Blythe Story…เรื่องเล่าของเด็กหญิงไบลท์
ในความหมายของคนส่วนใหญ่แล้ว “ตุ๊กตา” น่าจะเป็นตัวแทนของ “ของเล่น” ที่ใกล้ชิดกับวัยเด็กมากที่สุด

“ตุ๊กตา” ในโลก พ.ศ.นี้ถูกปรุงแต่งและนำไปใช้เป็นอะไรต่อมิอะไรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตุ๊กตา ที่มีบุคลิก มีแคแร็กเตอร์น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นจากตัวการ์ตูน หรือตุ๊กตาที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ

ในโลกตะวันตก มีตุ๊กตาที่มีชื่อเสียง อมตะ ยืนยาวมากมาย

ตุ๊กตาที่มาจากบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ ยุคบุกเบิก เช่น ซูเปอร์แมน, แบตแมน, สไปเดอร์แมน ฯลฯ

ตุ๊กตาที่มาจากแคแร็กเตอร์การ์ตูนน่ารักอย่าง หมีพูห์, เท็ดดี้แบร์ ฯลฯ

แต่ในบรรดาตุ๊กตาที่เป็น “ความฝัน” ของเด็กผู้หญิงจำนวนมากต้องมี “บาร์บี้” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

ขณะที่ตุ๊กตา สำหรับเด็กผู้หญิงที่ต่างออกไปอย่าง Blythe เคยถูกหมางเมินจนต้องขายสิทธิการผลิต จำหน่ายไปให้ผู้เชี่ยวชาญในการทำของเล่นอย่างประเทศญี่ปุ่น

และในดินแดนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสุดยอดของการพัฒนา ออกแบบ สร้างสรรค์ รวมถึงการต่อยอดความสำเร็จหลายๆ ด้านที่ฝั่งตะวันตกมักมองข้าม ก็ค่อยๆ ปลุกกระแสฟีเวอร์ให้ Blythe คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีเครือข่ายคนรัก ใบโลกไซเบอร์เป็นองค์ประกอบสำคัญ



30 ปีก่อน จากสถานะของเล่นเหลือค้างสต๊อก วันนี้กลับกลายเป็นของสะสมที่บางตัวมีราคาสูงเป็นหลักแสน !

ใครจะไปเชื่อว่า เพียงชั่วข้ามคืน ราคาประมูลตุ๊กตาวินเทจตัวหนึ่งบนเว็บ eBAY จะดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิมถึง 10 เท่า !

จากตุ๊กตาที่เด็กๆ (และผู้ใหญ่บางคน) เคยหวาดกลัวในอดีต วันนี้กลับกลายเป็นตุ๊กตาแสนน่ารัก ครองใจได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

มิหนำซ้ำยังเป็นต้นกำเนิดของธุรกิจที่สร้างรายได้ในยามวิกฤตฝืดเคืองชนิดเป็นกอบเป็นกำ

…นี่คือความมหัศจรรย์ของตุ๊กตาซึ่งมีนามว่า “Blythe”…



Blythe ตุ๊กตาวินเทจสัญชาติอเมริกันกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 1972 ทว่าแรกทีเดียวยังไม่ดังเปรี้ยงปร้าง มีปัญหานิดหน่อยตรงดีไซน์ดวงตากลมโตที่สามารถเปลี่ยนได้ 4 สี ทั้งเขียว ชมพู ส้ม และน้ำเงิน เพียงแค่ดึงห่วงที่อยู่หลังศีรษะ นั่นทำให้ (ในยุคนั้น) เธอกลายเป็นตุ๊กตาที่เด็กๆ พากันหวาดกลัว เลยไม่เป็นที่นิยม จนต้องปิดตัวลงหลังจากออกวางขายในตลาดได้แค่เพียง 1 ปีเท่านั้น !



30 ปีต่อมา เรื่องก็กลับตาลปัตร เมื่อตุ๊กตาเด็กเล่นสินค้าเหลือค้างสต๊อกกลับกลายเป็นตุ๊กตาหายากในหมู่นักสะสม…

Blythe ฟื้นคืนชีพอีกครั้งพร้อมสัญชาติญี่ปุ่น (บริษัท Takara ได้รับลิขสิทธิ์ผลิตต่อ) ด้วยโชคชะตานำพาให้เธอได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา TV ให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Parco เพียงชั่วข้ามคืนเธอก็กลายเป็นตุ๊กตายอดนิยม ส่งผลให้ราคาประมูล Blythe บนเว็บ eBAY ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นจากเดิม 35$ เป็น 350$ รวมถึง Neo-Blythe บนเว็บประมูลของ Yahoo ขายหมดเกลี้ยงสต๊อกถึง 4 ครั้ง !



จากแวดวงนักสะสมระบาดลามข้ามมาแวดวงแฟชั่น เห็นชัดเมื่อถึงงาน Annual Blythe Charity Fashion Show ได้มีการระดมพลสุดยอดดีไซเนอร์ฝีมือดีของห้องเสื้อแบรนด์เนมชื่อดังจากทุกมุมโลกอย่าง John Galliano, Prada, Gucci, Vivienne Westwood, Issey Miyake, Versace, Sonia Rykiel ฯลฯ มาร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าตัวจิ๋วให้กับเหล่านางแบบ Blythe ได้สวมเดินเฉิดฉายอยู่บนแคตวอล์ก กลางกรุงโตเกียว



ปี 2001 Takara แปลงโฉม Blythe ให้ดูโดดเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมกับชื่อใหม่ว่า “Neo Blythes” พอครบรอบ 1 ปี Blythe คลอดสายพันธุ์ใหม่ทันที ภายใต้ชื่อ “Petite Blythe” ด้วยไซซ์กะทัดรัดเพียง 4 1/2 นิ้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีสีตาให้เลือกเพียงสีเดียว แต่เธอสามารถขยับเปลือกตาขึ้นลงได้พร้อมๆ กับการดัดบอดี้ส่วนต่างๆ ให้ดูมีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันตุ๊กตาวินเทจที่ชื่อ Neo Blythes มีคอลเล็กชั่นต่างๆ รวมกว่า 120 คอลเล็กชั่นแล้ว

ปี 2002 หลังจากที่ Gina Garan (โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกัน) ได้รับตุ๊กตา Blythe เป็นของขวัญ ทำให้เธอตกหลุมรักมันพร้อมๆ กับถ่ายภาพเธอ Blythe เก็บไว้กว่า 100 รูป จนถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือรวมภาพถ่ายชื่อ “This is Blythe” รวมถึงหนังสือ Firecracker Alternative Book ที่ขายได้กว่า 100,000 เล่ม และจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ที่ทำให้ชื่อของ Gina”s Gallery โด่งดังและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก


น้องไบลท์…”เธอไม่ใช่แค่ของสะสม”

ถ้าบาร์บี้คือตุ๊กตาสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยเปอร์เฟ็กต์มาดเจ้าหญิง “น้องไบลท์” ก็คือตุ๊กตาเด็กน้อยกะเปิ๊บกะป๊าบรูปร่างไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยังต้องการ “เจ๊ดัน” มาปั้นให้เธอฉายแสงแห่งความสวยสง่า ไม่น่าแปลกใจ ที่ความสนุกสำหรับคนรักไบลท์ตัวจริงนั้นไม่ใช่แค่การมีเธอ (จำนวนเยอะๆ) ไว้แค่สะสม (หรือเก็งกำไรยามขายต่อ) แต่อยู่ตรงการได้ “ปั้นเติมเสริมแต่ง” ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเด็กน้อยให้กลายเป็นหญิงสาว

กิจกรรมหลักๆ ของคนรักไบลท์นั้น นอกเหนือจากการพาน้องไปเที่ยวถ่ายรูปตามที่ต่างๆ แล้ว จึงมีการ “คัสตอม” หรือการแปลงโฉมรวมอยู่ด้วย เริ่มตั้งแต่วิธีเล่นที่เบสิกสุดๆ คือ “การจับแต่งตัว” เปลี่ยนชุดตามแคแร็กเตอร์ของน้องรุ่นนั้นๆ…



นอกจากเรื่องชุด ยังมีวิธีการคัสตอมขั้นแอดวานซ์ ไม่ว่าจะเป็นการเมกอัพ การต่อขนตา การติดเพชรที่ขนตา การเปลี่ยนสีตา การทำ sleep eye (หลับตาได้) การทำผม การใส่วิก เรื่อยไปจนถึงการทำผิวหน้าให้ด้าน (เพื่อให้ถ่ายรูปสวย เพราะส่วนมากผิวหน้าเมื่อออกจากโรงงานจะมีลักษณะมัน ทำให้เกิดเงาสะท้อนเวลาถ่ายรูป) ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ กลุ่มที่เล่นไบลท์ได้รวบรวมวิธี พร้อมรูปภาพประกอบอย่างละเอียดเอาไว้ให้ทำกันได้เองอย่างฟรีๆ ในเว็บไซต์ //www.blythethailand.com



อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไบลท์ตัวแรกเพียงตัวเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกได้หลากหลาย ทำให้ผู้เล่นไม่ค่อยเบื่อ แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เช่น การดัดแปลงทรงผมทำได้ค่อนข้างยาก เพราะแต่ละรุ่นจะเจาะรูผมแตกต่างกัน ใช้สีผมแตกต่างกัน ตลอดจนเลเยอร์และชนิดของเส้นผมที่ต่างกัน (ผู้เล่นไบลท์บอกว่า เส้นผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแคแร็กเตอร์ด้วย) นั่นทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่ค่อยคัสตอมทรงผมหรือเปลี่ยนสีผม แต่กลับเลือกที่จะซื้อไบลท์ตัวที่ 2 3 4…


ไบลธ์ตาเขียวชมพููแสบตา



Create Date : 26 สิงหาคม 2554
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 18:10:25 น.
Counter : 341 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาเยี่ยมชมทางเข้าsbobetsbobet-thai
โดย: register (sbobet ) วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:21:28:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

megumi_xx
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Bungky S. Junploy



MY Email ~ bungkybarbie@gmail.com

MY Twitter ~ @megumi_xx

MY Instagram ~ @bungkyy
  •  Bloggang.com