13 ของขวัญชิ้นเด็ดมัดใจชายหนุ่ม
วันนี้บันนี่มีไอเดียเลือกซื้อของขวัญชิ้นเด็ดๆ โดนๆ สำหรับมัดใจชายหนุ่มสำหรับวันพิเศษ อย่างวันวาเลนไทน์ วันเกิด หรือวันปีใหม่ ในบรรดาของขวัญทั้งหมดนี้ต้องมีสักชิ้นที่เหมาะสม และเข้ากับไลฟ์สไตล์ชายหนุ่มของคุณแน่นอน
#1 กระเป๋าหนังกระเป๋าหนังดีไซน์สวยงามเน้นที่ความคล่องตัว จาก Bagspace มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูดูดี สายล็อกแบบสอดคู่หน้า แถมแป๊กแม่เหล็กอีกหนึ่งจุด เพื่อความแข็งแรงแต่ง่ายแก่การใช้งาน และสิ่งสำคัญอยู่ที่สายสะพายแบบใหม่ที่เน้นความเป็นหนังทั้งเส้น แถมมีแผนรองบ่าช่วยกระจายน้ำหนักที่คงคอนเซ็ปความเป็นหนัง
#2 น้ำหอมEternity for Men by Calvin Klein น้ำหอมที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นน้ำหอมยอดนิยมสำหรับชายหนุ่ม Eternity for Men มาพร้อมเสน่ห์แห่งความหอมอันเป็นตำนานไร้กาลเวลาด้วยส่วนผสมที่เลิศหรู น้ำหอมที่ขึ้นชื่อมีกลิ่นที่หอมและชวนหลงใหล ชวนให้สาวๆ เหลียวมอง
#3 เนคไทเนคไทสำหรับหนุ่มเนี้ยบ อินเทรนด์กับปีนักษัตร ลองเลือกเป็นเนคไทสีนำเงินเข้มทอลายม้า และเส้นทแยงสีขาว จาก DGRIE SELECTED
#4 รองเท้าสปอร์ตรองเท้า Adidas Original รุ่น Porsche 917 ที่นำเอากลิ่นอายของรถสปอร์ต พอร์ชสุดหรูในตำนานรุ่น 917 (Porsche 917) มาเป็นโครงในการออกแบบ พอร์ชดีไซน์ได้นำแถบสัญลักษณ์คลาสสิกของอาดิดาสมาปรับเป็นลายเส้นที่ดูโฉบ เฉี่ยวมากขึ้น มาในสองโทนสีคือ ขาวและดำ
#5 เสื้อแฟชั่นเสื้อพิมพ์ลายกราฟฟิก จาก BLACKBARRETT ลายพริ้นท์กราฟฟิกที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูแต่แฝงไปด้วยลูกเล่นที่สะดุดตาไม่เหมือนใคร
#6 นาฬิกาข้อมือสำหรับชายหนุ่มผู้เที่ยงตรง นาฬิกาข้อมือผู้ชาย อย่าง Diesel Mens Black Ion Plated Stainless Steel Black Dial Automatic Watch เรือนนี้ จะทำให้เขาไม่ลืมเวลานัดเดทกับคุณแน่ๆ
#7 เครื่องตัดปิ๊กกีตาร์จะสนุกแค่ไหน ถ้าสามารถทำปิ๊กกีตาร์ได้เอง! จะดีแค่ไหนถ้าชายหนุ่มของคุณสามารถออกแบบปิ๊กกีต้าร์ของเขาได้เอง (ถ้าเขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นดนตรี อย่างกีตาร์ หรือเบสนะ) ของขวัญเก๋ ไอเดียเริ่ดๆ แบบนี้ เครื่องตัดปิ๊กกีต้าร์จะเป็นของขวัญที่ถูกใจเขาแน่นอน
#8 ลำโพงพกพา BluetoothJawbone JAMBOX เป็นลำโพงไร้สายขนาดพกพาสะดวก ที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการทางด้านเสียงเต็มรูปแบบ ด้วยการเลือกใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทางระบบ Bluetooth ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่น MP3, iPods, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ ได้ไกลถึง 10 เมตร
#9 กระเป๋าเดินทางถ้าชีวิตคือการเดินทางกระเป๋าเดินทางเท๋ๆ เก๋ๆ แบบแปลกๆ อย่างกระเป๋าเดินทาง R2-D2 จาก Salvador Bachiller ใบนี้ จะทำให้เขาหลุดเข้าไปในโลกแห่งอนาคต เหมือนมีหุ่นยนต์คู่กายเดินทางไปด้วย สำหรับหนุ่มขาร็อค เฮดโฟน Marshall Major FX50 ยังคงรูปลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นหนักแน่นแห่งของจังหวะ ที่คาดหูฟังทำมาจากไวนิลชนิดเดียวกันกับที่ให้ทำแอมป์ของ Marshall รวมไปถึงตาข่ายกรองเสียงด้านในด้วย และยังคงความเป็นต้นแบบของ Marshall เอาไว้ รวมไปถึงความแข็งแรง และทนทานตามแบบฉบับของ Marshall ด้วย
#11 ซองหนังสำหรับ iPadซอง iPad นี้ถูกออกแบบมาสาหรับ iPad ทั้งสามเวอร์ชั่น ผลิตอย่างประณีตจากหนังวัว บุด้วยหนังแท้ธรรมชาติ รังสรรค์ลักษณะเฉพาะของความนุ่มเนียนและทนทาน ปกป้องไอแพดจากการเกิดรอยขีดข่วนอันไม่พึงประสงค์ เปิด-ปิดซองเพื่อการใช้งานง่าย ปลอดภัยและรวดเร็วด้วยระบบฝาปิดแม่เหล็ก มีให้เลือกในสี่เฉดสี ได้แก่สีแทน สีดา สีน้าตาล และหนังแชสซีสีดาซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์เฉพาะสุดคลาสสิคของ Alfred Dunhill
#12 กระเป๋าคลัทซ์กระเป๋าคลัทซ์ Painkiller สำหรับชายหนุ่มอารมณ์ศิลป์ แอสเซสซอรีสำหรับผู้ชายที่ชอบความอิสระ กระเป๋าพิมพ์ลายฃหินอำพัน Amber และคริสตัล Crystal เพื่อเป็นตัวแทนของจินตนาการการสะสมของแปลกจากดินแดนลี้ลับต่างๆ และกระเป๋าคลัทซ์หนังวัวตกแต่งด้วยหนังวัวปั๊มลายจระเข้
#13 แบตเตอรี่สำรองแบตเตอรี่สำรองคุณภาพ Yoobao Thunderbolt ด้วยการออกแบบและดีไซน์ ในรูปลักษณ์ที่ทันสมัย โดดเด่น ดุดัน ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความคงทนสูงไม่ร้อนง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายขณะใช้งาน เหมาะเป็นพิเศษสำหรับชายหนุ่มที่ชอบการเดินทาง เพราะมีไฟฉาย LED ส่องสว่าง สำหรับเวลาฉุกเฉิน
เรื่องราวดีๆ ของผู้หญิงอีกมากมายที่ Shine On.in.th FURBY 2012 เฟอร์บี้สัตว์เลี้ยงไฮเทคขนปุยกลับมาอีกครั้ง
Furby 2012
Furby (เฟอร์บี้) รุ่นใหม่ล่าสุดมาแล้ว Furby 2012 ได้กลายมาเป็นสินค้าขายดีตั้งแต่คริสต์มาสที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ยังคงฮ็อตฮิตขายดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เจ้า Furby 2012 นี้ มีพื้นฐานเป็นหุ่นยนต์อิเลคทรอนิคมี่ลักษณะรูปร่างหน้าตาละม้ายกับนกฮูก แต่บางคนกลับมองว่าเจ้า Furby นี้มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวเล็กอย่างหนูแฮมสเตอร์มากกว่า แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายเจ้า Furby นี้ก็คือนกฮูกล่ะ สังเกตุจากดวงตาที่กลมๆ ใหญ่ๆ สิ เป็นจำนวนมากกว่า 40 ล้านตัวที่เจ้า Furby รุ่นแรกสุดได้ถูกขายไปในปี '90s ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วจากการเปิดตัวไม่นาน มันก็ได้กลายเป็นของเล่นที่ฮิตที่สุด ได้รับความนิยมที่สุดที่ต้องมีในขณะนั้น ตอนนี้เจ้า Furby มันกลับมาอีกครั้ง และอย่างไม่ต้องสงสัยเจ้า Furby 2012 จะกลายมาเป็นของเล่นที่ฮ็อตฮิตติด 1 ใน 5 ของเล่นที่ต้องมี และFurby 2012 นี้ จะได้รับความนิยมเหมือนกับเจ้า Furby รุ่นแรกอย่างแน่นอน
Furby
ตอนนี้คุณต้องจำไว้ว่าเจ้า Furby 2012 นี้ พูดภาษา Furbish (เฟอร์บิช) ที่เป็นภาษาของมันเอง แต่ในระยะเวลาไม่นานสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของคุณ ก็จะเรียนรู้ที่จะพูดภาษาเดียวกับกับคุณ เหมือนกับว่ามันเรียนภาษาจากคุณนั่นเอง เริ่มแรกคุณจำเป็นจะต้องเรียนภาษา Furbish ซะก่อนเพราะ Fury ที่คุณได้มาใหม่นี้ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ สำหรับ Furby 2012 นี้ทาง Hasbro ผู้ผลิตได้ทำการปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับลูกเล่น และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่นมีแอพ Furby App ให้เล่นกับเฟอร์บี้ได้ โดยสามารถใช้ iPhone, iPad และ Android สั่งการได้ มีการเพิ่มจุดเซ็นเซอร์ให้มากขึ้น มีการเปลี่ยนลูกตาแบบชิ้นส่วนจากเดิม ให้มาเป็นลูกตาแบบ LCD แทน อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถให้มากกว่าด้วยการขยับตัวเคลื่อนไหวได้มากขึ้น สามารถพูดจาต้ตอบการสนทนาได้ สามารถเต้นได้ด้วยถ้า เฟอร์บี้อารมณ์ดี และเช่นเดียวกับ เฟอร์บี้รุ่นแรก เฟอร์บี้ สามารถคุยกับเฟอร์บี้ด้วยกันเองได้ เมื่อมีเฟอร์บี้ตัวอื่นมาอยู่ใกล้ Furby 2012 มีมาให้เลือกทั้งหมด 10 สี และคุณสามารถแต่งตัวเจ้าเฟอร์บี้ได้ด้วยเสื้อผ้า และแอสเซสซอรี่ต่างๆ ที่มากขึ้น
Furby Furby 2012 Furby 2012 Furby 2012 Furby 2012 Furby Furby Furby Furby Furby 2012
เล่าสู่กันฟัง : การไปต่อใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี
เมื่อวานบันนี่ได้ไปต่อใบขับขี่รถยนต์แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี มาที่ขนส่งจตุจักร เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ต่อใบขับขี่ให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ เพราะว่ากว่าจะต่อใบขับขี่กันก็อีกนานหลายปี อาจจะลืมกันบ้างแล้วว่าต้องทำอย่างไร และต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เอกสารที่ใช้:
การต่อใบขับขี่ ให้ไปที่อาคาร 4 ชั้น 2 ตึกที่ 3 ทางขวามือ ถัดจากตึกที่ 6 และ 5 สามารถต่อใบขับขี่ได้ทั้งวัน ไม่แนะนำให้ไปตอนกลางวัน เพราะจะติดพักเที่ยง ส่วนตัวบันนี่เองเลือกไปตอนบ่ายโมง ช่วงบ่ายคนจะน้อย และไม่วุ่นวาย ระหว่างทางเดินไปจะมีพี่วินมอเตอร์ไซต์มาถามว่ามีใบรับรองแพทย์หรือยัง ถ้ายังไม่มีเค้าจะพาไปเอา กรณีนี้บอกไว้เลยนะคะว่า การต่อใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี ไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ถ้าต่อจะต่อใบขับขี่จาก 1 ปี เป็น 5 ปี ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ อันนี้ไปกับพี่วินได้เลยค่ะสะดวกมาก ขั้นตอนการขอต่อใบขับขี่: 1. ไปยื่นเอกสารที่เตรียมมาให้ที่เคาน์เตอร์ ชั้น 2 2. รับเอกสารมาเซ็นชื่อ และไปยื่นที่เคาน์เตอร์ทางด้านใน รอรับเอกสารคืน และไปต่อที่ชั้น 3 เพื่อทดสอบความพร้อมของร่างกาย 3. ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์ชั้น 3 ทางด้านขวามือ และรอเรียกคิว เพื่อเข้าทดสอบ ระหว่างรอจะมีวีดีโอสาธิตวิธีการทดสอบให้ดู เราดูไปซัก 5-6 รอบถึงจะเรียกคิว ประมาณ 20 นาทีน่าจะได้ จากการดูวีดีโอมีการทดสอบ 4 ขั้นตอน แต่จริงๆ แล้วทดสอบเพียง 3 ขั้นตอน
4. เมื่อผ่านขั้นตอนทดสอบทั้งหมดแล้ว ก็ไปอบรมกันต่อที่ชั้น 4 ค่ะ ยื่นเอกสารที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนเข้าอบรม จากนั้นเข้าไปนั่งฟังอบรม และดูวีดีโอ ประมาณ 1 ชั่วโมง 5. หลังจากอบรมก็ออกมารับเอกสาร และนำมายื่นที่ชั้น 2 เคาน์เตอร์เดิมที่ไปยื่นเอกสาร เพื่อรับบัตรคิวทำใบขับขี่ 6. และเนื่องจากคนไม่เยอะ รับบัตรคิวปุ๊บ เรียกคิวปั๊บ นั่งถ่ายรูปสวยๆ และชำระเงินค่าบัตร+ค่าถ่ายรูป ทั้งหมด 605 บาท เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ บางคนอาจจะเบื่อๆ หน่อยที่ต้องไปนั่งฟังอบรม แต่จริงๆ แล้วก็ไม่น่าเบื่อซักเท่าไหร่นะคะ ถือว่าไปนั่งดูวีดีโอเพลินๆ ละกันค่ะ *การต่อใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี สามารถต่อได้ล่วงหน้า 3 เดือนนะคะ เผื่อใครว่างจะได้ไปต่อก่อนหมดได้เลยค่ะ ไปเกาหลีซื้ออะไรดี ? ของฝากจากเกาหลี
ของฝากจากเกาหลี
รายการของฝากจากเกาหลีที่น่าซื้อ และเป็นที่นิยม ตามแบบฉบับของ บันนี่ รายการนี้ต้องขอบอกว่าจะประสบการณ์ของตัวเองที่ได้ไปท่องเที่ยวมานะคะ
1. เครื่อสำอางเครื่องสำอางเกาหลี เป็นของยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับผู้หญิงทุกเพศทุกวัย เกือบ 100% ของผู้หญิงที่ไป ต้องไปซื้อเครื่องสำอางแน่นอน ทั้งซื้อใช้เอง หรือซื้อเป็นของฝาก แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่เป็นที่นิยม เช่น Etude, Skin Food, The Face Shop, Lotree, Missha, Baviphat ฯลฯ แต่ที่นิยมและคนต่างชาติเต็มร้านมากที่สุดก็เห็นจะเป็น Etude และ Skin Food นี่แหละค่ะ เพราะว่า 2 แบรนด์นี้ค่อนข้างดังในเมืองไทย ราคานั้นก็ถูกมากๆ เลยค่ะ แถมแพคเกจยังน่ารัก น่าใช้ สุดๆ อีกด้วย แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้อชิ้นไหนดี ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะที่ร้านเค้ามีพนักงานเป็นคนไทย คอยให้คำแนะนำอยู่ด้วยค่ะ ส่วนมากก็จะเป็นน้องๆ ที่ไปเรียนที่นั่น และทำงานพิเศษระหว่างเรียนค่ะ ส่วนสถานที่ แนะนำให้ไปซื้อที่ เมียงดง และทงแดมุนค่ะ เครื่องสำอางเกาหลี
2. เครื่องประดับเครื่องประดับ เป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่มีราคาไม่แพงมาก มีให้เลือกกันหลายหลากมากมาย และเครื่องประดับเกาหลี ยังเป็นที่นิยมของสาวๆ ในบ้านเราอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น กิ๊บติดผม ที่คาดผม ต่างหู สร้อยข้อมือ สร้อยคอ พวงกุญแจ ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ น่ารักทั้งนั้นเลยค่ะ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แม้กระทั่งตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน กิ๊บติดผม
3. สาหร่ายที่เกาหลีสาหร่ายเค้าขึ้นชื่อมากค่ะ และเป็นที่นิยมซื้อเป็นของฝากกัน น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง อร่อยมากอีกด้วยค่ะ สาหร่ายเกาหลีมีให้เลือกหลายแบบ หลายรสชาติ ทั้งแบบแผ่นเล็ก และแผ่นใหญ่ มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หากอยากซื้อสาหร่ายกลับมาเป็นของฝาก แนะนำให้ไปซื้อที่ Lotte ค่ะ เพราะที่นั่นสาหร่ายราคาถูกกว่าที่อื่นเกือบเท่าตัว มีบริการกล่องให้แพคกลับบ้านด้วยนะคะ สาหร่ายเกาหลี
4. ขนม Market Oอันนี้ชื่อชอบเป็นส่วนตัว ขนม Market O มีทั้งช๊อกโกแลตแท่ง และบราวนี่แสนอร่อย โดยเฉพาะ Market O Real Brownieหาซื้อได้ตาม Supermarket ทั่วไป มีหลายขนาดให้เลือก ทั้งกล่องเล็กกล่องใหญ่ ซื้อกลับมาเท่าไหร่ก็ไม่พอกิน ขอแนะนำให้ลองค่ะ
Market O Real Brownie
5. ชาโสมเกาหลีโสมเกาหลี เป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุด เป็นของขึ้นชื่อประเทศเกาหลีอยู่แล้ว หากจะหาของฝากให้ผู้ใหญ่ที่นับถึอ หรือผู้สูงอายุ ขอแนะนำเป็น ชาโสมเกาหลี เพราะมีสรรพคุณ และมีประโยชน์มากมาย ในการเลือกซื้อให้เลือกซื้อเป็นชาโสมแดง Red Ginseng และไม่ควรซื้อฝากผู้ที่เป็นโรคความดันสูง (ชาโสมรับประทานได้ดีในผู้ที่มีความดันต่ำ ผู้ที่มีความดันสูงไม่ควรรับประทาน) ชาโสมเกาหลี
6. สตรอเบอร์รี่หลายๆ คนคงงงว่าทำไมต้องซื้อสตรอเบอร์รี่ ในเมืองไทยก็มีขายเยอะแยะ นั่นก็เพราะเกาหลีเป็นเมืองที่หนาวติดลบ สตรอเบอร์รี่ ที่ชอบอากาศหนาว อย่างสตรอเบอร์รี่เกาหลี จึงมีขนาดใหญ่ ลูกโตเป็นพิเศษ ทั้งกรอบ และหวาน สีแดงสด น่ากินเป็นที่สุดเเลยหล่ะค่ะ แต่ก็มีเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ ถ้าใครได้เดินทางไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาว พลาดไม่ได้เลยค่ะ ขอบอก.. สตรอเบอร์รี่เกาหลี
7. ของที่ระลึกพื้นเมืองของที่ระลึกพื้นเมืองเกาหลี ก็เป็นอีกอย่างที่นิยมซื้อกลับมาเป็นของฝากกัน เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์นึกถึงประเทศเกาหลี อย่าง ปากกา พวงกุญแจ ที่คั่นหนังสือ แก้วน้ำ ชุดน้ำชา ตุ๊กตาเกาหลี ชุดช้อน-ตะเกียบ เป็นต้น ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเกาหลีได้ดีทีเดียวค่ะ
ของฝากจากเกาหลี
ส่วนเรื่องของ กิมจิเกาหลี กับมาม่าเกาหลี ขอข้ามไปเลยละกันนะคะ เพราะตอนนี้ในเมืองไทยก็มีขายเยอะแยะแล้ว หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างทั่วไป ราคาก็พอๆ กับซื้อที่เกาหลีนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องหอบมาให้หนัก หรือ เปลืองพื้นที่ใส่ของในกระเป๋าดีกว่า และส่วนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าเนี่ย ก็มักจะซื้อเป็นของตัวเองกันซะมากกว่า เพราะราคาก็ค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกันค่ะ ของฝากจากเกาหลีที่น่าซื้อจึงมีเพียงเท่านี้ค่ะ บันนี่ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีนะคะ บ๊าย...บาย
ของฝากจากเกาหลี ของฝากจากเกาหลี ของฝากจากเกาหลี ของฝากจากเกาหลี ของฝากจากเกาหลี ของฝากจากเกาหลี ที่มา: shineon.in.th/ของฝากจากเกาหลี |
BunnyME
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
Link |