|
|
ดูนกกระจอกในท้องนา
เมื่อวานนี้เดินทางไปทำงานแถวลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เส้นทางที่ต้องผ่านเป็นถนนเล็กๆที่มีนาข้าวสีเขียวๆข้างๆทาง เห็นข้าวเป็นเมล็ดมากแล้วแต่ยังไม่หนักจนรวงจนต้องโน้มลงพื้น เห็นนกเล็กๆฝูงหนึ่งบินขึ้นลงกินเมล็ดข้าวอย่างเมามัน นานๆก็บินขึ้นไปพักบนต้นไม้กิ่งแห้งข้างทางเสียทีหนึ่ง
จอดรถดูอยู่ตรงนั้นสักพักและได้พบว่านกฝูงใหญ่นั้นคือนกกระจอก และไม่ได้เป็นนกกระจอกเพียงชนิดเดียวอย่างที่คิดแต่แรก แต่เป็นนกกระจอกถึง 3 ชนิดเลยทีเดียว
ประเทศไทยมีนกกระจอกประจำถิ่น (sparrow)อยู่ 3 ชนิดคือ นกกระจอกบ้าน Passer montanus (eurasian tree-sparrow) คือนกกระจอกที่เรารู้จักกันทั่วไป ตัวผู้และตัวเมียลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นนกประจำถิ่นที่พบได้ทั่วประเทศ จุดเด่นที่ใช้แยกออกจากกระจอกชนิดอื่นง่ายๆนอกจากสีสันก็คือมีปื้นสีดำข้างแก้มทั้งสองข้าง
ชนิดที่สอง นกกระจอกตาล Passer flaveolus (plain-backed sparrow) เป็นนกประจำถิ่นที่มีมากและพบได้ทั่วประเทศเช่นกัน แต่คนทั่วไปกลับไม่ค่อยรู้จัก
ตัวผู้และตัวเมียมีสีสันต่างกันมาก ตัวผู้มีจุดเด่นคือหัว หลังคอและตะโพกสีเขียวอมเทา แก้มและลำตัวด้านล่างสีเหลืองจางๆไปถึงเทา มีสีดำเป็นปื้นที่บริเวณคางลงมาถึงคอแล้วหยุดอยู่แค่นั้น ขณะที่ตัวเมียมีสีเรียบๆลำตัวด้านบนสีน้ำตาลอ่อน ด้านล่างสีนวลออกเหลือง แม้จะจำแนกยาก แต่ก็มักจำแนกไม่ผิดเพราะมักเห็นออกหากินอยู่กับตัวผู้เสมอ
ชนิดสุดท้ายคือนกกระจอกใหญ่ Passer domesticus (house sparrow) เมื่อดูชื่อสามัญแล้วอย่าคิดว่าเป็นนกกระจอกที่เราพบทุกวัน เพราะในบรรดากระจอกทั้ง 3 ชนิด ชนิดนี้เป็นชนิดที่หาพบได้ยากที่สุดในบ้านเรา(แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอาจเป็นนกที่หาง่าย) ตัวผู้และตัวเมียของเค้ามีสีสันแตกต่างกันเช่นเดียวกับกระจอกตาล จุดเด่นของตัวผู้คือมีหัวสีเทา และปื้นสีดำที่บริเวณคอจะลงมาถึงหน้าอกตอนบนกระจายออกเป็นวงค่อนข้างกว้าง ตัวเมียคล้ายของกระจอกตาลแต่บริเวณหลังมีลวดลายขณะที่ของกระจอกตาลจะเป็นหลังเรียบๆสมชื่อ plain-backed
เมื่อลงแขกเกี่ยวข้าว(เข้าท้อง)จนอิ่มหนำแล้วก็จะหาที่เกาะพัก ซึ่งในวันนี้ เค้าเลือกที่จะพักบนกิ่งก้านอันแห้งและโล่งของต้นมะขามเทศที่ยืนต้นตายบนถนนเล็กๆริมคันนาแห่งนี้ เป็นเหตุให้เราต้องแวะดู และถ่ายภาพ เก็บเกี่ยวความรื่นรมย์ของทุ่งนาภาคกลางที่นับวันจะน้อยลงไปทุกที
สีเขียวๆของท้องนา ลมที่พัดเย็นพอสบาย นกเล็กๆที่ส่งเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าว และหากินอย่างเอาจริงเอาจังโดยไม่ต้องมีใครหาเลี้ยงในกรงเล็กๆในวันนั้น ทำให้เรารู้สึกรักและหวงแหนในความอิสระของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่ได้อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ จะดีสักแค่ไหนถ้าทุกชีวิตสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกัน แต่ก็เป็นอิสระต่อกันได้อย่างนี้ตลอดไป
ข้อมูล : A Guide to the Birds of Thailand ของ น.พ.บุญส่ง เลขะกุล และ Philip D. Round
| Create Date : 21 ตุลาคม 2548 |
| Last Update : 29 ธันวาคม 2552 20:26:31 น. |
|
8 comments
|
| Counter : 3578 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ยัยบี๋  วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:23:16:08 น. |
|
|
|
| โดย: จันทร์น้อย วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:7:46:11 น. |
|
|
|
| โดย: ยุง บิน ชุม วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:14:06:28 น. |
|
|
|
| โดย: ป่ามืด วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:16:21:49 น. |
|
|
|
| โดย: 555 IP: 202.149.25.241 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:8:04:35 น. |
|
|
|
| โดย: นุ่น IP: 112.121.136.2 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:19:36:33 น. |
|
|
|
| โดย: โคชูจัง IP: 118.172.23.151 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:12:21:59 น. |
|
|
|
| โดย: ภูคา IP: 110.169.245.43 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:23:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
ไม่ต้องไปหาอาหารที่อื่นเลย
ชามข้าวของเจ้าแสบที่เค้ากินเหลือ หรือไม่กิน
นั่นแหล่ะ แหล่งอาหารของนกกระจอกเลยค่ะ..
วันดีคืนดี มาทะเลาะกันที่ลานหน้าบ้านอีก..
ส่วนใหญ่จะเห็นแต่นกกระจอกบ้านนะคะ
ประเภทอื่นไม่เคยเห็นเลยค่ะ..
เพิ่งเคยเห็นวันนี้เองค่ะ..