[News] Google ทุ่ม 120 ล้านสร้างศูนย์ Data Center
Google ยักษ์ใหญ่ประจำวงการไอทีประจำศักราชนี้ เตรียมทุ่มเงินจำนวนมหาศาล 120 ล้านเหรียญฯ สร้างศูนย์ Data Center ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรองรับการใช้งานในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นทุกวัน

HP ProBook 4530s XU015UT

Google ผู้นำแห่งวงการเสิร์ชเอนจินโลก ประกาศชัดว่า Google มีแผนที่จะสร้างศูนย์ Data Center ที่มีมูลค่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยศูนย์ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกที่มีการสร้างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้การสร้าง Data Center หรือศูนย์ข้อมูลจุดประสงค์หลักเป็นเพราะว่าการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มที่จะใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Google ได้เก็บข้อมูลจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในทวีปเอเชียมาโดยตลอด จนเป็นเหตุผลในการสร้าง Data Center แห่งที่ 3

"ทวีปเอเชียมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ศูนย์ข้อมูลของเราที่ให้บริการอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปยุโรปไม่สามารถรองรับการใช้งานที่มากเช่นนี้ได้"

การสร้างศูนย์ Data Center ของ Google ที่สิงคโปร์จะใช้เงินลงทุนกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ บนพื้นที 6 เอเคอร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2013 และจะเป็น Data Center แห่งที่ 3 ต่อจากฮ่องกง และไต้หวัน โดยที่หมู่เกาะฮ่องกงได้ใช้เงินลงทุนในการสร้าง 300 ล้านเหรียญฯ ส่วนที่ไต้หวันใช้เงินลงทุนในการสร้างมากกว่่า 100 ล้านเหรียญฯ

แน่นอนว่าการสร้าง Data Center เพิ่มขึ้นอีกแห่งในทวีปเอเชียจะทำให้ผู้ใช้ชาวเอเชียสามารถเข้าถึง และเข้าใช้งานบรรดาบริการต่างๆ ของ Google ได้ฉับไว รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน



Create Date : 23 ธันวาคม 2554
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 1:56:05 น.
Counter : 310 Pageviews.

1 comment
[News] ข้ออ้างหรือเหตุผล ที่คุณเลิกคบ "เพื่อน" ใน Facebook
คุณผู้อ่านเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับว่า เหตุผลใดที่คุณใช้ในการ "เลือกคบ" หรือ "เลิกคบ" เพื่อนๆ ที่อยู่ใน Facebook ล่าสุดมีผลงานวิจัยจาก NM Incite (Nielsen McKinsy Company) ที่ระบุถึงปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการ Facebook สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจเรื่องดังกล่าว ซึ่งสำหรับผู้คนที่รู้จักกันในโลกของความเป็นจริงจะเป็นเหตุผลอันดับหนึ่งในการเลือกคนคนนั้นเป็นเพื่อนใน Facebook ถึง 82% ในขณะที่พวกชอบคอมเมนต์ก้าวร้าวหยาบคายน่ารังเกียจจะเป็นเพื่อนใน Facebook คนแรกๆ ทีถูกเลิกคบด้วยสถิติสูงถึง 55%

จากรายงานวิจัยฉบับดังกล่าวยังได้มีการเปิดเผยอีกด้วยว่า การมีปฏิสัมพันธ์ในโลกของความเป็นจริงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่่ำให้เกิดมิตรภาพบนออนไลน์ ในขณะเดียวกัน คอมเมนต์ขายของ และคอมเมนต์แย่ๆ จะเป็นตัวไล่เพื่อนได้เป็นอย่างดี จรรยาบรรณในการใช้ Facebook ก็มีส่วนสำคัญในเรื่่องนี้ด้วย เช่น การอัพเดทบ่อยเกินไป หรือน้อยเกินไป ตลอดจนการมีเพื่อนมากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการพิจารณาเลือกเพื่อนใน Facebook ด้วยเหมือนกัน

Toshiba Satellite L755-S5350

นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุถึงพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ด้วยเช่น ผู้ชายมักจะชอบใช้โซเชียลมีเดียในเรื่องของอาชีพ หรือหางาน และเครือข่าย รวมถึงการนัดหมายต่างๆ ในขณะที่ผู้หญิงจะใช้โซเชียลมีเดียในการหาทางออกที่สร้างสรรค์ การหาคูปอง+โปรโมชั่น หรือไม่ก็การแสดงความคิดเห็นในทางบวก ทั้งนี้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มในการเพิ่มเพื่อนที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจ หรือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าเพื่อนที่รู้จักในชีวิตจริง หรือเลิกคบเพราะคอมเมนต์แรงๆ ก้าวร้าว

Apple MacBook Pro MD313LL/A 17-Inch Laptop Review



Create Date : 22 ธันวาคม 2554
Last Update : 22 ธันวาคม 2554 2:47:56 น.
Counter : 366 Pageviews.

1 comment
[News] สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ด้วย Siri บน iPhone 4S ?
รายงานข่าวล่าสุด เว็บไซต์ Wolfram Alpha ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ต่างๆ ใน Best Buy ผ่านทางแอพฯ Siri บน iPhone 4S แถมยังสามารถสั่งเปรียบเทียบ และชอปสินค้าดังกล่าวด้วยคำสั่งเสียงเพียงอย่างเดียวได้อีกด้วย

แอปเปิ้ล (Apple) กล่าวว่า ทางบริษัทจะเพิ่มขยายขีดความสามารถของ Siri แอพฯเลขาส่วนตัวบน iPhone 4S ให้ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ แต่จากรายงานข่าวล่าสุดที่มีการเปิดเผยออกมานี้ กลับไม่ได้มาจากทางฝั่งของ Apple แต่เป็นระบบค้นหาจากฐานข้อความมูลความรู้ที่มีชื่อเรียกค่อนข้างยากว่า Wolfram Alpha ซึ่งประกาศเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ Siri ของ iPhone 4S โดยที่ทางบริษัทไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องของการพัฒนาระบบดังกล่าวแต่อย่างใด ในขณะที่ผลลัพธ์ที่ออกมาช่วยให้ดูเหมือน Siri จะฉลาดมากขึ้นจริงๆ เพราะไม่เพียงแต่จะสั่งค้นสินค้ารุ่นทีต้องการได้แล้ว มันยังสามารถสั่งด้วยเสียงให้เปรียบเทียบคุณสมบัติ และราคาได้อีกด้วย

siri iphone 4s

จากรายงานใน บล็อก ของ Wolfram Alpha ได้แสดงข้อมูลที่ Best Buy ซึ่งสามารถดึงออกมาแสดงผ่าน API ของเว็บไซต์ได้ โดยจะสามารถเขียนโค้ดคำสั่งให้เข้าไปค้นหารายละเอียดสินค้าจากฐานข้อมูลทีมีอยู่มากกว่า 35,000 รายการได้ "เราใช้จุดแข็๋งของ Wolfam Alpha ที่สามารถประมวลผลทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และข้อมูลเศรษฐกิจสังคม เพื่อนำมาสร้างข้อมูลเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับนักชอปออนไลน์" ผลลัพธ์ของการพัฒนาดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เว็บ หรือสั่งด้วยเสียงผ่าน Siri เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ถึงระดับชื่อรุ่นของมัน เพื่อให้แสดงรายงานต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ราคา รวมถึงการมีอยู่ของสินค้าในร้าน ตลอดจนการจัดเรทสินค้่าดังกล่าว พร้อมทั้งข้อมูลเปรียบเทียบราคากับรุ่นใกล้เคียง



Wolfram Alpha ยังแจ้งอีกด้วยว่า คุณผู้อ่านสามารถสั่งชอปสินค้าต่างๆ ที่มีสเป็กตามที่ต้องการ โดยระบุผ่านคำสั่งได้อีกด้วย เช่น "the lightest digital camera under $100 with a pixel resolution greater than 12MP" (กล้องดิจิตอลที่เบาที่สุด ราคาต่ำกว่า 100 เหรียญฯ และมีความละเอียดมากกว่า 12 ล้านพิกเซล) หรือจะสั่งเปรียบเทียบกับรุ่นต่างๆ ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสินค้าของ Best Buy (โดยเฉพาะราคา และบริการต่างๆ) จะใช้ได้กับลูกคั้าในสหรัฐฯ เท่านั้น ล่าสุดทาง Apple ได้โปรโมท Siri ด้วยโฆษณาใหม่ชุด Santa Claus ที่ใช้ Siri ในการทำงาน โดยในโฆษณาไม่มีการพูดคำว่า iPhone 4S หรือ Siri แม้ครั้งเดียว



Create Date : 21 ธันวาคม 2554
Last Update : 21 ธันวาคม 2554 2:23:52 น.
Counter : 316 Pageviews.

0 comment
[News] Facebook เปิด "Time Machine" ย้อนอดีตด้วยฟีเจอร์ "Timeline"
กำลังจะเข้าใกล้ศักราชใหม่ทั้งทีต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้างสำหรับ Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบอินเตอร์เฟสหน้า Profile ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฟีเจอร์นี้มีชื่อว่าว่า Timeline (ไทม์ไลน์) เริ่มตีฆ้องให้ใช้งานพร้อมกันทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมเป็นต้นไป
      


       ถ้าหากย้อนหลังกลับไปในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาในงาน f8 Facebook ได้โชว์ฟีเจอร์ Timeline ให้ได้รับชมโดยทั่วกันไปแล้ว และในตอนนั้นได้เปิดโอกาสให้นักพัฒนาทดลองกันใช้กันไปก่อน จนถึงตอนนี้ก็ได้เวลาอันเหมาะสมที่จะเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการเสียที
      
       ทั้งนี้ทาง Facebook จะให้เวลาผู้ใช้ได้กดเปลี่ยนรูปแบบหน้า Profile ใหม่ได้ภายใน 7 วัน โดยฟีเจอร์ Timeline จะเปิดให้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมนี้
      
       ส่วนคอนเซปต์ของ Timeline ฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook นั้น เปรียบเสมือนกับผู้ใช้กำลังได้นั่งไทม์แมชชีนเพื่อย้อนอดีตกลับไปยังเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับมีการอัปเดทรูปภาพ และการอัปเดทข้อมูลของเพื่อนของผู้ใช้ตลอดเวลา
      

Facebook for Android ก็ใช้ Timeline ได้

       สำหรับประเทศแรกที่มีการนำร่องการใช้งาน Timeline คือประเทศนิวซีแลนด์เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่วันนี้จะมีการขยายการใช้งานไปยังผู้ใช้งาน Facebook ทั่วโลก
      
       นอกจากนี้แล้วยังมีการอัปเดทเพิ่มเติมจาก Facebook ในส่วนของ Facebook for Android ด้วย โดยภายในแอปพลิเคชันมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบ Timeline เช่นกัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน Facebook for Android เวอร์ชันใหม่จะเพิ่มการ Push ข้อความและแก้บั๊กที่เคยเกิดขึ้นจากเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ใช้Smart Phone Android สามารถดาวน์โหลด Facebook for Android ได้ที่ Download Facebook Mobile
      
       ถ้าหากต้องการรับชมวิดีโอพรีเซนเทชันเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook อย่าง Timeline สามารถติดตามชมได้จากคลิปด้านล่าง




Create Date : 16 ธันวาคม 2554
Last Update : 16 ธันวาคม 2554 19:45:29 น.
Counter : 344 Pageviews.

0 comment
[News] ผู้ค้า IT ปรับตัวครั้งใหญ่ ปั๊มยอดขายบนกลยุทธ์ใหม่
ปี 2555 ถือได้ว่าเป็นปีที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ต้องปรับตัวขนานใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรรมฮาร์ดดิสก์เท่านั้น ทว่ายังทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยไอดีซีและแวดวงผู้ประกอบการ ประเมินว่า การเปลี่ยนเครื่องใหม่จะช้าลง ส่งผลให้ตัวเลขตลาดรวมคอมพ์ไตรมาส 4 ต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ปี 55 จะหดตัวลงไม่ต่ำกว่า 30% สวนทางกับราคาเครื่องที่ว่ากันว่าน่าจะดีดตัวสูงขึ้น ทั้งหมดจึงเป็นแรงเหวี่ยงสำคัญให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์และวิถีคิดใหม่นับจากนี้ เพื่อปั๊มตัวเลขยอดขายปีหน้าให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
       


       หากมองภาพรวมตลาดคอมพ์รอบปี 2554 เรียกได้ว่า เป็นปีที่มีสีสันและเผชิญความท้าทายอย่างมาก เพราะนอกจากการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่าน โดยเฉพาะการขับเคี่ยวระหว่างแบรนด์เบอร์ 2 ไปจนถึงเบอร์ 5 ที่มีส่วนแบ่งตลาดต่างกันไม่มาก โดยแต่ละค่ายต่างอัดกิจกรรมการตลาดเข้าใส่กันไม่ยั้ง เพื่อแย่งฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งให้กับตนเองมากที่สุด แล้ว ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน โดยเฉพาะภาวะน้ำท่วม จนทำให้แต่ละแบรนด์ต้องเร่งปรับแผนรับมือกันแบบวันต่อวัน
       
       ทว่าสำหรับปี 2555 ผู้ประกอบการมองตรงกันว่า ยังเป็นปีที่การแข่งขันร้อนแรง และไม่ง่าย เพราะทุกค่ายต่างมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ตนเอง เมื่อบวกกับผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วม ก็ทำให้ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว พร้อมเปลี่ยนวิธีคิดการตลาดใหม่ๆ ให้เหมาะสมมากขึ้นกว่าเดิม
       
       “เป็นปีที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัว ไม่ยึดติดกับการตลาดในรูปแบบเดิมๆ”
       
       เป็นคำกล่าวของ จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ถึงการเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ และบอกว่า ตัวผลักสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถใช้ยุทธศาสตร์เดิมๆ ทำตลาดได้อีกต่อไป มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากข้อมูลของไอดีซี พบว่า ผู้บริโภคจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอมพ์ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ต่อเนื่องไตรมาส 1 ปี 2555 หดตัวลงประมาณ 30% ของตลาดรวมคอมพิวเตอร์ 1.8 ล้านเครื่อง
       
       สอดคล้องกับ ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ที่มองว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะส่งผลต่อตลาดรวมคอมพิวเตอร์ปีหน้า โดยในไตรมาส 1 และ 2 ตลาดยังฝืด และจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาส 3 ผู้ผลิตจึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีคิดใหม่ เนื่องจากการใช้การทำตลาดแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอแล้ว
       


       แนวทางการปรับตัวของค่ายเลอโนโวในปีหน้าจะมุ่ง 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การขยายตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น อีกทั้งนำสินค้าเข้ามาทำตลาดให้ครบไลน์ ทั้งกลุ่มโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเลต รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตัวในประเทศฟิลิปปินส์ ผลตอบรับดีมาก ส่วนเมืองไทยอยู่ระหว่างศึกษาตลาด หากพร้อมอาจจะนำเข้ามาทำตลาดปีหน้า พร้อมเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ เช่น ตลาดต่างจังหวัด โดยคาดว่าปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 25% จากปัจจุบัน 15% เพราะจากภาวะน้ำท่วม ตลาดกลุ่มนี้ช่วยให้ยอดขายไม่หดตัวลงมาก
       
       ตลอดจนมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นให้ตรงความต้องการลูกค้า เช่น มีการทำโปรโมชั่นในร้านค้ามากขึ้น เพื่อดันยอดขายกระจายในทุกพื้นที่ จากเดิมที่จะเน้นทำโปรโมชั่นในงานอีเวนต์เป็นหลัก อีกทั้งต้องมีการผนึกพาร์ตเนอร์เพื่อรุกกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย เพราะทิศทางการทำตลาดต่อไปจะทำคนเดียวไม่ได้ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการวางแผน
       
       จีรวุฒิ บอกว่า จากแนวทางการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ยอดขายเลอโนโวช่วงน้ำท่วมกระทบไม่มากนัก พร้อมมั่นใจปีหน้าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 10% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 8% รั้งอันดับที่ 5
       


       ฟากโตชิบา ยอมรับว่า น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายประมาณ 300 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมปีนี้จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 4,500 ล้านบาท เหลือเพียง 4,300 ล้านบาท แต่ในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่กระทบ โดยปัจจุบันโตชิบามีส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊ก 9% ปีหน้าตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 15%
       
       ถกล บอกว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้แม้จะสร้างวิกฤตทางด้านการขาย แต่โตชิบาก็ไม่หยุดนิ่ง ตรงกันข้ามกลับทุ่มงบและทำการตลาดไม่หยุด ล่าสุดผุดแคมเปญ “ยิ้มสู้” ซึ่งใช้เม็ดเงินสูงถึง 10 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
       
       “ปีหน้าในแง่การทำตลาดเราต้องบุกมากกว่าเดิม และต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับตลาดยิ่งขึ้น”
       
       ถกล กล่าว และว่า ยุทธศาสตร์การทำตลาดใหม่ของโตชิบาในปีหน้า จะเน้นการจัดโรดโชว์ย่อยๆ ในต่างจังหวัดมากขึ้น พร้อมกับมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นถี่ขึ้นชนิดรายสัปดาห์ เพื่อไดรฟ์ให้เกิดการขายมากขึ้น
       
       นอกจากรูปแบบการจัดกิจกรรมที่เปลี่ยนไปแล้ว โตชิบายังจะหันมารุกตลาดกลุ่มเอนทรีมากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นตลาดที่โตชิบายังมีสัดส่วนตลาดน้อย พร้อมทั้งมีแผนขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด และโมเดิร์นเทรด เพื่อขับเคลื่อนยอดขายและส่วนแบ่งตลาดให้ได้ตามเป้าที่วางไว้




Create Date : 16 ธันวาคม 2554
Last Update : 16 ธันวาคม 2554 14:09:08 น.
Counter : 399 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

iFreeZero
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog