ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 

Final episode in Istanbul

วันสุดท้ายของการเดินทางทริปยุโรปครั้งแรกดำเนินเรื่องที่อิสตันบูล...

ตอนเช้าผมเดินออกจากโรงแรมไปยัง Hippodrome บริเวณที่เคยเป็นสวนและสนามแข่งม้าในอดีต




หลังจากนั้นก็นั่งรถรางไปยัง Spice Bazaar เป็นแหล่งรวมเครื่องเทศ ของที่ระลึก ตลาดแห่งนี้มีอายุยาวนานย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ สีสันของตลาดอยู่ที่ของที่มาจำหน่ายที่มีความหลากหลาย บรรยากาศของผู้คนที่ผ่านไปมา จับจ่ายซื้อของหรือเทคนิคในการเรียกลูกค้าของร้านค้าสองข้างทาง นี่คือเสน่ห์ของตลาด













ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเป็นพระยาน้อยชมตลาดใช้เวลากว่า ๒ ชั่วโมง...


แวะไปซื้อแสตมป์ที่ระลึกณ.ที่ทำการไปรษณีย์ พึ่งรู้ว่าคำว่า ptt คือคำย่อของที่ทำการไปรษณีย์ของตุรกี สัญลักษณ์ธงเหลืองที่พบเห็นทั่วไปนี่คือที่ทำการไปรษณีย์ของตุรกี




เจ้าหน้าที่ของที่ทำการไปรษณีย์เขาเป็นนักขายที่ดี....เขาพยายามเชียร์แสตมป์ชุดต่างๆให้ผมซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกของการเดินทางคราวนี้ ผมเลือกแสตมป์แบบสบายใจ แสตมป์ที่ระลึกของตุรกีสีสันและลวดลายสวยงามดี มีภาพสัตว์, แมลง รวมทั้งบุคคลสำคัญอย่างอาร์ตาร์เติร์ก แน่นอนผมซื้อแสตมป์ที่ระลึกชุดอาร์ตาร์เติร์กเก็บไว้เป็นของที่ระลึกของการเดินทางคราวนี้ด้วย

นั่งรถรางไปสุดสายแล้วเปลี่ยนเป็นรถโมโนเรลขึ้นไปย่าน Taksim เห็นชื่อแล้วยิ้มๆเพราะมันใกล้เคียงกับคำว่า Taksin ย่านนี้เป็นย่านช็อปปิ้งเหมือนสยามสแควร์ในกรุงเทพฯหรือย่านโอโมเตะซันโดในโตเกียว มีร้านขายของแบรนด์ดังๆ ร้านกาแฟข้างทางบรรยากาศแบบเดียวย่านโอโมเตะซันโด(表参道)ย่านTaksim ไม่มีรถผ่านมีแต่รถรางวิ่งส่งผู้โดยสารจากหัวถนนถึงท้ายถนน จึงเดินได้สบายๆสำหรับนักช็อปปิ้ง นักท่องเที่ยว




หิวแล้วตอนนั้นเพราะมันเที่ยงพอดี แวะร้านข้าวแกงที่ขายในร้านขนาบกับฟาสต์ฟู้ดแมคโดนัลด์ เห็นเมนูเกี๊ยวราดโยเกิร์ตอาหารพื้นเมืองของตุรกี เลยลองสั่งมาทานดู อาหารนี้ชื่อว่า "Manti" เป็นอาหารที่อยากลองทานมาหลายวันแล้ว แต่ไม่เจอร้านไหนขายเมนูนี้ ไม่เสียหายถ้าจะลองทานดู...เพราะเมนูแบบนี้คงหาทานได้ยากในเมืองไทย




รสชาติเป็นอย่างไร? ทานแล้วคล้ายๆมักโรนีแต่มีรสชาติเปรี้ยวๆแบบโยเกิร์ตผสม


ผมเดินดูร้านหนังสือเพื่อซื้อดิกชันนารีภาษาตุรกี-อังกฤษเป็นของที่ระลึกของการเดินทาง สังเกตดูร้านหนังสือที่นี่มักขายซีดีควบคู่กันไปด้วย ดนตรีของตุรกีมีเสน่ห์ดี เครื่องดนตรีที่ชื่อ Ud ที่เหมือนเบนโจ และ Ney ซึ่งเป็นขลุ่ยของตุรกี ช่วยกันผสมผสานเสียงเพลงให้มีกลิ่นอายของตุรกีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ฟังแบบสบายๆ

ตอนที่จะออกจากย่านทักซิม มีขบวนพาเหรดนานาชาติพอดี เลยได้ภาพบรรยากาศขบวนพาเหรดที่มีสีสันแปลกตา ถือเป็นความโชคดี












เดินลงตามแนวเนินลาดไปสู่สถานีรถรางที่อยู่ใกล้ที่สุด ย่านนั้นเป็นย่านขายเครื่องดนตรีและอุปกรณ์จานดาวเทียม ดูเหมือนธุรกิจจานดาวเทียมไปได้ดีในตุรกี จานขนาด 2 ฟุตแต่รับสัญญาณทีวีต่างประเทศได้มากกว่า 200 ช่องสัญญาณ พื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกลมากเห็นมีจานดาวเทียมเป็นส่วนใหญ่

นั่งรถไปย่าน Grand Bazaar ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ราคาของที่ขายนั้น Spice Bazaar ราคาถูกกว่า ต้องเจรจาต่อรองราคากันน่าดูเหมือนกัน ได้ลองกิน Turkish Delight หรือกาละแมตุรกีแล้ว รสชาติหวานแสบไส้ ลองทานรสชาติน้ำผึ้งแล้วต่างจากที่ทำจากน้ำตาล ติดใจรสชาติชาแอปเปิ้ลที่มีรสหวานอมเปรี้ยว เลยซื้อเป็นของฝากกลับไปด้วย

บรรยากาศของ Grand Bazaar มีหน้าตาเป็นแบบนี้











เดินไปมหาวิทยาลัยอิสตันบูล ระหว่างทางเจอแผงหนังสือ บรรยากาศชวนให้นึกถึงแผงหนังสือสนามหลวงในอดีต และแผงหนังสือจตุจักรในปัจจุบัน ไม่รู้ว่าแนวคิดนี้ใครคิดก่อนกันระหว่างไทยหรือตุรกี แต่ที่แน่ๆเป็นย่านซื้อตำราสำหรับคนสนใจทั้งนักศึกษาและคนสนใจ ไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอบรรยากาศแผงหนังสือในประเทศนี้....





เลยไปไม่ไกลเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอิสตันบูล เขามียามตรวจคนที่ผ่านเข้าออก ทำให้ผมไม่สามารถเข้าไปชมบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยได้ ได้แต่ถ่ายภาพซุ้มประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยอิสตันบูล





ทำเวลาเพราะต้องกลับถึงโรงแรมก่อนเวลารถบัสมารับไปสนามบิน อาหารเย็นวันนั้นแวะทานร้านอาหารพื้นเมือง...ได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน เขาสนใจจะมาเปิดร้านในเมืองไทย พอเขาฟังว่าราคาอาหารบ้านเราขายเท่าไหร่ ราคาเนื้อไก่กิโลกรัมละเท่าไหร่ ราคาเนื้อวัวราคากิโลกรัมละเท่าไหร่ เขาตกใจว่าทำไมเมืองไทยขายของถูกกว่าในตุรกีร่วม ๓ เท่าแล้วจะมีกำไรจากการขายหรือ? บางทีเขาไม่เข้าใจโครงสร้างสังคม ราคาของพื้นฐานในเมืองไทย ตลอดจนค่าครองชีพในเมืองไทย เขาเอาภาพตลาดและสังคมตุรกีมาเป็นกรอบความคิด


มาถึงโรงแรมก่อนเวลา เจ้าหน้าที่โรงแรมต้อนรับและช่วยเหลือเป็นอย่างดี รถบัสมารับเราไปสนามบิน ที่สนามบินอาร์ตาร์เติร์กตรวจสอบความปลอดภัยเข้มงวดมาก ต้องถอดเข็มขัด นาฬืกา ก่อนผ่านเครื่องตรวจวัตถุระเบิด

เครื่องบินของสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ออกเดินทางตอน ๕ ทุ่มกว่า ตอนที่เช็กอิน ผมต่อแถวจากผู้โดยสารชาวแอฟริกาใต้ มีโอกาสสนทนากันโดยบังเอิญ เธอทำงานในออสเตรียและกำลังเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่โยฮันเนสเบิร์กโดยใช้สายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันแต่สามารถสนทนากันได้อย่างสนุกสนานในช่วงเวลาสั้นๆ ออสเตรียเป็นประเทศที่ผมอยากไปถ้ามีโอกาส เจอกรณีนี้แล้วทำให้นึกถึงสุภาษิตญี่ปุ่น

「一期一会」

มีความหมายว่า

"พบกันครั้งหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหม? แต่ในระหว่างที่ได้เจอกัน หยิบยื่นสิ่งดีงามให้แก่กัน เป็นความทรงจำที่ดีที่สามารถระลึกถึงได้แม้จะเจอกันในระยะเวลาที่สั้นๆก็ตาม"

เครื่องบินออกเดินทางจากอิสตันบูลหลังเที่ยงคืนมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ


ชีวิตคือการเดินทาง
ค้นหาตนเองและค้นพบความหมายในชีวิต
การเดินทางยุโรปครั้งแรกเสร็จสิ้นลง
มีสีสัน ความหลากหลาย เรื่องราว ความแตกต่าง
ของศิลปะ วัฒนธรรม ความงามของธรรมชาติ
มิตรภาพและน้ำใจของคนท้องถิ่น
ที่ล้วนแต่งแต้มภาพของการเดินทางคราวนี้
ให้มีคุณค่า มีความหมาย เป็นประสบการณ์ดีๆ
ขอบคุณเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
การเดินทางต่างแดนครั้งต่อไปจะเริ่มต้นเมื่อไหร่
ต้องคอยรอ...จนกว่าจะถึงวันนั้น





MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com



(เพลงประกอบนี้ชื่อเพลง "Tango to Evora")




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2552    
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 22:59:51 น.
Counter : 2646 Pageviews.  

Visited Ephesus and went back to Istanbul

ข่าวที่ดูจากทีวีในห้องพักรายงานว่าเกิดจลาจลในซินเกียงมีผู้เสียชีวิต สาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อยกับชาวฮั่น

ตอนเช้ารอรถมารับ...วันนี้ล่าช้ากว่าเมื่อวาน จนเราเกิดอาการกังวลว่าเขาลืมไปรึเปล่า? รถมารับที่โรงแรมล่าช้ากว่าที่นัดหมายไว้กว่าครึ่งชั่วโมง


รถบัสใช้เวลาเดินทางกว่า ๑ ชั่วโมงก็มาถึง Ephesus วันนี้เป็นการ join tour group ร่วมกับกลุ่มอื่น แต่วันนี้กรุ๊ปทัวร์ใหญ่มากร่วม 20 คนได้ แถมผู้คนที่เดินทางมาเที่ยววันนี้ก็มากด้วย แดดร้อนเอาเรื่องจนไกด์แนะนำให้เราสวมหมวกและซื้อน้ำไปด้วย


จุดแรกที่แวะลงไปดูกัน...เป็นอาณาบริเวณวิหารในอดีต ที่ตอนนี้เหลือเพียงแต่ซากเสาศิลปะกรีกในอดีต




เห็นในหนังสือที่บรรยายเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เขาจำลองภาพโครงสร้างของอาคารแห่งนี้ตอนที่สมบูรณ์ในอดีตดูใหญ่โตทีเดียว


จากจุดนี้เรานั่งรถต่อไปยัง Ephesus บริเวณดังกล่าวกว้างมาก และมีกรุ๊ปทัวร์กรุ๊ปอื่นพาลูกทัวร์มาด้วย แบบนี้อาจจะพลัดหลงกันได้ง่าย ไกด์พยายามให้ลูกทัวร์เกาะกลุ่มกัน

จุดแรกที่ไกด์อธิบายให้พวกเราฟังคือบริเวณเสาโบราณจุดนี้






บริเวณใกล้ๆเป็น Theater เล็ก




ไกด์รายนี้เขาอ่านภาษากรีกโบราณได้ เขาอ่านข้อความต่างๆที่ปรากฏบนสิ่งก่อสร้างโบราณ ซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ บริเวณนี้มีรูปปั้นเทพี Nike ซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีชื่อบริษัทขายอุปกรณ์กีฬาที่ชื่อไนกี้ขึ้นบนโลก และรูปรอยโค้งด้านนี้ถ้าดูดีๆจะเห็นว่าบริษัทไนกี้นำเอาไปเป็นสัญลักษณ์ทางการค้าด้วย





บริเวณนี้ไกด์อธิบายว่าบริเวณนี้เคยเป็นส้วมสาธารณะมาก่อน ไกด์บอกถึงวิวัฒนาการของคนในอดีตที่ใช้มือซ้ายล้างก้นแล้วใช้มือซ้ายล้างน้ำที่ไหลมาขณะนั่งถ่ายลงช่องข้างล่างนี้....จนถึงตอนนี้เราก็ยังใช้มือซ้ายล้างก้น หรือว่าบางคนใช้มือขวาล้างก้นอยู่?





บริเวณนี้ไกด์อธิบายอยู่ พออธิบายเสร็จก็ลื่น..ผมเดินไปพอจะออกจากบริเวณนี้ก็ลื่นจนหินถลอกขา คนคงมานั่งและเดินไปมาตรงนี้กันมากแล้วถูไปถูมาจนหินลื่นเลย


บริเวณที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณ Library of Celsus ในอดีตเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ สะท้อนความงอกงามทางปัญญาของคนในอดีต





ไกด์อธิบายว่ามีเทพีอยู่สี่องค์ที่เป็นตัวแทนของปัญญาความรู้ของมนุษย์ รูปปั้นของเหล่าเทพีประดับไว้ที่บริเวณ Library of Celsus





จากจุดนี้เลยไปหน่อยเป็น Theater หลังใหญ่ซึ่งตอนนี้กำลังซ่อมแซมอยู่ เราต้องหลบมุมเพื่อให้ได้ภาพที่สวยออกมาสะท้อนความอลังการของ Theater





ไกด์คนนี้อธิบายได้ละเอียดและเขาตั้งใจในการถ่ายทอดให้พวกเราลูกทัวร์ฟังเกี่ยวกับความสำคัญของสถานที่ต่างๆ เขาบอกกับพวกเราฟังว่าต้นตระกูลเขาเป็นคนพื้นเมืองในซินเกียงที่อพยพมาอยู่ในตุรกี ข่าวจลาจลที่ซินเกียงในจีนเมื่อคืนสร้างความเศร้าใจให้แก่เขามาก


ตอนบ่ายแวะพิพิธภัณฑ์ ภายในมีรูปปั้นเทพี เทวดาต่างๆ เทวดาในรูปเป็นเทพที่คนตุรกีเชื่อว่าสามารถดลบันดาลให้ผู้หญิงที่อยากมีลูกมาขอพรแล้วจะได้ลูก.... แต่แหมเห็นรูปปั้นแล้วก็อุทานว่าทำไมอวัยวะเทพท่านนี้ใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้





รูปปั้น Eros เทพแห่งความรัก






รูปปั้น Eros กับ Psykne ภาพนี้ชวนให้จินตนาการถึงจังหวะลีลาศที่หนุ่มสาวกำลังเยื้องย่างไปตามจังหวะเพลงทำนอง Tango ทั้งสง่างาม ทั้งเร้าใจ





รูปปั้นเทพี Artemis เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์






จากที่นี่เรานั่งรถบัสไปสนามบินเพื่อต่อเครื่องบินกลับไปอิสตันบูล โชคดีที่เปลี่ยนเที่ยวบินได้ไวขึ้น ทำให้มีเวลาได้ดูสิ่งสวยงามภายในอิสตันบูล ใช้เวลาราวๆ ๑ ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินอาร์ตาเติร์ก

ขอพูดถึงอาร์ตาเติร์กนิดนึง....

ผมเคยได้ยินชื่อ Mustafa Kemal จากหนังสือประวัติบุคคลสำคัญของโลก แต่พอมาถึงตุรกี ชื่อมุสตาฟา เคมาล ไม่ค่อยพบมากเท่ากับอาร์ตาเติร์ก ไปที่ไหนก็มีแต่ภาพของอาร์ตาเติร์กที่ผู้คนตุรกีเอามาประดับบนฝาผนังบ้าน ร้านค้าจำนวนมากเอาภาพอาร์ตาเติร์กมาประดับ





Atatürk (อาร์ตาเติร์ก) เป็นอดีตผู้นำทหารที่นำกำลังสู้รบกับกองทัพสัมพันธมิตรระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๑ ได้ชัยชนะในสมรภูมิ Gallipoli และนำไปสู่การประกาศอิสรภาพให้แก่ตุรกี สร้างประเทศตุรกียุคใหม่ วางระบบเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม นำตุรกีเข้าสู่ประเทศยุคใหม่ มีความทันสมัย อาร์ตาร์เติร์กเป็นประธานาธิบดีคนแรกของตุรกี เปลี่ยนตัวอักษรจากตัวอารบิคแบบเดิมมาเป็นตัวโรมันแต่มีสัญลักษณ์กำกับที่เป็นเอกลักษณ์ทางภาษาและวัฒนธรรมของตุรกี แต่การใช้ตัวโรมันในการเขียนภาษาตุรกีทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอ่านภาษาตุรกีได้ง่ายขึ้นแม้จะไม่รู้ความหมายเลยก็ตาม






อาร์ตาร์เติร์กริเริ่มนโยบายส่งเสริมความเสมอภาคและเท่าเทียมแก่สตรี ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมประเทศแรกในโลกที่ริเริ่มแนวคิดนี้

อาร์ตาร์เติร์กเสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคตับแข็งภายในวัง Dolmabahçe
ตอน 9 โมง 5 นาทีของวันที่ 10 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1938 นาฬิกาภายในวัง Dolmabahçe ยังคงถูกตั้งทิ้งเอาไว้ ณ.เวลาที่อาร์ตาร์เติร์กถึงแก่อสัญกรรม




เห็นความเป็นรัฐบุรุษผู้สร้างประเทศตุรกียุคใหม่ของอาร์ตาร์เติร์กที่ผู้คนระลึกถึงแม้จะตายไปนานแล้วก็ตาม พลอยทำให้นึกถึงคุณหมอซุนยัดเซ็นผู้เปลี่ยนแปลงประเทศจีนมาสู่ระบบสาธารณรัฐ ที่คนจีนจำนวนมากมีภาพของหมอซุนยัดเซ็นประดับเอาไว้ในบ้าน และมหาตมะ คานธีผู้เปลี่ยนแปลงอินเดียประกาศอิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษ

คุณค่าของคนอยู่ตรงไหน?
น่าจะอยู่ที่...คนๆหนึ่งตอนยังมีชีวิตอยู่...
เขาได้สร้างคุณความดี ให้แก่ผู้คน สังคม ประเทศชาติ
แม้เขาจะตายไปแล้ว...
แต่สิ่งดีงาม คุณค่าแก่สังคม
ยังคงเหลือไว้ให้ผู้คนระลึกถึงชื่นชมตลอดไป



มื้อเย็นวันนั้นพยายามหาร้านอาหารที่สามารถถ่ายภาพ Haghia Sophia และ Blue Mosque จากมุมสูงได้ เดินค้นหาอยู่นานจนในที่สุดก็เจอร้านอาหาร Seven Hills ที่นี่แหละตอบโจทย์ได้


ไปนั่งรอตั้งแต่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับฟ้า...






วิหาร Haghia Sophia ในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน



ในขณะที่ภาพ Blue Mosque ตอนตะวันพึ่งลับฟ้าเวลาใกล้ ๒ ทุ่ม ผมก็ไม่เคยเห็นภาพในลักษณะนี้มาก่อนในเวลาที่อยู่อิสตันบูลสองวันก่อนเดินทางไปคัปปาโดเกีย ภาพที่ไม่มีอาคารใดๆมาบัง

สั่งปลา Bonito มาทาน ภาษาไทยน่าจะเรียกว่า "ปลาโอ" ตอนที่สั่งปลาชนิดนี้มาทาน...พยายามนึกชื่อปลาชนิดนี้ที่เรากินเป็นซาชิมิอยู่บ่อยๆสมัยเรียนหนังสือในญี่ปุ่นว่าเขาเรียกชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าอะไร? นึกตั้งนานก็นึกไม่ออก... ต้องมาไล่ตัวอักษรญี่ปุ่นทีละหมวด あ い う え お ไม่มีคำคุ้นนะ か。。。かつお(鰹)โอ...ใช่แล้วคัทสึโอ คำนี้เอง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการจำอะไรได้ช้าหรือเร็วสะท้อนวัยของบุคคลนั้น






บรรยากาศดาดฟ้าของร้านอาหาร Seven Hills ในค่ำคืนวันเดือนเพ็ญอาสาฬหบูชาปีนี้





ลองดูบรรยากาศความสวยงามของสถาปัตยกรรมในช่วงเวลาต่างๆดูครับ ยิ่งดึก ยิ่งแจ่มชัดสวยงาม






เวลา ๒ ทุ่ม ๒๐ นาที




เวลา ๒ ทุ่มครึ่ง





เวลาเกือบสามทุ่ม Haghia Sophia มีสีสันอย่างที่เห็นในรูปข้างบนครับ


คราวนี้ลองมาดู Blue Mosque ในช่วงเวลาต่างๆบ้าง




ตอน ๒ ทุ่ม ๒๒ นาที




ตอน ๒ ทุ่ม ๔๕ นาที





บรรยากาศร้านอาหารในยามดึกครับ...





ถ้าไม่มีความคิดที่จะค้นหาร้านอาหารดีๆทานมื้อค่ำที่สามารถเห็นมุมสวยๆของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของตุรกี.....จนถึงตอนนี้ผมคงไม่มีโอกาสได้บันทึกความสวยงามของ Hagia Sophia & Blue Mosque ในยามค่ำคืนเก็บไว้เป็นที่ระลึกของฝากจากการเดินทางคราวนี้ตลอดไป




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2552    
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 20:57:15 น.
Counter : 1509 Pageviews.  

เชิญชวนส่งการ์ดอวยพรให้ทหารและตชด.ที่ปฏิบัติภารกิจในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

เรากำลังมีความสุขในเทศกาลสำคัญอยู่ ในขณะที่เหล่านักรบไทยกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและเสี่ยงชีวิตในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอยู่

มีคนส่งฟอร์เวิร์ดเมลมาให้อ่านเชิญชวนให้พวกเราส่งความห่วงใย ความปรารถนาดี ในรูปการ์ดอวยพรให้แก่เหล่าทหารและตำรวจตระเวณชายแดนเหล่านั้น ผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ดีและสนับสนุนแนวคิดนี้ เพียงการ์ดอวยพรปีใหม่จากพวกเราคนละใบซึ่งไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาอะไร แต่คุณค่าที่มอบให้แก่เหล่าทหารและตำรวจตระเวณชายแดนมันมีค่ามากทีเดียว อย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็ยังสามารถรับรู้ว่า..พวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยวในดินแดนที่เสี่ยงแบบนั้นตามลำพัง ยังมีพวกเราที่ปรารถนาดี ห่วงใย และรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาเสียสละ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสงบ ความปลอดภัย และรักษาดินแดนของพวกเราเอาไว้

ถือโอกาสเชิญชวนทุกท่านส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ให้เหล่าบรรดาทหารและตำรวจตระเวณชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยการส่งการ์ดอวยพรไปยังที่อยู่ข้างล่างนี้


ค่าย จุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส 96000

ค่าย สิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 94160

ค่าย อิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.เมือง จ.ปัตตานี 94170

ฐานปฏิบัติการ ตชด. ธรณิศ ศรีสุข ต.เขื่อนบางลาง อ. บันนังสตา
จ.ยะลา 95130

ฐานปฏิบัติการ ตชด. บ้านสายสุราษฎร์ ต.เขื่อนบางลาง อ.
บันนังสตา จ.ยะลา 95130

ฐานปฏิบัติการ ตชด. 444 ต.โต๊ะตีเต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี 94150

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 21 ที่ว่าการ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 94160

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 22 วัดควนนอก อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี 94190

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 23 วัดหลักเมือง อ.เมือง จ.ปัตตานี 94000

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 24 ศูนย์ฝึกอาชีพวัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 94180

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 25 สำนักงานสงฆ์ทุ่งยางแดง อ.ทุ่งยางแดง
จ.ปัตตานี 94140

หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 26 วัดโชติรส อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี 94220

กรมทหารพราน ที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 94170


ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆที่ได้รับฟอร์เวิร์ดจากเพื่อนที่ชักนำให้ผมมีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆแบบนี้




ขอกล่าวคำว่า Merry Christmas และขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข ก้าวหน้าในชีวิตและการงานตลอดปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ ที่กำลังจะมาถึงนี้ครับ




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2552    
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 17:26:43 น.
Counter : 2366 Pageviews.  

From Cappadocia to Pamukkale

กลับมาเล่าเรื่องบันทึกเดินทางตุรกีต่อ...หลายคนอาจคิดว่าจบบันทึกการเดินทางตุรกีแล้ว เพราะระยะหลังเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆในไทย


วันสุดท้ายที่พักที่ The Cave's Traveller Hotel ในเขต Cappadocia ใช้เวลาสบายๆตอนเช้าทานอาหาร พูดคุยกับเจ้าของและสต๊าฟของโรงแรม แขกที่มาพัก รอเวลารถมารับไปส่งที่สนามบิน

ในระหว่างที่ทานอาหารเช้าอยู่ เจอสองหมวยที่มาจากจีนแดงที่ไปเดิน Hiking ด้วยกันเมื่อวานก่อน เลยทักทายกัน

ผู้หญิงคนนึงสนใจภาษาตุรกีเธอมาเรียนภาษาตุรกีที่นี่แล้วชักชวนเพื่อนจากเมืองจีนให้มาเที่ยวด้วยกัน เพื่อนคนที่มาเยือนคัปปาโดเกียชอบแมวแล้วไปเล่นแมวของโรงแรม...ปรากฏว่าโดนแมวข่วนเอา

อยู่ดีๆหมวยคนที่โดนแมวข่วนก็เดินเข้ามาถามว่าผมมียาทำแผลไหม? ปกติเดินทางผมจะพกยาฉุกเฉินเอาไว้เพราะเรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างเดินทาง ผมบอกให้เธอช่วยรอ...เดี๋ยวผมจะเอายามาทำแผลให้ ทำแผลที่โดนแมวข่วนให้เธอ

เธอถามผมว่า...

"Are you a doctor?"

ผมตอบกลับไปว่า

"No, I am not a doctor of medicine. But my brother is a doctor. "

เธอขอบคุณที่ผมช่วยทำแผลให้

มีคนแอบกระแนะกระแหนว่า ดูแลทำแผลหมวยรายนั้นดีขนาดนี้...อาจจะทำให้เธอปลื้มแล้วเข้าใจผิดได้ง่าย

ผมมองว่าถ้าเราเห็นคนที่เขาสมควรได้รับการช่วยเหลือ และเราก็อยู่ในฐานะช่วยเหลือคนอื่นได้โดยที่เราไม่เดือดร้อน เราก็สมควรช่วย ช่วยเหลือแล้วก็จบ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไรตอบแทนกลับมาด้วย

สองหมวยเองก็สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ไม่ดีและผมเองก็พูดภาษาจีนกลางได้ไม่มาก บางทีผมน่าจะพัฒนาภาษาจีนกลางให้มากขึ้นเพราะตอนนี้จีนมีบทบาทมากขึ้นในสังคมโลก

มีโอกาสได้คุยกับคุณ Bekir เจ้าของโรงแรม เท่าที่ทราบเขามี Pension และโรงแรมอีกสองสามแห่งในเขตคัปปาโดเกีย มีบริษัททัวร์ ผมบอกเขาว่าเป็นเกียรติที่ได้เจอคนรวยในเมืองคัปปาโดเกีย เขาถ่อมตัวว่าเขาทำกิจการโรงแรมเป็นงานอดิเรก ถึงจะเป็นงานอดิเรกแต่ทำแล้วมีความสุข ความสุขก่อให้เกิดรายได้ สร้างงานให้ชุมชน งานอดิเรกนั้นก็มีคุณค่า

ขอคุณ Bekir ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกเพราะว่าคราวหน้าถ้ามาเจอเขาอีก...คิดว่ากิจการของเขาอาจจะขยายไปไกลกว่านี้ ตอนนี้กิจการเขาไปได้ดี มีแขกเข้ามาพักตลอดทั้งปี เขาเรียกสองหมวยมาถ่ายรูปด้วยกัน เดาได้ไหมว่าหมวยคนไหนโดนแมวข่วน?



แลกเปลี่ยนนามบัตรกันเพราะจะส่งภาพมาให้พวกเขา พอสองหมวยเห็นนามบัตร..สองหมวยประหลาดใจที่รู้ว่าผมเรียนจบหลักสูตรปริญญาเอก Bakir สอบถามว่าผมทำธุรกิจอะไรที่เมืองไทย พอบอกประเภทธุรกิจที่ทางบ้านทำอยู่ เขาไม่เข้าใจคำว่า Domestic คืออะไร?

หมวยที่เรียนภาษาที่ตุรกีอธิบายความหมายของ Domestic ให้เขาฟัง เธอแอบพูดเล่นว่า 我爱你 พูดเป็นภาษาไทยอย่างไร? เธอคงคิดว่าเราไม่เข้าใจความหมาย ผมพูดตอบกลับไปว่า 我听懂了! เธอหัวเราะอายๆที่รู้ว่าเราเข้าใจว่าเธอกำลังพูดว่าอะไร

มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้ที่ยังไม่ได้พูดถึง...ขอหยิบมาพูดในตอนนี้แล้วกัน

ที่นี่ออกแบบระบบกุญแจห้องที่ซับซ้อนมาก ถ้าออกจากห้องเพียงปิดประตูระบบกลอนจะปิดเอง แต่ถ้าจะไขกุญแจปิดล็อกต้องหมุนขวาสามรอบ แต่ถ้าจะไขเปิดประตูต้องหมุนซ้ายสามรอบ ไปพักที่พักในที่ต่างๆมาหลายที่พึ่งเห็นระบบกุญแจที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้




ระบบส้วมชักโครกที่ตุรกีเขามีระบบน้ำฉีดก้นที่แตกต่างไปจากระบบน้ำฉีดก้นที่เคยใช้ในญี่ปุ่น หัวฉีดจะซ่อนอยู่ใต้โถแล้วต้องการเปิดน้ำต้องไปหมุนก๊อกน้ำที่อยู่ด้านใต้แท๊งก์น้ำ





สภาพห้องน้ำที่เขาแต่งสภาพเข้ากับบรรยากาศถ้ำในคัปปาโดเกีย





ขึ้นไปนั่งโซฟาบนดาดฟ้า จุดนี้สามารถมองเห็นวิวของเมืองคัปปาโดเกีย
ออกจากธนาคารกสิกรไทยแล้วไม่ค่อยอยากใส่เสื้อโปโลของธนาคารเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนเป็นยูนิฟอร์มของธนาคาร ซึ่งตอนนี้เราไม่ได้เป็นพนักงานแล้ว แต่การเดินทางมาท่องเที่ยวต่างแดนแบบนี้...น้อยคนจะรู้ ยกเว้นคนไทย จึงเอาเสื้อโปโลตัวนี้มาใส่ ไม่คิดว่าจะเจอคนไทยแต่ก็ดันมาเจอคนไทยที่นี่จนได้




ที่โรงแรมระหว่างรอรถมารับไปโรงแรม เห็นกุหลาบกำลังบานพอดีเลยเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่เมโมรี่การ์ด 2GB ที่ซื้อมาจากรัสเซียจะเต็ม โอ้โหไม่อยากเชื่อแฮะว่าจะถ่ายรูปไปมากกว่า ๑,๐๐๐ ภาพสำหรับการเดินทางยุโรปมาจนถึงวันนี้ ผมยังไม่เคยถ่ายภาพจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนเลยสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ผ่านมา





กุหลาบสีชมพู มีความหมายว่า "ขอบคุณ" เท่านั้น



ออกเดินทางจากโรงแรมไปสนามบินเพื่อเดินทางไปเปลี่ยนเครื่องบินไปอิสตันบูล อากาศวันนั้นแดดแรงที่ Nevsehir ใช้เวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบินอาร์ตาเติร์ก พอเครื่องจอดที่สนามบิน...ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ราวกับต้อนรับพวกเราที่มาจาก Nevsehir ซึ่งอากาศร้อนมาก บันไดที่ต่อจากเครื่องบินให้ผู้โดยสารลงมาที่รถบัสไม่มีหลังคา เห็นสภาพอากาศแล้วรู้เลยว่าต้องเปียกแน่ๆจะเปียกมากเปียกน้อยเท่านั้นเอง รอจังหวะแล้วรีบวิ่งจากเครื่องลงจากบันไดไปที่รถบัสที่จอดอยู่ใกล้ๆ เปียกแต่ไม่มาก พอรถบัสพาพวกเรามาถึงที่พักผู้โดยสารสนามบินปรากฏว่าฝนหยุดตกพอดี....อากาศช่างแกล้งกันได้อย่างน่าเกลียดอะไรเช่นนี้


รอเครื่องบินเพื่อต่อไปเมือง Izmir หาอะไรทานก่อนภายในสนามบิน อาหารในสนามบินราคาแพง ตั้ง 17 ลีร่าร์แต่...ไม่อร่อยสมกับราคาเลย เสียดายเงินที่เสียไป


ฆ่าเวลาระหว่างรอขึ้นเครื่องบินด้วยการนั่งบันทึกการเดินทางลงไดอารี่เพราะไม่ได้เขียนหลายวันมาก......


นั่งเครื่องตอนราวๆ ๔ โมงเย็น ใช้เวลาราวๆ ๑ ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Izmir นั่งรถบัสจากสนามบินไปสู่ตัวเมือง Izmir เป็นเมืองชายทะเลที่เห็นวิวทะเลสวยแม้จะไม่มีชายหาดก็ตาม สอบถามคนตุรกีที่นั่งรถบัสคันเดียวกับเราว่าเราจะไปพักที่โรงแรม Mokul รู้จักไหม? เขาเองก็ไม่ทราบหรอกว่าโรงแรมอยู่ที่ไหน แต่หยิบยื่นความช่วยเหลือโทรศัพท์ถามโรงแรมว่าตำแหน่งของโรงแรมอยู่ที่ไหนให้เรา? แถมยังพาเดินไปยังโรงแรมให้ด้วย
ขอบคุณในความช่วยเหลือของเขา

พอมาถึงโรงแรมเปิดดูทีวี รายการทีวีที่มีในห้องพักจำนวนช่องน้อยกว่าที่รับได้ในโรงแรม The Cave's Traveller Hotel มีไม่กี่ช่องที่พอจะฟังแล้วเข้าใจ ช่องสถานีภาษาเยอรมันเขารายงานกรณีไมเคิล แจ๊คสัน...เท่าที่ฟังเหมือนเขาพยายามอธิบายว่าแจ๊คสันตายเพราะทานยาอันตรายบางประเภทเข้าไป

เดินหาอะไรทาน ซึ่งแดดที่นี่ยังพอมีแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาใกล้ทุ่มแล้วก็ตาม แวะหาร้านอาหารที่เขาแนะนำไว้ในหนังสือท่องเที่ยว กว่าจะหาเจอเอาเรื่องเพราะอยู่ในซอยย่อบอีกที พนักงานในร้านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เมนูภาษาอังกฤษ หรือเมนูแบบมีภาพก็ไม่มี สื่อสารกันลำบากเหมือนกัน แต่การที่อยู่ตุรกีมาหลายวันพอจะเดาได้ว่าอาหารตุรกีชื่อแบบนี้หน้าตามันเป็นแบบไหน ผมสั่ง Kofte ที่เหมือนหมูยอบ้านเรา แต่ว่าเขาใช้เนื้อวัวทำ เราไม่ติดเงื่อนไขห้ามกินเนื้อวัวก็เลยสั่งมาทานเพราะอยากรู้ว่ารสชาติ Kofte ที่นี่แตกต่างจากที่เรากินที่โรงแรมในคัปปาโดเกียอย่างไร? รสชาติก็พอทานได้แต่ผักที่เขาเรียกว่า "ร็อกก้า" รสชาติมันฉุนมาก

ปกติผมไม่เกี่ยงเรื่องอาหารเพราะตอนที่บวช...ถูกสอนให้ทานของทุกอย่างที่โยมเขานำมาถวาย ฉันอาหารโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ติดรสชาติ ไม่ติดรูปร่างสวยงาม สมณเพศฉันอาหารเพียงเพื่อให้ได้พลังงานมาดำรงชีพศึกษาธรรมต่อไปได้

แต่ยอมรับว่าผักร็อกก้านี่มันฉุนมากๆจนขยาดไม่อยากกิน





ทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นบริเวณถนน Konak เป็นย่านริมทะเล เห็นผู้คนนั่งดื่มเบียร์ริมทะเล มีร้านอาหารบรรยากาศดีๆริมทะเล มีย่านช็อปปิ้ง แวะดูร้านหนังสืออยากซื้อดิกชันนารีภาษาตุรกี-อังกฤษเป็นของที่ระลึกการเดินทางกลับไป ปกติเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวต่างแดนจะซื้อดิกชันนารีเป็นของที่ระลึกการเดินทางกลับ แต่ภายหลังจากเปิดดูแล้วชั่งใจว่าจะไว้ซื้อที่อิสตันบูลดีกว่าจะได้ไม่ต้องแบก ดวงอาทิตย์ตอนตกทะเลที่ Izmir สวยมากๆชวนให้นึกถึงภาพตอนดวงอาทิตย์กำลังตกดินที่อ่าวซูบิกที่ฟิลิปปินส์ ที่อ่าวซูบิกเป็นภาพดวงอาทิตย์ลับฟ้าที่สวยที่สุดในระหว่างเดินทางโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ตอนที่ผมเคยไปร่วมโครงการเมื่อ ๑๕ ปีก่อน

เดินกลับมาที่โรงแรม ที่เมืองอิซเมอร์..ผมเจอผู้หญิงตุรกีหน้าตาดีหลายคน แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับผู้หญิงรัสเซีย ผมคิดว่าผมเจอผู้หญิงรัสเซียหน้าตาและรูปร่างดีจำนวนมากกว่าในตุรกี


วันรุ่งขึ้นเราเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์ที่เราติดต่อไว้ล่วงหน้าจากเอเย่นต์ทัวร์ที่อิสตันบูลซึ่งเขาประสานงานกับเอเย่นทัวร์ที่อิซเมอร์ รถตู้พาเราไปขึ้นรถไมโครบัสร่วมกับลูกทัวร์คนอื่น ใช้เวลาเดินทางจาก Izmir ไป Hierapolis ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง รถบัสไม่มีห้องน้ำและไม่แวะระหว่างทางด้วย ดูเหมือนมันเป็นสัญญากับปั๊มน้ำมัน PO ที่รถบัสนำเที่ยวจะไม่จอดที่ไหน แต่จะแวะจอดที่นี่เพื่อให้ลูกทัวร์แวะดูของที่ระลึกที่ขายแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากลูกทัวร์ญี่ปุ่นอาจจะแวะมาเที่ยวย่านนี้บ่อย เจ้าของร้านเขาพัฒนาตนเองจนพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แม้แต่ป้ายโฆษณาขายขนมเขายังเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นแถมนโยบายลดแถม ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะไม่ค่อยต่อของเท่าไหร่ เล่นแถมแบบนี้...จึงเรียกลูกค้าญี่ปุ่นได้ไม่ยาก

เราแวะทานข้าวก่อนจะเดินทางไป Pamukkale พอขึ้นรถหลังทานข้าวเสร็จเริ่มตาปรือ ฟังไกด์บรรยายไปเรื่อยๆ...พอตื่นอีกทีเขากำลังเล่าให้พวกเราฟังว่า ในย่านนี้คนเขาแต่งงานกันเร็ว ดังนั้นบ้านไหนที่มีลูกสาวในวัย ๒๐ ที่ยังไม่แต่งงาน เขาจะเอาขวดเปล่าโค้กตั้งไว้บนหลังคาบ้านเป็นสัญลักษณ์ว่าบ้านนี้ลูกสาวเขายังโสดอยู่

ที่ Pamukkale เป็นอาณาบริเวณที่เคยเป็นชุมชนในอดีตของโรมัน มีซากโบราณสถานที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ แต่ก็เกิดแผ่นดินไหวซึ่งได้ทำลายโบราณสถานเหล่านั้นลง มีการบูรณะขึ้นมาในบริเวณใกล้เคียง อากาศตอนที่ไปร้อนมากๆ นึกถึงหน้าร้อนในเมืองไทย คอแห้ง หิวน้ำ ฝรั่งที่ไปทัวร์เดียวกับเราเขาถอดเสื้อออกแล้วทาครีมกันแดดอย่างเบอร์สูงๆบล็อกผิวลอก

บริเวณนี้เป็น Theater




ไกด์เล่าให้ฟังว่าเกิดแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้จนบริเวณที่เป็น Theater เก่าพังทลายลง บริเวณตรงนี้คือบริเวณที่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ เขาชี้ให้ดูบริเวณซาก Theater ที่อยู่ห่างออกไปราวๆ ๔๐๐ เมตร


มีโอกาสได้สนทนากับลูกทัวร์สิงคโปร์ บังเอิญเขาซื้อกล้องแคนนอนรุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชั่นเหมือนกล้องของผมที่ถูกขโมยที่รัสเซียแต่เขาใช้ฟังก์ชั่นไม่เป็น เลยช่วยปรับฟังก์ชั่นให้และถ่ายภาพสามีภรรยาคู่นี้ในองค์ประกอบภาพที่เขาพอใจ เขาไม่ทราบว่าจะปรับตรงไหนให้ถ่ายภาพออกมาโดยไม่ใช้แฟลช กล้องตัวนี้เขาซื้อเพราะว่าเพื่อนเขาแนะนำให้ซื้อ ตอนนี้คุณอึ๊งเขาทำงานให้กับหน่วยลงทุนของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ เขาบอกว่าสถานะการลงทุนตอนนี้ให้ผลตอบแทนไม่ดี (ความจริงผมทราบเรื่องนี้มาก่อนกรณีดูไบเวิร์ลจะเผชิญปัญหาสภาพคล่องเมื่อเดือนนี้) เขาพูดถึงคุณทักษิณที่ไปพำนักที่ดูไบโดยที่ผู้นำของดูไบทราบและไม่มีทีท่าปฏิเสธตราบเท่าที่คุณทักษิณมีเงินจ่ายให้รัฐ

มีโอกาสได้สนทนากับคุณอึ๊งหลายเรื่อง ภรรยาเขาลาออกจากงานเพื่อติดตามมาดูไบเพื่อมาดูแลสามี สามีเขาขายกิจการห้างค้าปลีกในสิงคโปร์แล้วมารับงานบริหารสินทรัพย์และการลงทุนในดูไบ เท่าที่ได้พูดคุยกับเพื่อนเดินทางหลายคน ชีวิตคู่ของหลายๆคนบางครั้งภรรยาก็ยอมเสียสละลาออกจากงานที่มีโอกาสก้าวหน้าในชีวิต เพื่อความสุขและความหมายของชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ ติดตามสามีที่ต้องไปทำงานในต่างแดน พวกเธอมีหน้าที่ดูแลสามีและลูก

การได้เห็นชีวิตคู่ในรูปแบบต่างๆ....มันก็ทำให้เราเข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้น แล้วก็ตอกย้ำความเชื่อว่าชีวิตสมรสคือการเสียสละเพื่อเวลาแห่งความสุขในการใช้ชีวิตร่วมกันของคนสองคน ถ้าใครคิดแต่ความสุขของตัวเอง เรียกร้องความสุขเพื่อตนเอง หวงแหนความมีอิสระโลกส่วนตัว....เขาน่าจะอยู่เป็นโสดต่อไปมากกว่า


เลยบริเวณ Theater ลงไปข้างล่างมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวหลายคนลงเล่นน้ำคลายร้อน




จุดเด่นของปามุกคาเล่ย์คือหินปูนสีขาวที่กักเก็บน้ำสะท้อนเป็นสีฟ้าอ่อนที่ไหลลดหลั่นลงสู่ที่ราบด้านล่าง ยูเนสโกตระหนักถึงความสวยงามตามธรรมชาติของ Pamukkale เขาขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่อันตรายของน้ำที่ไหลผ่านถ้าสกปรกมากขึ้นก็จะส่งผลต่อความสวยงามของหินปูนที่ขาวของ Pamukkale ยูเนสโกและกรมธรณีวิทยาของตุรกีมีการเข้มงวดและห้ามนักท่องเที่ยวเดินบริเวณที่อาจทำให้น้ำสกปรกและส่งผลต่อหินปูนของปามุกคาเล่ย์




ลำธารเล็กๆที่ไหลจากแอ่งน้ำหินปูนไหลไปตามช่อง มีนักท่องเที่ยวในชุดว่ายน้ำนั่งให้น้ำในลำธารไหลผ่านคลายความร้อนในหน้าร้อนที่ปามุกคาเล่ย์





เดินเล่นดูบรรยากาศภายในปามุกคาเล่ย์จนพอใจ ก่อนถึงเวลานัดหมายขึ้นรถกลับอิซเมอร์ ยืนถ่ายภาพนี้...แล้วได้เห็นว่าผิวคล้ำมากขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ เอาน้ำเย็นลูบตัวคลายร้อน...ผลลัพธ์ตามมาเป็นแผลร้อนในภายในปาก





พอขึ้นรถแล้วลูกทัวร์ส่วนมากเพลีย...นั่งไม่นานก็หลับ ตื่นอีกทีก็เข้าเขตตัวเมือง ไกด์พูดเรื่องทั่วไปแต่คำพูดของไกด์สะท้อนถึงสิ่งที่รู้มาก่อนหน้านั้นคือ คนตุรกีภูมิใจที่เกิดเป็นคนตุรกี!!!! มันคงดีนะถ้าคนไทยทุกคนรู้สึกเหมือนคนตุรกี...เวลามีคนพูดถึงคนไทยแล้วเรารู้สึกภูมิใจที่เป็นคนไทย

กว่ารถบัสจะมาถึง Izmir ก็ดึกแล้ว หาร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆที่พักทาน เจอร้าน Talip สภาพร้านดูสะอาดสะอ้าน ราคาที่เขาเขียนในเมนูก็ไม่แพงนัก ลองสั่ง Pilic kanat มาลองทานดู





Gute Appetite!!!!


ได้ความอร่อยกลับไป ราตรีสวัสดิ์ Izmir




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552    
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 19:00:44 น.
Counter : 1664 Pageviews.  

สีสันเทศกาลประจำปีงานเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มาเทศกาลประจำปีงานเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ชุมแสง? ผมจำไม่ได้แต่ไม่น่าจะน้อยกว่า ๒๐ ปี

สมัยเด็กๆผู้ใหญ่มักจะพามางานเทศกาลประจำปีของชุมแสง ผู้คนพากันมากราบไหว้สักการะองค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในเขตอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์และพื้นที่ใกล้เคียง ในเทศกาลงานงิ้วประจำปีขบวนพาเหรดเป็นสีสันของงาน

(It has been the long time to visit Chumsaeng Festival. I think that it's more than 20 years ago for my last visit. Chumsaeng God and Goddess are revered for people who live in Chumsaeng District and nearby areas. The highlight of festival is Parade! )


จำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับขบวนพาเหรด?

ผมจำภาพนักเรียนของโรงเรียนในเขตอำเภอชุมแสงในชุดการแสดงวงโยธวาฑิต สาวในชุดเขี่ยเปียที่พวกเธอถือแผ่นผ้าที่มีชื่อสปอนเซอร์ ขบวนเอ็งกอซึ่งแต่งหน้าตาให้ดูน่ากลัว...

( I remember somethings about parade of this festival...

Students of schools in Chumsaeng District were members of parade in colorful attires. Cute women carried banner which had sponsorship. Engo Dance which performer make up their faces look awesome!!)

วันนี้มีโอกาสไปงานเทศกาลประจำปีเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ชุมแสง

ที่ผ่านมามักมีธุระที่อื่นซึ่งต้องผ่านชุมแสง โดยไม่มีโอกาสแวะเข้าไปดูสภาพตลาด.... วันนี้มีเวลาเดินเข้าไปในตลาดที่ซึ่งเราไม่ได้มาเป็นเวลานานมากแล้ว

ภาพความคึกคักและมีชีวิตชีวาของตลาดสด...ไม่แตกต่างจากตลาดสดที่อำเภออื่นที่มีโอกาสไปมา

ริมแม่น้ำน่านใกล้ตลาดสดตอนนี้เขาทำเขื่อนกั้นริมน้ำเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในอดีตมักมีปัญหาน้ำท่วมหน้าน้ำ การสร้างเขื่อนริมน้ำช่วยลดปัญหาน้ำท่วมให้กับพื้นที่ในเขตที่ติดริมน้ำได้มาก

วันนี้ด้านหน้าตลาดสดมีรูปปั้นของพระเจ้าตากสินมหาราชประดิษฐานอยู่ สอบถามพ่อค้าที่ขายของใกล้ๆพระบรมรูปถึงความเป็นมาว่ามีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ตรงนี้อย่างไร ดูเหมือนเขาไม่สนใจเลย....เพราะไม่ทราบประวัติความเป็นมา รู้แต่ว่าเขาสร้างขึ้นมาริมน้ำ...จบแค่นี้

(I did not come to the market in Chumsaeng for long time. Now there is statue of King Taksin the great. I tried to know the relationship between King Taksin and this place. However, merchants in the area did not know.)





ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ามันเกี่ยวข้องอย่างไรกับสถานที่ตรงนี้ ผมเดินสำรวจรอบๆรูปปั้นของพระเจ้าตากสินมหาราช แล้วคำเฉลยก็ปรากฏออกมาเมื่อพบคำอธิบายข้อสงสัยที่อยากรู้อยู่ด้านหลังรูปปั้น

ปีพ.ศ. 2311 ภายหลังที่พระเจ้าตากสินทรงเสด็จยกทัพไปตีพิษณุโลกทรงเสด็จมาประทับบริเวณริมแม่น้ำน่านในเขตอำเภอชุมแสง และเกิดการปะทะกันกับทัพหลวงของท่าน ท่านทรงต้องกระสุนปืนที่พระชงฆ์ ทรงรักษาอยู่ที่นี่ เนื่องจากสถานที่ตรงนี้มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องในประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าทางอำเภอชุมแสงเลยสร้างเป็นอนุสรณ์สถานขึ้น เรื่องแบบนี้เราไม่เคยทราบมาก่อน...เพราะในตำราเรียนประวัติศาสตร์ที่เราเรียนสมัยเด็กไม่มีการเขียนเอาไว้ สถานที่แต่ละแห่งต่างมีตำนานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ซึ่งถ้าไม่มีใครบันทึกเอาไว้ก็คงเป็นเพียงสถานที่ที่ไม่มีความหมายใดๆ

( I found the answer by myself when I found description behind the statue.

In 1768, King Taksin came to Chumsaeng in order to attack Phitsanuloke City. He stayed at this place and there was fighting between his troop and Phitsanuloke troop. He was shot at his knee and he was cured at this place. Such story was not written in History course when I was young. Each place has its own legend which we may not know the value in terms of historical values if none write it down.)


วันนี้มีสะพาน "หิรัญนฤมิต" สร้างเสร็จแล้ว เชื่อมการเดินทางไปมาระหว่างผู้คนที่อาศัยสองฝั่งแม่น้ำน่าน ในอดีตผู้คนที่สัญจรไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำน่านต้องใช้แพขนาน เรือข้ามฟาก





(New bridge is complete this year and it helps to make passengers who have to cross Nan River more convenient. Hiran-naruemit Bridge becomes attractive spot for Chumsaeng District.)

สะพานนี้กลายเป็นจุดที่น่าสนใจจุดหนึ่งของอำเภอชุมแสงไป




ขบวนพาเหรดของปีนี้เป็นการแสดงของเหล่านักเรียนที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาภายในเขตอำเภอชุมแสง

น่าสงสารเหล่าบรรดาเด็กเล็กที่ต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาแต่งหน้า ทำผม และสวมใส่ชุดร่วมกับขบวนพาเหรดตลอดวันนี้

(Parade consists of students who are studying in Chumsaeng area. These students had to wake up very early to make up and dress up for parade. They will attend parade through day!! How pity they are.)




สมัยเด็กผมมักจะกลัวผู้แสดงในขบวนเอ็งกอซึ่งมักจะวาดหน้าวาดตาจนดูน่ากลัว เวลาขบวนเอ็งกอผ่านมักจะวิ่งหนีไปหลบหลังผู้ใหญ่ เลิกกลัวเอ็งกอก็ตอนที่โตขึ้นมาแล้ว ตอนเรียนชั้นประถมปีที่สองน่าจะได้

เอ็งกอวันนี้...ผู้แสดงกลายเป็นเหล่าน้องๆตัวเล็กๆในวัยประถมแบบนี้ สงสัยว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ แล้วผู้แสดงเอ็งกอตัวเท่านี้ ให้วาดหน้าวาดตาให้น่ากลัวอย่างไร เราจะยังกลัวอีกไหม...ในเมื่อตัวผู้แสดงเท่าๆกับเรา

(When I was young, I scared Engo dance performance. Whenever I saw their faces, I was likely to escape and hide behind adults.

Now performers are young. I wonder that if I could return to the old time and I found little Engo Dance performers, would I still scare them or not?)





ขบวนแห่ธงที่มีน้องๆในชุดจีนร่วมขบวนแห่....เด็กๆเหล่านี้ต้องเดินไปร่วมกับขบวนพาเหรดตลอดทั้งวัน น่าเห็นใจอยู่ แต่พ่อแม่หลายๆคนดีใจที่ได้เห็นบุตรหลานเข้าร่วมขบวนแห่ซึ่งเทศกาลประจำปีหนึ่งปีจะมีเพียงครั้งเดียว พ่อแม่หลายคนบันทึกภาพเหตุการณ์แห่งความทรงจำนี้เอาไว้เป็นที่ระลึกแก่ลูกหลานตนเองต่อไป





มีการแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลที่แสดงท่าเต้นประกอบเพลง "สบายดีหรือเปล่า?" ของก๊อด จักรพันธุ์ อาบครบุรี พิธีกรในงานต้องคอยเชียร์น้องๆให้ยิ้มในระหว่างที่เต้นเพราะมีการบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้





มีขบวนแบกเกี้ยวเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ที่ประธานในพิธีคือ หม่อมเจ้า มงคล เฉลิมยุคล และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กวี กิตติสถาพร ช่วยกันแบกร่วมกับบรรดากรรมการจัดงานเพื่อแห่องค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ไปรอบตลาดชุมแสง ใครที่อยากจะแบกองค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่สามารถขอแบกเกี้ยวได้ระหว่างทางที่องค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ผ่านไป





เห็นบรรยากาศการแบกเกี้ยวองค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่แล้วพลอยทำให้นึกถึงบรรยากาศการแบกโอมิโกฉิในญี่ปุ่น ผู้คนที่อยากจะแบกเกี้ยวที่มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้าก็จะเข้ามาช่วยกันหามเกี้ยว มีคนคอยเป่านกหวีดให้จังหวะ มีการส่งเสียงร้อง "วัตชอย วัตชอย ๆ ๆๆๆ" ไปตลอดทาง พลังของความสามัคคีร่วมกันของผู้แบกหามโอมิโกฉิทำให้โอมิโกฉิที่มีขนาดใหญ่สามารถเคลื่อนไปถึงที่หมายได้สำเร็จ


(When I saw them carried Chumsaeng God and Goddess carriage, it reminded me about Japanese carried "Omigoshi" which they shouted "Wat Shoi, Wat Shoi..." As a teamwork, people can carry heavy Omigoshi to their destination)




 ประเพณีคือกิจกรรมและสิ่งดีงามที่คนในสังคมช่วยกันสืบสานกันต่อมาจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ประเพณีของท้องที่หนึ่งๆสะท้อนความเชื่อ วัฒนธรรม การใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นเหล่านั้น

ตราบเท่าที่ยังมีการสืบสานประเพณีท้องถิ่นเอาไว้...เราคงมีตำนานและเรื่องราวทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น บอกเล่าเรื่องราวให้คนรุ่นต่อๆไปรับรู้และรับทราบถึงความเจริญงอกงามและความสวยงามทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆสืบไป  



(Tradition is activity and good value of community which pass on from one generation to another generation. It reflects beliefs, culture and way of life of people in those communities.

As long as tradition is still preserved, legend and story about local culture will be passed on from one generation to another generation. It will tell how splendid culture of the local which is unique is.)




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2552    
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 14:24:27 น.
Counter : 4116 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.