ถ่ายรถทดสอบ Ford Fiesta 2013
Kawasaki D'tracker 125
จังหวะที่ไม่ค่อยพอเหมาะ แต่พอดี ก็ได้คันนี้มาอีกคันที่ว่าไม่พอเหมาะ เพราะว่าซื้อคันนี้มาได้ไม่ถึง 10 วันมีคนมาประกาศขายตัว 250 ในราคาที่น่าสนมากที่สุด แต่ไม่มีเงินแล้ว แต่ก็ไหน ๆ แล้ว เดี๋ยวมันก็มาอีก (ขอให้มีเงิน)แต่คันนี้ก็ดีครับ ไม่ใหญ่เกินไป ถ้าล้มแล้วเอาขึ้นมาง่ายกว่าด้านหน้าเฉียงหน่อย ๆ ความรู้สึกขี่ตอนแรก ๆ ขี่ไม่ค่อยสนุกเลย สู้ ksr ไม่ได้ คันนั้นขี่สนุกจริง ๆ (ขี่สนุกนะ ไม่ได้ขี่เร็ว) แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ไม่ค่อยอยากกลับไปขี่ ksr เท่าไรเรื่องของแต่งมีน้อยครับ ของ ksr มีบานตะเกียงเลย เรื่องการกินน้ำมันยังไม่รู้ครับ ยังไม่ได้จับ น่าจะกินกว่าหน่อยนึง แม้จะจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดก็ตาม ก็รถมันสูงกว่า ต้านลมกว่า และหนักกว่ากัน 28 กก. ความเร็วสูงสุดเท่าที่ลองขี่ได้ตามหน้าปัทม์ได้ที่ 105 กม./ชม. (เทียบกับ GPS ได้ที่ 100 กม./ชม.) ส่วน ksr ได้ที่ 87-90 กม./ชม. เกินพอแล้วสำหรับรถแบบนี้ ใช้ความเร็วที่ 80 กม./ชม. กำลังสบายครับการควบคุมยากกว่า ksr นิดนึงตรงที่มันหนักกว่า แต่ก็ไม่เป็นปัญหาครับ เบาะมันเล็ก ขี่แล้วเมื่อยก้นหนักหนา ยิ่งขี่ไกล ๆ ยิ่งเมื่อย สรุปว่าเป็นรถที่ขี่สนุกครับขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านครับ
Kawasaki KSR
หลังจากที่ดูหมวกกันน็อคแล้ว มาดูรถมอเตอร์ไซค์ KSR กันดูไปเรื่อย ๆ ครับ เปลือกเป็นเคฟล่า ของไทก้าครับ ชิ้นท้ายปีกข้างหน้ากาก กระจกมองหลังตัดแสง(เป็นของยี่ห้ออะไรไม่รู้) ปลอกแฮนด์โดมิโนช็อคอัพหลังของมรกต เอ๊ย โอห์ลินครับ สายเบรค Goodridgeสวิงอาร์มหลังของอะไรใครทราบช่วยบอกทีครับอีกด้านครับ ยางพีเรลลี่ SL60แฮนด์ HARDYอย่างอื่นก็เดิมเกือบหมด เครื่องเดิม ท่อเดิม(ผ่านิดหน่อย) เสียงเงียบสนิท ชอบมากที่เงียบแต่ไม่ค่อยชอบรูปทรงของมันเลย มีเปลี่ยนแตร และใส่ตะแกรงท้าย AC+รถขี่สนุกดีครับ ช่วงล่างเยี่ยมมาก บิดได้เต็มที่ 85 ไหลนิดนึง 90 แค่นี้ก็พอแล้วครับแถมรูปอีกครับอีกรูปครับ
หมวกกันน็อค NOLAN N43 AIR
หลังจากที่ซื้อหมวกกันน็อคที่มีตรา มอก.ใบละสามสี่ร้อยบาท มาสองสามลูก ในใจคิดว่าสักวันต้องใช้หมวกกันน็อคของดี ๆ สักใบ ยิ่งได้เห็นนักบิดใน Moto GP ด้วยแล้วยิ่งอยากได้เข้าไปอีกมาสบโอกาสตอนมอเตอร์โชว์ปีนี้ ก็เลยไปลองและสุดท้ายซื้อหมวกใบนี้มา ย้ำอีกที หมวกใบนี้ไม่มี มอก. นะครับชื่อรุ่นและสรรพคุณที่ติดมากับชิลด์หน้าครับเป็นสีดำด้านครับน้ำหนัก และประเทศผลิตครับเหตุผลนึงที่เลือกรุ่นนี้เพราะ การระบายอากาศครับ เพราะผมเป็นคนที่เหงื่ออกเยอะมาก เริ่มจากด้านหน้า เหนือชิลด์ด้านบนครับเมื่อปิดรูระบายด้านบน โดยเลื่อนเปิดปิดที่สันกลางด้านหลังครับ เหตุผลที่สองเพราะ สามารถถอดที่ปิดคางได้ โดยกดที่ล็อคบริเวณแก้มทั้งสองข้างครับแล้วก็ดึงออกตัวปิดคางก็จะออกมาง่าย ๆ ตอนใส่ก็ทำย้อนกลับไปครับ แค่ดังคลิคก็คือล็อคแน่น แต่ปลายทั้งสองข้างจะแคบกว่ารูเสียบที่ตัวหมวก ต้องง้างออกนิดนึงครับ พอถอดแล้วก็รับลมเขาไประบายความร้อนได้เต็ม ๆ หมวกรุ่นนี้สามารถใส่บลูทูธในตัวหมวกด้วยครับ อยู่ทางแก้มซ้ายของเราเปิดมาก็จะเจอที่ใส่บลูทูธ ของโนแลนเขา แต่ผมไม่ได้ซื้อมาครับ ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ และต้องใช้เงินอีกตั้งหลายพันตัวล็อคสายรัดคางเป็นแบบง้าง แล้วใส่รางเลื่อนอีกฝั่งเข้าไปปล่อยตัวง้างก็ล็อคแน่นแล้วครับ ใช้งานได้สะดวกดีมาก ด้านในหมวกครับ ถอดซักได้ เมื่อเปิดคางก็จะเห็นเป็นเช่นนี้เหตุผลที่สามที่ซื้อรุ่นนี้ ซึ่งเยี่ยมมากก็คือภายในชิลด์ ยังมีชิลด์อีกชั้นนึงซึ่งสามารถเลื่อนใช้หรือไม่ใช้ได้ ซึ่งชิลด์นี้เป็นสีเทาเข้ม ๆ เอาไว้กรองแสงเวลากลางวันที่แดดแรง ๆ ทำให้ขี่รถได้สบายตามาก ด้านหน้าครับ เลื่อนลงมาสุดได้เท่านี้ครับ โดยเลื่อนที่ด้านซ้ายของหมวกเหนือที่ปิดบลูทูธ (บริเวณหูข้างซ้าย)ด้านข้างเมื่อใช้ชิลด์ทั้งสองชั้นครับมาส่องดูกันครับ เริ่มจากตอนที่ถ่ายบนถนนตรง ๆ เมื่อผ่านชิลด์ใสชั้นนอก ซื่งจะออกเหลืองจาง ๆ และเมื่อผ่านชิลด์ด้านในกรองแสงอีกทีครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วมองผ่านสบายตามากเรื่องการเก็บเสียง มันก็ไม่เงียบเท่าไรครับ แต่ผมไม่ซีเรียส เพราะชอบสามเหตุผลข้างบนมากกว่า ซื้อมาใช้กับรถคันนี้ครับ อย่ามากระแนะกระแหนว่าซื้อหมวกใบนี้มาใช้กับรถคันกระเปี๊ยก เพราะว่าคนมีหัวเดียว (กระเทียมไม่ลีบ) ซ่อมยากครับ และรถคันนี้มันขี่สนุกเกินตัวจริง ๆ ถ่ายคู่กันหน่อยอีกรูปครับ จะเห็นที่เลื่อนเปิดปิดชิลด์กรองแสงด้านใน อยู่ใกล้ ๆ กับจุดหมุนของชิลด์ด้านนอกหมดแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามชมครับ