ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
น่าห่วง! คนไทยจอตาขาดปีละ 7-8 พันราย เพ่งหน้าจอบ่อยระวัง


จอตาขาด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

สมัยนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นคนยุคไซเบอร์หยิบสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตขึ้นมาดูทุกเวลาที่ว่าง แต่รู้ไหมว่าการใช้สายตาจดจ้องอยู่กับหน้าจอเหล่านั้นเป็นเวลานานจนเกินความพอดีนั้น ยิ่งเป็นการทำร้ายสายตาของเราให้เสื่อมลงโดยไม่รู้ตัว

          ทั้งนี้ นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม สาขาจักษุวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้พบผู้ป่วยโรคจอตาขาดและหลุดลอกมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคดังกล่าวที่เข้ารับการรักษาที่ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางโรคจอตา โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 4,213 ราย คิดเป็นผู้ป่วยโรคจอตาขาดและหลุดลอก อัตรา 1 ต่อ 10,000 ราย หรือประมาณ 7,000-8,000 รายต่อปี

นพ.ไพศาล ระบุด้วยว่า โรคจอตาขาดและหลุดลอกนั้นมักเกิดกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุทางดวงตา ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดตามาก่อน เช่น ผ่าต้อกระจก และผู้ที่มีสายตาสั้นมากกว่า 7 ไดออปเตอร์ หรือ 700 ขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิดความเสื่อมของน้ำวุ้นตามากกว่าคนปกติ โดยน้ำวุ้นตาที่แนบอยู่กับจอตาจะไปดึงจอตาจนเกิดรอยฉีกขาดและหลุดลอกได้

แท็บเล็ต

          สำหรับอาการของโรคจอตาขาดและหลุดลอกนั้น นพ.ไพศาล ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยจะรู้สึกมองไม่ค่อยชัด ในระยะแรกจะเห็นเป็นม่านบาง ๆ ตกลงมาบังตา แต่เมื่อเวลานานผ่านไปสักระยะม่านจะหนามากขึ้น ทำให้ภาพที่มองเห็นมืดขึ้นเรื่อย ๆ และอาจเห็นแสงฟ้าแลบเข้ามาเป็นระยะ ๆ คล้ายกับมีแสงแฟลชเข้ามากระทบดวงตา หากทิ้งไว้นาน ๆ จะเห็นแสงแฟลชเกิดบ่อยขึ้น ซึ่งถ้าไม่รีบรักษาอาจทำให้ตาบอดได้

          อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงก็คือ บางรายอาจเกิดจอตาขาด และหลุดลอกไม่รู้ตัว แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงดังกล่าวเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจตาอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อขยายม่านตาตรวจจอประสาทตา ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวแล้วแพทย์จะทำการรักษาให้ด้วยการผ่าตัดน้ำวุ้นตา เพื่อให้จอตาติดกลับคืน

นอกจากนี้ นพ.ไพศาล ยังแนะนำให้ทุกคนใช้สายตาอย่างทะนุถนอม อย่าใช้สายตามากเกินไป โดยเฉพาะการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตที่มากเกินไป จะทำให้สายตาเสื่อมไว รวมทั้งการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็ส่งผลกระทบต่อดวงตาด้วย






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



Create Date : 01 ธันวาคม 2555
Last Update : 1 ธันวาคม 2555 9:31:41 น. 0 comments
Counter : 2140 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.