[Tablet Amazon] Kindle Fire เปิดตัวแล้ว 199 ดอลลาร์ (6,000 บาท)
สำนักข่าว Bloomberg ปล่อยข่าวของแท็บเล็ต Kindle Fire มาก่อนการแถลงข่าวในคืนนี้

แท็บเล็ตตัวนี้ใช้หน้าจอขนาด 7" รองรับมัลติทัชสองจุด, พื้นที่เก็บข้อมูล 8GB, ไม่มีกล้องหรือไมโครโฟน, ไม่มี 3G ต่อได้แต่ Wi-Fi เท่านั้น ฟังดูจำกัดมาก แต่จุดขายของมันคือ ราคา เพียง 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6 พันบาท

Kindle Fire ใช้ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นปรับแต่งพิเศษ และผูกกับบริการสารพัดชนิดของ Amazon ไม่ว่าจะเป็น Amazon Appstore, Kindle e-book และมีสมาชิก Amazon Prime (บริการส่งของด่วน+สตรีมหนังเพลง) ให้ทดลองใช้ 30 วัน (ราคาเต็ม 79 ดอลลาร์ต่อปี)

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ให้สัมภาษณ์ว่า "เราไม่มองว่ามันเป็นแท็บเล็ต มันคือบริการของเราต่างหาก"

Kindle Fire



Create Date : 02 ตุลาคม 2554
Last Update : 2 ตุลาคม 2554 6:45:56 น.
Counter : 388 Pageviews.

0 comment
Apple คอนเฟิร์ม iPhone5 เปิดตัว 4 ต.ค.


แอปเปิลส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมงานประชุมเพื่อแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นถัดไปที่ถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า iPhone 5 ระบุกำหนดจัดงานชัดเจน 4 ตุลาคม 2554 ตามเวลาในสหรัฐ
       
       ไอโฟนนั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้ชื่อว่าขายดีที่สุดในโลก การเปิดเผยรายละเอียดใดเกี่ยวกับไอโฟนจึงได้รับความสนใจจากชาวไอทีทั่วโลกมาตลอด ล่าสุดแอปเปิลส่งจดหมายเชิญผ่านอีเมลซึ่งมีข้อความว่า "Let's talk iPhone" โดยเชิญสื่อมวลชนให้เข้าร่วมงานที่สำนักงานใหญ่แอปเปิล ในแคลิฟอร์เนีย
       
       นอกจากไอโฟน ยังมีโอกาสสูงที่แอปเปิลจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องเล่นมัลติมีเดียอย่างไอพ็อด (iPod) รวมถึงซอฟต์แวร์กล่องเพลงดิจิตอลอย่างไอจูนส์ (iTunes) ตามรอบผลิตภัณฑ์ซึ่งแอปเปิลมักจะเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วงฤดูใบไม้ร่วง

การยืนยันว่าแอปเปิลจะเปิดรายละเอียดเกี่ยวกับไอโฟนรุ่นใหม่ทำให้มูลค่าแอปเปิลเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์หน้า
       
       การเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่นี้ทิ้งห่างจากการเปิดตัวไอโฟนรุ่นปัจจุบันคือ iPhone 4 มากกว่า 1 ปี (iPhone 4 ถูกเปิดตัวเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว) แม้ในช่วงแรกจะมีปัญหาการรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่เสถียรแต่ก็สามารถครองใจคนทั่วโลกและขึ้นแท่นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก แต่ในแง่ของระบบปฏิบัติการ iOS ของไอโฟนยังแพ้ระบบปฏิบัติการ Android ของGoogleอยู่ เพราะฝ่ายหลังมีจำนวนผู้ผลิตเป็นแนวร่วมมากกว่า เช่น ซัมซุง เอชทีซี เดลล์
       
       เบื้องต้น ข่าวลือที่มีน้ำหนักมากที่สุดคือ iPhone 5 จะมีหน้าจอใหญ่กว่า iPhone 4 โดยจะมีตัวเครื่องบางลงราว 33% ข้อมูลเหล่านี้สรุปจากภาพถ่ายและวิดีโอที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบเคสหรือหน้ากาก iPhone 5 จากจีน ซึ่งเตรียมพร้อมออกวางจำหน่ายทันทีที่แอปเปิลเปิดตัว (คลิกชมวิดีโอด้านล่างเพื่อชมต้นแบบเคสที่เชื่อกันว่าเป็นของ iPhone 5)




Create Date : 28 กันยายน 2554
Last Update : 28 กันยายน 2554 17:03:39 น.
Counter : 388 Pageviews.

1 comment
Mthai ทุ่ม 40 ล้านเปิดบริการ "ดูหนังออนไลน์"


เอ็มไทยทุ่ม 40 ล้านเปิดบริการ "ดูหนังออนไลน์" เร่งเจรจาลิขสิทธิ์หนังฮอลลีวู้ด ตั้งเป้าสมาชิกกว่า 5 หมื่นราย

เอ็มไทยทุ่มงบหลัก 10 ล้านบาท เปิดบริการวีดิโอ สตรีมมิ่ง “ดูหนัง.เอ็มไทย” หวังต่อยอดธุรกิจเดิม บุกเบิกตลาดภาพยนตร์ออนดีมานด์รายแรก เผยเตรียมงบกว่า 40 ล้านบาทปูทางสร้างตลาด ตั้งเป้าสมาชิก 5 หมื่นราย ปี 55 ขึ้นแท่นเบอร์ 1 เว็บไซต์ไทย
 
นายนวมินทร์ ประสพเนตร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการขายและประชาสัมพันธ์ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด เจ้าของเว็บไซต์เอ็มไทยดอทคอม (mthai.com) กล่าวว่า บริษัทใช้งบประมาณหลัก 10 ล้านบาท เปิดบริการดูหนังออนไลน์แบบวีดีโอสตรีมมิ่ง “ดูหนัง.เอ็มไทย (doonumg.mthai.com)” หวังรุกอีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบต่อยอดธุรกิจคอนเทนท์ ที่มีเติบโตก้าวกระโดดทุกปี
 
นอกจากเงินลงทุนซื้อลิขสิทธิ์หนังจากไทย ต่างประเทศ และลงทุนขยายเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำต่อเนื่องใช้งบอีกกว่าหลาย 10 ล้านบาทแล้ว บริษัทวางแผนจะใช้งบการตลาด 30-40 ล้านบาท ทำตลาดแบบออนไลน์เพื่อเปิดตลาดให้เป็นที่รู้จัก และตั้งเป้าจำนวนสมาชิก 5 หมื่นราย
 
“เป้าสมาชิกดังกล่าวนับว่าท้าทายมาก แต่ก็หวังว่าจะทำได้ตามนั้น และขอเป็นผู้นำในตลาดนี้ ทั้งยังหวังด้วยว่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้เอ็มไทยดอทคอม ไต่ระดับขึ้นเป็นเว็บไซต์เบอร์หนึ่งของไทยภายในปี 2555 จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 2 มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ 6.5 แสนคนต่อวัน จากจำนวนนี้มีกว่า 50% ที่เข้ามาชมวีดิโอออนไลน์”
 


ทั้งนี้ บริษัทจะใช้จุดแข็งด้วยการนำเสนอภาพยนตร์ชั้นนำคุณภาพระดับไฮเดฟฟินิชั่น ภาพยนตร์อินดี้ที่ไม่เข้ามาฉายในไทย รวมถึงภาพยนตร์แบบเอ็กซ์ครูซีฟ ที่มีจำนวนกว่า 1,500 เรื่อง พร้อมเตรียมเข้าไปเจรจากับคู่ค้าค่ายหนังขนาดใหญ่ต่างๆ เช่น ฮอลลีวู้ด ค่ายพาราเมาส์ และยูนิเวอร์แซล เข้ามาเสริมด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแผนขยายธุรกิจไปยังโมเดลอื่นๆ รายได้ส่วนใหญ่ ยังมาจากธุรกิจขายคอนเทนท์สำหรับทุกแพลตฟอร์ม และการทำตลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์เป็นหลัก ขณะที่ การขายโฆษณาบนเว็บไซต์เอ็มไทยยังมีรายได้ไม่ถึง 10% เฉลี่ยแต่ละเดือนมีรายได้ประมาณ 8 ล้านบาท โดยอนาคตวางแผนว่า นอกจากการขายโฆษณาอย่างเดียว จะเพิ่มโมเดลการขาย ดิจิทัล คอนเทนท์ เสริมเข้าไป
 
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ รองผู้อำนวยการเว็บไซต์เอ็มไทย กล่าวว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์ในไทยยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะความพร้อมของระบบเครือข่ายที่มีมากขึ้นตามลำดับ แม้ว่าบางพื้นที่เครือข่ายยังไม่พร้อม ซึ่งบริษัทได้สร้างระบบอัตโนมัติรองรับไว้ในบริการไลฟ์สตรีมมิ่ง สำหรับปรับระดับคุณภาพเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าชมได้จากทุกอุปกรณ์ ทุกที่ และทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง
 
สำหรับเฟสแรก บริษัทจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่มีกำลังทรัพย์มากพอในการจ่ายค่าบริการได้ รวมทั้งฐานลูกค้าเดิมของเว็บไซต์เอ็มไทย และกลุ่มลูกค้าใหม่จากผู้ให้บริการรายอื่น โดยจัดแคมเปญให้ทดลองใช้ฟรี แพ็คเกจสุดคุ้ม 1 เดือน 129 บาท แพ็คเกจดูเพลิน 6 เดือน 736 บาท และแพ็คเกจดูกันยาวๆ 12 เดือน 1,394 บาท พร้อมช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ร้าน 7-11 เพลย์สบาย และเอ็มเปย์ ให้สิทธิพิเศษลูกค้าที่ใช้บริการเครือข่ายของเอไอเอส
 
"การแข็งขันในตลาดนี้ ยังมีโอกาสอีกมหาศาล หากธุรกิจจากต่างประเทศต้องการเข้ามาทำตลาดจะทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากติดปัญหาลิขสิทธิ์ที่ต้องคุยกันเป็นรายประเทศ ขณะเดียวกันผู้เล่นหน้าใหม่ในไทยต้องใช้ความพยายามมากพอควรกว่าจะตามทัน" นายปฐมพงศ์ กล่าว



Create Date : 25 กันยายน 2554
Last Update : 25 กันยายน 2554 0:12:42 น.
Counter : 413 Pageviews.

2 comment
[How to] เริ่มใช้งานหน้าใหม่ Facebook "Timeline" ทำอย่างไร?


เครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่เฟซบุ๊ก (Facebook) นั้นเปิดตัวหน้าประวัติผู้ใช้ (profile page) ที่ออกแบบใหม่ในชื่อว่า "Timeline" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ แน่นอนว่าชาวเฟซบุ๊กทั่วไปยังต้องรอเวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะได้ใช้งานหน้าประวัติใหม่นี้แบบทั่วถึง แต่ใครที่ไม่อยากรอ ก็สามารถทดลองทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อประเดิมใช้งาน Timeline ในขณะนี้ได้เช่นกัน
       
       เรื่องนี้ Greg Kumparak แห่งเว็บไซต์ข่าวไอทีชื่อดัง TechCrunch อธิบายว่าความลับในการได้เห็นหน้า Facebook Timeline ของตัวเองก่อนใครนั้นมีอยู่นิดเดียว นั่นคือการหลอกให้เฟซบุ๊กเชื่อว่าคุณคือนักพัฒนาที่กำลังลงมือสร้างแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานกับคุณสมบัติใหม่ในเฟซบุ๊กอย่าง Open Graph
       

ซีอีโอเฟซบุ๊ก กับหน้าประวัติหรือ Profile Page แบบเก่า

       ถามว่า Timeline น่าสนใจอย่างไรจึงมีแนวโน้มที่ชาวเฟซบุ๊กหลายคนอยากทดลองเปิดดู คำตอบคือการการันตีว่า Timeline เป็นการเปลี่ยนโฉมให้หน้าประวัติของผู้ใช้ให้สามารถนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตได้มากกว่าเดิม หลักการทำงานโดยคร่าวคือการเพิ่มภาพและวิดีโอในอดีตเข้าไปในหน้าประวัติ ทำให้เพื่อนสามารถเห็นภาพชีวิตในอดีตจนถึงปัจจุบันของผู้ใช้ได้น่าสนใจกว่าเดิม ที่แสดงเพียงข้อความและภาพนิ่งเท่านั้น
       
       มีการตั้งข้อสังเกตว่า กิจกรรมของผู้ใช้สามารถถูกบันทึกเพื่อแสดงใน Timeline ได้อย่างไม่จำกัด โดยหากมีจำนวนมากเกินไปเฟชบุ๊กจะรวมกลุ่มกิจกรรมเหล่านั้นให้อัตโนมัติ แถมผู้ใช้ยังสามารถย้อนเวลากลับไปโพสต์เรื่องราวในอดีตได้
       

Timeline เป็นการเปลี่ยนโฉมให้หน้าประวัติของผู้ใช้
ให้สามารถนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตได้มากกว่าเดิม


       สำหรับ Open Graph นั้นเป็นรูปแบบคำสั่ง API ใหม่ของเฟซบุ๊กที่นักพัฒนาแอปพลิเคชันบนเฟซบุ๊กต้องใช้เมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลในระบบ ความใหม่ของ Open Graph คือการให้สิทธิ์ที่ดีและสะดวกกว่าเดิมแก่นักพัฒนาทั้งในแง่การจัดรูปแบบแสดงผลและขอบเขตความสามารถทั่วไป ซึ่งจะสะท้อนออกมาเป็นรูปธรรมในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กอื่นๆในอนาคต
       
       ทั้ง 2 คุณสมบัติใหม่ล่าสุดของเฟซบุ๊กถูกเปิดตัวในงาน F8 Developer's Conference ที่เฟซบุ๊กจัดขึ้นในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในงานนี้เฟซบุ๊กประกาศพร้อมให้บริการดูภาพยนตร์ ฟังเพลง และอ่านข่าวบนเฟซบุ๊ก โดยจับมือกับบริการเพลงออนไลน์รายใหญ่อย่าง Spotify, บริการภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ออนไลน์อย่าง Hula และบริการข่าวสารจากพันธมิตรอย่าง Yahoo!, Washington Post, The Guardian รวมถึง The Independent
       

ซีอีโอเฟซบุ๊กกับหน้าประวัติใหม่ Timeline

       สิ่งสำคัญที่ควรรู้สำหรับผู้ตัดสินใจใช้งาน Timeline บนเฟซบุ๊กในขณะนี้คือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะบริการนี้ยังไม่สมบูรณ์และมีข้อผิดพลาดอยู่ ขณะเดียวกัน ชื่อบัญชีของเฟซบุ๊กที่เปิดใช้งานก็จะถูกตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตน โดยจะต้องใส่ข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติมไม่หมายเลขโทรศัพท์มือถือก็บัตรเครดิต ที่สำคัญคือเพื่อนฝูงในเฟซบุ๊กจะสามารถเห็น Timeline ของเราได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนรายนั้นใช้"ทริค"หรือการลวงเฟซบุ๊กว่าเป็นนักพัฒนาเช่นกัน
       

ตัวอย่างหน้า Timeline

       ถ้าเงื่อนไขข้างบนนี้เป็นที่รับได้ ต่อไปนี้คือวิธีคร่าวๆเพื่อการเปิดดู Timeline ก่อนที่เฟซบุ๊กจะเปิดให้บริการจริง
       
       • หลังจากลงชื่อใช้งาน ให้เข้าสู่หน้านักพัฒนาของเฟซบุ๊ก (developers.facebook.com)
       • กดที่ปุ่ม "Apps" บนแถบสีน้ำเงิน และกดที่ Allow เพื่อให้แอปพลิเคชันชื่อ "Developer" สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้
       • จะปรากฏเพจสำหรับการสร้างแอปพลิเคชัน ให้เลือกที่ปุ่ม "Create New App" มุมขวาบน
       • จากนั้นให้ใส่ชื่ออะไรก็ได้ในช่อง "App Display Name" และ "App Namespace" ชื่อนี้จะไม่มีใครได้เห็นว่าเป็นคำว่าอะไร ตราบเท่าที่คุณไม่ได้หวังจะสามารถแอปพลิเคชันบนเฟซบุ๊กจริงๆ
       • คุณจะถูกยืนยันตัวบุคคลด้วยการให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขบัตรเครดิต ใครที่เลือกใส่หมายเลขโทรศัพท์จะมีการให้ใส่รหัสยืนยันที่ถูกส่งเป็น SMS เข้าโทรศัพท์มือถือ ส่วนคนที่เลือกใช้หมายเลขบัตรเครดิต จะถูกส่งไปที่หน้ากรอกข้อมูลเพื่อบันทึก (อย่าลืมยอมรับนโยบาย "Platform Privacy Policy" โดยกดตกลงที่ปุ่ม "Continue")
       • จะปรากฏหน้าตั้งค่าแอปพลิเคชัน ให้กดปุ่ม "Open Graph" ที่เมนูซ้ายมือ
       • เท่านี้ก็จะปรากฏหน้าเริ่มใช้งาน Open Graph (ดังรูป)
       • จะปรากฏหน้าให้เราเลือกกิจกรรมของแอปโดยคร่าว เพื่อการผ่านขั้นตอนนี้ที่ง่ายขึ้น ให้ใส่คำว่า "watch" ในช่องแรก และเลือก "movie" ในช่องถัดมา หรือไม่ก็ "see" ในช่องแรก และ "website" ในช่องต่อไป จากนั้นกดที่ปุ่ม "Get Started"
       • จากนั้นจะปรากฏหน้าตั้งค่ามากมาย ให้ข้ามหน้าไปด้วยการคลิก "Save Settings"
       • รอสักพักเดียว ให้กลับไปหน้าเฟซบุ๊กใหม่อีกครั้ง ก็จะเห็นข้อความชวนให้ทดลองใช้ Timeline
       • เพียงเท่านี้ หน้าประวัติใหม่ของเฟซบุ๊กก็รอคุณอยู่เรียบร้อย
       

หน้าหร้อมใช้งาน Opengraph

       แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหน้านี้แล้ว ก็มีวิธีตั้งค่ากลับไปรูปแบบเดิมได้เช่นกัน
       
       • กลับไปที่หน้านักพัฒนาของเฟซบุ๊กอีกครั้ง หลังจากลงชื่อใช้งาน (developers.facebook.com)
       • กดปุ่ม "Apps" บนแถบสีน้ำเงินบนสุด
       • คุณจะเห็นแอปปลอมที่เราสร้างไว้ ให้กดที่ "Edit App"
       • มองทางซ้าย จะเห็นตัวเลือกว่า "Delete App" ให้เลือกและยืนยันว่าต้องการลบแอปนั้นจริง
       • กลับไปที่หน้าตั้งค่าความเป็นส่วนตัวหรือ Facebook Privacy Settings
       • เลือกแก้ไขข้อมูล "Apps and Websites"
       • กดที่ "Turn Off Platform Apps" เพื่อปิดการทำงานแพลตฟอร์ม
       • ตรวจสอบแอป "Developer" ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น แล้วยืนยันอีกครั้ง
       

ตัวอย่างการอ่านบทความบนเฟซบุ๊ก

       *** ตรวจแถวบริการใหม่เฟซบุ๊กจากงาน F8 ***
       
       งานประชุม F8 ที่เฟซบุ๊กจัดขึ้นนั้นมีการเปิดตัวพันธมิตรเพื่อให้บริการ"อ่านข่าว-ดูหนัง-ฟังเพลง" ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแอปพลิเคชันแบบใหม่ที่รองรับ Open Graph บนสโลแกนคือ Read, Watch, Listen โดยเฟซบุ๊กจับมือกับพันธมิตรในวงการหลายรายเพื่อดึง"คอนเทนต์"หรือเนื้อหาทั้งภาพยนตร์ เพลง และข่าวให้ปรากฏบนเฟซบุ๊กได้
       
       บริการเพลงซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Facebook Music นั้น ผู้ใช้จะสามารถกดฟังเพลงจากหน้า Facebook ได้เพียงคลิกปุ่มเล่นเพลง (play) บนรายการกิจกรรมของเพื่อน สามารถทำได้ทั้งการฟังเพลงพร้อมกันในทันที และฟังเพลงที่เพื่อนเคยฟังย้อนหลัง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนความร่วมมือกับพันธมิตรบริการเพลงของเฟซบุ๊กคือ Spotify, Rdio, Rhapsody, Turntable, Tunein และ MOG ซึ่งไม่คุ้นหูเลยสำหรับคนไทย
       

ตัวอย่างการดูภาพยนตร์บนเฟซบุ๊ก

       ขณะที่บริการดูหนังบนเฟซบุ๊กจะใช้หลักการเดียวกัน เฟซบุ๊กประกาศจับมือกับค่ายภาพยนตร์ออนไลน์อย่าง Netflix และ Hulu โดยเปิดทางให้สมาชิกที่เสียค่าบริการกับ Netflix และ Hulu สามารถดูภาพยนตร์จากหน้าเฟซบุ๊กได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเว็บ ซึ่งข้อมูลการแชร์วิดีโอของคอหนังจะปรากฏทั้งบนเฟซบุ๊กและบนแอปดูภาพยนตร์ ที่น่าสนใจคือผู้ใช้สามารถโพสต์ความเห็นเกี่ยวกับบางตอนของภาพยนตร์ได้ เริ่มเปิดให้บริการแล้วในแคนาดาและประเทศกลุ่มละตินอเมริกา
       
       ไม่พอ เฟซบุ๊กยังจับมือกับเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งเพื่อให้ชาวเฟซบุ๊กสามารถอ่านข่าวบนหน้าเพจเฟซบุ๊กได้เลยหรือจะเลือกกลับไปยังหน้าเว็บไซต์ข่าวตามปกติก็ได้
       
       นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังมีพันธมิตรเว็บไซต์ด้านการทำอาหารและกีฬา ซึ่งแอปพลิเคชันอย่าง Nike+, Foodily หรือ Foodspotting จะสามารถสร้างสีสันให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้อีกมาก ซึ่งในอนาคตเฟซบุ๊กจะไม่หยุดเท่านี้แน่นอน แต่จะขยายกิจกรรมให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์คนไอทีชนิดแนบแน่นกว่าเดิม
       
       เฟซบุ๊กนั้นเป็นเครือข่ายสังคมที่มีสมาชิกมากกว่า 750 ล้านชื่อ ปริมาณการใช้งานเฟซบุ๊กมากที่สุดคือ 500 ล้านคนต่อวัน ยอดสมาชิกที่ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือคือ 350 ล้านราย เพิ่มจาก 250 ล้านรายเมื่อเดือนมีนาคม 54



Create Date : 24 กันยายน 2554
Last Update : 24 กันยายน 2554 13:22:11 น.
Counter : 553 Pageviews.

0 comment
นักวิจัยพบวิธีบันทึก "ความฝัน" เป็นวิดีโอ!?


เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนมีรายงานว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ค้นพบวิธีอ่านแพทเทิร์นความคิดของสมองจนสามารถตีความได้ว่า "คุณกำลังคิดอะไรอยู่?" แต่นักวิจัยที่ UC Berkeley ก้าวไกลไปกว่านั้น โดยพวกเขาสามารถอ่านภาพที่เกิดขึ้นในสมองของคุณ แล้วแสดงผลในรูปของวิดีโอ

ความลับในการทำงานของระบบนี้จะคล้ายๆ กับเเทคนิคการอ่านใจ (mind-reading) โดยเครื่อง MRI จะเฝ้าดูแพทเทิร์นที่ปรากฎในสมองของมนุษย์ เหมือนกับมันกำลังจ้องดูทีวี จากนั้นหาความสัมพันธ์ของแพทเทิร์นเหล่านั้น (รูปแบบที่ซ้ำกัน และต่างกัน) เพื่อนำมาสร้างภาพบนหน้าจอ ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดจะถูกประมวลผลด้วยโมเดลคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เพื่อสร้าง และทำนายความสัมพันธ์ระหว่างแพทเทิร์นในสมอง และภาพที่ให้ผู้ทดสอบมองเห็น ประกอบกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้น โดยใช้วิธีจับคู่ด้วยการสุ่มจากวิดีโอความยาว 18,000,000 วินาทีบน YouTube เพื่อหาความเป็นไปได้ของแพทเทิร์นที่เกิดขึ้นในสมอง



ด้วยฐานข้อมูลทั้งหมด ทีมนักวิจัยจาก Berkeley สามารถป้อนภาพสแกนของสมองเข้าไปในโมเดลคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะหยิบเอาวิดีโอ 100 คลิปที่ให้แพทเทิร์นของการทำงานของสมองที่เหมือนกันมากทีสุดแบบวินาทีต่อวินาที คลิปที่เดาได้ใกล้เคียงที่สุดจะถูกนำมารวมกันเป็นคลิปเดียว และเมื่อนำคลิปวิดีโอที่ได้ไปเปรียบเทียบกับคลิปต้นฉบับที่ผู้ทดสอบมองเห็น มันมีบางภาพที่คล้ายกับต้นฉบับจนน่าตกใจทีเดียว ลองชมคลิปข้างล่างนี้

การเปรียบเทียบวิดีโอทีสร้างขึ้นจากแพทเทิร์นทีได้จากภาพสแกนของสมองกับคลิปต้นฉบับ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ระบบสามารถทำงานได้ โดยเฉพาะความสามารถในการดูดภาพที่อยู่ในความคิดออกจากสมองของคุณได้ ซึ่งในอนาคต เซ็นเซอร์ตรวจจับ และอัลกอริธึมในการทำงานจะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจนคุณสามารถติดมันไว้กับตัวได้ และเมื่อหลับตา มันก็จะสแกนแพทเทิร์นของกิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองของคุณได้ เมื่อคุณหลับตานึกถึงภาพเป็ด MRI กับโมเดลคอมพิวเตอร์ก็จะฉายภาพเป็ด (หรืออะไรสักอย่างที่คล้ายเป็ด) ขึ้นมาให้เห็นได้ และเมื่อคุณหลับ ความฝันที่เกิดขึ้นในสมองของคุณก็จะถูกบันทึกออกมา เพื่อ play back วิดีโอบนคอมพิวเตอร์ได้...โอ้ว!!!



Create Date : 23 กันยายน 2554
Last Update : 23 กันยายน 2554 17:26:00 น.
Counter : 446 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

iFreeZero
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog