Group Blog
 
All Blogs
 

โยโกฮาม่า~

มาจดทริปกันค่ะ ฮริ้ง~


ทริปติ่งอเกนนะคะ คราวนี้บินเดี่ยวไปโยโกฮาม่าค่ะ ครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่นคนเดียว แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่แล้ว ๕๕๕๕

Place : Tokyo - Yokohama
Date : 7 - 11 Dec 15


Mon 7 - Tue 8 Dec 
คราวนี้เป็นทริปวอแว อยากไปเอาตอนใกล้ๆแล้ว เราเลยต้องพึ่งพา airasiago กันอีกครั้ง ก็มันง่ายดีนี่นา ๕๕๕๕ ออกเดินทางคืนวันที่ 7 ถึงเช้าวันที่ 8 แล้วก็โดดขึ้น NEX ยิงยาวไปโยโกฮาม่ากันเลยค่ะ ลงรถไฟก็เอาละ ความงงบังเกิด ต้องไปต่อยังไง สถานีต่อไปคือ kannai เพื่อไปโรงแรม ฝากของและรับตั๋วคอนค่ะ เดินงงออกจากสถานีมา หมุนรอบตัวก็ไม่เห็นป้าย  blue line เลยอ้ะ เลยกลับไปถามที่ JR อีกรอบ นางก็ชี้กลับเข้าสถานีไปใหม่ ๕๕๕๕ ละหาทางขึ้นที่เป็นบันไดเลื่อนกะลิฟท์ไม่เจอไปอีก เลยต้องขึ้นแทรกอื่นเพื่อไปหาทางลงอีกด้านที่มีลิฟท์ กร๊ากกก 

พอมาถึง kannai ค่ะ.. เอาละ นี่เจอแต่บันไดเลื่อนขึ้น ๕๕๕๕๕๕ (น้ำตามา!) แบกลงก็ได้ค่ะ กระเป๋าเบาๆงิ ฮึ! ลงมาแล้วก็จิ้มกูเกิ้ลหาโรงแรม เดินไปพักนึงจิ้มดูใหม่ ทำไมมันขึ้นว่าที่ที่จะไปมันปิดถาวรคะ!!!! เอาใหม่ค่ะ จิ้มใหม่อีกที คราวนี้เจอละ เดาว่าเค้าคงย้ายที่แต่มันก็ใกล้ๆกันนั่นแหละ เร้าใจแต่เริ่มเลย ๕๕๕๕

ไปถึงโรงแรมฝากของรับของเสร็จก็ไปสำรวจฮอลคอนเสิร์ตดีกว่าค่ะ กะว่าคงชิลๆไปต่อแถวซื้อของหน้าคอนแป๊บละค่อยหาข้าวกิน มาถึงนี่แทบกรี๊ด ทำไมแถวยาว ๕๕๕๕ ต่อแถววนไปวนมากว่าจะได้ซื้อเรียบร้อยก็เกือบสองชั่วโมงค่ะ.... คร่อก 

จากหิวจนเลิกหิวละ เลยไปเดินเล่นสำรวาจห้างแทน แต่ไม่มีอะไรที่อยากได้เลย งั้นกลับโรงแรมไปเช็คอินแล้วแอบนอนนิดนึงดีกว่าเถอะ ตื่นมาอีกทีห้าโมงค่ะ กระเด้งเลย รีบกินรีบออกเพื่อจะไปเจอกะแถวยาวเป็นงูกินหางพันไปครึ่งอารีน่า ๕๕๕๕ โง่ย! 

ผ่านวันแรกไปแบบร่างแหลกๆนะคะ คอนก็ยืนดูข้างแฟนบอยไปอี๊ก ๕๕๕๕ 


Wed 9 Dec
วันที่สองที่นี่เรามีแพลนไปทะเลกันค่ะ นั่งรถไฟออกไปคามาคุระ ขอแวะล้างเงินก่อน คริ~ กลับมาเดินเล่นถนนช็อปปิ้งเล็กน้อย และก็นั่งเอโนะเดนไปเที่ยวเอโนชิม่าค่ะ เวลามีน้อยเราต้องรีบเก็บแต้มนะคะ... (นี่เริ่มตีตารางตามโชซังละ Orz) ก็เดินตามมทางเข้าวัดไปโผล่ที่แคนเดิ้ล ชมวิวฟูจิซังที่เห็นลางๆผ่านหมอกหนาๆ ละก็กลับมาลงมาริมทะเลตามเดิม เวลายังเหลืออีกนิดหน่อย.. ก็เลยเดินเลยไปดูอวาเรียมค่ะ เคยอยากมาที่นี่นานละเพราะเค้ามีจัดเอากะพรุนใส่แก้วแชมเปญวางเป็นต้นคริสมาสต์ ๕๕๕๕ 

โดยรวมก็จัดอวาเรียมดีนะคะ แต่กะพรุนน้อยไปหน่อย.. และไม่เห็นอะไรในแก้วแชมเปญเลยค่ะ ๕๕๕๕ (ร้องไห้หนักมาก) ที่นี่มีโชว์โลมาด้วยนะคะ แต่ติดว่าไปไม่ตรงเวลาโชว์ค่ะ อดดูกันไป 

ที่ชอบที่สุดของที่นี่ก็ชายหาดที่มีระเบียงไม้ยาวตลอดแนวนั่นละค่ะ ติ๊กไว้แล้วว่าต้องกลับมาอีกทั้งคามาคุระทั้งเอโนชิม่าเลย กะว่าจะแวะตั้งแต่โอฟุนะ คิตะคามาคุระแล้วเดินเอา นี่มาแบบรีบๆเพราะต้องกลับไปดูคอนอีกรอบ ๕๕๕๕ ฮึ่ม!

แวะกลับเอาของไปไว้ที่พัก แวะกินข้าวละก็ออกมาอารีน่าอีกรอบค่ะ ชีวิตวนเวียนมากจนเลี้ยวแบบออโต้ไม่มองทางเลย ๕๕๕๕ วันนี้ก็มาถึงหน้าฮอลตอนหกโมงเย็นเหมือนเมื่อวาน คนเยอะแบบหนาแน่นแต่ไม่มีคิวพันรอบฮอลให้ใจเสียแล้วค่ะ เข้าไปได้ก็แอบแวะซื้อของเพิ่มอีกหน่อยก่อนเดินไปที่นั่งค่ะ :D เพื่อนดูคอนของเราวันนี้เป็นสาวญี่ปุ่นใจดีค่ะ อิอิ 

กลับมาโรงแรมก็สลบค่ะ เหนื่อยร่างแหลกสองวันติด ๕๕๕๕


Thu 10 Dec
วันที่สาม วันสุดท้ายของทริปก็เก็บข้าวเก็บของนั่งรถไฟมาลงอุเอโนะ เอากระเป๋าไปยัดตู้ที่สถานี keisei แล้วก็ไปเก็บแต้มต่อกันที่โมริ อาร์ต ดูงานของคุณ Takashi Murakami แล้วต่อด้วย pop-up shop งานติ่งที่ชิบุย่าค่ะ ๕๕๕๕ ระหว่างทางก็เก็บไอเท่มที่มีคนฝากซื้อไปด้วย กลับมาถึงอุเอโนะอีกรอบตอนบ่ายแก่ๆ ก็เดินวนอเมโยโก เดินลอฟท์ ส่องต้นไม้ที่สวนไปตามเรื่อง ห้าโมงเราก็นั่ง keisei ไปนาริตะ รอกลับบ้านกันค่ะ


เล็กๆน้อยๆ 
- คราวนี้ตม.ไม่ถามอะไรเลยค่ะ แค่เอาพาสปอร์ตไปดู พยักหน้า จบเลยค่ะ ๕๕๕๕ หนูไม่ชิน! ถามหนูเถอะ ๕๕๕๕ 
- คุณกูเกิ้ลชอบพาไปทางลัดเข้าบ้านชาวบ้านตลอดเลยค่ะ ขนาดไปคามาคุระยังพาเข้าหลังบ้านใครก็ไม่รู้เลย ๕๕๕๕
- ตอนรอเช็คอินนาริตะ คนข้างหน้านน.เกิน 20 กิโลค่ะ แม่จ้าววววว! 
- ดิวตี้ฟรีในเกทปิดปรับปรุงไปหลายโซนนะคะ กำหนดเปิดอีกทีคือเดือนมีนาเลย ร้านขนมเหลือร้านใหญ่ร้านเดียว ถ้ามาพร้อมคนไทยจำนวนมาก โปรดระวังของที่ต้องการหมดก่อนถึงมือนะคะ lol 




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2558    
Last Update : 14 ธันวาคม 2558 16:52:49 น.
Counter : 571 Pageviews.  

บินเดี่ยวที่มาเล

บินเดี่ยวที่มาเล



Date: 5-7 June 2015
Place: kuala lumpur ,, malaysia

เป็นทริปติ่งอีกแล้วค่ะ แต่ติ่งเดียวดายนิดนึง บินเดี่ยวค่ะคราวนี้ อาศัยว่าเคยมามาเลแล้วครั้งนึงน่าจะมาเองได้ไม่ยากมากนัก (เหรอ...?) แต่ความเป็นจริงกับสิ่งที่คิดมันผิดกันนะคะ ๕๕๕๕

ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาค่ะ เราไม่ติดใจมาเลตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยมาแล้ว ผ่านมาสองปีได้มาอีกครั้งก็ขอพูดคำเดิมว่าถ้าเลือกได้ก็คงไม่มา (แต่ที่มานี่เพราะจะมาติ่งน่ะสิ...)

ทริปมันเกิดก็เพราะดันไปกดดูตั๋วละโซนที่อยากได้ดันมีเหลือค่ะ กดซื้อไปแบบไร้สติ เลยต้องมากด airasiago ซื้อตั๋วกะจองโรงแรมตามหลัง ซึ่งโรงแรมที่จองได้ก็อยู่เลยตึกแฝดมาสถานีนึง ในความคิดคือน่าจะโอเค โรงแรมก็ในเครือฮิลตัน รอบๆโรงแรมน่าจะไม่เงียบเท่าไหร่ แต่ไม่ค่ะ มัน เงียบ มาก ต่างหาก ๕๕๕๕๕ (หัวเราะเสียสติ)

Fri 5 Jun 
ทริปนี้ก็เร้าใจตั้งแต่ไปสนามบินกันเลยค่ะ ตอนแรกเราจะไปเองเพราะที่บ้านแยกย้ายกันมาก น้องไปเวิร์คก่อนเราเดินทางสองวัน พ่อไปออสเตรเลียก่อนเราหนึ่งวัน แต่นางเป็นห่วงค่ะ ให้น้องอีกคนมารับไปสนามบิน โห้ววววว ลุ้นสุดเพราะออกจากบ้านช้า รถติดค่ะ นี่ก็นั่งกัดเล็บกุดไปสิ

แต่ก็ผ่านไปขึ้นเครื่องได้อย่างปลอดภัยละนะคะ ไปถึงมาเลได้เรียบร้อย นั่งรถเข้าเมืองมาก็ต้องไปแวะเอาตั๋วคอนเสิร์ตก่อน เพราะเราได้สิทธิ์(คล้ายๆ)ไฮทัช ไปเดินตามหาบริษัทที่ออกตั๋วค่ะ คือโง่เอง ๕๕๕๕ ถ้าเดินตรงออกมาก็เจอละ แต่ดันไปเดินอ้อม โทรหาให้นางบอกทางก็ยังหาไม่เจอ กว่าจะเจอนี่เหงื่อเป็นน้ำค่ะ ได้บัตรก็ตรงดิ่งไปโรงแรมเช็คอินได้พอดี อาบน้ำใหม่เรียบร้อยก็ออกเดินทางไปที่จัดงานมีท.. อย่าคิดว่าจะเจอง่ายๆค่ะ มันเดินไปจากสถานีรถไฟไกลพอตัว แถมยังไม่ติดถนนใหญ่ ๕๕๕๕๕ โอ๊ยยยย บ้านเมืองนี้ชอบเล่นซ่อนหาเหรอคะ ฮื่อ! 

เดินหาเดินถามจนเจอที่จัดงานละก็งงไปอีกกับการต่อแถว ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าต่อแถวทำไม ต้องทำอะไร ถามกันไปถามกันมาเราก็ได้สาวมาเลที่หน้าตาจีนมากมาคุยด้วยคนนึง นางมาคนเดียวค่ะก็เลยมายืนคุยกัน ๕๕๕๕ พอลงชื่อเรียบร้อยก็ย้ายตัวเข้าเขตกั้นรั้ว ได้เจออปป้าเด็กเรียบร้อยแต่งานนี้ไม่มีจับมือเหมือนที่อื่นๆนะคะ เขาให้ขึ้นไปเดินดูอปป้าค่ะ ๕๕๕๕๕ ข้างหลังคุณจะมีทหารหญิงยืนคุมเชิงคอยชาร์ทถ้าคุณแอบเอานิ้วไปสะกิดอปป้านะคะ พีคสุด เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ กร๊ากกก 

Sat 6 Jun
เนื่องจากเคยมามาเลแล้วไม่ติดใจอะไรเลย เลยไม่คิดจะขยับตัวออกไปสู้แดดอันแรงกล้า 34 องศาให้เหงื่อไหลเป็นน้ำนะคะ ทริปนี้เลยเป็นทริปนอนตากแอร์อยู่โรงแรมรอเวลาไปติ่งเท่านั้น ตกบ่ายก็ขยับตัวหาทางไปฮอลล์คอนเสิร์ตค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้าไปไม่ถึง... หาป้ายรถเมล์ที่ต้องขึ้นไม่เจอไปอีก ฝนก็ตก (อีโมสยอง) ก็เลยตัดสินใจเดินไปหาคุณแท็กซี่เปิดโพยให้ดูว่าจะไปที่นี่ นางก็ถามว่าคอนเสิร์ตเหรอ โอเคเดี๋ยวพาไป นี่แทบกรี๊ดเลยค่ะ ๕๕๕๕ 

ไปถึงก็ฟ้าครึ้มๆ รอบๆฮอลล์ไม่มีที่รอที่มีหลังคา ก็ยืนลุ้นไปค่ะว่าฝนจะตกไหม โชคดีที่ไม่ตกเนอะ การ์ดที่นี่ไม่โดนตัวผู้หญิงเลยค่ะ การตรวจกระเป๋าคือเหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรา ๕๕๕๕ เอากล้องเข้าสบายอะค่ะ (แนะนำๆ ๕๕๕๕๕) แต่คอนคือโหดนิดนึง โซนที่เรานั่งคือโซนด้านหน้า และทุกคนยืนบนเก้าอี้ตอนใกล้จบคอนค่ะ ไม่รู้ข้างหลังจะเห็นอะไรบ้าง แต่เราเองยังแทบไม่เห็น ๕๕๕๕๕ แต่ก็ได้ประสบการณ์แปลกๆดีค่ะ ไม่เคยยืนดูบนเก้าอี้ก็ได้ยืน กรั่กๆๆๆ 

จบคอนแล้วความพีคก็บังเกิดค่ะ กลับ ยัง ไง!!!? ตอนจดโพยมาคือรถเมล์ แต่ไม่เห็นเงาเลยค่ะ แท็กซี่ไม่ต้องคิดเลย ยิ่งกว่าเมืองทองเวลามีคอนไปอีก รอไปชั่วโมงนึงก็มีรถเมล์มาค่ะ สายที่จดไว้ด้วย ก็อัดกันขึ้นไป ละได้ยินสาวๆคุยกับคนขับว่านี่คันสุดท้ายด้วย... ห๊ะ!!!! ๕๕๕๕๕ 

สรุปว่าก็มาลงที่สถานีรถไฟได้อย่างปลอดภัยนะคะ กลับโรงแรมได้ เฮ~ 

Sun 7 Jun
ก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม มาสนามบิน กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ครบ 32 ค่ะ ๕๕๕๕๕๕



เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
- ผู้หญิงคนเดียวเราไม่แนะนำให้มามาเลนะคะ ถึงในรีวิวจะบอกปลอดภัยมาได้ก็เถอะ แต่ถ้าต้องขึ้นรถไฟคนเดียวแล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาเลยค่ะ ที่นี่คนเชื้อสายจีนไปไหนมาไหนคนเดียวได้ แต่งตัวแบบบ้านเราได้ แต่ก็โดนมองนะคะ มองจนรู้สึกอึดอัดเลยละ ขนาดไปไหนมาไหนตอนกลางวันกับหัวค่ำนะ...
- เสื้อผ้าที่เอามาควรมิดชิดหน่อยนะคะ เราเอาเสื้อยืดที่ใส่ที่นี่ปกติไป พอไปใส่ที่โน่นรู้เลยว่ามันคอกว้างไป มันแปลกแยกและโดนจ้องมองค่ะ ทางที่ดีก็ควรเซฟตัวเองหน่อยเนอะ

ปล. ช่วงวนี้อัพเดทแต่ทริปติ่งเนอะ แย่ละ.... 




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2558    
Last Update : 22 ตุลาคม 2558 16:42:41 น.
Counter : 479 Pageviews.  

ทริปนกๆที่โอซาก้า

มาจดทริปกันค่ะ



Place: osaka - kyoto - nagoya - osaka
Date: 6 - 14 Oct 2015

ทริปเพื่อติ่งค่ะ ๕๕๕๕

เนื่องจากมีคุณเพื่อนโอ(นามสมมติ) นางมาติดวงเกาหลีที่ชื่อวินเนอร์นะคะ ทริปนี้เลยเป็นการท่องเที่ยวเพื่อดูคอนเสิร์ตค่ะ เราได้ตั๋วคอนมาสามรอบกับสองเมือง นาโงย่าและโอซาก้า เราเลยมีเป้าหมายเป็นข้าวหน้าปลาไหลที่นาโงย่า และการท่องเที่ยวสวนและตามหามอสที่เกียวโต-โอซาก้ากันค่ะ (เอ๊ะ? ยังไง? ๕๕๕๕)

 Tue 6 Oct 
คราวนี้เรานั่ง JAL กันบ้างค่ะ ขาไปเครื่องออกห้าทุ่ม แต่ด้วยความหลอนส่วนตัวของเรา ไปถึงสนามบินกันตั้งแต่สองทุ่มค่ะ ฮา เช็คอินแล้วก็หาที่นั่งหลับกันไปตามระเบียบ ขาไปนี่เด็กน้อยล้อมหน้าล้อมหลังเลยค่ะ หลับไม่ลงเลยจริงๆ แถมเด็กน้อยที่นั่งข้างหลังนางตบเบาะไปอีก... ฮือออ อยากจะบอกคุณผู้ปกครองทั้งหลายเอาไว้นะคะ ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนค่ะ ช่วยท่องเอาไว้ด้วย ฮือๆๆๆ (ช่วงระบายความอัดอั้น ๕๕๕๕)

Wed 7 Oct
มาถึง KIX เรียบร้อยค่ะ เครื่องลงหกโมงครึ่ง ก็เดินง่วงมาเอากระเป๋าจะเดินออกก็ต้องผ่านตม.กันอีกรอบใช่ไหมค่ะ? นี่ก็สบตาตม.ทั้งๆที่ง่วงๆ (แต่ไม่มากเท่าไหร่) เห็นประกายบางอย่างในสายตานางก็อ้าปากบอกเพื่อนร่วมทางว่า "เปิดกระเป๋าฉันแน่" แล้วก็ลากกระเป๋าไปหาตม.ค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕ 

เป็นสถิติที่ไม่ตกจริงๆค่ะ โดนเปิดกระเป๋าทุกรอบ กรั่กๆๆ เพื่อนไม่โดนนะคะ นางบอกว่าคนที่ลงเครื่องมาเนี่ย ไม่มีใครโดนเรียกขอเปิดเลยสักคน... คือ อะ ไร๊ !!!! ๕๕๕๕๕๕๕๕ (หัวเราะเสียสติ)

ผ่านออกมาก็ดิ่งไปสถานีรถไฟกัน ไปซื้อตั๋วไปเกียวโตพร้อมกับเอาบัตรพาสโม่ไปถามเขาว่าใช้ที่นี่ได้ไหม? ซึ่งคำตอบคือได้แล้วค่ะ! เยส!!!!! ตอนนี้เป็นตั๋วร่วมเรียบร้อยแล้วนะคะ จะถือพาสโม่หรือซุยกะก็เดินทางได้ทั่วไม่ต้องเปลี่ยนตั๋วแล้วค่ะ (เราจะไม่พูดถึงบ้านเรานะคะ... เราจะไม่พูดถึง...) 

เกียวโตนี่เราพักที่ waraku-an ค่ะ เป็นบ้านเก่าเอามาทำเกสเฮ้าส์อีกแล้ว ๕๕๕๕ เอากระเป๋าไปฝากแล้วก็ไปร่อนกันค่ะ จำลำดับไม่ได้แล้ว เอาเป็นว่าไปแถวนิชิกิ ไปอุจิ (อีกแล้ว) แต่คราวนี้ไม่ได้กินขนมร้านนั้นนะคะ โผล่ไปดูแล้วแถวยาวเป็นวาค่ะ เลยไปวัดแทน ได้เข้าวัดแล้วววว ถึงจะไปช้าและเค้าปิดไปโซนนึงแล้วก็เถอะ ๕๕๕๕ เดินชมวิวกันจนพอใจก็กลับมากินไอติมที่สถานีเกียวโตค่ะ อร่อยยยยยยย ฮือ

คืนแรกนี่เราได้นอนห้องรวมค่ะ ปูฟูกนอนได้สี่คน เดินเข้าเดินออกต้องย่องอ่ะค่ะ จะเปิดกระเป๋านี่แทบจะกลั้นหายใจ เงียบมากกกกก แต่เพื่อนร่วมห้องนางหนึ่งตั้งปลุกเช้าตรู่มากค่ะ แถมนางไม่ตื่นไปอีก คาดว่าคนอื่นตื่นทั้งบ้านแล้ว ๕๕๕๕๕ 

Thu 8 Oct 
ไหนๆก็ตื่นมาแต่เช้าแล้ว เลยไสหัวออกมาแต่เช้าค่ะ เราจะไปนั่งโรแมนติกเทรนที่อาราชิยามะกัน ไปถึงเร็วไปอีกค่ะ ต้องไปเดินเล่นรอเวลาไปอีก ก็เล่นกะหมาเดินขึ้นเขาเข้าบ้านคนกันไปค่ะ ไปถามหาจินจะ ซึ่งเดินตามทางที่ชี้มาแล้วคือร้างดีค่ะ ๕๕๕ 

เที่ยวแรกของรถไฟนี่ไม่ได้ขึ้นนะคะ มาซื้อตั๋วช้าไป (เพราะมัวแต่เล่น) เจอทัวร์จีนเข้าไปค่ะ รถไฟเต็มเหลือแต่บัตรยืนซึ่งอบอุ่นไปค่ะ เลยจองของรอบถัดไปแทนดีกว่า ได้นั่งตู้โปร่งด้วยค่ะ รับลมเย็นๆกันหัวฟูเลย วิวสวยดีค่ะ เขียวทั้งภูเขา ๕๕๕๕๕ ถ้ามาใบไม้เปลี่ยนสีคงสวยเนอะ แต่คนก็คงเยอะตามไปด้วย... 

ที่นี่จำลำดับไม่ได้อีกแล้วค่ะ ต้องกางใบลายแทงถึงจะบอกได้ ก็ไปเดินหาสวนดูมอส เข้าสวนข้างๆดูผีเสื้อ เดินต่อไปหาป่าไผ่อีกที่ (เป็นสุสานของตระกูลมั้งคะ) ก่อนถึงก็เจออีกวัดที่ฝรั่งมาถามทางไปโดยบังเอิญ กว่าจะกลับลงมาได้ก็ขาลากค่ะ ลงมาก็แวะพาเพื่อนไปกินน้ำเต้าหู้ มันจะมีเต้าหู้แป่นบางๆลอยอยู่ด้วย ละน้ำจะออกเค็มๆเหมือนซดมิโซะซุปเลยค่ะ อร่อย อยากกินอีก แงงงงง 

ขากลับก็นั่งโมโนเรลจากอาราชิยามะมาลงสุดสาย แวะกินนิชชินโซบะวันนี้รึเปล่านะ.. นั่งรถเมล์วนไปสถานีเกียวโตใหม่ ไปกินไอติมอีกรอบ วนไปวนมา ๕๕๕๕๕๕ 

วันนี้ที่พักได้ย้ายห้องค่ะ ไปชั้นสอง.... ละตอนเช้าเนื่องจากออกไปเช้ามาก เลยทิ้งกระเป๋าไว้ในดอร์ม คืนแค่กุญแจ กลับมาหญิงแกร่งนางบอกนางลากขึ้นไปไว้ที่ห้องให้แล้ว... นี่ยืนช็อคใส่นางไปสิคะ ๕๕๕๕ ก็ขอโทษขอบคุณกันไปตามเรื่องค่ะ ฮือ

Fri 9 Oct 
ย้ายที่จากเกียวโตไปนาโงย่ากันค่ะ แพ็คของลากกระเป๋าขึ้นรถเมล์ไปสถานีเกียวโต ไปซื้อตั๋วชิงคันเซน แล้วก็เข้าไปเดินดูของฝากด้านในกันค่ะ ได้ขนมที่เพื่อนที่ทำงานสั่งก็ที่นี่ละ ใกล้เวลาก็ขึ้นไปรอรถไฟด้านบน ไปถึงนาโงย่ากันได้ไม่หลงทางค่ะ ๕๕๕ 

ที่นี่เราพักที่ wing hotel ขามาเนี่ยลากกระเป๋าขึ้นสะพานลอยมา ถึงจะมีทางจักรยานให้ลากก็เถอะ ลิ้นห้อยอยู่ค่ะ ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางไปทำมิชชั่นค่ะ ไปกินปลาไหล! ฮิซึมาบุชิอร่อยๆ ร้านให้เยอะมาก จุกมาก เลยตกลงกันว่าเดินย่อยกันเถ๊อะ เลยเดินไป aichi art center ค่ะ มาถึงก็เจอแถวสั้นๆรอกันอยู่ ด้วยความง่วงก็เลยคุยกันว่าไปเดินหากาแฟกินกัน (สำรวจเมืองนั่นแหละ) 

เดินหลั่นล้ากลับมาเจอกะแถวยาวๆค่ะ ๕๕๕๕ ก็ต้องต่อแถวตามระเบียบ ถึงเวลาสต๊าฟก็ปล่อยคิวซื้อของกัน ซื้อเสร็จก็ว่างอีกแล้ว งั้นเดินไปเที่ยวห้างกันเถอะ ที่ Parco มีร้านนานะกรีนทีร้านโปรดของเราค่ะ เดินไปซื้อแบบ take away แล้วเดินกลับ แต่รอบนี้ทำไมไอติมหวานคะ? แงงงง เดินกลับมาที่ฮอลก็นั่งเล่นรอเวลาค่ะ พอได้เข้าไปนั่งนี่มีแอบกรี๊ด คือใกล้เวทีไปไหมคะ ๕๕๕๕๕ สนุกสนานมากกับคอนค่ะ จบคอนก็เดินกลับโรงแรมด้วยความร่าเริง

Sat 10 Oct
เก็บกระเป๋าย้ายที่นอนกันอีกแล้วค่ะ วันนี้จากนาโงย่าไปโอซาก้ากันค่ะ นั่งชินคันเซนกลับมา ตอนแรกว่าจะไปกินปลาไหลอีกสักรอบ แต่ยังจุกๆจากมื้อเมื่อวานอยู่เลยกลายเป็นแค่ข้าวกล่องที่สถานีรถไฟแทน ๕๕๕๕ กินเสร็จรถไฟก็มาพอดี มาถึงโอซาก้าก็ตรงมาที่ Livemax Otemae แถวนี้เป็นโซนที่ทั้งเราทั้งเพื่อนโอไม่เคยมาทั้งคู่ค่ะ เอากระเป๋ามาฝากแล้วก็ออกเดินสำรวจกันค่ะ ตอนแรกกะจะไปปราสาทโอซาก้า เพราะตามแผนที่ปราสาทอยู่หลังโรงแรมนะคะ แต่เราก็ดันมาเดินติดอยู่แถวริมแม่น้ำแทน เดินมาเจอเป็ดเหลืองที่สวนกลางน้ำ เดินต่อไปเจอร้านเค้ก ตอนแรกก็ว่าจะจิบชาสวยๆแต่เห็นคนต่อคิวเลี้อยยาวก็เปลี่ยนใจเป็นซื้อกลับไปกินที่โรงแรมก็ได้ค่ะ กลับไปเช็คอิน นั่งกินเค้กแล้วก็ออกมาเดินเล่นกันอีกที ตกลงกันว่าจะไปร้านเสื้อกะย่านที่เราเคยมาเดินกับน้องแล้วกัน ต้องไปลงสถานีชินไซบาชิ เอ้า.. ไปถึงก็เดินไปร้านเสื้อ ซื้อของละก็เดินต่อไปย่านร้านขายของ ที่ตอนหลังเพิ่งรู้ว่าคืออเมริกันมุระ... เดินวนจนมืด แล้วก็เดินต่อมาถึงนัมบะ แล้วค่อยกลับโรงแรมมานั่งเช็คทวิต

เพื่อพบกับทวิตที่หวีดว่าเจออปป้าไปเดินอเมมุระ ๕๕๕๕๕๕๕ บ้าเรอะ! (ร้องไห้) 

Sun 11 Oct
ตารางวันนี้คือออกนอกเมืองไปเที่ยวสวน Expo Park กันค่ะ ก็ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานี nakanoshima ผ่านน้องเป็ดเหลืองอีกรอบ คราวนี้มาเช้าไป มีแต่คนพาหมามาวิ่งเล่น กะเต้นท์รณรงค์ขับรถปลอดภัย ได้ของแจกมาด้วย เลยเผลอตัวยิ้มให้กล้องคุณป้าตอนรับของจากคุณตำรวจเป็นการตอบแทน.. (รับของเขามาก็ทำประโยชน์ให้เขาหน่อยเนอะ) ไปถึงสวนตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ ประชากรชาวญี่ปุ่นพร้อมใจกันมาสวนจนนึกสงสัยว่ามีงานอะไรรึไง เข้ามาแล้วถึงได้รู้ มีงานของกินกับตลาดนัดค่ะ ๕๕๕๕

สองสาวเดินวนรอบรูปปั้นถ่ายรูปจนหนำแล้วถึงเห็นว่ามีตลาดนัด รีบพุ่งตัวไปซื้อตั๋วราคา 350 เยน เพื่อจะเข้าไปเจอกับของราคา 10 - 500 เยน... รู้ตัวอีกทีข้าวของเต็มมือเลยค่ะ ที่หยุดซื้อเพราะนึกถึงกระเป๋าว่าจะใส่ไม่พอเนี่ยแหละ แถมยังไปไม่ถึงงานของกินด้วย กลับมาก่อนเพราะของเยอะมาก พอเอาของมาเก็บที่ห้องแล้วก็มาซื้อของฝากตามลิสต์อีกทีตรงห้างหน้าที่พัก keihan city mall ห้างเงียบๆ ที่มีทุกสิ่งมากค่ะ แต่ไม่มีร้านเครื่องสำอางค์ใหญ่ๆ เราเลยตกลงกันว่าไป umeda ก็ได้ 

มาถึงก็เดินตามหาของ ได้มาเกือบครบละค่ะ ขาดชิ้นสองชิ้นก็ไม่เครียดละ ๕๕๕๕ ใกล้สี่ทุ่มแล้วแต่นึกได้ว่ายังไม่ได้แวะ tower record เลย เราอยากไปซื้อ DVD คอนของวงเด็กๆที่ตามดูอยู่ เลยเปิด map หาพิกัดร้านกัน ไปเจอทาวเวอร์ที่อยู่ตึก B.B.Laen ชั้นใต้ดิน ปิดห้าทุ่มด้วย เอ้า.. ไปสิคะ รออะไร 

ละอิร้านทาวเวอร์นี่ในคอนอปป้าก็เล่าว่าไปเดินจ้า แต่ดูแล้วนางน่าจะไปอีกสาขาแถวย่าน nu chayamachi มากกว่า เพราะพูดถึงชั้นบนๆ นี่ก็หวีดร้องกันไป โอ๊ยยย รุ้สึกเจ็บใจเล็กน้อย เพราะตอนแรกเพื่อนฝากให้ไปซื้อของแถวนั้นแต่เราดันไปหาได้จากที่อื่นก่อนแล้ว กร๊ากกกก 

