[News] ติดตาม - ศึกการตลาดของ 4 อิทธิพลยักษ์ออนไลน์
เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อ Facebook หนึ่งในยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลของโลกออนไลน์ ประกาศเข้าตลาดเมื่อต้นเดือน ตอกย้ำความสำคัญของวงการออนไลน์ ที่มีผลต่อโลกธุรกิจอย่างแท้จริง
 
เมื่อสงครามแห่งนวัตกรรมและการชิงพื้นที่สัดส่วนการตลาดดิจิทัลระอุอย่างทุกวันนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ Apple ผู้กำหนดพฤติกรรมผู้บริโภค Google แหล่งข้อมูลและเจ้าแห่งการสืบค้น อเมซอน นักการตลาดค้าปลีกออนไลน์ผู้ยิ่งใหญ่ และ Facebook เจ้านครผู้ทรงอิทธิพลแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค พากันเปิดศึกที่เข้มข้นด้วยกลยุทธ์ และนวัตกรรมไม่หยุดยั้ง
 
สาเหตุที่ผู้นำทั้ง 4 รักษาความเป็นผู้ทรงอิทธิพลนั้น มาจากความสามารถในการสร้างสรรค์ กำหนดความเป็นไปของเทคโนโลยี โทรศัพท์เคลื่อนที่ สิ่งพิมพ์ ค้าปลีก รวมถึงดิจิทัลและเอ็นเตอร์เทนเมนท์แพลตฟอร์ม
 
เมื่อการแข่งขันในธุรกิจนี้มีผลกระทบกับผู้บริโภคทั้งโลก ย่อมเป็นสิ่งที่นักการตลาดควรศึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในบ้านเรา



*** Apple จากนวัตกรรมสู่สินค้าที่คนทั้งโลกต้องการ ***
 
ความสำเร็จของ Apple เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นทุบสถิติสูงสุด 500 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์ และอาจสูงขึ้นไปอีก เมื่อถึงการเปิดตัว ไอแพด 3 ในเดือน มี.ค. ที่คนทั่วโลกจ้องมองว่า Apple จะรักษาตำแหน่งสุดยอดผู้นำด้านนวัตกรรมและการผลิตเอาไว้ได้หรือไม่
 
Apple เป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน การผลิต นวัตกรรม เทคโนโลยี มีเดีย และแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ สามารถส่งผลงานที่ผู้บริโภคชื่นชอบและสร้างรายได้ให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ไอพอด ไอทูนส์สโตร์ ไอโฟน ไอแพด ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แถมยังเปิดบริการ ไอคลาวด์ เพื่อเสริมกำลัง ไอทูนส์สโตร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าร้านอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่
 
หากคำนวณดูปริมาณของคนที่มีอุปกรณ์ Apple กว่าพันล้านคนทั่วโลก สิ่งที่นักการตลาดคาดการณ์ต่อไป คือ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจะนำเสนอในอนาคต จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกขนานใหญ่ ซึ่งเราต้องปรับตัวตามให้ทัน



*** แหล่งข้อมูลยักษ์ Google บนสังเวียนโซเชียล ***
 
ในโลกของวงการโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง Google เป็นเจ้าตลาดที่มีอิทธิพลสูง คิดเป็นสัดส่วนโฆษณาผ่าน เสิร์ช แอด ถึง 76% และคาดว่าปริมาณรายได้จากโฆษณาทาง โมไบล์ แอด น่าจะสูงกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ โดย Google มีความเชื่อว่า ยอดการใช้สื่อโฆษณาจะสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีในอีก 2-3 ปี
 
ปีที่แล้ว แม้ว่าการเปิดตัว Google+ เพื่อชิงชัยในสนามโซเชียลเน็ตเวิร์คกับ Facebook อย่างเต็มตัว จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังมากนัก แต่การซื้อกิจการ โมโตโรล่า โมบิลิตี้ โฮลดิงส์ เชื่อว่าจำนวนสิทธิบัตรกว่า 17,000 รายการ จะช่วยลดปัญหาด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ให้แอนดรอยด์ และมีความเป็นไปได้ในการทำตลาดในจีนง่ายขึ้น ผ่านบริษัทในเครือโมโตโรล่า
 
นอกจากแพลตฟอร์มหลักที่แข็งแกร่งแล้ว Google ยังก้าวเข้าสู่ธุรกิจทีวีด้วย Google ทีวี และการพัฒนา ยูทูบ ให้ใกล้เคียงกับทีวี รวมถึงพยายามสร้างแพลตฟอร์มเพื่อปูทางเข้าสู่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แทบเล็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอีกมากมาย เพื่อสร้างสถานะเป็นแหล่งความบันเทิงมากขึ้น ให้ทุกคนในบ้านเข้าถึง เชื่อมกับ Google+ หรือFacebook เพื่อติดตามเพื่อนในแพลตฟอร์มอื่นๆ เหล่านี้จะนำไปสู่การใช้ชีวิตในบ้านของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง



*** แชมป์นักขายไซเบอร์ อเมซอน ***
 
ปลายปีที่แล้ว อเมซอน แนะนำ อเมซอน ไฟร์ คินเดิลรุ่นใหม่ในราคาเพียง 199 ดอลลาร์ และเป็นไปได้ว่าอาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาเสริมทัพระบบอีคอมเมิร์ซของเว็บท่า อเมซอน.com ซึ่งเตรียมรุกเข้าสู่พื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนท์แพลตฟอร์มเช่นเดียวกับคู่แข่งรายอื่นๆ พร้อมกับการรุกเข้าสู่เอเชียอย่างมั่นคง เริ่มจากการสร้างพันธมิตรกับร้านค้าและตลาดในอินเดีย
 
ในฐานะผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ สิ่งที่ อเมซอน ใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญ คือ จำนวนของศูนย์จัดการคลังสินค้า ที่เก็บและระบายสินค้าในทวีปต่างๆ กว่า 50 แห่งทั่วโลก ยังเปิดบริการให้คู่ค้ารายย่อยใช้บริการจัดส่งสินค้าและลูกค้าสัมพันธ์ โดยคิดค่าใช้จ่ายกับร้านค้าย่อยที่ขายสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสของตน นับเป็นกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซที่น่าเรียนรู้จากผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกรายนี้



*** Facebook น้องใหม่ไฟแรงท้าข้ามรุ่น ***
 
โซเชียลเน็ตเวิร์ตที่มาแรงที่สุด คือ Facebook ซึ่งก้าวเข้าสู่ธุรกิจหมื่นล้านในตลาดหุ้นได้ในเวลาไม่กี่ปี และเป็นที่ต้องการสำหรับแบรนด์ต่างๆ ด้วยแต้มต่อของสมาชิกกว่า 812 ล้านคนในขณะนี้ และยิ่งมีมูลค่าทางการตลาดมากขึ้นจากนโยบายของ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ที่มุ่งสู่การเป็นศูนย์รวมความบันเทิง ทำให้องค์กรรุ่นพี่ทั้งหลายต้องจับตามอง
 
สาเหตุที่ Facebook มีรายได้ 3,700 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะลักษณะและปริมาณการใช้งานของผู้บริโภคทั่วโลก โดยข้อมูลจาก คอมสกอร์ เปรียบเทียบชัดเจนว่า เดือน พ.ค. 2554 มีผู้ใช้ Google และยูทูบ กว่า 180 ล้านครั้ง เรียกดูข้อมูลกว่า 46,300 ล้านหน้า และใช้เวลาเฉลี่ยในเว็บไซต์เกือบ 4 ชั่วโมง ขณะที่มีผู้ใช้ Facebook 157 ล้านครั้ง เรียกดูข้อมูลกว่า 100,000 ล้านหน้า และใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่า 6 ชั่วโมง
 
กล่าวกันว่าในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว มีสมาชิกกว่า 425 ล้านคนเข้าใช้ Facebook ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคหันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียจนเป็นเรื่องปกติ
 
นอกจาก 4 บริษัทในโลกออนไลน์ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดิจิทัลอีกมากมายอย่าง ไมโครซอฟท์ อีเบย์ โนเกีย กรุปปอง และซิงกา ที่พร้อมเสนอนวัตกรรมและบริการใหม่ทางดิจิทัลให้กับผู้บริโภค ดังนั้น นักการตลาดบ้านเราต้องหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจระดับโลกเหล่านี้ เตรียมพร้อมรับมือกับดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว และใช้ให้ทันเพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร



Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2555 2:43:39 น.
Counter : 499 Pageviews.

0 comment
[News] Adobe Photoshop CS6 "ย้ายวัตถุ" ในภาพได้ในพริบตา
และแล้วก็ได้เวลาของผลิตภัณฑ์เรือธงของ Adobe อย่าง Photoshop ซึ่งเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่หลายคนกำลังจับตามองอยู่ในขณะนี้ก็คือ CS6 โดยตัวแทนบริษัทได้เผยฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันนี้ที่รับรองว่า คุณผู้อ่านจะต้องทึ่งตะลึงจนตาค้าง เพราะด้วย Photoshop CS6 คุณจะสามารถย้ายวัตถุไปรอบๆ ภาพได้อย่างอิสระ และง่ายดายราวกับร่ายเวทย์มนต์



          ข้างล่างนี้จะเป็นคลิปสาธิตการใช้ Content-Aware ฟีเจอร์ใหม่ใน Photoshop CS6 ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการใช้เครื่องมือ Clone-stamp ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการแก้ไข ก่อนที่จะเลื่อนไปยังบริเวณที่ต้องการ (ก็อปปี้บริเวณพงหญ้าข้างรถกะบะมาทับบริเวณด้านหน้า) โดยใช้เวลาน้อยมาก แต่ที่เจ๋งยิ่งกว่าคือ การย้ายวัตถุที่อยู่ในรูปไปไว้ในที่ต่างๆ บนรูปภาพได้ตามที่ต้องการราวกับใช้เวทย์มนต์เลยทีเดียว (ในคลิปมีการสาธิตการย้ายภาพผู้หญิงได้ด้วยการใช้เมาส์จับวาง)

          ประเด็นก็คือ การแก้ไขย้ายวัตถุที่อยู่ในภาพอย่างที่เห็นในคลิปนี้ หากใช้ Photoshop เวอร์ชันปัจจุบัน คุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นชั่วเมง แต่ใน Photoshop CS6 คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 23:39:32 น.
Counter : 675 Pageviews.

0 comment
[News] App ถ่ายรูปสามารถใช้นิ้ว "เขี่ย" คนที่ไม่ต้องการออกจากภาพ
เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายท่าน คงจะต้องเคยประสบปัญหากับการถ่ายภาพในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านเดินไปมาเต็มไปหมด ซึ่งนอกจากจะได้ภาพของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องติดเข้าไปด้วยแล้ว แบคกราวด์ หรือทัศนียภาพสวยๆ ด้านหลังของนายแบบ-นางแบบ (หรือคุณเอง เวลาให้คนอื่นถ่ายให้) ก็จะถูกบดบังไปหมด ปัญหานี้จะหมดไป เพียงแค่คุณใช้แอพถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟนจากบริษัท Scalado ที่จะเปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2012



          Scalado บริษัทธุรกิจภาพถ่ายของสวีเดนได้พัฒนาแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนชื่อว่า Remove ที่มีความสามารถเหนือกว่าแอพฯถ่ายรูปทั่วไปตรงที่มันสามารถ "ลบ" คน หรือสิงของที่เคลื่อนที่ผ่านไปมา(จนบดบังภาพของสถานที่ด้านหลัง)ออกจากภาพถ่าย เพื่อให้เหลือเฉพาะภาพของคนสำคัญบนฉากหลังที่สวยงามสมบูรณ์แบบได้

          ความลับของการทำงานของ Remove ก็คือ มันจะถ่ายรูปหลายๆ ชอตต่อเนื่อง หรือที่เรียกว่า burst shots จากนั้นวิเคราะห์ว่า มีวัตถุใด หรือสิ่งมีชีวิตใดที่เคลื่อนที่อยู่ในภาพบ้าง โดยอ้างอิงจากการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของมันในแต่ละเฟรม เมื่อระบุได้แล้ว Remove จะไฮไลท์ภาพวัตถุเหล่านั้นขึ้นมาในภาพถ่ายให้คุณสามารถใช้นิ้วแตะ เพื่อ "ลบ" ออกได้ทันที ซึ่งผลลัพธ์คือ ภาพถ่ายที่คงมีเหลือแต่เฉพาะสิ่งที่คุณต้องการให้ปรากฎอยู่ในภาพถ่ายเท่านั้น...ไอเดียเจ๋งดีนะครับ



          ด้วยแอพฯ Remove จาก Scalado คุณผู้อ่านจะสามารถถ่ายรูปนางฟ้าตัวน้อยของคุณในงานของโรงเรียนที่เด็กวิ่งกันเต็มไปหมดได้อย่างสวยงาม โดยไม่ต้องรอให้คนโล่งๆ แล้วค่อยถ่าย หรือแม้แต่จะถ่ายบนทางเท้าที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา เพราะคุณสามารถเลือกลบวัตถุ หรือคนที่เคลื่อนที่ในรูปออกไปได้ (ยกเว้นคนๆ นั้น จะยืนนิ่งอยู่ด้านหลังนางแบบของคุณ) สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ในแอพฯ Remove จะคล้ายๆ กับเทคโนโลยีที่พบในแอพฯ ชื่อว่า Rewind ของบริษัทเดียวกัน ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดยมันช่วยให้คุณสามารถเลือกแอ็คที่ดีสุดของแต่ละคนในภาพหมู่ เพื่อให้ได้ผลงานภาพถ่ายที่ดีที่สุดได้


คลิปวีดีโอตัวอย่างการใช้งาน



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 21:28:31 น.
Counter : 714 Pageviews.

1 comment
[News] Google ขยับบุกโลกบันเทิง
สื่อนอกตีข่าว Google ยักษ์ใหญ่โลกเสิร์ชเอนจิ้นกำลังพัฒนาอุปกรณ์ความบันเทิงสำหรับใช้ในบ้านหรือ home entertainment device ชี้ Google ตั้งใจทำตลาดในฐานะเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคซึ่งใครก็ใช้งานได้ เบื้องต้นคาดการหันไปจับตลาดฮาร์ดแวร์ครั้งนี้สะท้อนว่า Google กำลังพยายามเดินตามรอยแอปเปิลและอเมซอนในการสร้างแหล่งรายได้ใหม่จากตลาดคอนเทนต์ดิจิตอล
       

แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Google

       สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์สรายงานว่าอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงสำหรับใช้งานในบ้านของ Google ถูกสร้างเป็นเครื่องต้นแบบแล้วในขณะนี้ โดยวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่สุดในธุรกิจฮาร์ดแวร์ของ Google  เนื่องจาก Google จะลงมือผลิตฮาร์ดแวร์ภายใต้แบรนด์ตัวเองเต็มตัว ต่างจากเดิมที่ Google มักใช้วิธีหาพันธมิตรผู้ผลิตรายอื่นแล้วชูชื่อ Google ในการทำตลาดร่วมกับผู้ผลิตรายนั้นๆ
       
       รายงานระบุว่า จุดประสงค์ของอุปกรณ์ต้นแบบในขณะนี้จะเน้นที่การสตรีมเพลงออนไลน์ที่ผู้ใช้จะสามารถฟังเพลงออนไลน์ได้ทันใจไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของบ้าน ซึ่งคาดว่าคุณสมบัติของอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกพัฒนาให้โดดเด่นยิ่งขึ้นแน่นอน
       
       นิวยอร์กไทม์สวิเคราะห์ว่าความเคลื่อนไหวนี้ของ Google สอดคล้องกับการปรับตัวของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่รายอื่น ซึ่งพยายามสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ (ecosystem) เพื่อเสริมฐานการเป็นเจ้าตลาดของตัวเอง เช่น อเมซอน (Amazon) ที่ผันตัวจากการเป็นบริษัทค้าปลีกมาเป็นผู้จำหน่ายเครื่องอ่านอีบุ๊กชื่อดังอย่างคินเดิล (Kindle) และสามารถรับส่วนแบ่งการขายหนังสือดิจิตอลได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ หรือแอปเปิล (Apple) ซึ่งสามารถรับเงินจากการจำหน่ายคอนเทนต์ทั้งเพลง แอปพลิเคชัน และรายการทีวีจากเดิมที่เคยเป็นผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์เท่านั้น
       
       ทั้งหมดนี้ แหล่งข่าวของนิวยอร์กไทม์สเชื่อว่า Google จะลงมือปลุกปั้นอุปกรณ์นี้ด้วยตัวเองทั้งการควบคุมการออกแบบ การผลิต และกระบวนการจำหน่าย โดยซีอีโอแลร์รี่ เพจ (Larry Page) ผู้ร่วมก่อตั้ง Google นั้นแสดงทีท่าสนใจตลาดฮาร์ดแวร์มานาน ซึ่งมีแนวโน้มว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกพัฒนามานานกว่า 1 ปี ในช่วงก่อนการทุ่มเงิน 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐซื้อหน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโมโตโรลา "โมโตโรลา โมบิลิตี้ (Motorola Mobility)" คาดว่ากระบวนการซื้อขายหุ้นจะสมบูรณ์ช่วงสัปดาห์กลางเดือนก.พ.นี้
       
        Google ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธรายงานที่เกิดขึ้น แม้จะมีรายงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Google ได้ดำเนินการยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมสหรัฐฯหรือ FCC (Federal Communications Commission) อย่างเป็นทางการแล้ว ในเอกสารแจ้งว่า Google จะเริ่มต้นทดสอบอุปกรณ์"ความบันเทิง" สอดคล้องกับรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
       
       เนื้อความของเอกสารที่ Google แจ้งต่อ FCC นั้นระบุว่าอุปกรณ์จะรองรับเครือข่ายไร้สาย Bluetooth และ Wi-Fi โดยจะสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้านได้อย่างไร้รอยต่อ ข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกที่เว็บไซต์ GigaOM ซึ่งอ้างว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกทดสอบในบ้านพักของพนักงาน Google ตลอดช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้
       
       อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า Google มีโอกาสชนะในสังเวียนฮาร์ดแวร์อุปกรณ์ความบันเทิงในบ้าน โดยที่ผ่านมา  Google นั้นพยายามสร้างบริการเพลงออนไลน์ขึ้นมาแข่งขันกับทั้งแอปเปิลและอเมซอน แต่ไม่สามารถเอาชนะ 2 ยักษ์ใหญ่ในศึกดิจิตอลมีเดียได้ ซึ่งหาก Google พัฒนาฮาร์ดแวร์ของตัวเอง ก็มีโอกาสในการดึงผู้ฟังเพลงมาใช้บริการเพลงของ Google ได้มากขึ้น
       
       ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวนี้ยังตรงตามนโยบายที่ Google เน้นย้ำมาตลอด นั่นคือการขยายตลาดออกนอกหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเห็นได้จากการรุกตลาดโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และแท็บเล็ตของ Google  แต่การขยายตัวก็ยังไม่ทันใจเพราะข้อจำกัดของผู้ผลิตอุปกรณ์ ซึ่ง Google จะมีโอกาสเป็นต่อในเกมมากขึ้นหาก Google สามารถควบคุมการผลิตได้เองแบบครบวงจร
       
       แหล่งข่าวนิวยอร์สไทม์ทิ้งท้ายว่า อุปกรณ์ความบันเทิงในบ้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเป้าหมายใหญ่ Google เท่านั้น โดยเป้าหมายใหญ่ที่ Google วางไว้คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างในบ้านเข้ากับอินเทอร์เน็ต ทั้งหลอดไฟ ลำโพง ทีวี และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ซึ่ง Google เคยเปิดตัวอุปกรณ์ต้นแบบเอนกประสงค์ในงานประชุมนักพัฒนาเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2555 1:57:06 น.
Counter : 372 Pageviews.

1 comment
[News] "นาฬิกาสายลับ" บันทึกคลิประดับ HD
Gadget สายลับประเภทแว่นตา ไฟแช็ค หรือแม้แต่กล่องหมากฝรั่ง ที่มาพร้อมกับกล้องบันทึกวิดีโอ แม้แก็ดเจ็ตเหล่านี้จะดูแทบไม่ออกว่า มันมีกล้องอยู่ด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับว่า ภาพ หรือคลิปวิดีโอที่บันทึกได้ไม่ค่อยคมชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ๆ มีแสงน้อย แต่สำหรับ Sphere HD Watch Camera นาฬิกาข้อมือกล้องไฮเดฟฯ 720p นอกจากจะเป็นนาฬิกาข้อมือที่ดูดีแล้ว ฟังก์ชันกล้องวิดีโอไฮเดฟฯ ของมันยังทำได้ดีอีกด้วย



           Sphere HD Watch Camera นาฬิกาข้อมือที่สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับไฮเดฟฯ 1280x720p ได้จริงๆ โดยไม่ใช้เทคนิคเพิ่มพิกเซล (interpolate) ซึ่งอัตราเร็วของการบันทึกอยู่ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ทำให้คลิปวิดีโอที่ได้มีความคมชัด และเคลื่อนไหวนุ่มนวล ไม่มีภาพกระตุก อาจจะสู้กล้องไฮเดฟฯทั่วไปไม่ได้ แต่คุณภาพที่ได้คมชัดสะใจจริงๆ แต่ประเด็นที่เชื่อว่า คุณผู้อ่านจะยิ่งชื่นชอบยิ่งกว่าก็คือ ตอนนี้ Sphere HD Watch Camera กำลังทำโปรโมชั่นราคาอยู่ที่ 89.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,700 บาท (ราคาปกติ 399.99 หรือประมาณ 12,000 บาท)



          ในส่วนของการใช้งาน ผู้ใช้สามารถสลับโหมดถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียด 4032 x 3024 พิกเซลได้ด้วยการกดปุ่มด้านข้างบนตัวเรือน ภายในนาฬิกาจะมีหน่วยความจำ 4GB ที่สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟฯ ได้นาน 75 นาที หรือบันทึกภาพนิ่งคมชัดสูงได้มากกว่า 4,000 ภาพเลยทีเดียว ลองชมผลงานการบันทึกคลิปวิดีโอด้วย Sphere HD Watch Camera ข้างล่างนี้ได้เลยครับ อ้อ...เกือบลืมบอกไปนิดหนึ่งว่า มันไม่มีฟังก์ชันการบันทึกเสียงนะครับ บันทึกแค่วิดีโอเท่านั้น




Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 10:40:28 น.
Counter : 482 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

iFreeZero
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog