A bit of a change in the living room... แว้บมาเขียนบล้อกตอนดึกๆ จริงๆหมดมุขคุย แต่พอดีว่าพึ่งเปลี่ยนหน้าตาของห้องนั่งเล่นนิดหน่อย เลยอยากเข้ามาแปะรูปให้ดูกันเล่นๆเพลินๆ เราสองคนอยู่บ้านหลังนี้ยังไม่ครบปีเลย แต่หน้าตาห้องนั่งเล่นดูเหมือนจะเปลี่ยนไปตลอดเวลานับจำนวนครั้งไม่ถ้วนจริงๆนะเนี่ย คนอื่นเค้าคงไม่เปลี่ยนนู่นย้ายนี่บ่อยและถี่เท่ากับฉันมั้งเนอะ อิอิ จะว่าไปต้องยกความดีให้กับนิสัยการชอบสะสมเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองที่ทำให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องน่าสนุก คือเราสามารถเอานั่นเอานี่มาใช้หมุนเวียน สลับสับเปลี่ยนกันไปได้เรื่อยๆตลอดเวลา เฟอร์นิเจอร์ที่ว่าไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรืออะไร อาจจะเป็นของที่คนอื่นให้มาบ้าง หรือหาซื้อเองบ้างตามเว็บขายของมือสองหรือตลาดนัดก็ได้ ดูผิวเผินการสะสมเฟอร์นิเจอร์เหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่จริงๆฉันว่าก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะเราต้องรู้จัก "เลือกเป็น" ด้วยว่าชิ้นไหนที่เอามาใช้แล้วจะทำให้บ้านดูดีขึ้น รวมไปถึงการรู้จักใช้จินตนาการเข้าร่วมด้วย เพราะเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้านบางชิ้นไม่ได้สวยหรือสมบูรณ์แบบโดยแรกเห็น แต่อาจจะต้องการการปรับปรุงซ่อมแซมนิดหน่อย ถึงจะดูดีในภายหลัง สรุปคือการแต่งบ้านให้ดูดีต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ และพลังสมองนั่นเอง กลับมาพูดถึงห้องนั่งเล่นต่อ สังเกตกันไหมว่าฉันทำอะไรไปบ้าง... ข้าวของย้ายที่ย้ายทางจากตำแหน่งเดิมไปหมด แต่ถ้าใครตามอ่านบล้อกของฉันมาตลอดก็อาจจะพอดูออกและเปรียบเทียบระหว่าง 'ก่อน' กับ 'หลัง' กันได้เนอะ อย่างแรกคือเตาผิงที่ฉันจัดการเปลี่ยนหน้าตาให้นิืดหน่อย ตอนแรกตั้งใจแค่จะกำจัดกองฟืนที่ตัวมอดขึ้นกิน แต่ไปๆมาๆก็จัดการกับกระเบื้องในเตาด้วย ด้วยการติดวอลเปเปอร์ทับลงไป (วอลฯนี้เป็นของที่เหลือจากบ้านหลังเก่านั่นเอง) อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่ชอบหน้าตาเดิมๆของเตาผิงอยู่แล้วด้วยมั้ง พอได้โอกาสเลยขอจัดการซะหน่อย ถ้าเพื่อนๆสนใจอยากรู้หน้าตาก่อนหน้านี้เป็นยังไงก็ลองคลิกหาดูในบล้อกเก่าๆได้ตามสบายเลยจ้า เดี๋ยวอีกไม่กี่วันฉันก็จะทาสีทับอิฐเปลือยกับโครงไม้รอบๆเตาด้วย เพราะว่าหน้าตาตอนนี้มันไม่เข้ากับโทนของห้องเลย ไว้ทำเสร็จเมื่อไหร่แล้วจะมาอัพเดตให้ดูกันอีกทีนะจ้ะ . . . อย่างที่สองคือโต๊ะวางทีวี แต่เดิมที่วางทีวีคือตู้เหล็กสีแดง แต่เพราะใช้มานานเลยชักจะรู้สึกเบื่อ สองสามวันก่อนฉันเลยเข้าไปเดินด้อมๆมองๆในห้องเก็บของว่าน่าจะมีอะไรที่เอามาใช้ทดแทนกันได้ ก็เห็นตู้ลิ้นชักไม้นี้ที่มีคนรู้จักให้มาเมื่อหลายปีก่อน (แต่ไม่เคยเอามาใช้เลย) จากนั้นเลยตัดสินใจเอามาทาสี และเปลี่ยนรูปโฉมอีกนิดหน่อยด้วยการติดที่จับลิ้นชักพอร์ซเลนลายน่ารักๆแทนอันเดิม สุดท้ายก็ได้ตู้สีขาวคลาสสิคมาวางทีวีอย่างที่เห็นในรูป (ทีวีเก่าและล้าสมัยมาก คือตั้งแต่เราโดนขโมยขึ้นบ้านเมื่อ 2-3 ปีก่อนและทีวีจอแบนใหม่แกะกล่องของเราโดนขโมยแบกไปด้วย เราสองคนก็ไม่ได้ซื้อใหม่อีกเลย แบบว่าเจ็บใจ ดูสิเจ้าหัวขโมย..ลองมาขึ้นบ้านเราอีกสิ คราวนี้จะกล้าแบกทีวีอ้วนๆหนักๆนี่ไปด้วยมั้ย ฮึ่มมมม...) . . พอทั้งห้องมีแต่เฟอร์นิเจอร์สีขาว โต๊ะกลางที่อยู่หน้าโซฟาก็ไม่เข้าพวกอีก ฉันเลยตัดสินใจเอาสีมาทาทับให้ด้วย สีที่ใช้คือสีขาวอมชมพูนิดๆ(ใช้วิธีเอาสีแดงหยดลงไปนิดนึงในสีขาว) เพิ่มโทนหวานและอบอุ่นให้กับห้องได้ดีทีเดียว พอทำทั้งหมดนี่เสร็จ + ย้ายตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ทั้งห้อง ก็ได้ผลงานออกมาอย่างที่เห็นในรูป สนุกดีเหมือนกันนะ ฉันง่วนๆอยู่ที่ห้องนี้คนเดียวทั้งบ่ายเลย ที่ใช้เวลานานเพราะกว่าจะหาตำแหน่งที่ลงตัวให้กับข้าวของและเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นได้นี่ก็ทั้งหมุน ทั้งผลัก ทั้งย้ายไม่รู้กี่รอบเลยทีเดียว หวังว่าบล้อกนี้คงถูกใจผู้อ่านที่สนใจการแต่งบ้านนะจ้ะ ขอตัวไปซะดื้อๆแบบนี้แหละ แล้วเจอกันใหม่จ้าาาา... ปล.อ่านๆดูแล้วเหมือนฉันจะขยันและมีเวลามากมายให้กับบ้าน แต่อยากจะสารภาพว่าที่เห็นทำนั่นทำนี่ จริงๆต้องทำนอกเวลาหรือทำสลับกับเวลาไปเรียนกับทำงานน่ะ บางทีก็เหนื่อย แต่ส่วนมากจะสนุกมากกว่า โชคดีที่เป็นคนไฮเปอร์และมีพลังงานเหลือเฟือนะเนี่ย สาธุ..โอมเพี้ยง ขอให้ตัวเองแข็งแรงอย่างนี้ตลอดไปเถ๊อะ   Create Date : 12 พฤษภาคม 2554     Last Update : 15 มิถุนายน 2560 1:09:09 น. Counter : 3149 Pageviews.   22 comment Share Tweet

อัพเดตห้องครัว กับ สามโปรเจ็คในฝัน... My country-kitsch kitchen... ^_^ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ของแพทริคขับรถมาเยี่ยมเราสองคนที่บ้าน (บ้านพ่อกับแม่ไกลออกไปราวๆหนึ่งชั่วโมง) ฉันเลยถือโอกาสนี้วานให้พ่อช่วยติดโคมไฟตรงเหนือโต๊ะกินข้าวในครัวให้ด้วย งานแบบนี้แพทริคยังไม่กล้าทำเองเพราะต้องมีการตัด-ต่อสายไฟ เลยให้พ่อที่เคยเป็นช่างมาก่อนช่วยทำให้ โคมไฟสีแดงนี้ฉันซื้อมาจากร้านที่ทำงานล่ะ น่ารักดีมั้ย อิอิ เข้ากับผนังครัวด้วยเนอะ จริงๆเล็งไว้มานานมากๆแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มทำงานที่นั่นด้วยซ้ำ แต่ตอนนู้นไม่รู้จะเอาไปใช้กับห้องไหนเลยไม่ได้ซื้อ จนเวลาผ่านไปและย้ายมาบ้านหลังนี้ และทำห้องครัวออกมาหน้าตาแบบนี้ เลยกลับมานึกถึงโคมไฟตัวนี้อีก และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ จะว่าไปรูปนี้เอาลงเฟซบุคเมื่อหลายวันก่อน แต่วันนี้เอามาลงที่นี่ด้วยเผื่อคนอ่านในบล็อกอยากเห็นบ้างเนอะ เห็นผนังไม้สีขาวกันมั้ย ทาสีแล้วน้าาาา ไม่รู้ยังจำกันได้หรือป่าวจากบล็อกนี้ ตอนนั้นยังสีไม้เก่าๆอยู่ ตอนนี้ในครัวก็เหลือทำผ้าม่านใหม่ กับจัดการกับผนังอีกนิดหน่อย ใกล้ความจริงเข้าไปทีละนิดๆล่ะเนอะ หวังว่าก่อนสิ้นปีจะได้ย้ายไปทำชั้นบนได้ซะทีนะเนี่ย . . . . นอกจากอัพเดตเรื่องห้องครัวแล้ววันนี้อยากเล่าถึงโปรเจ็คในฝันของตัวเองให้เพื่อนๆรู้ด้วย (จะมีใครอยากรู้มั้ยเนี่ย) โปรเจ็คที่ว่าหมายถึงสิ่งที่ตั้งใจอยากทำให้กับชีวิตตัวเองในอนาคตน่ะ คือบ้านที่อยู่นี่ก็ยังทำยังต้องแต่งไปตามปกติ แต่ถ้าบ้านเสร็จเมื่อไหร่และเรามีความพร้อม(โดยเฉพาะด้านการเงิน) ก็อยากทำโปรเจ็คในฝันเหล่านี้ให้สำเร็จ อิอิ มาดูกันดีกว่าว่าโปรเจ็คที่ว่ามีอะไรบ้าง... ขออนุญาตใช้รูปอธิบายดีกว่า ง่ายดีเนอะ จะได้เห็นภาพตามไปด้วย 1. Loft conversion : สตูดิโอทำงานส่วนตัว โปรเจ็คนี้เริ่มคิดมาตั้งแต่เห็นบ้านหลังนี้ครั้งแรกแล้วล่ะ ออกแนว loft conversion คืออยากเปลี่ยนห้องใต้หลังคาเหนือโรงรถมาเป็นสตูดิโอสำหรับทำงานวาดรูปและงานฝีมือจิปาถะที่ตัวเองชอบน่ะ แต่สภาพตอนนี้คุณผู้อ่านต้องจินตนาการตามไปด้วยนะจ้ะ เพราะมันไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นที่โล่งๆ ถ้าภาษานักตกแต่งเวลาดูรายการแต่งบ้านฝรั่ง เค้าจะพูดประมาณว่า "It's a blank canvas. You can do whatever you want with this space." มาดูรูปตามกันไปดีกว่า... ทางขึ้นอยู่ตรงนี้ สูงและชันมาก ถ้าทำจริงๆคงต้องทำบันไดใหม่ ปีนขึ้นไปดูกันว่าห้องข้างบนหน้าตายังไง ขึ้นมาแล้วววว มืดๆ ทึมๆ และน่ากลัวหน่อยๆ เพราะแสงเข้าน้อย มองลงไปข้างล่าง....หวาดเสียววววว แต่ว่าพื้นที่กว้างขวางใช้ได้เลยทีเดียว แถมเจ้าของเดิมทำผนังกั้นห้องเล็กๆแยกส่วนออกไปอีกด้วย และถึงจะเป็นห้องใต้หลังคาก็จริง แต่คนสูงโย่งก็ยืนได้นะ อย่างแพทริค เป็นต้น (แพทริคสูงเกือบสองเมตรน่ะ) แต่คงต้องยืนแต่ตรงกลางนะ อิอิ ถ้าจะให้ดีต้องเจาะหน้าต่างตรงหลังคาเพิ่ม หน้าต่างแบบนี้ที่ฮอลแลนด์เรียกว่า dakkapel หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า dormer window (คนละแบบกับ skylight) ซึ่งนอกจากจะเพิ่มแสงแล้ว ยังเพิ่มความสูงและความกว้างของเพดานที่ลาดต่ำด้วย อีกด้านนึง... ต้องทำราวจับด้วย ไม่งั้นเผลอๆอาจจะหล่นตุ๊บลงไปได้ ฮี่ๆๆ วิวตรงหน้าต่างด้านหลัง มองเห็นสวนหลังบ้านด้วย วันนี้อากาศครึ้มๆเนอะ 2. Shed conversion : ห้องชมสวน โปรเจ็คนี้จริงๆมีห้องเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน แต่ว่าต้องปรับปรุงนิดหน่อยถ้าจะให้ห้องนี้เป็นห้องที่ใช้พักผ่อนได้ ห้องนี้เจ้าของเดิมทำไว้น่ะ จะว่าไปก็ยังใหม่อยู่และทำจากไม้ทั้งหลัง เป็นส่วนที่ต่อเติมมาจากโรงรถอีกที โครงสร้างที่เค้าทำไว้แข็งแรงมั่นคงดีทีเดียวล่ะ เสียแต่ว่าไม่มีหน้าต่าง แต่ถ้าทำหน้าต่างเองคงไม่ยากเท่าไหร่ เลยมีแววว่าห้องนี้น่าจะเป็นจริงได้เร็วกว่าโปรเจ็คแรกนะ มาดูข้างในกันดีกว่า แฮ่ๆ ตอนนี้ใช้เป็นห้องเก็บของไปพลางๆก่อน รกมากๆเลย รั้วไม้ที่พิงกันเป็นตับตรงผนังนี่แหละที่เราสองคนแกะออกมาเป็นแผ่นๆ วัดและเลื่อยแล้วเอามาแปะที่ห้องครัว ไอเดียนี้ฉันคิดเองแหละ(แต่ได้แรงบันดาลใจมาจากที่ทำงานอีกที)เพราะอยากได้ครัวสไตล์คันทรี่นี่เนอะ เลยใช้วิธีง่ายๆแบบนี้เลย ด้านหลังที่หันไปทางสวน ตรงนี้ฉันก็จะทำหน้าต่างเพิ่มเหมือนกัน คงเป็นหน้าต่างแบบกว้างไปเลย จะได้เห็นวิวพาโนรามาของสวนได้ชัดเนอะ ลองจินตนาการกันเล่นๆว่าถ้าทำเสร็จแล้วห้องนี้จะเป็นสีขาวทั้งหลังเลย มีหน้าต่างมองเห็นวิวสวนรอบทิศทาง ด้านในมีที่นั่งสบายๆไว้จิบชากาแฟ มีกองหนังสือข้างๆ ตกแต่งสไตล์น่ารักๆ ให้บรรยากาศอบอุ่นๆ อะไรแบบนี้ ว้าววววว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ววววว ใครสนใจอยากมานั่งชมสวนเป็นเพื่อนเจ้าของบ้านบ้างค๊าาาา.... (หลังคาจั่วสูงมีหน้าต่างบานเดียวนั่นเป็นห้องใต้หลังคาของโรงรถที่เราปีนขึ้นไปเมื่อกี้ไง ^_^) 3. Extra land : ซื้อที่ดินหลังบ้านเพิ่มจาก Grietje (คุณยายเพื่อนบ้าน) คือตอนนี้ที่ดินของ Grietje มันจะยาวอ้อมมาถึงด้านหลังของที่ดินเราด้วยน่ะ ในอนาคตถ้า Grietje ตกลงขาย(ตรงส่วนพื้นที่ที่เป็นสีเขียวกับป่าที่เห็นในรูป) เราสองคนก็อยากซื้อเก็บไว้ ถ้าซื้อแล้วจะเอาไว้ทำอะไรเหรอ อืมม...ตอนแรกว่าจะทำห้องพัก แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า อยากเอาไว้ปลูกดอกไม้และต้นไม้มากกว่า และขยายเนื้อที่สวนออกไป เนื้อที่ส่วนหนึ่งจะเอาเลี้ยงไก่ฝูงเล็กๆด้วย อิอิ ที่อยากปลูกดอกเพราะเวลาวาดรูปฉันจะถนัดวาดดอกไม้ที่สุด เลยว่างั้นเรามาปลูกดอกไม้กันเยอะๆ แล้วเอาดอกไม้ใบหญ้าจากสวนของเรานี่แหละมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะของตัวเอง ดอกอีกส่วนหนึ่งก็ตัดแจกชาวบ้าน หรือตั้งโต๊ะขายเล็กๆหน้าบ้านก็ได้ (ขายพร้อมกับไข่ไก่ด้วย คงเข้าท่าเนอะ) โปรเจ็คซื้อที่ดินนี้อาจจะเป็นไปได้ช้าที่สุดและยากสุด เพราะถ้าจะซื้อ ราคาที่ดินคงไม่ถูกแน่นอน แต่อะไรก็ไม่แน่นอนใช่ไหม อาจจะเป็นไปได้ในเร็ววันนี้ก็ได้ ใครจะรู้เนอะ Dream on..... . . . . ฟัง(อ่าน)ที่ฉันโม้กันเพลินดีไหม เอาพอหอมปากหอมคอเนอะ อิอิ... ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะจ้ะ รวมไปถึงคำชมและกำลังใจในบล็อกก่อนหน้านี้ด้วย ถ้าใครมีฝันอะไรไว้ในใจแล้วอยากแชร์บ้าง ก็ลองเล่าให้กันฟังในนี้ก็ได้นะ ความฝันเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็คือลงมือทำฝันนั้นให้เป็นจริงใช่ไหม คือการลงมือนั้นสำคัญสุด และสุดท้าย...ฝันนั้นจะเป็นจริงหรือสำเร็จหรือไม่นั้นมันคืออีกเรื่องนึง อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำแล้วเนอะ โอเค...งั้นมาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า ก่อนไป...ลากันด้วยดอกไม้น่ารักๆจากสวน ฤดูใบไม้ผลิใกล้มาถึงแล้วล่ะ ต้นไม้ดอกไม้เลยเริ่มโผล่มาให้เห็นอีกครั้ง ดีใจจัง ไม่ต้องทนหนาวแล้ววววว หมายเหตุ : พูดถึงเรื่องวาดๆ ผลงานวาดล่าสุดของฉันคือรูปนกเขาที่วาดเป็นของขวัญให้หัวหน้าเมื่อตอนปีใหม่ ที่วาดนกชนิดนี้เพราะพอดีว่าชื่อร้านมันหมายถึงนกเขา(นกพิราบ)ไม้น่ะ รูปมันใหญ่มากเลยเอาไปแปะไว้"ที่นี่"แทน ส่วนรูปผลงานวาดทั้งหมด (ที่พอจะอวดได้ อิอิ) ฉันพึ่งรวบรวมไว้ในบล็อกนี้ เผื่อใครสนใจลองคลิกเข้าไปดูกันได้ตามสะดวกนะจ้ะ บ๊าย บาย จ้าาา แล้วเจอกันใหม่   Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2554     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2554 0:34:33 น. Counter : 5161 Pageviews.   21 comment Share Tweet

Wall of frames and the yarn closet makeover... นั่งจ้องหน้าคอมนานมาก แต่กลับนึกประโยคแรกที่จะเขียนในบล็อกวันนี้ไม่ออกแฮะ... ทุกครั้งที่มาเขียนบล็อก จะชอบสมมติตัวเองว่ากำลังเขียนหนังสืออยู่ เลยใช้เวลาค่อนข้างนาน(นานมากกกกก)กว่าจะนึกออกว่าจะเขียนอะไรดี เพราะเราเขียนให้คนอื่นอ่านใช่ไหม ทุกถ้อยคำที่พิมพ์ออกไปเลยต้องพินิจพิเคราะห์หน่อย นอกจากนั้นก็เปรียบเทียบกับความรู้สึกตัวเองเวลาเข้าไปอ่านบล็อกของคนอื่นด้วย ใครบ้างล่ะจะไม่ชอบบล็อกที่มีเนื้อหาดีหรือเขียนได้ดี ใช่ไหม อ่านแล้วดูเหมือนจะจริงจังกับบล็อก แต่จริงๆไม่เลย จะเป็นแบบนี้เฉพาะเวลาที่เข้ามาเขียนเรื่องใหม่ลงในนี้เท่านั้นน่ะ พอเขียนเสร็จก็โล่ง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มาเยือนหรือผู้ที่เข้ามาอ่านต่อไป พูดง่ายๆก็คือความเคลื่อนไหวในบล็อก ขึ้นอยู่กับคนอ่านนั่นเอง จะว่าไปออกแนวเป็นบล็อกเกอร์ขี้เกียจนะเนี่ยเพราะโยนภาระให้คนอ่านซะงั้น อิอิ เอาเป็นว่าขี้เกียจ แต่ทุกครั้งที่โผล่มา ก็โผล่มาพร้อมกับเรื่องดีๆที่ตั้งใจมาเขียนให้อ่านกันเนอะ กองไหมพรมก่อนจัดเข้าตู้ จริงๆต้องทาสีประตูห้องใหม่ด้วย แต่ว่าขี้เกียจ เลยปล่อยให้เป็นสีส้มเหลืองแบบนี้ไปก่ิอน อิอิ เข้าเรื่องดีกว่า... ช่วงนี้จริงๆรู้สึกเบื่อๆกับอะไรไม่รู้ สมองตื้อๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ก็พยายามหานั่นหานี่ทำแก้เซ็งไป พอดีวันก่อนตอนไปรื้อไหมพรมออกมาจากกล่องเพื่อมาทำงานถัก ปรากฏว่าไหมพันกันวุ่นวาย น่ารำคาญมากๆ เพราะตั้งแต่ย้ายมาบ้านนี้ ยังไม่ได้เอาไหมออกมาเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อยเลย จริงๆก็คิดมาซักระยะแล้วล่ะเรื่องจัดการกับไหมพรม แต่ก็ผลัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ ทุกอย่างเลยสุมๆกองกันไว้ คราวนี้เลยบอกตัวเองว่าถึงเวลาต้องลงมือจัดการให้เรียบร้อยเสียที ยังจำตู้ไหมพรมที่เคยเขียนในบล็อกนี้ได้ไหม ฉันก็ยังใช้อันเดิมอยู่ แต่ไหนๆมาอยู่บ้านใหม่และสถานที่ใหม่แล้ว เลยขอแปลงโฉมให้ตู้ไหมใหม่ด้วยดีกว่า จริงๆก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ทาสีขาวทับแค่นั้นเอง ส่วนด้านหลังก็ติดวอลเปเปอร์ลายดอกที่เหลือมาจากบ้านหลังเก่าทับลงไปเพื่อความเรียบร้อย ออกมาก็หน้าตาดังรูป พอสีแห้งดีแล้วก็รื้อไหมพรมออกมาจากกล่อง ใส่เข้าตู้แยกตามโทนสี แค่นี้ก็เป็นอันว่าเสร็จ ตู้นี้ฉันเอามาวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นไปพลางๆก่อนเพราะยังหาสถานที่ถาวรให้ไม่ได้เลย และนอกจากจากจัดการกับตู้ไหมเสร็จ ก็ต้องจัดการกับผนังด้านที่เอาตู้ไหมมาวางด้วย ไม่งั้นคงจะดูแปลกๆยังไงพิกลถ้ามีแค่ตู้สูงๆผอมๆตั้งโด่อยู่อันเดียวใช่ไหม ซึ่งก็ง่ายมาก ก็ใช้วิธีเอาภาพมาแขวนผนังให้เต็มแบบนี้แหละ อิอิ ทำไปทำมา แต่งไปแต่งมา สุดท้ายก็ออกมาแนวน่ารักสีสันสดใสเหมือนเคยอีกแล้ว เหอๆๆๆ อ้อ...มีคนชอบถามฉันว่าวาดรูปเองได้ มีงานวาดเก็บไว้เยอะแยะ แต่ทำไมไม่เอามาใส่กรอบโชว์ในบ้านบ้าง? อืมมม...จริงๆก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาจจะเพราะว่าขี้เกียจหากรอบมาใส่มั้ง ฮี่ๆๆ แต่คราวนี้ไม่ขี้เกียจล่ะ เลยจัดการเลือกเอางาน3-4 ชิ้นมาใส่กรอบโชว์ที่ผนังอีกด้านข้างเตาผิงด้วย เป็นงานเซ็ตดอกไม้ทั้งหมดเลย จริงๆยังมีงานวาดเหลืออีกเยอะมาก (ส่วนมากเป็นงานสีน้ำ เพราะเป็นสีที่วาดถนัดที่สุด) แต่ว่ายังหากรอบที่ถูกใจไม่ได้น่ะ ไว้ค่อยทะยอยๆเอามาโชว์ละกันเนอะ ไม่รู้จะคุยอะไรต่อดี งั้นขอจบดื้อๆแบบนี้เลยละกัน ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะจ้ะ แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าจ้าาาา...   Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2554     Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2554 3:35:03 น. Counter : 2538 Pageviews.   18 comment Share Tweet

Another armchair slipcover!...ผ้าคลุมเก้าอี้ (อีกแล้ว) ผ้าคลุมสำหรับอาร์มแชร์ตัวที่สองเสร็จแล้ววว ดีใจจัง... จริงๆทำเสร็จมาหลายวันแล้วล่ะ แต่มัวโอ้ๆเอ้ๆไม่ได้ถ่ายรูปเสียที อากาศช่วงนี้ก็ครึ้มๆเกือบทุกวันด้วย เลยต้องรอจังหวะแสงดีๆสวยๆหน่อย คนเข้ามาอ่านอาจจะคิด "ผ้าคลุมอีกแล้วเหรออออ?" เพราะคราวที่แล้วก็ผ้าคลุม อาจจะเบื่อกันหรือเปล่า แต่คนทำยังไม่เบื่อเลย อิอิ กลับสนุกด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยิ่งทำยิ่งสนุก นี่ถ้าหาผ้าที่ถูกใจได้ ก็จะทำอีกอันให้โซฟาตัวใหญ่ด้วย เพราะของเก่ามันเก่าจริงๆ ตอนแรกนี่สังเกตไม่ชัดเท่าไหร่ถึงความเก่า แต่พอมาวางข้างๆเจ้าเก้าอี้สองตัวที่มีผ้าคลุมใหม่นี่แล้ว อวู..ว เห็นชัดเลย กลับมาคุยเรื่องผ้าคลุมลายตารางแดง-ขาวผืนนี้ต่อดีกว่า วิธีทำและวิธีเย็บก็เหมือนคราวที่แล้วเป๊ะ แต่คราวนี้ฉันรู้สึกว่าทำไวขึ้น และปราณีตขึ้นด้วย อาจจะเป็นเพราะว่าพอทำบ่อยๆก็เลยคล่องขึ้นมั้ง คราวนี้ใช้ผ้าไปเกือบๆสามเมตรเหมือนเดิมและเป็นผ้ามาจาก Ikea ลายตารางแบบนี้จะว่าไปก็เข้ากับบ้านของเรามากๆ ตอนนี้การตกแต่งสไตล์คอทเทจของเราเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอีกนิดนึง อิอิ และเหมือนเดิมว่ายังคงเน้นคอนเซ็ปท์ cozy ไม่เปลี่ยน เก้าอี้สีแดงตัวนี้จริงๆก็ถือเป็นเก้าอี้ประจำตำแหน่งของแพทริคไปซะแล้ว เวลาเอาคอมมาทำงานหน้าทีวี แพทริคบอกว่านั่งสบายมากๆ แถมมันช่างเข้ากันดีกับเตาผิง(ปลอม)ของเรามากๆด้วย เลยขอจองนั่งประจำซะเลย อิอิ เห็นหมอนแกรนนี่ฯดาวกระจายสีขาว-ครีม-น้ำตาลกันไหม ใบนี้นี่ก็พึ่งถักเสร็จหมาดๆ ใครสนใจอยากลองถักลายนี้ก็เข้าไปดูวิธีทำในบล็อกนี้ได้เลย จริงๆตอนนี้ก็มีโปรเจ็คเข้าแถวรอให้ทำอีกเพียบ ซึ่งก็ไม่พ้นที่เกี่ยวกับงานแต่งบ้านเหมือนเดิม แต่ยังไม่บอกดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไว้ติดตามกันต่อไปเนอะ ปล. เวลาโทรคุยกับแม่ ฉันมักจะเล่าถึงสิ่งที่ฉันทำ งานอดิเรกต่างๆ รวมไปถึงเรื่องราวในบล็อกที่ฉันเขียนด้วย พอดีกับช่วงนี้แม่ไปเข้าคอร์สเรียนคอมพิวเตอร์แบบเบสิคๆที่เค้ามาสอนฟรีแถวๆบ้าน แม่เลยขอที่อยู่บล็อก เพราะอยากเข้ามาดูว่าฉันเขียนอะไรในนี้บ้าง หลังจากนั้นตอนได้คุยกันอีกแม่ถามฉันว่า... "ที่เห็นทั้งหมดในบล็อกนี่บ้านของลูกจริงๆเหรอ?" ฮะๆๆ แม่ก็ถามแปลก "ถ้าไม่ใช่บ้านลูกแล้วจะบ้านใครล่ะจ้ะแม่ เหอๆๆๆ"   Create Date : 22 มกราคม 2554     Last Update : 23 มกราคม 2554 4:41:30 น. Counter : 5531 Pageviews.   25 comment Share Tweet

How to crochet a 'circle granny square' and Merry Christmas from Tobey! (again)... เห็นรูปข้างบนนี่ไหม... แกรนนี่สแควร์ฟีเวอร์อีกแล้ว ไม่ได้จับเข็มโครเชท์ซะนานเลยตั้งแต่ยุ่งๆกับการย้ายบ้านและจัดบ้าน แต่วันก่อนอยู่ๆกลับมีอารมณ์อยากหยิบเข็มกับไหมมาถักซะงั้น อย่างงี้แหละเนอะตามอารมณ์ศิลปิน วันนึงทำอย่างนึง อีกวันทำอีกอย่าง...อิอิ งานถักวันนี้ก็ไม่พ้นงานในตระกูลแกรนนี่สแควร์เหมือนเดิม หวังว่าคงยังไม่เบื่อกันเนอะ ก่อนหน้านี้ที่ฉันเริ่มเอางานถักแกรนนี่มาเขียนฮาวทูเป็นเรื่องเป็นราว ปรากฏว่าได้รับฟี้ดแบ็คดีเกินคาด อาจจะเป็นเพราะคนเริ่มเห็นแล้วว่างานถักลายธรรมด๊าธรรมดา แต่ก็เอามาแต่งบ้านให้เก๋ไก๋ได้ หลายคนก็หันมาลองถักดู พอถักกันเป็นแล้วก็ติดหนึบด้วยใช่ไหม ฮี่ๆๆ ดีจัง แต่วันนี้อยากเอาลายใหม่มานำเสนอ ซึ่งก็คือลายวงกลมธรรมดาๆนั่นเอง ที่มาที่ไปก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรมาก คือฉันแค่อยากถักอะไรที่ออกแนวกลมๆจุดๆ แต่พอลองกูเกิ้ลหาดู ก็ไม่เจอแบบที่ถูกใจ เลยตัดสินใจคิดลายขึ้นมาเอง ออกมาเลยได้หน้าตาอย่างที่เห็น วิธีทำก็ไม่ยากเลย สำหรับคนถักเป็นอยู่แล้วก็คงยิ่งง่าย อาจจะแค่ดูรูปก็เข้าใจโดยไม่ต้องอ่านวิธีทำก็ได้ แต่สำหรับมือใหม่หัดถัก ถ้าไม่เข้าใจสัญลักษณ์หรือคำอธิบายตรงไหนก็ทิ้งข้อความถามได้ตามสบายเลยจ้าาา ไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ... (เตรียมตัวมึนกันได้เลย...) เริ่มต้นที่ ch 3 หรือถักโซ่สามครั้ง (ปกติจะใช้ 4 แต่สำหรับลายนี้ลองดูแล้วรูมันจะกลวงโบ๋เกินไปตอนชิ้นงานเสร็จ) แถวที่ 1... 12 sc หรือถักซิงเกิ้ลโครเชท์ 12 ครั้ง แถวที่ 2... แต่ละช่องไฟถักสลับกันระหว่าง 1 sc กับ 2 sc งงมั้ยเอ่ย... หรืออธิบายอีกแบบคือ 1 sc + 2 sc + 1 sc + 2 sc.... ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อยๆจนครบรอบ เวลาถักก็ลองนับกันไปแบบ หนึ่ง สอง หนึ่ง สอง หนึ่ง ฯลฯ แถวที่ 3... ถัก 1 sc ธรรมดาไปเรื่อยๆจนครบรอบ แถวที่ 4... ทำเหมือนแถวที่ 2 ไปเรื่อยๆจนครบรอบ แถวที่ 5... ถัก 1 sc ธรรมดาไปเรื่อยๆจนครบรอบ แถวที่ 6... หรือแถวสุดท้าย ทำเหมือนแถวที่ 2 ไปเรื่อยๆจนครบรอบ ถึงตอนนี้ถ้านับดูแล้วจะมี 44 ช่องไฟพอดี จริงๆตอนถักแต่ละแถวฉันก็ไม่ได้นับเป๊ะๆอยู่ตลอดเวลา แต่คือถักไปเรื่อยๆแล้วมันลงตัวที่ 44 พอดีทุกที หรือถ้าถักๆไปแล้วสุดท้ายมันขาดหรือเกินจากนี้ ก็พยายามลดหรือเพิ่มได้ในแถวสุดท้าย คือทำยังไงก็ได้ แต่คือให้ลงตัวที่ 44 น่ะ ดูเหมือนมั่วนะเนี่ย แต่มันใช้ได้จริงๆน่ะ (เคล็ดลับของการถักโครเชท์ให้สนุกคือต้องไม่ยึดติดกับหลักการมาก ยืดหยุ่นบ้างเมื่อถึงโอกาส ฮี่ๆๆ) อ้อ..ลืมบอกไป เหตุผลที่แต่ละแถวทำสลับกันแบบนี้เพื่อไม่ให้วงกลมบานหรือห่อตัวเกินไปน่ะ ต่อไปเป็นขั้นตอนของการเปลี่ยนรูปทรงกลมให้เป็นสี่เหลี่ยม A. เริ่มต้นด้วย ch 3 + 1 dc ในช่องเดียวกัน ส่วนตรงนี้จะกลายเป็นมุมของสี่เหลี่ยม B. ต่อไปก็ถัก 1 hdc ไปอีกสามครั้งในแต่ละช่อง (ดูวิธีการ half double crochet ได้ที่นี่) C. ตามด้วย 1 sc ไปอีกสี่ครั้งในแต่ละช่อง D. และ 1 hdc อีกสามครั้ง สุดท้ายจะได้ออกมาหน้าตาดังรูป E. จากนั้นถัก 1dc + ch 1 + 1 dc ในช่องเดียวกัน ถึงตอนนี้ก็ได้มุมเพิ่มมาอีก และทรงกลมเริ่มจะเห็นเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมแล้ว ทำซ้ำขั้นตอน A - E ไปจนครบทั้งสี่ด้าน ตอนนี้จากทรงกลมก็กลายมาเป็นสี่เหลี่ยมอย่างที่เห็น สามรูปข้างบนสาธิตวิธีการถักเพิ่มอีกแถว ด้วยการเริ่มต้นมุมด้วย ch 2 + 1 dc + ch 1 + 2 dc ต่อไปตามด้วย 1 dc ไปเรื่อยๆจนถึงมุมก็ถัก 2 dc + ch 1 + 2 dc อีก ทำซ้ำจนครบรอบ ก็จะได้ออกมาดังรูป และใกล้เสร็จหนึ่งชิ้นแล้ว... แล้วมาถึงส่วนของไหมสีดำ จริงๆส่วนนี้ถือเป็น optional คือใครจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ทำออกมาแล้วก็สวยดี เพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาอีกนิด งั้นมาเริ่มสีดำกันต่อละกัน... เริ่มต้นด้วย ch 2 + 2 dc จากนั้นเว้นช่องไฟนับไปสามช่อง ก่อนจะถักต่อด้วย 3 dc + ch 1 ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนถึงมุมก็ถัก 3 dc + ch 1 + 3 dc เมื่อทำครบทั้งสี่ด้านก็เป็นอันว่าเสร็จและได้แกรนนี่สแควร์มาหนึ่งชิ้น หลังจากนี้ก็เริ่มถักชิ้นใหม่ต่อไปได้เลย แล้วนำแต่ละชิ้นมาเย็บต่อกันทีหลัง หรือใครจะเลือกวิธีการ 'ถักไปด้วยต่อไปด้วย' อย่างที่ฉันทำก็ได้ แบบนี้ก็เร็วดีเหมือนกัน ถ้าหากใครสนใจวิธี 'ถักไปด้วยต่อไปด้วย' ก็ลองเข้าไปดูวิธีการจากบล็อกนี้ได้ ไม่รู้จะถูกใจลายนี้กันหรือเปล่า แล้วอ่านแล้วงงกันมั้ยเนี่ย ถ้างงก็ขออภัยด้วยจ้าาา สำหรับวันนี้ไว้แค่นี้ก่อนดีกว่าก่อนที่หลายคนจะมึนกับ ch sc dc hdc ไปมากกว่านี้ อิอิ ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสฉันจะลองหาลายใหม่ๆน่าสนใจๆมาทำให้ดูกันอีก อ้อ...พรุ่งนี้ก็ถึงวันคริสต์มาสแล้ว ตามธรรมเนียมของบล็อกนี้ ขออนุญาตส่งต่อให้โทบี้เป็นคนอวยพรน้าาา "หวัดดีคร้าบบบบ ผมโทบี้โผล่หน้ามาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อยากจะบอกทุกคนว่า Merry Christmas and Happy New Year สุขสันต์วันคริสต์มาสและขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคร้าบบบ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข พบเจอแต่สิ่งดีๆและคนดีๆ สุขภาพกายและใจสมบูรณ์แข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนานะคร้าบบบ บายๆๆๆๆ แล้วเจอกันใหม่ครับผม!!..."   Create Date : 25 ธันวาคม 2553     Last Update : 25 ธันวาคม 2553 3:36:27 น. Counter : 2999 Pageviews.   35 comment Share Tweet

• :: Life ::
• :: Make it Lovely # 1 ::
• :: Make it Lovely # 2 ::
• :: Painting & Drawing ::
• :: Travel ::
• :: Cooking ::
• :: Tobey ::

• bookmark
• Bug in the garden
• sushiha
• prunelle la belle femme
• Mellitus
• minporee
• pimmetje
• Bananarumba
• kanita_ket
• renting
• ipanda
• lady's oatmeal
• nanida
• AnnsCrafts
• noksamui
• rosalila
• NooMali
• HYPHEN-RICH
• settembre
• momnic
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com