เราคัดสรรบริษัทประกันคุณภาพเพื่อคุณ ด้วยทางเลือกที่เหมาะสมในราคาที่คุณพึงพอใจ
|
|||
แง่คิดจากกองทุนโนเบล คุณ ๆ คงเคยได้ยินชื่อ อัลเฟรด เบิร์นฮาร์ด โนเบล มาแล้ว เขาเกิดในปี พ.ศ. 2376 และถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2439 เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน เป็นผู้คิดค้นทำดินระเบิดจนมั่งคั่ง จึงนำเงินที่ได้มาทั้งหมดตั้งเป็นกองทุนให้รางวัล ชื่อว่ารางวัลโนเบล เดือนตุลาคมของทุกปี คณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลจะประกาศรายชื่อบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งมีอยู่หลายสาขาด้วยกันเช่น สาขาฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ อักษรศาสตร์ รวมทั้งรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สำหรับผู้ที่นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์ในรอบปี ผู้ที่ได้รางวัลโนเบล ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของชีวิต ทุกคนไม่เพียงแต่ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ยังจะได้รับเงินรางวัล 1,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐอีกด้วย แต่ละปีคณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบล จะประกาศให้รางวัลรวม 5 สาขาด้วยกัน หมายความว่าทุกปีต้องจ่ายเงินรางวัล 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จึงมีคนอดถามไม่ได้ว่า กองทุนรางวัลโนเบลมีจำนวนเงินมากน้อยแค่ไหน จึงแบกรับภาระจ่ายเงินรางวัลจำนวนมหาศาลได้ทุกปี อันที่จริงความสำเร็จของกองทุนรางวัลโนเบล นอกจากเงินทุนของ อัลเฟรด เบิร์นฮาร์ด โนเบลแล้ว ต้องยกประโยชน์ให้แก่คณะกรรมการรางวัลโนเบลที่ลงทุนอย่างถูกทาง กองทุนรางวัลโนเบลก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2439 ด้วยเงินบริจาคจาก อัลเฟรด เบิร์นฮาร์ด โนเบล จำนวน 9,800,000 ดอลล่าร์สหรัฐ เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุน เพื่อจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ฉะนั้นการบริหารเงินกองทุนจะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเหตุนี้ตอนแรกจัดตั้งกองทุน ในระเบียบข้อบังคับระบุไว้อย่างชัดเจน ให้ลงทุนในกิจการที่มั่นคง ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน เช่นฝากเงินกับธนาคารและซื้อพันธบัตร ไม่สมควรลงทุนในหุ้นหรือธุรกิจที่ดินซึ่งมีความเสี่ยงสูง นี่เป็นวิธีการลงทุนที่ปลอดภัย แต่ผลจากการยอมสละผลตอบแทนสูง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ปรากฏว่า 50 ปีให้หลัง เงินรางวัลที่จ่ายออกไป บวกกับค่าใช้จ่ายในกิจกรรมของกองทุน เงินทุนของกองทุนรางวัลโนเบลหดหายไปถึงสองในสาม และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2496 เงินกองทุนก็ลดลงเหลือเพียง 3,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนรางวัลโนเบล พอเห็นเงินกองทุนร่อยหรอลง ค่อยตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่อปี พ.ศ. 2496 จึงแก้ไขข้อบังคับกองทุน จากเดิมซึ่งอนุญาตให้ฝากเงินธนาคารกับซื้อพันธบัตร เปลี่ยนเป็นลงทุนในตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ผลจากการเปลี่ยนแนวความคิดในการลงทุน ช่วยพลิกสถานะทางการเงินของกองทุนรางวัลโนเบล หลังจากนั้นเป็นต้นมาสามารถจ่ายเงินรางวัลโนเบลตามเดิมติดต่อกัน 40 ปี เมื่อถึง พ.ศ. 2536 ทางกองทุนไม่เพียงทำกำไรในส่วนที่ขาดทุนไปกลับคืนมา สินทรัพย์สุทธิของกองทุนรางวัลโนเบลยังสุงถึง 270 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ถ้าหากไม่เปลี่ยนแนวความคิดในการลงทุน ยังคงฝากเงินไว้กับธนาคารเป็นหลัก ทุกวันนี้คงไม่มีปัญญาจ่ายเงินรางวัล และคงจะล้มหายตายจากโลกไปแล้ว จากบทเรียนของกองทุนรางวัลโนเบล ทำให้กองทุนของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากเปลี่ยนแปลงวิธีการลงทุน แทนที่จะฝากเงินกับธนาคารหรือซื้อพันธบัตร จึงพากันหันไปซื้อหุ้นและถือครองอสังหาริมทรัพย์แทน คุณ ๆ อยากให้เงินทองที่หามาด้วยความยากลำบากผ่านไปอีกหลายสิบปี กลับหดตัวเหมือนกับกองทุนโนเบลในระยะแรก หรือเติบโตแบบก้าวกระโดดในภายหลัง ? ปัญหาอยู่ที่คุณลงทุนในรูปแบบอะไร ถ้าหากยังฝากเงินไว้กับธนาคาร รู้ตัวตอนนี้ยังไม่สาย กองทุนรางวัลโนเบลเพียงปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการลงทุน ทุกอย่างก็พลิกฟื้นดีขึ้น และอยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้ ----------------------------------------------------------- เป็นบทความดี ๆ อีกบทความนึงจากหนังสือขายดีมาก ๆ (พิมพ์ซ้ำกว่า 250 ครั้ง) ที่ไต้หวัน ซึ่งหมีพูได้อ่านมาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิตปี พ.ศ. 2540 ที่ช่วยจุดประกายการลงทุนให้หมีพูในเวลาต่อมา (คงจะตอบคำถามหลายคนได้นะครับ ที่เคยสงสัยกันว่าทำไมหมีพูถึงรับความเสี่ยงได้สูงมากๆ เพราะชอบแนะนำให้ลงทุนในหุ้น/กองทุนหุ้น) แสดงให้เห็นว่าการลงทุนสร้างฐานะไม่ต้องมีเทคนิคพิเศษอะไรซับซ้อน นอกจากขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดและอดออมแล้ว ยังอยู่ที่การปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการลงทุนให้ถูกต้องด้วยครับ ----------------------------------------------------------- คุณสามารถติดตามบทความดี ๆ ที่น่าสนใจเหล่านี้ได้ โดยคลิก MyBlog ของหมีพู ซึ่งอยู่หลังอมยิ้มครับ |
หมีพูหมูพี
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?] บริการแผนประกันที่คุ้มค่า ติดต่อ : CHAIJIT@hotmail.com โทร. : 086-3914220 Web : http://CHAIJIT.blogspot.com Group Blog All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |