ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ทำอย่างไรเมื่อต้องขับรถนานๆ



อาการปวดเมื่อยและวิธีการบรรเทาอาการเบื้องต้น

ทั่วๆไปแล้วอาการปวดบ่า กระบอกตา คอ หลัง หน้าขา(สะโพก) และน่อง เป็นอาการที่พบได้บ่อย เรามาลองดูสาเหตุและการบรรเทาอาการเหล่านี้กัน

เมื่อ ขับรถต้องใช้สายตามากไม่สามารถพักสายตาได้ ต้องเพ่งและมองไปข้างหน้าตลอด ถ้าหากแสงแดดจ้าก็จะทำให้ตาต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการเพ่งสายตามีผลต่อท่าทางของคอ คือคอต้องตั้งตรงนานๆ ย่อมมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อคอ ทำให้กล้ามเนื้อคอทำงานหนักและเกิดอาการล้าได้

การเมื่อยล้าของคอส่งผลต่อการบีบรัดเส้นประสาทโดยเฉพาะที่ฐานกะโหลกด้านหลังทำให้ปวดศีรษะและกระบอกตาได้




วิธีการแก้ไขปัญหาปวดกระบอกตาและล้าของตาคือ ต้อง ใส่แว่นปรับสายตาหากมีปัญหาเรื่องสายตาสั้นหรือยาว จะทำให้ลดการเพ่งในขณะขับรถและหากขับรถในเวลาที่แดดจัดควรใช้แว่นกันแดด เพื่อลดปริมาณแสงที่อาจทำให้ม่านตาทำงานหนักได้

ขณะ ที่พักรถหรือช่วงติดไฟแดงอาจใช้เวลาเล็กน้อยที่จะมองไปยังต้นไม้ที่มีสี เขียวหรือหลับตาพักสายตาสักครู่ และหากเป็นไปได้การนวดบริเวณต้นคอและบ่า 2 ข้าง จะสามารถลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นส่งผลให้ความรู้สึกล้าลดลงได้

ในขณะขับรถกล้ามเนื้อบ่าจะทำงานเพื่อยกบ่าและแขนในการควบคุมพวงมาลัย หาก การจับพวงมาลัยห่างจากตัวมากจะมีผลทำให้ต้องเอื้อมมือยืดแขนไปข้างหน้า กล้ามเนื้อบ่าและไหล่จึงทำงานมากขึ้นอีกและทำให้เกิดอาการเมื่อยล้ากล้าม เนื้อบ่าและเกิดกล้ามเนื้ออักเสบได้ในที่สุด ซึ่งสามารถตรวจได้โดยการคลำกล้ามเนื้อนั้นๆ จะพบลำหรือปมแข็งในกล้ามเนื้อ เมื่อกดก็จะมีอาการเจ็บและร้าวได้

ดัง นั้นการปรับระยะและความสูงของพวงมาลัยเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ต้องเข้าใจว่าในขณะขับต้องทิ้งน้ำหนักแขนส่วนหนึ่งไว้ที่พวงมาลัย ไม่เกร็งแขนและไหล่ตลอด การเกร็งและยกแขนนี้อาจทำให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้ยากกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตามคุณสามารถลดอาการตึงและปวดเมื่อยบ่านี้ได้โดยการหมุนไหล่แบบกายบริหารของ เด็กๆ ที่หมุนไหล่มาข้างหน้าและย้อนกลับหลัง โดย ทำเมื่อหยุดพักหรือหากเมื่อยในขณะขับรถท่านสามารถทำการแบะไหล่ไปด้านหลังและ แอ่นตัวมาข้างหน้าหรือทำการหมุนไหล่ข้างเดียวได้ โดยพิจารณาถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่เป็นหลัก




สำหรับ อาการปวดเมื่อยหลังเกิดขึ้นได้เนื่องจากท่านั่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูก สันหลังมีแรงกด มากกว่าท่าอื่นๆ แม้ว่าจะมีเบาะพนักพิงก็ตาม แต่หลังที่อยู่ในลักษณะโค้งงอ ย่อมส่งผลต่อแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลัง โดย มีแรงกดด้านหน้าหมอนรองกระดูกมากกว่าด้านหลัง หมอนรองกระดูกจึงมีแนวโน้มที่จะปลิ้นไปทางด้านหลังและอาจเกิดปัญหาของหมอน รองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้ เอ็นและกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านหลังจะถูกยืดมากกว่าเมื่อหลังอยู่ในท่าตรง

ดัง นั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อพักรถคือ ค่อยๆ ลงจากรถ ไม่ลุกแบบพรวดพราดและก่อนจะลุกขึ้นควรทำการยืดตัวและแอ่นหลังประมาณ 3-4 ครั้งก่อน แล้วค่อยลุกขึ้น และเมื่อลุกขึ้นแล้วควรทำการยืดหลังและแอ่นหลังในขณะท่ายืนอีก 10 ครั้ง แล้วถึงจะทำการก้มหลังหรือใช้งานหลังได้ตามปกติ เหตุที่ให้ทำเช่นนี้ เพราะว่าเอ็นที่อยู่ด้านหลังเมื่อนั่งนานๆ จะล้า ขาดความยืดหยุ่นตัวและถ้าก้มบิดตัวหรือใช้งานหลังหนักๆ(เช่น การยกของหนัก) การก้มขณะที่จะลุกจากรถ อาจมีผลต่อการเคลื่อนหรือปลิ้นตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังได้

หาก เกิดอาการปวดเมื่อยล้าหลังขณะขับรถคุณสามารถนำหมอนเล็กๆ สอดไว้ที่หลังส่วนล่างระหว่างเบาะกับหลังของคุณเพื่อให้หมอนเป็นตัวดันให้ หลังแอ่นตัวเล็กน้อย แต่ไม่ควรนั่งพิงหมอนนั้นตลอด เพราะจะเกิดความล้าต่อหลังได้เช่นกัน

การขับรถเกียร์อัตโนมัติ ความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อหน้าขาและน่องเกิดได้จากการที่ต้องขยับขาเพื่อการ เหยียบเบรกและคันเร่ง

ขณะที่ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดาจะมีอาการเมื่อยล้าขาซ้ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเหยียบคลัตช์




การแก้ไขหรือลดอาการปวดขณะขับรถสามารถทำได้โดยการหมุนข้อเท้าจิกปลายเท้า กระดกปลายเท้าขึ้น เหยียดปลายเท้าลงให้สุด โดย สามารถทำกับเท้าข้างซ้ายข้างเดียวในขณะขับรถและหากเมื่อหยุดพักแล้วคุณ สามารถทำการหมุนหรือดัดต่อเท้าข้างขวา รวมทั้งทำการยืดกล้ามเนื้อหน้าขาได้ การยืดกล้ามเนื้อหน้าขาทำได้โดยยืนแล้วพับเข่าไปด้านหลังโดยเอามือช่วยจับ เข่างอเข้ามายังก้น

อย่างไรก็ตามการขยับ เขยื้อนออกกำลังกายแบบนี้เป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น และหากทำขณะขับรถให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่เป็นหลักด้วย

สิ่ง ที่จะต้องทำที่สุดคือ การหยุดพักบ่อยๆ เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้าล้างตาและทำการออกกำลังกายตามที่ได้กล่าวมา หรือทำการบิดขี้เกียจก็ได้ในลักษณะเหมือนการบิดขี้เกียจตอนเช้าก่อนลุกขึ้น มาอาบน้ำ และเมื่อถึงที่หมายแล้ว ควรทำการนอนยกขาสูง โดยการนอนราบกับพื้นแล้วทำการยกขาแบบงอเข่าเล็กน้อยพาดกับเก้าอี้หรือโซฟา เพื่อให้เลือดไหลและน้ำเหลืองไหลกลับได้ง่ายขึ้น และทำให้หลังได้พักตัวลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหลังได้




ที่มา วิชาการดอทคอม




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2553    
Last Update : 15 ตุลาคม 2553 22:07:16 น.
Counter : 1384 Pageviews.  

"แผนที่ประเทศไทย ตั้งแต่ครั้งยังเป็นสยามจนถึงปัจจุบัน"












 

Create Date : 14 ตุลาคม 2553    
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 20:57:15 น.
Counter : 1758 Pageviews.  

หอภาพยนตร์ เล็งจัดหลักสูตร "มิตร ชัยบัญชา"




หอภาพยนตร์ มีความคิดที่จะจัดทำหลักสูตรปริญญาโทที่ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตของ "มิตร ชัยบัญชา" เพราะเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ ประกอบการใช้พรแสวงควบคู่กับพรสวรรค์ในความเป็นนักแสดง และจิตใจที่จะช่วยเหลือวิชาชีพคนทำหนังไทยอย่างต่อเนื่อง


นายโดม สุขวงศ์ ผู้ก่อตั้งหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า หอภาพยนตร์ จัดงานรำลึกมิตร ชัยบัญชา โดยมีการแสดงผลงานการแสดงของมิตร ชัยบัญชา กว่า 300 เรื่อง ที่แฟนภาพยนตร์หลายคนยกย่องให้เป็นดาราที่หนึ่งในดวงใจและพระเอกตลอดกาล แต่อุปนิสัยส่วนตัวของความเป็นคนง่ายๆ ความมีน้ำใจ และทุ่มเทให้กับการแสดงอย่างจริงจังของมิตร ชัยบัญชา เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักแสดงหลายรุ่น ซึ่งชีวิตของมิตร ชัยบัญชา เต็มไปด้วยการต่อสู้ประกอบการใช้พรแสวงควบคู่กับพรสวรรค์ในความเป็นนักแสดง และจิตใจที่จะช่วยเหลือวิชาชีพคนทำหนังไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้หอภาพยนตร์ เกิดความคิดอยากจะให้เกิดหลักสูตรปริญญาโท ว่าด้วยชีวิตของมิตร ชัยบัญชา





ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก //www.thaipbs.or.th/








 

Create Date : 13 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 23:23:46 น.
Counter : 1889 Pageviews.  

เก็บข้าวสารอย่างไรให้อยู่ได้นาน ๆ





ไม่ รู้ว่าเพื่อน ๆ ที่นี่จะเคยเจอปัญหา บรรดามดแมลงต่าง ๆ เข้ามาแอบกัดกินข้าวสารกันหรือไม่ ถ้าไม่เคยก็ถือว่าโชคดีไปแต่ถ้าเคยหรือกำลังมีปัญหาอยู่ละก็วันนี้เราเอา วิธีง่าย ๆ มาแนะนำ


วิธีแรกคือ การเอานำใบมะกรูดใส่ไว้ในถังข้าวสารหรือพาชนะที่ใส่ข้าวสาร เพราะกลิ่นจากใบมะกรูดจะช่วยขับไล่แมลงต่าง ๆ ได้ แต่เพื่อน ๆ ต้องคอยหมั่นตรวจตราด้วยนะคะว่าใบมะกรูดแห้งหรือยัง ถ้ามันแห้งแล้วก็อย่าลืมเอาใบใหม่มาเปลี่ยน


วิธีการต่อมาคือ นำเอาพริกสด มาประมาณ 7 - 8 เม็ดจากนั้นก็ผ่าเอาเมล็ดออก เหลือไว้แต่เปลือกพริก จากนั้นก็นำเอาเปลือกพริกเหล่านี้ใส้ไว้ในถังข้าวสารก็จะช่วยขับไล่แมลงต่าง ๆ ได้เช่นกันค่ะ


และวิธีสุดท้าย คือเอาเกลือป่นโรยลงไปในถังข้าวสาร ถ้าเป็นข้าวสาร 1 กิโลกรัมให้ใช้เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีนี้จะช่วยไล่ทั้งมด มอด แมลงต่าง ๆ ไม่ให้แอบมาจิ๊กข้าวสารของเราได้ค่ะ แต่ก็อย่าเผลอใส่จนเยอะเกินไปนะคะ


เป็น ยังไงเอ่ย วิธีที่เราแนะนำ เป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ เพื่อน ๆ ที่นี่อย่าลืมนำเอาไปใช้กันบ้างนะคะ เพราะว่าการปล่อยให้มด มอด แมลงมาแอบกัดกินข้าวโดยไม่จัดการใด ๆ เลยนั้นถือว่าไม่ดี เพราะนอกจากเราจะไม่ได้กินข้าวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ยังอาจจะมีโรคที่แฝงมากับเจ้าสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้

อย่า ดูถูกว่าพวกมันตัวเล็กนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้โรคต่าง ๆ เยอะมากเหลือเกิน ทำอะไรนิดหน่อยก็เสี่ยงได้แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2553    
Last Update : 11 ตุลาคม 2553 22:41:39 น.
Counter : 1850 Pageviews.  

กินเจแบบไม่อ้วน



กินเจแบบไม่อ้วน



รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ หัวหน้าฝ่ายพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ฝ่ายพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารเจที่ทำจากโปรตีนถั่วเหลือง หรือ กลูเตนจากแป้งสาลี ซึ่งผลิตเป็นอาหารประเภท ไส้อั่ว ไส้กรอก ปลาเค็ม และลูกชิ้น

พบว่า ผลิตภัณฑ์ อาหารดังกล่าว ไม่มีฤทธิ์ก่อการกลายพันธุ์จนเกิดมะเร็งได้ แต่ในทางตรงกันข้ามสามารถช่วยยับยั้งหรือลดความเสี่ยงในการก่อกลายพันธุ์ได้ โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเอ็นไซม์ที่ทำลายสารพิษ

นอกจากนี้ อาหารเจมีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบหลัก คนที่รับประทานอาหารเจจึงได้รับกากใยจากผักและผลไม้ในปริมาณที่มากพอ ซึ่งจะช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยดักสารพิษในร่างกาย ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่



แต่สิ่งที่ต้องควรระวังคือ อาหารเจมักมีไขมันสูง สังเกตได้จากอาหารเจจะมีความมันวาว และอาหารเจหลายชนิดเป็นอาหารทอด ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมากเกินไป

อาหารประเภททอดควรใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์มเพราะมีจุดเดือดสูง อาหารจะกรอบทน และไม่เหม็นหืนง่าย ส่วนอาหารประเภทผัดหรืออาหารที่ไม่ใช้ความร้อนสูง ควรใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน ไขมันชนิดนี้ร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย ร่างกายนำไปใช้สร้างเซลล์ต่างๆ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้

แต่ข้อเสียของน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือ เมื่อมีการใช้ซ้ำ หรือได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานานจะมีกลุ่มสารโพลาร์เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดโรคหัวใจจากเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ ทางที่ดีที่สุดไม่ควรใช้น้ำมันซ้ำในการประกอบอาหาร เพราะน้ำมันที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมักจะมีสารโพลาร์อยู่มาก อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2553    
Last Update : 10 ตุลาคม 2553 20:20:15 น.
Counter : 1355 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.