A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Iryu Sosu ยอดนักสืบผู้ดูแลของใช้ส่วนตัว



หากว่าคุณเริ่มเบื่อซีรีย์นักสืบญี่ปุ่นที่ชอบทำอะไรดูเวอร์ และเมพขิงเกินเหตุ
ไม่ต้องอะไรมาก เอาแค่หน้าฤดูใบไม้ผลิที่กำลังแข่งขันฟาดฟันกันแต่ละสถานี
กันอยู่ในขณะนี้ แต่ละช่องล้วนแล้วแต่พยายามคัดสรรพล็อดสุดแนว ขอยกตัวอย่าง........
ทางค่ายอาซาฮีก็เข็นสองตำรวจนักสืบขาลุยDoubles ที่มีพระเอกชัวร์ๆสองคน
คือ  ฮิเดะอากิ อิโตะ กับซาคากุชิ เคนจิ ขณะที่มัตซึดะ โชตะก็ทำตัวเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี
ในนักสืบเอกชนแนวจ้างวานจากเรื่องSennyu Tantei Tokage ซึ่งเป็นของค่ายTBSเขา
แล้วยังมีขบวนการTake Five ที่ปานประหนึ่งว่าเป็นOcean’s Elevenฉบับซีรีย์ญี่ปุ่น
ที่มีขุนศึกคาราซาวะซังเป็นผู้นำทีม จึงไม่แปลกที่ทาเคอิ เอมิ นักแสดงสาว
ที่ได้รับการจับตามอง จะโดดมาร่วมวงซีรีย์แนวสืบสวนด้วย กับการเล่นเป็นนักพยากรณ์อากาศ
ที่ดูไม่น่าจะเข้ากับพล็อกแนวนี้สักเท่าไร คงต้องถางตากันหน่อยเพราะฉายเอาเกือบจะเที่ยงคืน
รวมไปถึงดาราสาวอีกคนที่กำลังได้รับการปั้นงานอย่างอิเอะคุระ นานะ ก็ยังขอลองวิชา
โดยได้เล่นเป็นตำรวจรุ้กกี้สังกัดหน่วยสาม ที่รับผิดชอบเฉพาะคดีโจรกรรมและการลักขโมย
ในKakusho ฉายทางช่องทีบีเอส ส่วนที่สุดของฤดูกาลนี้คงต้องยกให้กับขาใหญ่การกลับมา
ของGalileo2 ที่มีฟุกุยามา มาซาฮารุจะกลับมาสวมเสื้อกั๊กเป็นอาจารย์ฟิสิกส์
ช่วยไขปริศนาฆาตกรรมสุดพันลึก ที่ทางฟูจิทีวีกว่าจะหาเวลาคลอดภาคต่อนี้กลับมาได้
ก็ต้องรอให้พี่พระเอกท่านมีตารางว่างประจำปี หลังจากหมดเวลาส่วนใหญ่ปีที่แล้ว
ไปให้กับบทซามูไรในRyoma Den ทางช่องเอ็นเอชเค






อันนี้เป็นภาครวมเฉพาะที่คัดมาเล่า สำหรับซีรีย์แนวdetective cases
ในฤดูกาลล่าสุดนี้ ที่จะประกอบด้วยกันหลายรส หลายชาติ ทั้งสุดอัศจรรย์
สังสรรค์เฮฮา หรือเน้นขายตัวนักแสดง.....อันนี้ก็ว่ากันไป
แต่ถ้าใครเริ่มที่จะเบื่อกับอะไรที่มันดูจะเข้ารกเข้าพง ไม่ได้เข้าถึงแก่นสาร
ของความเป็นพล็อกนักสืบจริงๆจังๆ หรือถวิลหาซีรีย์สืบสวนในพล็อกเก่าก่อน
ที่ว่ากันด้วยพื้นฐานเรียบๆ ที่ตรงประเด็น ไม่ไปใส่ไข่เติมสีขยี้ผงชูรสนัก
มันก็พอมีซีรีย์ตำรวจนักสืบเรื่องหนึ่งที่อยากจะแนะนำ ที่ยังผลิตทันในพ.ศ.นี้
และที่สำคัญ......มันยังเรตติ้งดี พอมีหวังให้เกิดการสร้างภาคต่อ
ซึ่งตอนนี้ก็ปาไปภาคที่สามแล้ว









