ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

บทความ 10 ประโยคเด็ด ๆ แห่งปี 2011



























บอกได้เลยว่า ในตลอดช่วงเวลาของปี 2011 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้  มีเหตุการณ์ต่าง ๆ นานา และเรื่องราวของบุคคลดัง ๆ จากทั่วโลก ให้
ได้ติดตามกันมากมาย บ้างก็เป็นเรื่องที่ดี บ้างก็เป็นเรื่องแย่ ๆ
เกิดขึ้นสลับกันไปมาไม่เว้นในแต่ละวัน ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นนั้น ก็มักจะมีคำพูดหรือประโยคเด็ด ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ได้พูดถึงกันอยู่ด้วยเสมอ
ด้วย
เหตุนี้ ทางเว็บไซต์ของนิตยสารไทม์จึงได้รวบรวมเอา 10 ประโยคทองเด็ด ๆ
ที่เกิดขึ้นในปี 2011 มาให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้ทราบกัน ซึ่งทั้ง 10 ประโยค
ได้แก่..









"We got him."
          "เราจัดการเขาแล้ว"

          ย้อน
กลับไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสถานการณ์ในทำเนียบขาว
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กำลังนั่งแท่นบัญชาการทำงานของหย่วยซีล
กับปฏิบัติการบุกสังหารหัวหน้าผู้ก่อการร้ายคนสำคัญของโลก อย่างนายโอซามา
บิน ลาเดน ในพื้นที่ปากีสถาน ก่อนที่หน่วยซีลจะรายงานกลับมาให้ประธานาธิบดี
โอบาม่า และทีมงานที่อยู่ในห้องนั้นได้ทราบโดยทั่วกันว่า นายบิน ลาเดน
โดนสังหารเรียบร้อยแล้ว









"They had to know."
          "พวกเขาต้องได้รู้"

         
เรียกได้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้
ถือเป็นเรื่องอื้อฉาวทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกใบนี้เลยที
เดียว เพราะการที่กองทุนจากสหรัฐฯ โกงแชร์ลูกโซ่ไปกว่า 50
พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น
ส่งผลกระทบต่อสถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ของยุโรปมากมาย
ถึงกับหุ้นตกและเจ็งกันไประนาว งานนี้หนึ่งในตัวการสำคัญอย่างนายเบอร์นี่
มาดอฟฟ์ ก็เลยโดนจับไปตามระเบียบ
ก่อนที่เขาจะให้การในชั้นศาลถึงเรื่องราวของคดีนี้
จนนำไปสู่กันจับกุมผู้ร่วมฉ้อโกงคนอื่น ๆ









 "They love me ... They will die to protect me, my people."        
          "พวกเขารักผม ประชาชนของผมจะปกป้องผมจนตัวตาย"


         
ก่อนที่นายมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ อดีตผู้นำลิเบีย
จะโดนยิงจากฝ่ายปฏิวัติจนเสียชีวิตนั้น
เขาเคยแข็งกร้าวและเคยออกมาพูดกับสื่อในช่วงที่มีการลุกฮือของประชาชนใหม่ ๆ
ว่า "พวกเขารักผม ประชาชนของผมจะปกป้องผมจนตัวตาย" แต่สุดท้ายแล้ว
กาลเวลาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เขาพูดนั้น
ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด









"I'm on a drug. It's called Charlie Sheen. It's not available. If you try it once, you will die."
          "ผมติดยา นั่นคือผม มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าคุณลองมันแม้แต่ครั้งเดียว คุณจะตายแน่ ๆ "

         
ชาร์ลี ชีน ดาราจอมอื้อฉาวจากซีรีย์ "Two and a Half Men"
ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว "ABC News" ถึงเรื่องราวแย่ ๆ
ที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ทั้งเรื่องของปัญหาการติดยาเสพติด ติดเหล้า
ถึงขั้นที่ว่าควรโดนหามส่งโรงพยาบาล เพราะเสพยาเกินขนาดเลยด้วย
แถมยังมีการทำร่างกายภรรยาของเขาอีก
นี่เองเลยทำให้เขาโดนถอดออกจากการแสดงในซีรีย์เรื่องดังกล่าวที่เขาแสดงมา
นานตั้งแต่ซีซั่นแรกไปในที่สุด









"It has been a really tough weekend."
          "นี่เป็นสุดสัปดาห์ที่น่ากลัวจริง ๆ "

         
นายฮาโรลด์ แคมปิ้ง นักจัดรายการวิทยุเพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนา
ชาวอเมริกันคนนี้ เคยออกมาประกาศอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "วันสิ้นโลก" หรือ
"Judgment Day" นั้น จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม
แต่สุดท้ายก็กลับหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ
เพราะไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น
เมื่อได้ออกมาประกาศเป็นรอบที่ 2 ว่า วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่
21 ตุลาคม แต่ก็นั่นแหละ วันเวลาผ่านมาแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามเดิม
งานนี้นายแคมปิ้งเองก็เลยอัปเปหิตัวเองออกจากการจัดรายการวิทยุซะเลย









"My friends and I have been coddled long enough by a billionaire-friendly Congress."
          "เพื่อน ๆ ผมที่เป็นมหาเศรษฐีและตัวผมเอง ผูกมิตรกับสภาคองเกรสมานานมากพอแล้ว"

          นาย
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนและเจ้าของห้างค้าปลีกชื่อดัง "Wall
Mart" ได้ออกมาแสดงทัศนะ ทางสภาคองเกรสของสหรัฐฯ
น่าจะหันมาดูแลเรื่องการเงินของประเทศให้ดีมากกว่านี้
อีกทั้งยังแนะให้ว่าควรที่จะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มจากเศรษฐีทั้งหลาย
ที่มีรายได้อย่างน้อยปีละ 1 ล้านดอลล่าร์ขึ้นไป
เพราะคนอเมริกันส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ
แต่เศรษฐีทั้งหลายกลับได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีมาโดยตลอด









"What happened here is going to affect the whole Arab world."
          "เกิดอะไรขึ้นกับโลกอาหรับที่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้"

         
เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในโลกอาหรับเริ่มมีการจุดปะทุขึ้น โดยที่ตูนิเซีย
มีการประท้วงขับไล่อดีตประธานาธิบดีซีน เอล อิบิดีน เบน อาลี
ที่ปกครองประเทศมายาวนานให้ออกไปจากประเทศ
เนื่องจากไม่สามารถจะทนต่อการปกครองที่เผด็จการในตลอด 23 ปีได้อีกต่อไป
ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การเมืองตูนิเซียด้วย
ที่มีการประท้วงกันรุนแรงมากขนาดนี้









"Greece is bust, essentially."
          "กรีซเข้าขั้นวิกฤตอย่างหนักแล้ว"


         
นายกาเบรี่ยล สเตน นักเศรษฐศาสตร์ จาก "Lombard Street Research"
ได้ออกมากล่าวถึงวิกฤตทางการเงินของประเทศกรีซว่า
มีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้กรีซลดค่าใช้จ่ายในประเทศได้
คือต้องมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของรัฐบาลขึ้นใหม่ และต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
เช่น การเพิ่มรายรับและลดรายจ่ายของประเทศ
รวมทั้งปรับลดการขาดดุลอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้น กรีซ
จะกลายเป็นประเทศที่ล้มละลายไปซะก่อน









"It's hard to find the words."
          "เป็นอะไรที่ยากมาก ๆ ที่จะนึกคำศัพท์ออกมา"

          ซู
กานย่า รอย สาวน้อยวัย 14 ปี ได้กล่าวประโยคนี้ออกมา
หลังเป็นผู้ชนะในการแข่งขันสะกดคำระดับประเทศเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โดยคำศัพท์ที่ทำให้เธอเป็นผู้ชนะนั่นก็คือ "Cymotrichous"
ซึ่งมีความหมายว่า "มีผมเป็นลอนสวย ๆ " นั่นเอง









"I'm hopping mad about it."
          "ผมล่ะอยากจะบ้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"

         
นายเรย์ ลาฮู้ด เลขาธิการการคมนาคมของสหรัฐฯ
ได้พูดถึงเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นกับการควบคุมการจราจรทางอากาศ
ที่ผู้บังคับหรือมีส่วนในเรื่องนั้น
ดันเผลอหลับในระหว่างที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ไปซะได้
งานนี้ผู้บริหารระดับสูง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องเลยออกอาการหัวเสียกันยกใหญ่






บทความจาก:atcloud.com






 

Create Date : 05 มกราคม 2555    
Last Update : 5 มกราคม 2555 7:59:32 น.
Counter : 1588 Pageviews.  

ตำนานแมวกวัก Maneki Neko



ตำนานเจ้าเหมียวกวักนำโชค มะเนะคิเนะโกะ (まねきねこ)
มีหลากหลายเรื่องราวที่สืบทอดต่อกันมาเนิ่นนานมาแล้ว
แต่ตำนานเรื่องเล่าที่น่าเชื่อถือได้และผู้คนญี่ปุ่นกล่าวถึงกันมากที่สุดก็
คือเรื่องนี้ มาเนะคิเนะโกะ มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยเอโดะประมาณศตวรรษที่
17 ในสมัยนั้นนักบวชที่จำวัดอยู่ในวัดเล็กๆ
นั้นค่อนข้างมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก จะกล่าวถึงวัดโกโตคุจิ อยู่ทางทิศตะวันตกของโตเกียว นักบวชชราที่คอยแบ่งอาหารที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยให้กับเจ้าแมว ทามะ ที่
เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและเป็นเพื่อนยากในตอนนั้น
ถึงแม้ว่านักบวชชราจะลำบากขนาดไหนเค้าก็ไม่เคยทอดทิ้งทามะ
การเป็นนักบวชช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน
ลมหนาวพัดผ่านหนาวเหน็บก็ได้แต่ผิวปากแก้หนาวกันไปแล้วยังสายฝนที่ตกลงมาก็
ทำให้หลังคาเสียหายอยู่ตลอด
บางครั้งนักบวชชราทั้งหิวและเหนื่อยล้าไปหมดแล้ว
บางสิ่งที่ยังเหลืออยู่ก็คือการอุทิศตนและความดีงามที่นักบวชชรายังคงระลึก
ถึงอยู่เสมอ




มีอยู่วันหนึ่งเพราะอากาศหนาวจัดจนทำให้ร่างกายของนักบวชชราหนาวเหน็บจน
ทนไม่ไหว เค้าจึงเดินไปชงชาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น
แต่ทว่าไม่มีใบชาเลยน่ะสิ นักบวชชรารู้สึกเศร้ามาก เค้าร้องไห้เสียใจ
ร่างกายค่อยๆ ทรุดตัวลงและหมดสติไป เจ้าแมว ทามะ
เห็นท่าไม่ดีเป็นกังวลจึงเดินไปใกล้ๆ กับนักบวชชรา
อยากจะทำให้เจ้านายอุ่นมากขึ้น
เมื่อนักบวชได้สติตื่นขึ้นมาจึงบอกกับแมวของเค้าว่า "ทามะเอ้ย!
ฉันมันจนแต่ก็ยังคิดจะเก็บแกมาเลี้ยงอีก มันจะมีสักวันมั้ย
ที่แกจะทำอะไรซักอย่างเพื่อวัดแห่งนี้ เพื่อฉันด้วย "
เมื่อพูดเสร็จนักบวชชราก็ร้องไห้และค่อยๆ หลับไปอีกครั้ง เจ้าแมวทามะ
เกิดความกังวลใจทั้งสับสนและเข้าใจดี
จึงตัดสินใจเดินไปนั่งอยู่ด้านหน้าประตูของวัดโกโตคุจิ
ทามะนั่งไปพร้อมกับเลียขาและถูกับใบหน้าของตัวเองด้วย




เวลาผ่านไปไม่นานก็มีชายผู้หนึ่งที่ร่ำรวยและมีอำนาจได้เดินทางผ่านมาทาง
วัด ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่พอลูกเห็บขนาดใหญ่ยังตกลงมาอีก
ชายผู้นั้นจึงเข้าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ ฟ้าเริ่มร้องหนัก
มีสายฟ้าแลบอีกด้วย
ชายผู้นั้นจึงมองหาที่หลบที่ใหม่แล้วทันใดนั้นก็หันไปเจอกับเจ้าทามะที่นั่ง
อยู่หน้าประตูวัดพอดี เจ้าทามะกวักเรียกผู้มาเยือน
ชายผู้นั้นไม่รอช้ารีบวิ่งมาทันที
พอวิ่งมาถึงวัดชายผู้นั้นหันกลับไปมองที่ต้นไม้ใหญ่และถึงกลับอึ้งไป
ต้นไม้โดนฟ้าผ่าและไฟลุกเผาไม้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
ชายผู้นั้นรู้สึกขอบใจเจ้าแมวทามะมากที่ช่วยชีวิตเค้าให้รอดจากอันตราย
จึงรีบมองไปรอบๆ เพื่อที่จะตบรางวัลให้กับเจ้าของแมวตัวนี้ทันที
แล้วเค้าก็พบนักบวชชราและพบว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ช่างย่ำแย่เสียเหลือเกิน
ต่อมาชายผู้นั้นได้เป็นสหายกับนักบวชชราและมอบของขวัญให้อีก
ชายผู้นั้นยังช่วยส่งเสริมให้คนอื่นๆ มาทำบุญที่วัดแห่งนี้อีกด้วย
จนวัดโกโตคุจิมีความเจริญขึ้นและมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ เจ้าแมว ทามะ
ไม่ได้ช่วยชีวิตนักบวชชราอย่างเดียวยังช่วยให้เค้าหลุดพ้นจากชีวิตที่ยาก
ลำบากด้วย
เมื่อแมวทามะเสียชีวิตลงได้รับเกียรติให้ฝังในสุสานพิเศษและยังมีรูปปั้นแมว
กวักที่ยกเท้าขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความโชคดีและร่ำรวยให้กับเจ้าของ
ชายผู้นั้นแท้จริงแล้วคือ Ii Naosuke ผู้ครองเมือง Hikone นั่นเอง สุสานของเค้าก็อยู่ที่วัดแห่งนี้ด้วย




เจ้าเหมียวกวักนำโชค มะเนะคิเนะโกะ ตำนานความโชคดีกับสถานที่ที่มีอยู่จริง Gotokuji Temple
แห่งนี้อยู่ที่ Setagaya, Tokyo
ใครมีโอกาสไปเที่ยวก็อย่าลืมไปวัดที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาแมววัดนี้ด้วยล่ะ
ไปไหว้พระและขอพรกับมะเนะคิเนะโกะขอให้ร่ำให้รวยมีความสุขติดกลับมาบ้านด้วย
นะ^^


ที่มา : marumura




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2554    
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 8:37:26 น.
Counter : 2643 Pageviews.  

ถึงเร็วขึ้น! โบอิ้ง 777 บินข้ามขั้วโลกเหนือได้แล้ว







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก virona4ap.4t.com

           เป็น
ข่าวดีสำหรับคนที่เดินทางโดยเครื่องบินเป็นประจำ
เพราะคุณไม่จำเป็นนั่งเครื่องเป็นเวลานาน ๆ ตลอดจนไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
ด้วยกฏการบินใหม่ที่สามารถใช้ทางลัดบินดินแดนอันแปลกใหม่ที่คุณไม่เคยบิน
ผ่านมาก่อนแน่นอน นั่นก็เพราะกฏการบินที่ผ่อนลง
ทำให้เครื่องบินสามารถบินผ่านขั้วโลกเหนือได้


          
แน่นอนว่า กฏการบินใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลดีมากมาย ทั้งการประหยัดเวลา
ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเชื้อเพลิง ยกตัวอย่างเช่น
คุณสามารถเดินทางจากอังกฤษโดยไม่ต้องหยุดแวะพักเครื่องที่ไหนเลย
เพราะคุณใช้เส้นทางลัดที่สามารถบินลัดขั้วโลกเหนือได้
ซึ่งจะทำให้คุณไปถึงจุดหมายปลายทาง เช่น ฮาวาย อลาสกา ได้ในเวลาที่เร็วขึ้น

           เนื่องด้วยปัจจุบัน เครื่อง
บินส่วนใหญ่นั้น เช่น เครื่องโบอิ้ง 777 แล้วก็ 787 ตัวใหม่
ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาเครื่องยนต์และการบินที่ดีขึ้นมาก
จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่งว่า
จะก่อให้เกิดมลภาวะที่เป็นพิษน้อยลง ก่อให้เกิดสารคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ
ก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยลง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อสภาพชั้นบรรยากาศได้มากขึ้น
จึงสามารถอนุญาตให้บินผ่านขั้วโลกเหนือที่มีสภาพที่เปราะบางได้
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการอนุญาตให้บินผ่านขั้วโลกเหนือ
เนื่องด้วยภาวะฉุกเฉินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือ ช่วงสงครามเย็น


          
โดยสารการบินแรกที่จะมีการใช้กฏนี้เป็นครั้งแรก คือ แอร์ นิวซีแลนด์
ที่จะเริ่มบินไฟลท์จากลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ มายังโอ๊คแลนด์
ประเทศนิวซีแลนด์

           ต่อไปเราจะมาดูตารางชั่วโมงการบิน หลังจากใช้กฏใหม่นี้ โดยเริ่มเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าจะประหยัดเวลาไปมากน้อยเท่าไร

ไฟลท์จากลอนดอน

- ไปฟิจิ โดยเส้นทางลอสแองเจลิสหรือโซล จากเดิม 24 ชั่วโมง เหลือ 18 ชั่วโมง

- ไปทาฮิติ โดยเส้นทางลอสแองเจลิส จากเดิม 23 ชั่วโมง เหลือ 17 ชั่วโมง

- ไปโฮโนลูลู โดยเส้นทางลอสแองเจลิส จากเดิม 18 ชั่วโมง เหลือ 13 ชั่วโมง

- ไปแองเคอะเรจ โดยเส้นทางซีแอตเติล จากเดิม 16 ชั่วโมง เหลือ 8 ชั่วโมง (ลดเท่าตัว)

           บอก
ได้คำเดียวว่า งานนี้เป็นสวรรค์ของนักเดินทางโดยแท้ นอกจากจะสบายกระเป๋า
จ่ายถูกขึ้นแล้ว ยังไม่ต้องนั่งนานให้ปวดเมื่อย
อ่อนเพลียร่างกายให้หงุดหงิดใจอีก
แถมยังได้เห็นดินแดนอันแสนแปลกใหม่ที่เชื่อว่าคุณไม่เคยเห็นอย่างขั้วโลก
เหนืออีกด้วย 




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2554    
Last Update : 26 ธันวาคม 2554 8:47:04 น.
Counter : 1462 Pageviews.  

ว่าด้วยเรื่อง สีของพาสปอร์ต



ชนิดของหนังสือเดินทางประเทศไทย


หนังสือเดินทางประเทศไทย เริ่มจากบนซ้ายตามเข็มนาฬิกา ประเภทธรรมดา ทาง ราชการ ทางการทูต และเดินทางชั่วคราว


หนังสือเดินทางประเทศไทยในปัจจุบันมี 4 ประเภท ดังนี้


หนังสือเดินทางธรรมดา (หน้าปกสีแดงเลือดหมู)


ออกให้สำหรับประชาชนทั่วไป หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี


หนังสือเดินทางราชการ (หน้าปกสีน้ำเงินเข้ม)


หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี ผู้ถือต้องใช้ในราชการเท่านั้น
ไม่สามารถนำไปใช้ในการเดินทางส่วนตัว โดยมีข้อกำหนดออกเฉพาะข้าราชการ
เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ
สมาชิกรัฐสภาซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ
และบุคคลอื่นใดที่เดินทางเพื่อทำประโยชน์แก่ทางราชการตามที่กระทรวงการต่าง
ประเทศอนุมัติ


หนังสือเดินทางทูต (หน้าปกสีแดงสด)


ประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้ มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลดังต่อไปนี้


1. พระบรมวงศ์และพระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2. พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าและคู่สมรส
3. พระราชวงศ์และบุคคลสำคัญที่ราชเลขาธิการขอไปเป็นกรณีพิเศษ
4. ประธานองคมนตรี และองคมนตรี
5. นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี
6. ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา
7. ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา และประธานศาลอุทธรณ์
8. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด
9. อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
10. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
11. ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ

12. ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ ณ
ส่วนราชการในต่างประเทศ คู่สมรส
และบุตรในประเทศที่ประจำอยู่หรือทำการศึกษาอยู่ในประเทศอื่น
แต่บุตรจะต้องอายุไม่เกิน 25 ปี
13. คู่สมรสที่ร่วมเดินทางไปกับบุคคลดังกล่าวในข้อ 2-8

14. บุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการหรือภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศ
หรือภายใต้สถานการณ์พิเศษที่มีความจำเป็น
หรือเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย


หนังสือเดินทางชั่วคราว (หน้าปกสีเขียว)


นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ประเภทพิเศษ คือ


หนังสือเดินทางพระ


ออกให้สำหรับพระภิกษุและสามเณรที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศตามนัยระเบียบมหาเถรสมาคม


หนังสือเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์


ออกให้ชาวมุสลิมที่เพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ หนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุ 2 ปีเท่านั้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : //th.wikipedia.org/










 

Create Date : 25 ธันวาคม 2554    
Last Update : 25 ธันวาคม 2554 19:34:11 น.
Counter : 1708 Pageviews.  

19 เรื่องไม่ธรรมดาของ คิมจองอิล ที่คุณอาจไม่เคยรู้



คิมจองอิล



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก static.mamamia.com.au, korea-is-one.org, cdn.moxiebird.com, dailykimchi.com, cdn.moxiebird.com

         
ข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ "คิม จองอิล" (Kim Jong-Il)
กำลังเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก ถึงปฏิกิริยาของชาติมหาอำนาจต่าง ๆ
ที่กำลังเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
บ้างก็พูดถึงประเด็นทางการเมือง
บ้างก็พูดถึงการก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของบุตรชายนายจองอิล
บ้างก็พูดถึงเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ และอื่น ๆ อีกสารพัด

          แต่ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับอดีตผู้นำโสมแดงที่คุณอาจยังไม่รู้ ซึ่งทางเว็บไซต์ buzzfeed.com ได้รวบรวมเอา 19 ไม่ธรรมดาของ คิม จองอิล มาฝากกัน ดังต่อไปนี้...


  1. คิม จองอิล เป็นโค้ช ให้ทีมชาติลุยศึกเวิลด์ คัพ 2010 ด้วยตัวเอง

         
แม้ทีมชาติไทยเราจะไปไม่ถึงบอลโลกเสียที
แต่ชาติที่ปิดประเทศตัวเองอย่างเกาหลีเหนือ
ได้พาตัวเองไปโชว์ฝีเท้าและลับแข้งของพวกเขาเองบนเวทีระดับโลกอย่างการแข่ง
ขัน "ฟุตบอลโลก ปี 2010" ที่ประเทศแอฟริกาใต้มาแล้ว
ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน โค้ชของเกาหลีเหนือก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จริง
ๆ แล้ว โค้ชตัวตริงที่คุมทัพเกาหลีเหนือคือนายคิม จองอิล นี่ล่ะ
โดยเขาได้บัญชาการเกมของนักเตะผ่านทางโทรศัพท์ ทั้งเรื่องของแผนการเล่น
การเลือกตัวนักเตะ รวมถึงปลุกใจให้หึกเหิมพร้อมลุยอีกด้วย



  2. ในปี 2004 คิม จองอิล บอกว่า เขาเป็นคนคิดค้น "แฮมเบอร์เกอร์"

         
เมื่อปี 2004 ที่ผ่านมา คุณผู้นำคนนี้ทำให้ทั้งโลกถึงกับหันขวับในทันที
เพราะเขาออกมาบอกว่า ขนมปัง 2 แผ่น และมีเนื้ออยู่ตรงกลางที่เรียกว่า
"Gogigyeopbbang" ซึ่งชาวเกาหลีนิยมทานกันนั้น เป็นสิ่งที่เขาคิดค้นขึ้นมา
ก่อนที่คนอื่น ๆ จะนำไปดัดแปลงและเรียกกันทั่วโลกว่า "แฮมเบอร์เกอร์"


  3. คิม จองนัม ลูกชายคนโตของเขา อดเป็นผู้นำคนต่อไป เพราะเคยหนีไปเที่ยวญี่ปุ่น

          เคยมีข่าวแว่ว ๆ กันมาว่า หากหมดยุคของนายจอง-อิล แล้ว ผู้นำคนต่อไปก็น่าจะเป็น คิม จองนัม ลูกชายคนโตของเขา แต่
ทว่าเมื่อปี 2001 นายจองนัม
กลับทำเรื่องน่าอับอายด้วยการปลอมพาสปอร์ตของตัวเองเป็นคนจีน
เพื่อให้ได้มาซึ่งการท่องเที่ยวดีสนีย์แลนด์ในประเทศญี่ปุ่น
แต่ทว่าโดนด่านตรวจคนเข้าเมืองของแดนปลาดิบจับไต๋ได้ซะก่อน 
เล่นเอาอับอายมาถึงคนเป็นพ่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ



  4. จริง ๆ แล้ว นายจองอิล เป็นคนรัสเซียนะเออ

         
ตามประวัติแล้ว นายคิม จองอิล เกิด เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์
ค.ศ.1941 ที่ค่ายทหารโซเวียตในไซบีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นลับในยอดเขาเบคดู
ยอดเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีเหนือ เพราะฉะนั้นแล้ว หากนับกันจริง ๆ
ก็อาจจะบอกได้ว่านายจองอิล เป็นคนรัสเซียนะเนี่ย


  5. ลือกันว่า นายจองอิล บังคับประชาชนที่เตี้ย ต้องกินยาเพิ่มความสูง

         
ข้อมูลนี้จริงเท็จหรือไม่ ก็ไม่อาจจะบอกได้ แต่มีข่าวแว่ว ๆ มาว่า
นายจองอิล เคยออกประกาศบังคับให้ประชาชนของเขาทั้งชายและหญิงที่เตี้ย
จะต้องมากินยาเพิ่มความสูงที่ทางรัฐบาลจัดหามาให้
เพื่อให้เป็นหน้าเป็นตาแก่ประเทศ
แต่ทว่าก็มีผู้ออกมาคัดค้านว่าน่าจะเป็นแค่ข่าวโคมลอยเชื่อถือไม่ได้
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ทำไมนายจองอิล ต้องใส่รองเท้าส้นสูง ๆ ทุกครั้งที่ต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยล่ะ (จริงด้วยแฮะ!)


  6. บิดาของนายจองอิล เป็นนักปฏิวัติตัวยง

         
ข้อมูลนี้จริงแท้แน่นอนแบบชัวร์สุด ๆ เพราะนายคิม อิลซุง
ซึ่งเป็นบิดาของเขานั้น ถือเป็นนักปฏิวัติคนสำคัญของโลก ก็คิดเอาง่าย ๆ
ว่านายอิลซุงนี่ล่ะ ที่เป็นผู้วางระบบรากฐานต่าง ๆ
ของประเทศเกาหลีเหนือตั้งแต่เริ่มแรก
ยาวเรื่อยมาจนทรงอิทธิพลมาจนถึงทุกวันนี้


  7. นายจองอิล ไม่ได้รับการระบุอย่างแน่ชัดว่าเกิดปีไหนกันแน่

         
ตามประวัติและข้อมูลหลาย ๆ แห่งให้ข้อมูลเกี่ยวนายจองอิลเอาไว้ตรงกัน
แต่มีอยู่อย่างเดียวที่ไม่ตรงกันสักที่ก็คือเรื่องของปีเกิด
เพราะข้อมูลจากทางฝั่งโซเวียตระบุว่านายจองอิล เกิดในปี ค.ศ.1941
แต่ข้อมูลจากฝั่งเกาหลีกลับบอกว่าเกิดในปี ค.ศ.1942


  8. เคยมีผู้กำกับหนังโดนลักพาตัว เพราะนายจองอิล ต้องการให้มาสร้างหนังให้

         
นายคิม จองอิล เคยสั่งให้คนของเขาลักพาตัวผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเกาหลีใต้ 2
คน เพื่อให้มาสร้างภาพยนตร์แนว "ก็อตซิลล่า"
และก็ใช้ให้สร้างภาพยนตร์โฆษณาทางการเมืองเพิ่มอีกด้วย แหม! บอกกันดี ๆ
ก็ได้มั้ง ลักพาตัวกันไปแบบนี้ ตกอกตกใจหมด!!









ดอกคิมจองอิลเลีย




  9. "คิมจองอิลเลีย" ดอกไม้ที่ตั้งขื่อตามนายจองอิล

         
เห็นเผด็จการ ๆ แบบนั้น จะว่าไปประเทศเกาหลีเหนือก็มีมุมเบา ๆ ใส ๆ
ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากเคยมีการปลูกดอกไม้พันธุ์ผสมขึ้นมาใหม่
เพื่อใช้ในการฉลองครบรอบวันเกิด 69 ปีของนายจองอิล
แถมยังตั้งชื่อดอกไม้พันธุ์นี้ว่า "คิมจองอิลเลีย" (Kimjongilia) เพื่อเป็นเกียรติแก่นายจองอิลอีกด้วย


  10. นายจองอิล กับบทบาทของผู้นำในหลาย ๆ ด้าน

          ตลอดเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่ นายคิม จองอิล ถือเป็นผู้นำที่เพียงแต่เรื่องของการปกครองบ้านเมืองและระบอบทหารเท่านั้น หากแต่ยังมีเรื่องของเทรนด์แฟชั่นในประเทศ เช่น การสวมแว่น เครื่องแต่งกาย รวมถึงการทำให้คนทั้งประเทศศรัทธาและชื่นชมตัวเขาอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่า ไม่ว่าเขาจะเดินทางไปไหน ก็ดูดีและมีอำนาจบารมี ซึ่งเหมาะแก่การเป็นผู้นำประเทศ (ระบอบคอมมิวนิสต์) มาก ๆ


  11. นายจองอิล ตีกอล์ฟเก่งนะ จะบอกให้!!

         
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นอกจากความสามารถในการปกครองประเทศแล้ว
เรื่องของกีฬาโดยเฉพาะการออกรอบตีกอล์ฟนั้น นายจองอิล
ก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ทั้งนี้เคยมีการจดสถิติให้เห็นด้วยว่า
โดยเฉลี่ยแล้ว เขาสามารถทำ "โฮลด์ อิน วัน" (Hole-in-one)
หรือการตีลงหลุมในครั้งเดียว ได้ 3 - 4 ครั้งเลยทีเดียว
(ไม่ธรรมดานะเนี่ย!!)


  12. คอนญักแบรนด์ "เฮนเนสซี่" คือสิ่งที่นายจองอิลโปรดปราน

         
คอนญักหรือบรั่นดีของฝรั่งเศส อย่าง "เฮนเนสซี่" (Hennessy) นั้น
คือเครื่องดื่มที่นายจองอิลชื่นชอบและโปรดปรานเป็นที่สุด
ถึงขั้นที่ว่ายอมทุ่มทุนในแต่ละปีกว่า 800,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 24
ล้านบาท เพื่อนำเข้าคอนญักเฮนเนสซี่โดยเฉพาะ ก่อนที่ในปี 2006
จะโดนยูเอ็นคว่ำบาตร
ห้ามไม่ให้มีการส่งอาหารหรือเครื่องดื่มจากต่างประเทศไปยังเกาหลีเหนือ
เพราะปัญหาด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ ณ ตอนนั้นยังไม่คลี่คลาย


  13. นายคิม จองอิล ก็ชอบดูหนังนะ

         
นายคิม จองอิล ชื่นชอบการชมภาพยนตร์เหมือนกับคนอื่น ๆ
ทั่วไปมากมายหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ประทับจิตประทับใจนายจองอิลมากที่สุด
คือ "ศุกร์ 13" (Friday the 13th), "แรมโบ้" (Rambo) โดยเฉพาะเรื่อง
"ก็อตซิลล่า" (Godzilla) ถือว่าเป็นเรื่องที่ชื่นชอบมากที่สุดแล้ว


  14. อดีตผู้นำคนนี้เคยคิดเลี้ยงกระต่ายยักษ์เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน

         
ด้วยความที่เป็นประเทศที่ปิดตัวเอง และไม่ค่อยรับอะไรจากโลกภายนอกเลย
ปัญหาด้านความเป็นอยู่โดยเฉพาะเรื่องของปากท้องประชาชน
จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ เคยมีรายงานออกมาระบุว่า นายจองอิลเคยมีแผนในการแก้ปัญหานี้ ด้วยการจะเลี้ยงกระต่ายยักษ์ไว้ เพื่อใช้เป็นอาหารให้ประชาชนได้อิ่มท้องกัน เลย
ทำการติดต่อนักเพาะพันธุ์กระต่ายรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน
ว่าจะขอซื้อกระต่ายขนฟูเพื่อผสมพันธุ์ต่อด้วยตัวเอง
แม้จะมีคำเตือนว่าไม่คุ้มกันแล้ว แต่นายจองอิลก็ไม่ฟังแต่อย่างใด










  15. เขาเคยโดนบอกให้เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพ นายจองอิลเลยแก้เผ็ดด้วยการแบนซะเลย!!

         
ก่อนหน้า นายจองอิล ถือเป็นสิงห์นักสูบตัวยงเหมือนกัน แถมสูบจัดมาก ๆ
เลยด้วย หลาย ๆ คน หลาย ๆ
ประเทศก็เลยออกมาเป็นห่วงเป็นใยนายจองอิลให้เลิกสูบบุหรี่
เพื่อสุขภาพที่ยืนยาว นายจองอิลไม่เห็นด้วย
และออกแนวไม่พอใจกับการห้ามปรามเลยออกกฏแบนทุกสิ่งอย่างที่เคยนำเข้ามาจาก
ต่างประเทศ ทั้งโทรศัพท์มือถือ หนังสือพิมพ์ ระบบอินเทอร์เน็ต
และหนังสือทุกประเภท










  16. นายจองอิล คัดเลือกทหารเฉพาะที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่เท่านั้น

          ใครจะมาเป็นทหารในกองทัพของนายจองอิลได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติสำคัญอยู่ข้อหนึ่งก็คือยัง
ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ ห้ามผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเด็ดขาด
เพราะเขาต้องการทหารสายเลือดใหม่ที่บริสุทธิ์ แข็งแกร่ง และมีสุขภาพที่ดี







หมู่บ้านคีจอง ดง




  17. หมู่บ้านคีจอง ดง หมู่ที่มีไว้เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ

         
หมู่บ้านคีจอง ดง (Kijong-dong) เป็นหมู่บ้านที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี
ค.ศ.1950 โดยหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ติดกับพรมแดนเกาหลีใต้
ซึ่งวัตถุประสงค์หลัก ๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้คือไว้ใช้โฆษณาให้คนอื่น ๆ
ได้เห็นว่าในเกาหลีเหนือนั้นไม่ได้ยากจนหรือขาดแคลนสิ่งของใด ๆ เลย
มีข้าวปลาอาหารพร้อม มีน้ำประปาให้ใช้ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว หมู่บ้านนี้กลับไม่มีใครอยู่สักคน ที่สำคัญ ประชาชนในประเทศก็ไม่ได้มีกินมีใช้อย่างโฆษณาเอาไว้อีกด้วย


  18. ว่ากันว่า นายจองอิลเกิดมาพร้อมกับสายรุ้งและความพิเศษทางธรรมชาติ

         
ตามหนังสือชีวประวัติของนายคิม จองอิล ระบุไว้ว่า
เขาเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้พร้อมด้วยปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติ
เพราะในขณะที่เขาเกิดนั้น จริง ๆ แล้วควรจะเป็นฤดูหนาว แต่ทว่า
ฤดูกาลกลับเปลี่ยนไปเป็นฤดูใบไม้ผลิซะงั้น  แถมยังเกิดรุ้งกินน้ำถึง 2
เส้นขึ้นมาอีกด้วย (โอ้..ว้าวว!!)


  19. จริงหรือมั่ว..ชัวร์หรือไม่!? ตั้งแต่เกิดนายจองอิล ไม่เคยปลดทุกข์หนัก - เบาเลย

          ไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จริงเท็จขนาดไหน แต่มีรายงานออกมาระบุว่า นายคิม จองอิล คนนี้ทำเรื่องเหลือเชื่อมาก ๆ เพราะ
ตั้งแต่ที่เขาเกิดจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมนั้น
เขาไม่เคยเข้าห้องน้ำเพื่อไปปลดทุกข์หนัก - เบา อย่างการอุจจาระ
หรือปัสสาวะเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นการอำกันซะมากกว่า
เพราะถ้าตลอด 69 ปีที่เขามีชีวิตอยู่ไม่จัดการปลุดทุกข์บ้างเลยนี้ เอ่อ..
คือ.. ข้างในร่างกายเขาก็คงไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ!!




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2554    
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 9:52:57 น.
Counter : 3087 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.