ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
12 วลีฮิต ติดปากหมอ ที่ต้องขอแปล







สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับ ‘มุมสุขภาพ’ ครั้งแรกของปี พ.ศ.2555 นี้ พร้อมเรื่องราวสุขภาพน่ารู้ที่หลากหลายขึ้นกว่าเดิม ประเดิมตะลุยโรงหมอ กับ ‘นพ.กฤษดา ศิรามพุช’ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ร่วมไขความกระจ่างวลีฮิตๆ ที่คุณหมออาจทำให้คนไข้สับสน


นพ.กฤษดา เล่าว่า บุคคลแต่ละวิชาชีพมักจะมีลีลาการใช้ภาษาไทยที่เฉพาะตัว อย่างคำพูดของคุณหมอกับคนไข้มักมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ “สั้นๆ” แต่บางทีชวนให้คนไข้คิดไปไกล ดังที่เคยมีคนไข้ท่านหนึ่งไปตรวจมะเร็งปากมดลูกมาแล้วคุณหมอบอกว่าผลเป็น “เซลล์ผิดปกติ”…แค่นี้คนไข้ก็ขนหัวลุกแล้ว


เพราะ
คำอย่างนี้ในภาษาไทยเขาเรียกว่า “คำเปิด” ครับ คือความหมายกว้างมาก
อย่างน้อยก็ 2 แง่ ผิดปกติแต่ไม่ใช่มะเร็ง กับผิดปกติแบบมะเร็ง
หรืออย่างคนไข้ถูกบอกว่าพบ “เนื้องอก” พอบอกแล้วคุณหมอก็ไป
ทิ้งหน้าที่กังวลไปทั้งวันให้กับคนไข้ที่ไม่ได้ความกระจ่าง จนบางครั้งร่ำๆ
จะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ


คนไข้บางท่านอาจคิดว่า เซลล์ผิดปกติหรือเนื้องอกก็เท่ากับ “มะเร็ง” แล้ว น้อยคนที่จะคิดว่า เซลล์ผิดปกติ คือ เซลล์ที่มันเปลี่ยนแปลงไปจากการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งรักษาได้พอหายก็จะกลับมาเป็น “เซลล์ปกติ” ได้ในสามวันเจ็ดวัน










เพื่อ
ป้องกันปรากฏการณ์ช็อค!!! เมื่อรับฟังคำพูดจากคุณหมอนั้น นพ.กฤษดา
อยากขอนำคำพูดติดปากแบบ “หมอๆ” มาแปลให้ฟังกัน
ซึ่งก็อาจไม่เป็นดังนั้นเสมอไป



เริ่มที่วลีว่า "ต้องผ่าตัด"
เมื่อใดที่พูดถึงผ่าๆ เฉือนๆ ขอเตือนไว้ว่าให้ขอ “ความเห็นอื่น”
จากผู้เชี่ยวชาญด้วยจะช่วยได้มาก
หากไม่จำเป็นท่านก็ไม่ต้องเอาตัวไปรองเขียงให้เขาสับไม่ดีหรือ
ความลับก็คือถ้าไปโรงพยาบาลเอกชนแล้วถูกพิพากษาให้ผ่า 
ขอให้ถนอมตัวไว้มาหาความเห็นกับหมอที่โรงพยาบาลรัฐอีกทีก็ดี


ต่อมา "เจ็บนิดเดียว"
คำนี้สร้างความเสียวได้มาก
เพราะถ้าหมอบอกว่าเจ็บนิดเดียวส่วนใหญ่จะเจ็บเยอะ  แต่ก็ไม่แน่เสมอไป 
บางท่านที่มีขีดความอดทนสูงก็อาจบอกว่าจริงแล้วไม่เจ็บเลยก็เป็นได้ 
แต่ถ้าให้ดี ท่านก็ถามไปตรงๆ
เลยว่าถ้าเจ็บมากคุณหมอจะฉีดยาชาหรือดมยาสลบให้ไหม?


"โรคนี้ไม่หาย"
คนป่วยไม่อยากได้ยินคำนี้จากปากหมอเป็นที่สุด ทั้งที่จริงคำนี้หมายความว่า
ไม่หายแต่ดีเป็นปกติได้  เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเองที่ไม่มีวันหายแต่ก็มีช่วง
“อาการสงบ (Remission)” ที่คนไข้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หรืออย่าง เบาหวาน,
ความดันสูง และมะเร็ง ที่ไม่หายแต่ก็ต้องรักษาและคุมอาหาร
อย่าไปคิดว่าอย่างไรก็ไม่หาย จะกินอะไรก็ได้ตามใจปาก
มันจะทำให้ทั้งไม่หายและเพิ่มความทรมานขึ้นมาได้


"รอแป๊บเดียว" ตะเภา
เดียวกับเจ็บนิดเดียว ให้รอแป๊บแต่นานเหมือนชั่วกัลป์ 
อย่าไปคิดเสมอว่าถ้าแป๊บเดียวของหมอจะสั้นเท่ากับเวลาเราทานข้าวกับแฟน 
ไม่เลย แป๊บเดียวในเคสผ่าตัดบางรายนานนับชั่วโมงหรือเป็นวัน 
ถ้าเป็นหมอที่นั่งตรวจก็ขึ้นกับชนิดโรคคนไข้  บอกไม่ได้ว่าจะใช้เวลา 15
นาทีเท่ากันหมดเหมือนสั่งไก่ทอด


"ต้องใช้เวลา" ถ้า
โดนคำนี้ก็ให้บวกเผื่อ(ใจ)ไว้ด้วย จะได้ไม่เครียดจนจิตตก
เพราะบางโรคต้องรักษากันเป็นมหากาพย์  อย่างภูมิแพ้ที่เป็นโรครักษาไม่หาย
แต่จะมีช่วงที่สบายดีเป็นปกติด้วย 
หรือว่าโรคผิวหนังบางอย่างก็กินเวลานานในการรักษา
ถ้ากังวลใจจริงอาจถามให้คุณหมอช่วยประมาณเวลาให้ด้วยก็จะช่วยลดแรงกดดันได้


"เซลล์ผิดปกติ" ท่าน
ที่ไปตรวจชิ้นเนื้อตามองคาพยพต่างๆ ทั้งเต้านม, เนื้องอก, ปากมดลูก
ถ้าคุณหมอบอกผลมาว่า เซลล์ผิดปกติอย่าเพิ่งตกตื่นใจไป แม้บางครั้ง worst
case จะมีโอกาสเป็นเนื้อร้ายได้
แต่คำว่าเซลล์ผิดปกติก็แค่จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมให้มั่นใจขึ้นเท่านั้น
เอง


"โรคยังหาสาเหตุไม่ได้" 
มาจากภาษาฝรั่งว่า “Idiopathic”
วลีนี้พบบ่อยเป็นข้อพิสูจน์ว่าใครว่าการแพทย์ฝรั่งเจริญที่สุด
ท้าพิสูจน์ให้ไปเปิดตำราแพทย์หาสมุฏฐานแต่ละโรคเลย
จะพบคำว่ายังหาสาเหตุไม่พบนี้จนลายตาเลย
คุณหมอไทยเลยเคยชินนำมาใช้บ้างเผยแพร่ความไม่กระจ่างออกไปให้ฝรั่งบ้างไทย
บ้างงงกัน ถ้าท่านได้ยินคำนี้ ก็ยังไม่ต้องหัวเสีย
บางทีตัวท่านเองจะมีคำอธิบายได้ดีกว่า


"นอนโรงพยาบาล" ได้
ยินคำนี้จากโรงพยาบาลเอกชนอย่าเพิ่งยิ้มกริ่มเตรียมนอนเสมอไป
ถ้าท่านยังไม่อยากนอนหรือยังสงสัยก็ยังไม่ต้องนอน
เพราะยุคนี้เป็นนิดหน่อยก็ “เชียร์” ให้นอนกันจัง
คนไข้ที่น่าสงสารก็ไม่รู้เลยว่าเป็นการรับเชื้อแบบเน้นๆ
ในการนอนโรงพยาบาลแต่ละครั้ง เพราะโรงพยาบาลเขาฉลาด
แต่งให้เหมือนโรงแรมแต่เรื่องเชื้อโรคภัยไข้เจ็บน่ามีมากกว่าอยู่แล้ว


"ไม่ร้อยเปอร์เซนต์"
คุณหมอส่วนใหญ่ไม่ฟันธง เพราะไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซนต์ทางการแพทย์อยู่แล้ว 
ปาฏิหาริย์บางครั้งก็เกิดได้ 
คนที่นอนนิ่งเป็นอัมพาตยังกลับลุกขึ้นมาใหม่ได้เฉย  ในทางตรงข้ามคนดีๆ
ก็อาจฟุบไปได้เหมือนกัน ฉะนั้นการได้ยินคุณหมอบอกว่า “คุณปกติ”
ไม่ได้แปลว่า “สุขภาพดี”


"เป็นพันธุกรรม" คำ
ที่ถูกใช้กับบางโรค เช่น ความผิดปกติแต่แรกเกิด, เบาหวาน, แพ้ภูมิตัวเอง,
มะเร็ง
คำนี้ถ้าท่านได้ยินเข้าอย่าเข้าใจผิดว่าพันธุ์เราไม่ดีหรือต้องมีพ่อแม่ปู่
ย่าป่วยด้วยโรคเดียวกัน เพราะมันอาจหมายถึงได้ว่า
อณูที่ผลิตเซลล์ในตัวเราไม่ดีเลยสร้างความผิดปกติขึ้นมาเวลาเรายิ่งโตขึ้น
เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล


"ทานยาให้ครบ" 
คำนี้มักใช้พูดกับยาประเภทฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ
 คุณหมอพูดทีคุณเภสัชพูดอีกทีย้ำจนเข้าไปก้านสมอง 
เป็นคำพูดที่ถูกต้องแล้วครับแต่ถ้าท่านทานแล้วเกิดอาการแพ้และไม่แน่ใจให้
หยุดทานได้ แล้วรีบกลับมาถามหมอ  อย่ารอทานจนครบ 
หรือแค่อาการไม่ดีขึ้นท่านก็กลับมาให้คุณหมอดูใหม่


และวลีสุดท้าย "อดอาหารก่อนเจาะเลือด" คำ
นี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่มักพูดก่อนถูกนัดเจาะเลือด 
หัวใจสำคัญคือไม่อยากให้น้ำตาล, ไขมันและสารในอาหารอื่นๆ เข้าไปกวนเลือด
แต่ไม่จำเป็นต้อง “งดน้ำเปล่า” ดื่มได้ถ้าเป็นการเจาะเลือดตรวจสุขภาพธรรมดา
อย่าเป็นน้ำหวานก็แล้วกัน


ปัญหาสำคัญสุดที่น่าเห็นใจคนไข้คือ “ไม่กล้าถาม”
ครับเพราะอาจเคยมีประสบการณ์โดนดุมา เมื่อความสงสัยมากเข้าก็ไปเปิดฉากถามเอากับคุณพยาบาล, คุณเภสัชกรและคนอื่นที่ไม่ใช่หมอ ดังนั้นคุณหมออาจต้องเป็น “นักสื่อสารมวลชน” กลายๆ ไปด้วย พูดยังไงไม่ให้คนไข้ป๊อด หรือคุยกับญาติอย่างไรด้วยภาษาง่ายๆ.



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




Create Date : 06 มกราคม 2555
Last Update : 6 มกราคม 2555 8:53:32 น. 0 comments
Counter : 1435 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.