A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
กระดาษใบนี้มีโชคและกินเรียบ


แทบเป็นเรื่องปกติสำหรับผม ที่จะเห็นสาวแก่แม่นักบัญชีในออฟฟิค
ที่ผมทำงานอยู่ มีความกระตือรือล้นเป็นพิเศษกว่าทุกๆวัน พฤติกรรมเช่นนี้
มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนวันที่๑กับวันที่๑๖ ของแต่ละเดือน บอกใบ้ช่วงเวลา
แบบนี้คิดว่าหลายท่านคงพอจะเดาได้ว่า ผมกำลังเอ่ยถึงเรื่องอะไร
ก็คำที่สะกดง่ายแบบที่สามารถสอนเด็กอนุบาลได้ไม่ยาก....ห...ว...ย

ก็ "หวย" ไงครับ

เกริ่นแบบนี้ หาใช่ว่าวันนี้จะสอนการใบ้หวย หรือสนับสนุนให้ทุกท่านหันมาเล่น
หวยกัน ขอแบบนี้มันมากกว่าการมีพรสวรรค์ส่วนตัว แต่อิงกับเรื่องโชค ช่วยเวลา
และอัตราความเสี่ยงของการลงทุน แม้ตัวผมเองจะยกย่องถึงความสามารถของ
เหล่าแม่นักบัญชีในบริษัทที่ผมทำงานด้วย ว่ามีความละเอียด รอบคอบ ไร้ข้อผิดพลาด
เป็นที่หนึ่ง ไม่แพ้ชวเลขศาสตร์หากริอาจไปแข่งขันกับองค์กรอื่นใดทั้งภาครัฐและเอกชน
คิดดูสิครับ ขนาดจะเบิกเงินในส่วนที่จ่ายไปก่อนหน้า แม้แหล่งที่มา๒๕สตางค์ ก็เล่น
ตรวจสอบซักฟอกเสียจนผมต้องยอมสละอยู่อย่างคนที่เต็มบาท ถึงจะเก่งกล้า
สามารถเพียงใด สุดท้ายก็ตายน้ำตื้น..........อย่างเก่งก็เฉียดนั้น สลับหน้าหลังโน่นนี้
ไม่เคยมีโอกาสที่จะตรงจะๆ อย่างที่นักแสวงโชคเขามีโอกาสกัน (เสมือนหนึ่งกรรมได้ตามทัน)

บอกก่อนล่วงหน้า(แบบสร้างภาพ) ว่า ตัวผมเองไม่ใช่นักแสวงโภคลาภผ่านทางกองสลากกินแบ่ง
บทเรียนของคนที่ถูกมันช่างยั่วยวนได้น้อยกว่าคนที่บ่นว่าเฉียด (อย่างน้อยๆที่เล่นประเด็น
หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หัวสี ไม่ได้เกิดมุทิตามากไปกว่าความอิจฉา) ในประสบการณ์ที่ลาก
สังขารชีวิต พอจดจำได้ว่า มีโอกาสเสียสตงสตางค์กับแผ่นกระดาษนำโชคนี้ไม่ถึงสิบครั้ง
ยังจำได้ดีว่า หวยใบแรกที่ลงมือซื้อ เกิดจากภาวะอารมณ์ที่สงสาร ที่สงสารเนื่องจากผู้ขายเป็น
หญิงชราชาวบ้านในสภาพวัยที่ควรนอนกินบำนาญอยู่กับลูกหลานที่บ้าน มากกว่ามาตากแดด
ตากฝนสู้ดิ้นรนมาเร่ขายสลากกินแบ่งโดยได้ค่าส่วนแบ่งไม่กี่สิบบาท ผมยังจำเสียงเศร้าๆของ
หญิงชราท่านนั่น ที่เดินร่อนขายไปทีละโต๊ะอาหารอย่างมีความหวัง
"หลานเอ่ย ช่วยยายหน่อยเถอะ นี้เป็นใบสุดท้ายแล้ว ขายหมดนี้ยายจะได้กลับบ้านเสียที" ยาย
ท่านนั้นเดินหลังค้อมปรากฏตัวอยู่ข้างโต๊ะเหล้า ที่เรากำลังดื่มเฮฮากันอยู่
"ได้สิยาย .. ยายคงลำบากแย่ ผมซื้อใบนี้แล้วยายจะได้กลับไปพักเสียที" ผมควักกระเป๋าซื้อ
โดยไม่ได้สนใจว่าเลขนั่นจะเป็นเลขอะไรมากไปกว่าความสงสาร โดยให้ไปร้อยนึงไม่เอาเงินทอน
"ขอบใจนะพ่อหนุ่ม ขอให้ร่ำให้รวยนะ" ยายยื่นสลากใบสุดท้าย แล้วก็เดินจากไป....
ผมยังจำอารมณ์ปิติตอนนั่นได้ดี มันมีความสุขที่มากไปกว่าการหวังที่จะถูกรางวงรางวัล จาก
สลากตัวนั่นเสียอีก ทันใดที่ผมกำลังจะคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ผมก็ได้ยินเสียงของยายท่านนั่น
ขึ้นกล่าวต่อว่า
"หลานเอ่ย ช่วยยายหน่อยเถอะ นี้เป็นใบสุดท้ายแล้ว ขายหมดนี้ยายจะได้กลับบ้านเสียที"

ถึงแม้ว่ามีหลายท่าน หยิบยกว่า หวย เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐเพื่อมอมเมาประชาชน แต่
ความนิยมของหวยก็หาได้จากลาไปจากสังคมไทย อ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ผู้ทำงานวิจัยภาคพื้น
สนามเรื่องเกี่ยวกับหวยมานานหลายสิบปี ก็มองการยกเลิกหวยไปจากสังคมไทยเป็นเรื่องที่ยาก
เพราะมันมีรากทางวัฒนธรรมเชื่อมโยงยึดเหนี่ยว เป็นส่วนเล็กที่สร้างความฝันที่ยิ่งใหญ่ให้แก่
คนรากหญ้าทุกต้นเดือนและกลางเดือน ใครที่คิดว่า"คนจนเล่นหวย ส่วนคนรวยนั่นเล่นหุ้น"
ผมขอค้านว่า ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน ยกตัวอย่างเจ้านายผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เล่นหุ้น เพียง
แต่ออกจะบ้าหวยเท่านั้น พนักงานปกติอาจจะซื้อเป็นใบๆ แต่เจ้านายผมรักษาสถานภาพทางสัง
คมค่อนข้างสูง ซื้อทั้งที่ซื้อกันเป็นชุด และไม่ได้ซื้อเพียงแค่ชุดเดียว มากมายหลายเบอร์ ขึ้นกับ
เจ้าสำนักที่จะบอกกลเม็ดเด็ดพรายในฐานะศิษย์มีครูที่รับใช้อย่างใกล้ชิด ผมชอบบทบาทของ
หวยที่มีต่อสถานภาพในสังคมไทย อย่างน้อยๆหวยก็จรรโลงใจในเรื่องเสรีภาพและความเสมอ
ภาพพื้นฐานของปถุชน คุณไปซื้อที่ไหนก็จ่ายแพงกว่าราคาหน้าตั่ว ได้ก็ได้เท่ากัน เสียก็เสียเท่ากัน
เพียงแต่ทุกข์-สุขของคนรวยกับคนจนอย่างเราอาจจะต่างกัน ผมจึงได้ยินเสียงลุ้นระทึกเอะอะ
ผ่านหน้าเครื่องวิทยุตัวจิ๋ว การเกทับว่าลูกน้องถูกเลขเจ้านายถูกกิน จะมีเครื่องมือสักกี่ชิ้น
ที่ทดสอบความวิริยะความพากเพียรในตัวบุคคลที่ชัดเจนเท่ากับการซื้อหวย บางทีอาจจะเป็น
ดีเอ็นเอพิเศษที่ถ่ายทอดพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ปู่ยาอาจไม่ถูกในระยะยาวแต่ผลสัมฤทธิ์อย่าง
ต่อเนื่องต้นเดือนกลางเดือนในรุ่นหลาน เหลน โหลน ผมจึงเห็นทุกคนมีข้ออ้างเชิงบวกในยาม
ที่"หวย"ถูกร้องออกเป็น"ฮ่วย" โดยเท่าที่สังเกตจะมีชุดอธิบายออกเป็นสองส่วน
ส่วนแรก อธิบายเชิงสังคม คือ ช่วยเป็นงบเพื่อการศึกษาเด็ก สร้างโรงพยาบาล อุดหนุน
สาธารณสมบัติ เป็นต้น
ส่วนที่สอง อธิบายเชิงบุคคล คือ สร้างความหวัง พัฒนาคลื่นสมอง ปฎิสังสรรค์ทางสังคม
รอการเสียภาษีนิติบุคคลแก่รัฐไม่ไหว ไม่พ้นแม้แต่บางท่านจะอาจว่าฟาดเคราะห์เพื่อรักษาความ
ปกติในชีวิตประจำวัน (อย่างเจ้านายผมมักยกประเด็นว่าลองภูมิอาจารย์ว่าศักดิ์สิทธิ์จริงไหม?)




หวย เป็นการพนันเสี่ยงทายประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นราวปี พ.ศ. 2375 รัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงขาดแคลน
ข้าวยากหมากแพง คนไม่ยอมนำเงินมาใช้ เอาเงินไปฝังไว้ในดิน ต่อมาได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการตั้งหวย
จึงโปรดเกล้าฯ ให้จีนหงตั้งโรงหวยขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งที่เมืองจีนจะเรียกว่า “ฮวยหวย”
พอมาถึงบ้านเราก็พากันเรียกว่า “หวย” ติดปากมาจนทุกวันนี้ แพร่ระบาดสู่สังคมคนไทย
จึงได้มีการออกหวยที่เป็นอักษรไทย (ซึ่งใช้ตัวอักษร 36 ตัวเท่านั้น) จึงมีชื่อเรียกว่า "หวย ก ข"
โดยโรงหวยเป็นของรัฐที่มีเอกชน เป็นผู้ได้รับสัมปทานดำเนินการ ทั้งนี้นายอากรหวย
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนบาล" หรือ "ขุนบาน" โดยรายได้จากอากรหวยมีเป็นจำนวนมาก
และได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐ (ข้อมูลส่วนนี้จากวิกิพิเดียภาคภาษาไทย) ผมไม่รู้หรอกว่าทุกปี
กองสลากฯจะมีกำไรจากการค้าหวยมากน้อยเพียงใด แต่อย่างน้อย กองสลากก็รักษาสถานของตัวเอง
ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เกิดจากจ้างงานให้แก่กลุ่มคนในหลากหลายกลุ่ม
(อย่างน้อยก็คนพิการ ซึ่งดูซับการลดภาระภาครัฐได้ในจำนวนไม่น้อย) แม้กระทั่งเป็นแหล่งรองรับทาง
อารมณ์ทางการเมือง อย่างกรณีพฤษฎาทมิฬ ก็ทำให้เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายมีค่างวดที่สูงกว่าแหล่งราชการอื่นๆ

ทุกวันนี้คนที่ถูกรางวัลใหญ่ อย่างรางวัลที่หนึ่งที่รับทรัพย์ไปว่าสองล้าน (ที่สร้างความฝันร่วม
ให้กับผู้ซื้อสลากแทบทุกคน ว่าถ้าฉันถูก ฉันจะซื้อๆๆ...) ต้องขอบคุณผู้ซื้อส่วนมากที่ไม่ถูกราง
วัล เพราะขึ้นชื่อว่า"สลากกินแบ่งรัฐบาล" ย่อมจะหมายถึง คนถูกหนึ่งคนได้กินคนเดียวจากการ
แบ่งของผู้ที่ผิดหวังจากการซื้อหลายล้านคน โดยมีรัฐบาลเป็นเจ้ามือรายใหญ่ ดังนั้น หวย จึง
ไม่เคยปิดโอกาสให้คนมนุษย์ท่านหนึ่งท่านใด ไม่มีกฏหมายห้ามซื้อแบบเหล้า บุหรี่ หรือสื่อลามก
ไม่เคยจำกัดโควต้าในการซื้อ (ยกเว้นเบอร์ฮิตที่ทำให้เจ้ามืออย่างรัฐ ที่บอกไม่เคยล็อกเบอร์ให้ไหวหวั่น)
จะเลือกตั้งผู้ว่าพรุ่งนี้คุณก็ยังมีโอกาสซื้อได้ทุกเมือ่ จึงเป็นเครื่องมือแห่งโอกาส
ที่ถ้าคุณพลาดวันที่๑๖ ไม่เป็นไร เรายังมีวันที่๑ ให้คุณแก้มือ แต่อย่างว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย
ถ้าคุณลองเอารางวัลที่หนึ่งเป็นตัวตั้งแล้ว จะซื้อผิดซื้อเฉียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมว่ายังมีคนที่อยากลอง
เสี่ยงให้บรรลุเป้าหมายไม่น้อย

ถ้าผิดพลาดประการใด เรายังมีรางวัลที่สอง ที่สาม ที่สี่....และเลขท้ายสองตัว สามตัวให้ได้ลิ้มลอง


Create Date : 14 ตุลาคม 2551
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 22:39:00 น. 2 comments
Counter : 651 Pageviews.

 
ตกลงว่าถูกมั๊ยคะงวดนี้


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:19:29:31 น.  

 
สงสัยจะถูกกิน เอานี่มาปลอบใจค่ะ


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:4:57:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.