|
|
สำนักข่าวทวิตแห่งคุณ:สมาคมฟุตบอลที่เกมแพ้ แต่คนไม่แพ้
แม้คาดการณ์ แต่ก็ไม่คาดฝัน.......ว่า
ความพ่ายแพ้ที่ดูเหมือนจะเป็นความตกต่ำของทีมฟุตบอลชายในนาม "ทีมชาติไทย"
ในวันสองวันก่อน จะกลายเป็นประเด็นของการตามหา "ผู้รับผิดชอบ"
ที่ผู้เกี่ยวข้องท่านใด ก็ไม่อยากรับ "ผิด" ด้วยรสชาติที่แตกต่างจากคำว่า"ชอบ" ก็ตาม
ถ้าถามว่า การพ่ายแพ้ในเกมส์กีฬา เป็นเรื่องที่ผิดไหม?
โดยความคิดเห็นอย่างมีทรรศนะของผู้เขียน ที่เคยเป็นเกจิฟ้องร้องล้มละลาย
ด้วยผลอาณัติจากแมตช์ฟุตบอล ถือได้ว่าเป็น "เรื่องปกติ"
ที่การแพ้ในบางแมตช์ เป็นชัยชนะในผลต่างของลูกได้เสีย
คือ เป็นการพ่ายแพ้ในผลแพ้ชนะในสกอร์ ที่ต่อมาก ก็ยิ่งมีสิทธิ์มาก
แต่สำหรับทีมชาติไทย ที่อันดับแร็งกิ้งของฟีฟ่า จะไม่ได้สวยหรูหากเผลอไปเทียบกับ
ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ หรือเกาหลีเหนือก็เหอะ
แต่ในฐานะภาษี ที่ไม่ต้องสร้างบริษัทลูกหลอก โดยที่ธุรกรรมการเมือง
ไปตกอยู่กับเกาะที่ไม่น่าเหมาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าสถานที่ฟอกเงินก็ตาม
กระนั้นทีมฟุตบอลชายไทย จะไปอุ่นเครื่องหรือเผาเครื่องกับทีม
เอเชี่ยนเกมส์ ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก หรือตระเวนทัวร์ของทีมสโมสร
ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่พอทำใจยอมรับได้ แม้จะชาตินิยมเพนท์เต็มหน้า
แต่ก็เข้าใจสถานการณ์และรูปเกมส์ในระดับหนึ่ง
เมื่อเผลอไปโม้แข้งกับชาติภูมิภาคเดียวกันด้วยแล้ว เลือดสูบฉีดทางศักดิ์ศรี
ย่อมสูงปรี๊ดขึ้นเป็นธรรมดา ถ้าเส้นทางในรอบแรกไม่ได้เป็นอะไร
ที่การ "ตกม้าตาย" จะเป็นประสบการณ์ใหม่ในความทรงจำครั้งเก่าที่ไม่เคยจดจำ
การเรียกหาศรัทธาประการหนึ่งให้ฟื้นกลับคืนมา จึงเป็นการแสวงหา
"หัวโขน" ที่การทำงานในกระทรวงวัฒฒนธรรม น่าจะเป็นได้ดียิ่งกว่า
การมาทำหน้าที่ใหญ่ในสมาคมฟุตบอล
สิ่งเรือ่งนี้ กลายมาเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในสำนักข่าวทวิตแห่งประเทศคุณ
ที่โหมกระหน่ำกันสนุกนิ้ว หลังจากที่ "บังยี" หรือ วรวีร์ มะกูดี
ได้ออกหน้าจอสัมภาษณ์ในรายการข่าวช่วงเย็น ที่มีคุณ สรยุทธ เป็นผู้สัมภาษณ์อย่างเผ็ดร้อน
สิ่งที่ถูกย้ำจนกลายเป็นโค้ดที่ถอดรหัสในสำนักทวิตส์แห่งประเทศคุณ
ที่่ดูจะเพ่งเล็งเป็นที่สุด เห็นเป็นกรณีที่บังยีกล่าวให้สัมภาษณ์ถึงสุดเขตในการคุมทีมชาติ
แบบที่เห็นจุดหมายกันยาวๆ "เป้าหมายของผมคือ "ฟุตบอลโลก"
แค่คำว่า "ฟุตบอลโลก" ก็พาคนทั้งประเทศพากันหลอนในอีกวาระชั่วชีวิตหนึ่ง
คำนี้เป็นสัจจะวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ครั้งหนึ่งกัปตันซึบาสะสมัยเด็ก
เคยตั้งเป้าหมายให้กับเพื่อนร่วมสโมสร ประทานโทษมิใช่ทีมฟุตบอลอาชีพหรอกครับ
แต่เป็นทีมประถมฮาเฮ ที่คนร่วมยุคนักอ่านสมัยนั้นได้อ่าน คงขำก๊ากอยู่ในใจ
แต่บัดนี้ ฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ได้สำแดง "กึ๋นบูชิโด" ที่ไม่ต้องอาศัยความเป็นเจ้าภาพ
ก็สามารถเข้ารอบลึกๆได้ ดังนั้น เป้าหมายของฟุตบอลของคุณบังยีอาจดูยิ่งใหญ่
ที่จะนำความฝันร่วมกันในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการทำหน้าที่
แต่คุณ @aunonline ก็ยังถอดนัยยะอีกความหมายได้ว่า
"ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าไทยจะได้ไปบอลโลก - -"
คุณบังยี ยังได้เทียบเคียงกับประสบการณ์ของทีมมหาอำนาจฟุตบอลในบางเจ้า
ที่แม้เขาจะพ่ายแพ้ในรอบแรกๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีผลสรุป
ด้วยการลาออกเสมอไป โดยยกตัวอย่าง อิตาลีและฝรั่งเศสที่โบกมือลาแต่เนิ่นๆ
แม้จะเตรียมตัวมาเป็นปี แต่ประเด็นนี้ก็สวนกลับมาอย่างรวดเร็ว
โดยคุณ RT @Witwit:RT @MrNaling ไปขุดประวัติแนบท้ายมาว่า
"๏เช็คดีๆ ส.ฝรั่งเศสลาออกนะ" ซึ่งกว่าคำตอบนี้จะมาได้
ท่านบังยีของเรา ก็เตรียมออกไปสัมภาษณ์ในอีกรายการ
ตามประสา หมดเวลาถ่ายทอดบอลก็ยังพอไถ่โทษผ่านบุคคลได้
อย่างน้อยๆ ก็คงพอถึงรอบสอง ที่ไร้ซึ่งทีมชาติไทยที่ไปสร้างสีสันจน
เพื่อนบ้านเริ่มที่จะชินตา
ส่วนประเด็นที่จับผิด เรื่องการจัดแมตช์แข่งถี่ยิบ
ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยภายในประเทศ โดยมิให้นักเตะลืมหูลืมตา
คุณบังยี ก็ร่ายไปเรือ่งอื่นถึงไหนเป็นทีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นจุดที่
มีหลายความเห็น มองเป็นจุดสกัดกำลังวังชานักเตะให้อ่อนล้ากำศึกจนเกินไป
เรือ่งนี้ @Phensasitorn วิเคราะห์ว่า
"วรวีร์ก็ยังไม่รับปากอยู่ดีว่าปีหน้าจะไม่มีบอลถ้วยเพิ่มมาชนกับโปรแกรมไทยพรีเมียร์ลีกเอฟเอคัพ"
ย่อมหมายความไปอีกทางได้ว่า สิ่งใดทำเงิน สิ่งนั้้นสมควรจะเป็นอยู่
เพื่อความยั่งยืนในสมาคมฟุตบอลต่อไป (เฮ) แล้วทัวร์นาเมนใหญ่
เป็นอะไรที่ค่อยไปวัดดวงกันอีกที หากชนะก็ว่าเท่าตัว (มองอย่างเป็นธรรมหน่อย)
แต่ถ้าขืนแพ้ ก็หยิบยกต่อมน้ำตานักเตะที่รับไม่ได้กับความสูญเสีย
ซึ่งอยากจะบอกว่า คำอธิบายนี้ผู้เขียนได้ยินมาจากประธานชุดที่แล้ว
ที่ต้องหมดวาระไป ด้วยการเสื่อมศรัทธาของแฟนบอลเช่นกัน เห้อ!
ดังนั้นเป็นความผิดรึไม่ ในการมองหน้าแล้วเอื้อมฟ้า
ในการสรุปความรับผิดชอบในการตกต่ำของทีมชาติฟุตบอล ลงไปยังตัวสมาคม
เป็นกรณีที่น่าคิด ระหว่างการคงอยู่ของสมาคมเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
กับการตัดรากถอนโคนเพื่อสถาปนาคณะกรรมการบริหารชุดใหม่
ตามประสาบ้านๆของคุณ aunonline iamaun
" บอลห่วยคุณไล่โค้ช . . . สมาคมห่วยผมจะไล่ใคร" ที่ว่าในลิงค์ FB
หรือบางท่านอาจประสงค์ดีในสำนวนที่ร้ายว่า
@aston_ed: เลิกว่าแกเถอะครับ จริงๆบังยี แกไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ เพราะผมไม่เห็นแกทำอะไรเลย "
แต่กระนั้นผู้เขียน ก็รับไม่ได้กับตรรกะมาตราฐานการอัพเกรดของประเทศเพื่อนบ้าน
โดยที่ประเทศไทยยังไม่ตระหนักในการอัพศักยภาพตัวเองให้สูงขึ้น
หรืออย่างน้อยๆก็ทัดเทียม เพราะฟุตบอลมิใช่กีฬาที่ให้คะแนน
แต่เป็นเกมที่วัดจำนวนลูกได้เสียจากการทำประตู โดยไปหยิบยืมตรรกะที่ว่า
"ทำไมแมนยูถึงตกต่ำน่ะหรอ เพราะทีมอื่นในยุโรปเค้าอยากล้มเราทั้งนั้น เค้าเลยพัฒนาขึ้น" : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน #ตรรกะบังยี via โดย @mr_aum"
ซึ่งอันนี้ผู้่เขียนเกรงว่า ยิ่งเป็นการเร่งอัตรา ให้คล้ายกับการเกิดกรณีในเฟซบุค
ที่ว่า "มั่นใจว่าคนไทยเกินล้าน...................." ที่สร้างความสับสนในการบริโภคข่าวสาร
ที่ไม่ใช่แกผู้เขียนคนเดียว แต่ยังเกิดกับคนนอกวงอีกทิวแถว
ทั้งหมดที่กล่าวโดยย่อ จึงเป็นทัศนะที่อัดอั้นของนักข่าวทวิตฯ
ที่ทะลึกพรั่งพรู ทั้งๆที่เป็นเพียงการเริ่มต้นสัญจรให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อของคุณบังยี
(อ้าง jin_nation เรื่่องเด่นเย็นนี้ สรยุทธ์ Vs วรวีร์ คืนนี้สยามกิเลนทีวี 2ทุ่ม
#VVGetOut เเจ้งเสริมในส่วนแฟนบอลเมื่อวานคมชัดลึก วันนี้ASTV เสาร์นี้ที่ช่อง3 RT @NJDahlia)
ที่ส่งเสริมสถานภาพ "การไม่น่าคงอยู่" มากกว่าการชี้แจงทำความเข้าใจ
อย่างน้อยๆ ก็ในพื้นที่ทวิตภพแห่งนี้ ซึ่งบางส่วนที่หยิบยกมา
เป็นความพยายามที่จะนำเอาเสรีทางความคิดมุมต่างไปจากผู้ถูกสัมภาษณ์
โดยยอมรับว่า เข้ากับจริตพื้นฐานที่ติดตามทีมชาติฟุตบอลคณะนี้
ที่ยังมีสิ่งคาใจจากการตกรอบซีเกมส์ตั้งแต่รอบแรก รวมถึงซูซูกิคัพครั้งล่าสุด
จนมีแหล่งข่าวบางส่วนกล่าวว่า ถึงขั้นผู้จัดการทีมในตำนาน ไบรอัน ร็อบสัน
อาจประกาศลาพักเพื่อไปรักษาแพ้ใจ ซึ่งข่าวที่กล่าวมาข้างต้น
จะพยายามหลีกเลี่ยงการอิงในส่วนของการเมือง ที่ระยะหลัง
มีนักการเมืองเข้ามามีเอี่ยวและทุ่มซื้อทีมสโมสรอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ซึ่งถ้าจะให้วิเคราะห์เข้าไป ทาง @NochiPH เขาก็ยืนยันเต็มมั่นว่า
การเมืองนั้นมีเอี่ยวแน่ โดยชำแหละส่วนบริหารแบบนามสกุลก็เห็นภาพ
พรรคการเมืองก็เห็นผล "ผู้จัดการคือ อนุชา นาคาศัย สามี พรทิวา
กระทรวงพาณิชย์ ฝั่งเนวิน // ส่วนนายกฯสมาคม คือ เพื่อไทย"
ซึ่ง NochiPH เสริมความอธิบายที่ซับซ้อนไว้แต่ต้นไว้ว่า
"วรวีร์ มะกูดี" เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ย้ายมาเพื่อไทยแล้ว
และยังเป็นกรรมการบริหารพรรค ตั้งแต่ 15 ก.ย.53" โอ้ สุดท้ายมันก็เอี่ยวการเมืองอีกจนได้อะสิน๊า
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
คุณบังยีก็สร้างวาทะสยบความเคลื่อนไหวที่เป็นสัจธรรม
ในการดำรงตำแหน่ง ที่ไม่ใช่แค่สมาคมฟุตบอลเพียงที่เดียว
แต่ล้วนเกิดขึ้นได้ กับในทุกๆสถาบันแห่งชาติ
ที่ประชาชนต้องการเห็นความรับผิดชอบ
อย่างเป็นรูปธรรม เมือ่เล็งเห็นผลของความผิดพลาดไปตามรูปที่ว่า
"ถ้าบอกว่าทีมบอลแพ้แล้วนายกสมาคมต้องออก ก็คงต้องเปลี่ยนกัน..บ่อยมาก" บังยี........
ประมวลรอบหนึ่งวันในทวิตสัญจร
| Create Date : 10 ธันวาคม 2553 |
| Last Update : 10 ธันวาคม 2553 3:45:57 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 769 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: โสดในซอย  วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:7:39:37 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง  วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:15:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [
>
แต่ถ้าเรื่องออกหนังสือ
ถ้าจะแสดงความยินดี
หรือสนใจจะอ่าน
ก็สั่งซื้อผ่านวีได้เสมอนะคะ
รายละเอียดมีในบล็อกอยู่แล้ว
อยู่ทางด้านขวาของบล็อกค่ะ
ด้วยความยินดีและขอบคุณมาก ๆ ^^