เรื่องที่อยากนำมาเสนอก็คือ Iryu Sosa จากค่ายอาซาฮี
เป็นIryuที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับIryu ของTeam Medical Dragon
จากค่ายฟูจิทีวีแต่อย่างใด เพราะอันนี้เขาว่ากันถึงเรื่องของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 

(
handle and gather evidence to prosecute criminals for investigation)
"อิโตมุระ ซาโตชิ"
(ที่แสดงโดยพระเอกคามิคาวะ ทาคายะ) ประจำหน่วย
กองสืบสวนนครบาลหนึ่ง แผนกคดีนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ที่มีความกระตือรือล้น
ในความพยายามสืบหาความจริงจากหลักฐานที่ถูกค้นพบในที่เกิดเหตุ
โดยที่เขาจะต้องทำหน้าที่ทั้งในแง่การประสานกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ที่มักจะมองเขาเป็นบุคคลที่ชอบจุกจิกจุ้นจ้าน (annoying habit) และมักหางาน
มาให้ทำอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน ขณะเดียวกันตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นที่ปลื้มนัก
สำหรับหน่วยงานทีมตำรวจที่มักจะมองว่าเขาคือตัวป่วน และชอบทำอะไร
ที่เกินขอบเขตหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย บ่อยครั้งก็ชอบทำเรื่องพลการ
ที่ดูจะผิดมารยาทและการวางตัวให้พอเหมาะพอควร









ซึ่งมุมมองเดียวกันนี้ รวมไปถึง "โอดะ มิยูกิ"
(แสดงโดยคันจิมะ ชิโอริ จากBuzzer Beat ,Love ShuffleและApoyan)
ตำรวจนักสืบสาวรุ้กกี้ที่พยายามเรียนรู้ในแง่การสืบตามคดีนอกสถานที่
ไปพร้อมๆกับทีมคณะและตามสภาพ ด้วยความเป็นน้องใหม่ผู้มีไฟแรงในช่วงลองงาน
เธอจึงอยากที่จะพิสูจน์เพื่อทำผลงาน และไม่ปลื้มในบุคคลิกนิสัยของอิโตะมุระเอามากๆ
(แม้จะได้เห็นถึงความพยายามตั้งใจ และบรรลุในการไขคดีจากหลายๆกรณี
กระนั้น......ก็ยังไม่อาจทนรับได้กับการทำอะไรที่ดูพลการและขัดมารยาทของตัวเขาอยู่ดี)
มิยูกิจึงเป็นกำลังหลักสำคัญในแง่การตามจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
โดยความกระตือรือล้นของอิโตะมุระ สามารถหาจุดเชื่อมโยงเพื่อเข้าถึงตัวผู้ต้องหาที่แท้จริง









ซีรีย์ไม่ได้หยิบประเด็น ที่จะเชิดชูความเป็นอัจฉริยะของตัวบุคคลมากไปกว่า
ความเพียรพยายามที่จะเป็นนักประสานสิบทิศ และสัญชาติพิเศษบางอย่าง
ซึ่งหากมองในแง่ดี ความจู้จี้จุกจิกในชิ้นของหลักฐานลงไปให้ลึกแบบสุดๆของอิโตะมุระ
เท่ากับคอยเป็นตัวกลาง ที่จะไปกระตุ้นประสิทธิภาพและศักยภาพของแต่ละหน่วยงาน
ให้ถึงขีดสุด อันจะส่งผลดีในแง่การมองหลักฐานชิ้นนั้นอย่างรอบด้าน
แม้เพียงเริ่มต้นหลายฝ่ายอาจจะตั้งคำถามถึงความจำเป็น และดูจะเป็นการเสียเวลา
ทั้งแง่การเบี่ยงประเด็นที่กินเวลาส่วนตัว และโอกาสการทุ่มเทให้กับประเด็นหลัก
ซึ่งโดยพฤติกรรมส่วนตัวของอิโตะมุระ ที่ไม่ค่อยจะแคร์ความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น
ไม่ชอบใส่ใจในขอบเขต กติกาและมารยาท ทั้งเรือ่งของส่วนบุคคล ไม่ว่าคนๆนั้น
จะเป็นผู้ต้องสงสัย เหยื่อ ญาติของจำเลย เพื่อนของโจทย์ หรือคนที่เห็นเหตุการณ์
รวมไปถึงการละเลยต่อกฎระเบียบในองค์กรของตัวเอง จึงหนีไม่พ้นที่มักจะมองว่า
ตัวเขาเองเป็นตัวป่วนประจำหน่วย ในสถานการณ์ที่ที่คำสั่งเบื้องบนก็มีผล
ให้หน่วยงานแต่ละหน่วย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยที่ออกพื้นที่และหน่วยปฎิบัตการภายใน
ให้มีเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน แต่ข้อดีที่อิโตะมุระจะแตกต่างจากตัวละครซีรีย์
นักสืบเรื่องอื่นๆทั่วไป คือ จะไม่มุทะลุดึงดันในความคิดของตัวเองชนิดให้คนองค์กร
ต้องปฎิบัติตาม แต่จะหันมาปฎิบัติตามความเชื่อของตัวเองเงียบๆเพียงคนเดียว
โดยอาศัยไล่เลียงหลอกตะล่อมไปยังในส่วนของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่รับฟังมากกว่า









หากจะมองในแง่ฐานะ-ตำแหน่ง Iryu Sosaก็มองได้ในแง่ของ
ทัศนคติด้านลบอันคับแคบระหว่างผู้มีอำนาจบังคับบัญชาที่มีต่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
(หลักมีหัวหน้าสองท่าน คือ คากามิ โทรุ ที่แสดงโดยโอสุงิ เรน ที่ดูสุขุมลุ่มลึก
และทาเกโอะ โซเนะรับบทโดยซาโนะ ชิโระ ที่ชอบเอะอะมะเทิงโวยวาย
จะคล้ายหัวหน้ากับรองหัวหน้าในStrawberry Night)
ที่มักถูกกระทำด้วยวาทกรรมที่ดูแคลนทางวาจา หรือพูดเพื่อลดสภาพความเป็นจริง
ทางหน้าที่เขตความรับผิดชอบ โดยหลักๆแล้วหวยก็มักจะตกกับพระเอกอิโตะมุระ
ที่แม้สภาพตำแหน่ง ตัวเขาเองจะเป็นถึงเจ้าหน้าที่กองเก็บและพิสูจน์หลักฐาน
แต่ก็มักจะถูกอีกฝ่ายที่ไม่ขอบหน้าเขาหาว่าเป็น "พวกเก็บของใช้ส่วนตัวของผู้ตาย"
ในขณะที่เจ้าหน้าที่นักสืบหญิงภาคสนามเพียงคนเดียวของหน่วยที่เพิ่งเข้าประจำการ
ก็มักจะถูกอคติของเพศชายเป็นใหญ่ เรียกเธออย่างไม่ให้เกียรติ์ว่าเป็น "สาวน้อย"
มากไปกว่าการยอมรับในความสามารถ ให้เป็นสมาชิกคนนึงของหน่วย
จึงส่งผลให้เป็นแรงขับ เพื่อพยายามที่จะพิสูจน์ฝีมือและความสามารถ
โดยจะต้องแลกกับการทำงานที่หนักขึ้นเพื่อลบกับคำสบประมาท ดีกว่าการไปต่อล่อต่อเถียง
แล้วงานไม่เดิน แต่อย่างว่า...โอกาสที่จะได้เห็นการหักหน้ากลับระหว่างผู้อาวุโสกับผู้อ่อนพรรษา
ซีรีย์ญี่ปุ่นเขาไม่นิยมให้ปรากฎโผล่ฉากที่ว่านี้ให้ระคายเคืองตาจนกระเทือนวัฒนธรรม
ผลก็เลย ..... ถ้าในแง่ดูเอาเพื่อความสะใจเป็นปากเป็นเสียงของพวกวัยละอ่อน
ซีรีย์จึงไม่อาจตอบสนองความส่าแก่ใจในจุดนี้ มากไปกว่าผลสัมฤทธิ์ของเนื้องาน
(ซึ่งแม้สำเร็จ โอกาสการได้เห็นคนแก่ทำหน้าจ๋อยในซีรีย์เรื่องนี้ ก็ไม่ปรากฎมีให้เห็น
ยกเว้นเฉพาะตอนสุดท้ายของภาคแรก ที่จะได้เห็นมิยูกิตอกใส่ไม่ถึงสิบคำ
แล้วตัวละครตัวนี้ ก็หายไปจากสารบบของภาคต่อเรือ่งนี้อีกเลย)









สูตรของตำรวจนักสืบจากซีรีย์เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมาก
จัดไปตามแผนโครงสร้างที่วางล็อกเอาไว้แล้ว โดยสร้างมูลเหตุที่ปักใจเชื่อ
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปในทางหนึ่ง ขณะที่ตัวหลักฐานที่รอการพิสูจน์จากพระเอก
ก็จะมาพลิกเฉลยในความจริงที่ไปในอีกทางหนึ่ง ส่วนตัวผู้ฆาตกรโดยสว่นมาก
จะเน้นไปในส่วนของตัวพยาน ที่ทางเจ้าหน้าที่ปักใจเชื่อหรือให้ความสำคัญน้อยที่สุด
หรือเรียกว่าแทบจะละเลยก็ว่าได้ ท้ายสุด .... ก็ต้องจบลงในแบบมีดราม่าเรียกน้ำตา
โดยที่ผู้ตายพยายามสื่อสารอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีโอกาสจะได้บอกในช่วงยังมีลมหายใจ
มีเพียงสิ่งของของผู้ตายเท่านั้น ที่พระเอกอิโตะมุระจะเข้ามาถอดรหัสสืบหาความจริง
อย่างนอ้ยๆก็ออกมาในสองด้าน









ด้านแรก เห็นจะเป็นเรื่องของการตามหาตัวฆาตกร
ส่วนเรื่องรองลงมา ก็จะเป็นเรื่องความลับของผู้ตายที่ไม่มีโอกาสได้เปิดเผย
อันจะทิ้งท้ายไว้ในบางสิ่งบางอย่าง โดยที่คนหลังเองก็ไม่เคยได้รับทราบ
และคนหลังโดยส่วนมากก็มักจะมีความผิดใจกันมาก่อนกับตัวผู้ตาย
ที่มักจะปฎิบัติต่อหน้าอีกอย่าง แต่ลับหลังแล้วมีเจตนาที่ดี-มีใจที่เป็นกุศล
เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้บอก จะด้วยเหตุผลต่างต่างนานา
ทั้งบุคลิกแข็งกร้าวของผู้ตาย ทิฐิของอีกฝ่าย ความไม่ปลอดภัยของแต่ละฝ่าย
ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน หรือจะรอเซอร์ไพร์เพื่อสร้างความประหลาดใจ
ผู้เขียนว่าดราม่าส่วนนี้ของเขาวางมาดี เผลอๆดีกว่าการรอได้รู้ว่า
ใครเป็นฆาตกรเสียอีก ไม่ใช่ประเภทจับใส่ให้มันจบๆเหมือนกับหลายเรื่อง
เพราะเรือ่งนี้ค่อนข้างให้เวลากับความเป็นดราม่าตอนท้ายพอสมควร
ฟังดู......เหมือนจะหวังผลเสียด้วยซ้ำ!









สำหรับเรื่องนี้จุดขายหลักๆ คือตัวพระเอกอิโตะมุระ ซาโตชิ
ที่แสดงโดยคามิคาวะ ทาคายะ ซึ่งผู้เขียนไม่ค่อยจะสันทัดหน้าตาของหมอนี้เท่าไร
ยกเว้นเสียจาก อาจจะเคยได้ดูในสมัยที่แกรับบทเป็นguest ให้เรื่องนั้นเรื่องนี้
อย่างน้อยๆก็มีซีรีย์นักสืบสองเรื่อง เรือ่งแรกก็จะเป็นMr.Brainในตอนอวสาน
ส่วนอีกเรื่องก็คือ ซีรีย์ที่ชื่อSPEC มาปรากฎเป็นแขกรับเชิญตั้งแต่ไก่โห่ตอนแรก
ส่วนที่แกรับเล่นเป็นตัวละครหลัก ก็มักจะเป็นงานซีรีย์เล็กๆที่บทแกมักจะเป็นตัวรอง
จากค่ายนั้นค่ายนี้ไปเรื่อย พื้นเพแกมีภูมิลำเนาเกิดอยู่แถวฮาชิโอจิ กรุงโตเกียว
ในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็มีโอกาสเดินสายในกลุ่มละครเวทีเล็กๆ แบบตระเวณไปเรื่อย
ก่อนจะมาตัดใจไม่เรียนต่อ เพื่อมุ่งในการจะเป็นนักแสดงเวทีอาชีพจริงๆ
ภายใต้สังกัดที่มีชื่อว่าCaramel Box จนมีโอกาสได้เขยิบเข้ามาในโลกของซีรีย์ทีวี
จากเรื่องแรกของทางช่องNHK ที่ชื่อเรื่องว่าDaichi no Ko โดยรับบทเป็นชาวจีน
ซึ่งตอนนั้นเจ้าของบทประพันธ์เขาเล็งสตาร์ดังอย่างมาซาฮิโระ โมโตกิไว้
(พระเอกจากDepartures) แต่ความที่โลเกชั่นส่วนใหญ่ต้องไปถ่ายทำในจีน
ผลก็เลยปรากฎว่า หนึ่งในทีมสต๊าฟของเรื่องไปเจอะรูปเขาเข้าในนิตยสารฉบับหนึ่ง
ซึ่งตอนหลังเจ้าของบทประพันธ์สารภาพว่า เขาคิดถูกแล้วที่ได้เลือกคามิคาวะซังคนนี้
จากนั้นชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปจากสายละครเวทีมาสู่ละครซีรีย์ทางทีวีตลอดมา
จนกระทั่งปี๒๐๐๙ เขาก็ได้ประกาศลาออกจากสังกัดละครCaramel Boxอย่างเป็นทางการ
ให้เวลากับการเล่นซีรีย์และภาพยนตร์ได้อย่างเต็มที่ อันเป็นปีเดียวกันกับที่เขา
ได้แต่งงานกับแฟนสาวที่คบหามาตั้งแต่สมัยที่ยังเล่นละครเวทีด้วยกัน









ความที่ ...... ซีรีย์มันรู้สึกดูเด่นขึ้นมากกว่าซีรีย์ญี่ปุ่นแนวนักสืบเรื่องอื่นๆทั่วไป
ตรงที่ทางผู้สร้างเขาไม่ได้เน้นความเป็นซูเปอร์สตาร์ หรือดาราค่าตัวพอขายได้
เหมือนกับวิธีคิดของค่ายอื่นๆ ที่ต้องหาทางให้สตาร์ดังท่านนั้นท่านนี้
มีโอกาสได้เล่นแนวนักสืบที่กำลังเป็นกระแส พอรัศมีความเป็นดาราตรงส่วนนี้ไม่มี
ผลก็เลย ทำให้ซีรีย์มีความโดดเด่นในแง่เนือ้หาและความเป็นพล็อกเรื่องที่คนดู
สามารถให้น้ำหนักกับเวลามันได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะเดียวกันตัวพระเอก
เราก็ไม่ได้รู้สึกติดกับภาพลักษณ์เรื่องอื่นๆก่อนหน้า จนรู้สึกต้องเอามาเปรียบเทียบ
ส่วนการนำเสนอในกรอบหลักที่ว่ากันด้วยแผนกปฎิบัติการของวงการตำรวจสืบสวน
ก็ไม่ได้ไปสร้างจุดอัศจรรรย์ที่ชวนหักเหออกไปจากความจริง หรือมีท่าไม้ตายในการไขคดี
อันเป็นวิธีการหนึ่งที่ทางสถานีมักจะใช้ไว้เป็นจุดขาย หรือพยายามฉีกแนววิธี
เพื่อที่จะหาประเด็นนำมาเล่น ไม่ก็สร้างความแตกต่างจากแบนด์อื่นที่แล้วมา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟิสิกส์ พลังจิต นักสะเดาะกุญแจ แมวเหมียว
นักเรียนไอคิวเกิน๑๘๐ สัปเหร่อ และพวกออติสติก เป็นต้น
Iryu sosu จึงกลับมาเล่นในพื้นฐานปกติ และให้เวลากับรูปคดีได้อย่างเต็มที่
จึงมีความเด่นในแง่การกลับคืนสู่สามัญ ระดับโอด์สคูลที่เคยนิยมในยุคก่อนๆ
หลีกความซ้ำซากจำเจและช่วงชิงพื้นที่ซีรีย์แนวเมโลดราม่าที่มีกันเกลื่อนจอ
รวมไปถึงการได้แขกรับเชิญโนเนมไม่คุ้นหน้า ยิ่งสร้างจุดเดาเหตุการณ์ของตัวฆาตกร
ได้ยากขึ้นกว่าซีรีย์ประเภทที่เชิญguestเดอะสตาร์ ที่เชิญมาก็พอให้คนดู
พอได้เดาว่า คงไม่ได้มาเล่นเป็นตัวละครพื้นๆเดินผ่านอย่างไม่มีสัญชาตญาณโหดแน่นอน










น่าเสียดายว่า ..... เนื้อหาตัวซีรีย์พยายามเน้นการที่ให้จบในตอน
ผลก็เลยแทบไม่ได้มีการพูดถึงที่มา หรือประวัติก่อนหน้าของตัวละครแต่อย่างใด
ตลอดไปจนถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ทั้งในเรื่องของคู่พระคู่นาง
หรือความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งรอการสมานของคนในองค์กรเดียวกัน
เรียกว่าการพัฒนาในบุคลิกของตัวละครแทบจะเป็นศูนย์ นั่นหมายถึงต่อให้
ไม่เคยดูตอนใดตอนหนึ่งมาก่อน คุณก็สามารถทำความเข้าใจได้เพียงแค่การดูตอนเดียว
ด้วยแพทเทิร์นที่เหมือนกันแทบทุกตอน ไม่มีจุดเชื่อมโยงระหว่างตอน จบแล้วจบกัน
เพราะหลังจากภาคสองและภาคสามไปแล้ว ถ้าทีมผู้สร้างก็หันเปลี่ยนมาเน้นขาย
แต่ตัวพระเอกอิโตะมุระซังเพียงคนเดียว นั่นก็หมายความว่าบทบาทของ
นักแสดงสาวคันจิยะ ชิโอริ ที่รับบทเป็นนักสืบสาวรุ้กกี้โอดะ มิยูกิ ก็หายไปเฉยๆ
(อย่างว่าตัวละครมิยูกิแทบจะไม่เด่นในแง่ตีคู่แสดง เพราะบทมันอวยให้กับอิโตะมุระโชว์)
ถึงภาคหลังจะส่งผลกระทบไปบ้าง แต่โดยภาพรวมก็รักษาระดับเรตติ้งที่สมน้ำสมเนื้อ
กับความพยายามปูทางงานซีรีย์ที่มีภาคต่อ โดยเน้นการชูคามิคาวะ ทาคายะแบบเต็มตัว
ในวัยสี่สิบห้าย่างห้าสิบซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา และถือเป็นซีรีย์ภาคต่อเรือ่งแรกของตัวเขาเอง
โดยล่าสุดขณะที่กำลังพูดถึงอยู่ ทางอาซาฮีทีวีก็เพิ่งเปิดฉายซีซันสาม เรตติ้งตอนแรก
ถือว่าเริ่มต้นมาดีตกอยู่ที่ ๑๔.๖ % เมื่อหันมาดูค่าเฉลี่ยต่อตอนภาคแรกอยู่ประมาณ ๑๔.๓%
ส่วนภาคสองเฉลี่ยลดลงแค่ ๑๒.๔% ล้วนเป็นระดับตัวเลขที่ไม่น่าแปลกใจต่อการจะได้เห็น
ภาคต่อของIryu Sosa ที่มีพระเอกอิโตะมุระเป็นจุดขายในอีกหลายๆซีซัน
(ขนาดโปรดิวเซอร์หมายหมั่นปั้นมือ ว่าจะให้เรื่องนี้เทียบเคียงในแบบฉบับซีรีย์อย่าง
Aibou และRinjo ซึ่งเป็นซีรีย์สืบสวนร่วมค่าย ที่ไปได้ดีกับการมีภาคต่อหลายภาค)
ซึ่งขนาดสตาร์ดังๆหลายท่าน พอลงมาเล่นพล็อกแบบนี้ ก็เป๊กหายไปในซีซันเดียวก็มีถมไป ........










อ้างอิงข้อมูล

Dramawiki , Asianwiki , Dramacrazy  and Wikipedia



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------






Create Date : 08 พฤษภาคม 2556
Last Update : 8 พฤษภาคม 2556 12:23:35 น. 11 comments
Counter : 5351 Pageviews.

 
ชอบแนวเรื่องจังเลยค่ะ
สืบสวนสอบสวนแนวแปลกๆของญี่ปุ่น
ตั้งแต่ mop girl ก็ชอบ

แต่พระเอกคนนี้ไท่ถูกชะตาอย่างแรง หุหุ
เคยดูหนังเค้าเรื่องนึง ก็เลยมีความรู้สึกแบบนั้น

เด๋วคงต้องหาเรื่องนี้มาดู เผื่อจะเปลี่ยนใจ อิอิ



โดย: lovereason วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:01:26 น.  

 
หนุกหนานดีคับ

ไม่มีซุปเปอร์สตาร์พาเตลิด

จะได้อยู่กับพล็อกสืบสวนจริงๆจังๆ

เป็นโอลด์สคูลที่หายไปนาน

นับแต่หลายช่องพยายามใส่เหนืออัศจรรย์

จนกลบวัตถุประสงค์หลักของเรือ่งไป


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:26:08 น.  

 
พื้นบล็อกใหม่ไฉไลกว่าเดิม สวยดีนะคะ เหมือนพื้นดิน เหมือนหาดทราย

น่าดูดีนะคะ ชิโอริมาแต่งองค์ภูมิฐานแบบนี้ ก็ดูดีไปอีกแบบ พระเอกนี่ไม่รู้จักเลย พออ่านจากท่านบรรยายแล้ว รู้สึกว่า มันมีเยอะจริงๆ นะ ซีรีย์แนวสืบสวนน่ะ อยากดูเรื่องที่โชตะเล่นด้วย เพราะมีความคาดหวังทางด้านคาแรคเตอร์ของตัวละคร

แต่ดูจากหน้าตาตัวละครแล้ว เหมือนจะเรียบจังทั้งคาแรคเตอร์ตัวละครและเนื้อเรื่อง เพราะคงอย่างที่บอกว่าเน้นไปที่รูปคดี จากที่เล่าทำให้นึกถึงซีรีย์ Law and Order ที่แม้ว่าตัวละครจะไม่ค่อยมีคาแรคเตอร์โดดเด้งเฉพาะตัว เน้นสืบทำคดี และว่าความกันในศาล แต่มันก็ยังสนุกไปได้อีกแบบ


โดย: prysang วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:35:28 น.  

 
อ้อ ช่วงนี้ไม่ได้ตั้งใจจะหันมาเป็นนักรีวิวหนังสือหรอกค่ะ เพียงแต่เป็นช่วงสำนึกผิด หากคำนวณหนังสือที่กองดองออกมาเป็นตัวเงิน เลยต้องพยายามลดความสูงของกองลงมาบ้าง


โดย: prysang วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:37:23 น.  

 
เหมือนจะเคยดูพากษ์ไทยของทรูเลยอ่ะครับ ไม่ทราบว่าจริงรึเปล่า


โดย: นนท์ IP: 14.207.110.127 วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:34:22 น.  

 
ใช่ครับ ทรูเคยเอามาฉายแค่ภาคแรก
แต่แนะนำให้ดูซับดีกว่า

ผู้เขียนค่อนข้างมีปัญหากับทีมพากย์ซีรีย์
ของค่ายนี้

คือ มันดร้อปความสนุกเมื่อเทียบกับของจริงไปเยอะเลย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:21:30 น.  

 
ใช่เลยครับ ตอนที่ดูนี่ทำใจยากมากกับเสียงพากษ์ แต่ปัญหาคือหาซับไม่ได้อ่ะครับ(จำใจต้องดู ขอสารภาพว่าดูไม่จบด้วย ถึงสนุกแต่เสียงพากษ์นี่ทำให้หายอยากเลยอ่ะ)

อิอิ ที่รีวิวนี่คือภาคสองเหรอครับ


ปล. ขอบคุณที่ตอบคำถามครับ


โดย: นนท์ IP: 14.207.199.219 วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:2:54:47 น.  

 
ก่อนหน้าก็ดูผ่านทรู
ยังแปลกใจ ว่ามันฮิตในญี่ปุ่นได้ไง
แต่พอดูเสียงญี่ปู่น ซับอังกฤษ
อันนี้คนละฟิวส์ อินกว่าเยอะ
ดราม่าจึงบังเกิดถึงเข้าใจว่า
มันมีดีในตัวของมัน ที่กันนี้ภาคหนึ่ง
ที่มีนางเอกชิโอริ ภาคสองดูนิดหน่อย
เริ่มจะปูพื้นตัวละคร แต่ค่ายนี้
ก็ยังคงรักษามาตราฐานโครงเรื่องไม่เปลี่ยน
แต่เหลือแค่แปดตอนก็จบภาคแล้ว

ถ้ามีเวลา และคุ้ยข้อมูลได้
จะมาเชียร์ออกนอกหน้าให้ฟังอีก


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:52:10 น.  

 
ฟังดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่อิโตะมุระนี้
จะเป็นคนละเอียดรอบคอบและช่างสังเกตนะคะ
ซึ่งเหมาะกันดีกับอาชีพเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
แต่การเข้าไปจุ้นกับการสืบสวนมากเกินไป
อาจจะถูกคนอื่นเค้าเขม่นเอาได้เหมือนกันนะคะว่าล้ำเส้น
ลำบากนะคะกับคนเก่งที่อยากแสดงศักยภาพ
แต่เหมือนว่าการเข้าไปจุ้นของเขาจะกลายเป็นผลดีนะคะ
เพราะทำให้เจ้าหน้าที่ตรงส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง
พลอยถูกกระตุ้นให้แสดงฝีมือไปด้วย(สงสัยกลัวน้อยหน้า)
ชอบนิสัยแบบนี้ของอิโตะมุระจังเลยค่ะ ที่ว่า
"จะไม่มุทะลุดึงดันในความคิดของตัวเองชนิดให้คนองค์กรต้องปฎิบัติตาม
แต่จะหันมาปฎิบัติตามความเชื่อของตัวเองเงียบๆเพียงคนเดียว "
แจ๋วค่ะ ใช้ตัวเองพิสูจน์ความเชื่อ ถ้าได้ผลก็สามารถหาแนวร่วมได้ โดยไม่ต้องบังคับ
การสร้างเป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่มีดราม่าผสม แล้วแบบนี้กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มไหนคะ
แล้วเรื่องนี้ใช้พระเอกคามิคาวะ ทาคายะ เป็นจุดขายเหรอคะ
นึกว่าตัวเนื้อเรื่องซะอีกค่ะ เพราะเห็นบอกว่า
ส่วนที่เป็นดราม่าจัดวางได้ดี เหมือนจะหวังเรียกแขก
ถ้าโดยความเห็นส่วนตัว หน้าตาของพระเอกคนนี้ไม่น่าจะเรียกแขกได้นะคะ
แต่ถ้าเรื่องฝีมือคงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเคยรู้จักพระเอกคนนี้ครั้งแรก
จากเรื่อง Hanazakari no Kimitachi ที่เขาแสดงเป็นคุณครู
ท่ามกลางลูกศิษย์หล่อๆมากมาย
หุหุ ถ้าการแสดงของแกไม่โดดเด้งออกมาจริงไม่มีทางจำได้แน่นอนค่ะ
ส่วนที่บอกว่าเขาแสดงเรื่องMr.Brain จำไม่ได้เลยค่ะ สงสัยป๋าโดดเด้งกว่า หุหุ
ส่วนางเอกคันจิยะ ชิโฮริ หน้าตาแบนมากค่ะ ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
ได้ดูทั้งหนังทั้งซีรีส์เธอก็หลายเรื่อง แต่ก็ไม่เคยประทับใจอะไรเลย
ไม่ว่าจะทั้งหน้าตาหรือการแสดง

ปล.1 แหงนดูชื่อเรื่องหน่อยนะคะ Sosu or Sosa
ปล.2 พื้นบล็อกใหม่ดูเหมือนแผ่นกระดาษเก่าๆเลยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.103.247 วันที่: 17 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:05:18 น.  

 
นี่ใช่คนที่เล่นเป็น ครูพยาบาล ของ HANAKIMI เวอร์ชั่นมากิจังรึเปล่าเนี่ยครับ

ถ้าใช่ ชอบคนนี้มาก ทั้งจังหวะพูด ทั้งสีหน้าแววตา เล่นได้ทั้งตลกทั้งเครียดทั้งร้าย คือชอบสุดๆไปเลยขโมยซีนทุกฉากที่ออกจริงจัง


โดย: นกฮูกผมดำ IP: 116.68.158.243 วันที่: 19 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:47:20 น.  

 
hello
145698
[url=https://www.facebook.com/NikeAirMax1Cheap]nike air max 1 cheap[/url]


โดย: nike air max 1 cheap IP: 31.41.217.112 วันที่: 31 ธันวาคม 2556 เวลา:2:13:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.