่ถนัดบ้าง เผื่อเป็นการ "บริหารและถ่วงดุลอีโก้" ให้กับตัวเราเอง เมื่อเราได้พบเจอ คนเก่ง ๆ จากต่างวงการ ต่างสสาขาวิชาชีพ เราก็จะตระหนักว่า โลกนี้ไม่มีใครเก่งไปเสียทุกเรื่อง ไปโดยปริยาย เมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ว อวิชชา ความหลงผิดในอีโก้ ตัวเอง ก็จะถูกรื้อถอนออกไป จะมากน้อย ก้ขึ้นอยู่กับบุญทำกรรมหนุนของแต่ละคน ผมเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่เป้น เพิ่งมาจับกล้องครั้งแรก ก็เมื่อสี่ห้าเดือนที่ผ่านมานี่แหละ แรงบันดาลใจก็คือ พอผมได้ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์พี่ ๆ ช่างภาพในมัลติพลาย เห็นเขาถ่ายสวยดีก็เลยอยากถ่ายรูปเป็นบ้าง ก็เลยซื้อกล้องมามั่วๆ ดู ผมพยายามจะถ่ายนก เห็นในมัลติพลาย มีแต่คนถ่ายสวย ๆ ภาพนกแต่ละตัว คมกริบ ผมก็มั่ว ๆ มาได้แค่นี้ แหะๆ อีกเรื่องนึงที่ผมไม่รู้เอาเสียเลย ก็คือ นกนานาพันธุ์ที่ผลัดเวียนมาเป็นนางแบบนายแบบ ลุงคนขับเรือแกก็บอกนะ แต่ก็มักจะลืม แล้วก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรทุกครั้งไป ส่วนไอ้พันธุ์ที่จำได้ ผมก็ดันถ่ายเบลอจนไม่ได้มาโพส ซะนี่ เจ้านกตัวนี้เป็นพันธ์เดียวที่จำได้ คือเขาเรียกมันว่า "นกกาน้ำ" ที่จำได้เพราะฟังแล้วขำ คือ ชื่อมันชวนให้นึกถึงกาน้ำที่ใช้ต้มน้ำร้อน แต่เจ้าสองตัวนี้มันพันธุ์อะไรก็ไม่รู้ลุงคนขับเรือแกบอก แต่ก็ลืม อยากไปบ้าง ภาพสวยจังเลยค่ะ
โดย: tookbus วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:12:13:08 น.
|
เชษฐภัทร
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |