|
เหตุการณ์เมษาจลาจล บทเรียนใหม่เรื่องของวุฒิภาวะทางการเมืองของไทย
จากเหตุการณ์ปิดล้อมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ ๙ เมษายนของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง นำมาซึ่งการขยายขอบเขตความรุนแรงในการชุมนุม ชัยชนะที่ปิดล้อมถนนกดดันรัฐบาล การบุกเข้าไปขัดขวางการประชุมผู้นำอาเซียนบวกสามที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชที่พัทยา ซึ่งการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ขัดขวางการประชุมผู้นำอาเซียนประสบความสำเร็จ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยกลายเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลกที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของการประชุมระดับผู้นำของประเทศต่างๆได้ แต่กลับปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงบุกเข้าไปประชิดได้ จนผู้นำชาติต่างๆต้องอพยพหนีภัยจากที่จัดการประชุม
ชัยชนะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงประกาศเอาไว้เมื่อวันเสาร์ ตามมาด้วยข่าวในวันรุ่งขึ้นที่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงล้อมกระทรวงมหาดไทย และไล่ทุบตีรถของคณะนายกรัฐมนตรี ลากรปภ.ของนายกออกมาทุบตีจนเลือดไหล ใส่กุญแจมือและสอบถามเพื่อเอาตัวนายกรัฐมนตรีออกมาให้ได้ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำว่าระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลขาดประสิทธิภาพอย่างมาก
ตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ ๑๒ เมษายน ข่าวการออกพระราชกำหนดบริหารราชการในสภาวะฉุกเฉินที่ให้อำนาจทหารและตำรวจในการจัดการกับการชุมนุมในขอบเขตที่สมควร สร้างความกังวลให้กับนักวิชาการหลายคนว่าอาจจะเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงและตามมาด้วยการนองเลือดจะจุดชนวนความวุ่นวายขึ้นในสังคมไทย
....ไม่มีใครคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เช้ามืดวันจันทร์ที่ ๑๓ เมษายนซึ่งควรจะเป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันปีใหม่ของคนไทย ปรากฏเสียงปืนดังขึ้นในเขตสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อทหารพยายามเคลียร์พื้นที่คืน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงลือกันว่ามีคนตายและทหารเก็บศพผู้เสียชีวิตไปทิ้ง แต่ข่าวที่ปรากฏในสื่อทั่วโลกและสื่อไทยไม่มีการรายงานของผู้เสียชีวิต กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวอ้างว่ารัฐบาลปิดข่าว บิดเบือนข่าว ทหารฆ่าประชาชนหลายสิบคน แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับฟังข่าวอื่นนอกเหนือจากข่าวของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นที่รายงานโดยไม่แสดงข้อเท็จจริงแต่เป็นข่าวที่อ้างโดยขาดหลักฐาน
ภาพการยึดรถแก๊สเอาไปจอดบริเวณหน้าแฟลตดินแดงเพื่อต่อรองกับทหารที่คุมกำลัง ไม่ให้รุกคืบเข้าไป สร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนที่อาศัยในเขตแฟลตดินแดง ตัวแทนชาวแฟลตดินแดงพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงแต่ไม่เป็นผล กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงไม่ยอมเคลื่อนย้ายรถแก๊สแต่กลับต้องการเล่นจิตวิทยากดดันทหาร แล้วก็ขู่ว่าถ้าจะตายก็ยอมตาย การเจรจาไม่มีความคืบหน้า...
ความอดทนของคนที่ถูกกระทำโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับรัฐบาลก็มาถึงจุดสิ้นสุด...
ชาวบ้านประชาชนชาวแฟลตดินแดงรวมตัวกันเคลื่อนย้ายรถแก๊สออก และทหารเข้ายึดพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ในหลายๆจุดทหารยิงปืนขึ้นฟ้าหรือใช้กระสุนหัวกระดาษยิงเข้าใส่ฝูงชนที่ชุมนุมเพื่อข่มขวัญให้ถอยร่น ข่าวต่างประเทศหลายแหล่งต่างรายงานทหารผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ถอยร่นไปแต่ไม่มีสื่อไหนรายงานยอดผู้เสียชีวิตในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงอ้างว่ามีผู้เสียชีวิต แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าคนตายไปตายที่โรงพยาบาลไหน ผู้ตายชื่ออะไร ภาพความรุนแรงที่กลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟเผารถเมล์คันแล้วคันเล่า เผายางกีดขวางการจราจร กลุ่มควันของยางที่ถูกเผาส่งกลิ่นรบกวนคนป่วยที่อยู่ในเขตโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี เป็นภาพที่สร้างอารมณ์โกรธแค้นให้กับประชาชนทั่วไปที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและรัฐบาล
ชาวบ้านในเขตซอยกิ่งเพชร ๕ และซอยกิ่งเพชร ๗ รวมตัวกันออกมาต่อสู้กับกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ปิดกั้นถนนบริเวณอุรุพงษ์ และจัดกำลังตรวจตราไม่ยอมให้คนเสื้อแดงผ่านเข้าออก
ข่าวตอนดึกรายงานว่าความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงกับชาวบ้านในเขตนางเลิ้งที่ไม่เห็นด้วยที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามจะจุดไฟเผารถเมล์ใกล้ตลาดนางเลิ้ง จึงทำการต่อต้านแต่ผลลัพธ์คือกลุ่มคนเสื้อแดงยิงประชาชนในเขตวัดโสมนัสและนางเลิ้งตายไปสองศพ
รัฐบาลกดดันกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่เช้าของวันที่ ๑๔ เมษายนตอนสายๆกลุ่มแกนนำของผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงพิจารณาสถานกาณ์แล้วเมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมชุมนุม...ตัดสินใจสลายการชุมนุมตอนสายๆ
เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ของเดือนเมษายน ปีพ.ศ.๒๕๕๒ปิดฉากลง....
สิ่งหนึ่งที่ได้รับคำชมก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่การจัดการของทหารต่อผู้ชุมนุมไม่มีการพยายามใช้ความรุนแรง ไม่มีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการกวาดล้างผู้ชุมนุมของทหาร ทหารได้รับคำสั่งให้อดทน อดกลั้น ต่อการยั่วยุ เหตุการณ์จึงไม่บานปลายไม่มีการนองเลือดเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาในอดีต
รัฐบาลใช้สื่อเป็นเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส ทำให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไป ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบิดเบือนข้อเท็จจริง สิ่งที่คุณทักษิณพยายามใช้สื่อต่างชาติเพื่อเป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องความชอบธรรมในการปลุกเร้าการจลาจล...กลับเป็นผลเสียมากกว่าเพราะคำพูดของคุณทักษิณขัดแย้งกับสิ่งที่พูดเอาไว้กับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ทำให้ความน่าเชื่อถือไม่มีในสายตาของสื่อต่างชาติและคนที่ดูการให้สัมภาษณ์ของคุณทักษิณ
โดยส่วนตัวผมไม่สนับสนุนการยึดทำเนียบและการยึดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มเสื้อเหลือง ขณะเดียวกันผมก็ไม่เห็นด้วยกับการปลุกระดมให้ผู้คนมาก่อจลาจลสร้างความเดือดร้อนแก่คนทั่วไปเพื่อเอาชนะของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง
ดินแดนนี้คือประเทศไทยของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของคนกลุ่มสีใดสีหนึ่ง แล้วก็คนไทยอีกจำนวนมากก็ไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่มสีใดๆจะเอาประเทศไทยมาเป็นตัวประกัน ทำลายจนพินาศเพียงเพราะมีอุดมการณ์ต่างกัน
จากเหตุการณ์ที่ประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการจลาจลของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงรวมตัวกันลุกขึ้นมาต่อต้านกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้สังคมไทยตระหนักว่าคนไทยมีสิทธิที่จะพิทักษ์สิทธิอันชอบธรรมของตัวเอง ไม่ใช่จะยอมให้คนกลุ่มสีใดจะเอากฎหมู่มาบีบบังคับกระทำผิดกฎหมายตามอำเภอใจ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งของคนสองกลุ่ม
ความวุ่นวายในบ้านเมืองสงบลงแล้ว ไม่ควรมาซ้ำเติมกัน ไม่ควรมาอ้างว่าใครแพ้ หรือใครชนะ ไม่ควรมาแบ่งกลุ่มคนไทยว่ากลุ่มสีอะไร ไม่ควรคิดว่าใครขัดแย้งกับเราถือว่าเขาเป็นศัตรูและจ้องอาฆาต หาทางทำร้ายกัน
เมืองไทยบอบช้ำเต็มทีแล้ว หันมาร่วมมือกันพัฒนาประเทศไทยต่อไปดีกว่ามานั่งจ้องจับผิดกัน ดีกว่าหาทางล้างแค้นกัน
บทเรียนจากเหตุการณ์เมษาจลาจล ช่วยสร้างวุฒิภาวะทางการเมืองให้กับเมืองไทย รัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือดจากการปะทะกันสำเร็จและนี่ควรเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เขาจะรักจะเกลียดรัฐบาล..เขาก็ยังเป็นคนไทย อย่าให้ความเห็นขัดแย้งกันนำมาซึ่งการฆ่าฟันกัน และกลุ่มประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกล้าที่จะออกมาแสดงสิทธิและคุมบ้านเมืองให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง นี่คือบทเรียนหน้าใหม่ในระบอบการเมืองไทย
Create Date : 15 เมษายน 2552 | | |
Last Update : 15 เมษายน 2552 20:23:59 น. |
Counter : 811 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|