Mon 12 Oct
เป็นวันติ่งค่ะวันนี้ ดูคอนสองรอบ ก็เดินจากโรงแรมไปฮอลล์ค่ะ Osaka International Convention Center ระยะทางเดินพอเมื่อย แดดแรงแต่ลมเย็น ก็ถือว่าเดินชมเมืองไปค่ะ เดินมาแล้วถึงเพิ่งรู้ว่าฮอลล์อยู่ใกล้กับ national museum of art ที่เคยมามากๆๆๆๆ สนุกสนานกะความเอ๋อของตัวเองกันไปค่ะ ๕๕๕  คอนสองรอบวันนี้ได้นั่งชั้นสอง ห่างไกลกะอปป้าเหลือเกิน (ดราม่า ๕๕๕๕) แต่โอเคค่ะ ฮอลล์เล็กๆ ยังไงก็เห็นชัด สนุกสนานเหมือนเดิมค่ะ 

Tue 13 Oct
วันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ ตอนแรกว่าจะไป Minoh แต่เราดันมีคิวแทรกค่ะ อปป้ามีงานที่ FM osaka คุณเพื่อนก็วอแวอยากไป แต่ก็ลังเล จบท้ายด้วยการนั่งรถไปถึงอุเมดะ ลงมาเข้าห้องน้ำ แล้วก็นั่งรถกลับไปนัมบะใหม่ ๕๕๕๕๕ สรุปไปติ่งค่ะ เนื่องด้วยเราเป็นคนไม่มีดวงกับการตามอปป้านะคะ เรารู้ตัว เราเลยชิลค่ะบอกเพื่อนจะรอก็ได้นะ แต่ฉันจะไปเซเว่น ฉันหิว ๕๕๕๕ นางก็ตามมาค่ะ ดีว่าเดินกลับมาอปป้ายังไม่เข้าสถานี แต่เราก็ยังนกค่ะ นั่งรออยู่ รถอปป้าผ่านหลังไปค่ะ หันไปเจอรถตู้ติดฟิล์มดำ กร๊ากกก แต่เพื่อนโอของเราสู้ค่ะ นางรอจบรายการ ทุกคนก็ไปตั้งแถวรอรถอปป้าออกมาอีกครั้ง คราวนี้ออกมาสองคันค่ะ.. เอ๊....? แต่ยังโชคดีครงที่รถออกมาแล้วติดไฟแดง อปป้าหนึ่งคนโผล่ม่านมาเล่นด้วย ก็ถือว่าไม่นกจนเกินไปนัก ๕๕๕๕๕๕ 

จบการตามอปป้าเราก็ไปต่อที่ Minoh ค่ะ เดินขึ้นทางลาดไปเกือบสามกิโลเพื่อเจอกับน้ำตกเล็กๆอันนึง... ก็โอเคอ้ะ ทุกคนจะเดินมาเพื่อถ่ายรูปตรงนี้ นั่งกินโอเด้ง กะปลาเผา ละก็เดินลงอีกเกือบสามกิโล.... ๕๕๕๕๕๕๕ 

จากมิโนเราก็กลับมาที่สถานี tennoji ที่ฝากกระเป๋าไว้นะคะ เวลายังเหลือเลยเดินซื้อของกะหาร้านทาโกะยากิกิน ซึ่งเป็นร้านเดียวกับที่เพื่อนแนะนำไว้พอดี กินเสร็จก็ลากกระเป๋ามาขึ้นรถไฟไป KIX กันค่ะ คือยืนผิดที่อะ ดันไปยืนตรงขบวน 5-8 เลยต้องรอรถไฟขบวนถัดไปเพราะเราต้องขึ้นโบกี้ 1-4 มาถึงสนามบินกันได้อย่างปลอดภัยไม่นั่งรถเลยไปวาคายาม่าก็โอเคละค่ะ ๕๕๕๕ 

ออกจาก KIX ตอนสี่ทุ่มครึ่ง ก็มาถึงไทยตอนตีสี่กว่าๆ เรากลับบ้านนอน ส่วนคุณเพื่อนโอสุดขยันนางไปทำงานต่อค่ะ คนเหล็ก! ๕๕๕๕๕๕



จบทริปติ่งนกจิ๊บๆกันไปที่ว่ามีทวิตบอกว่าอปป้าไปกินทาโกะยากิกันอีกจ้า ทุกที่เราเดินเฉียดไปเฉียดมามาก แต่คนละเวลาคนละวันกะอปป้านะ! ๕๕๕๕๕๕ (เลขห้าแทนน้ำตาค่ะ โอย) 



ปล. รูปจะตามมาทีหลับอย่างที่แปะโป้งในบล็อกก่อนๆไว้นะคะ... (กี่ทริปแล้วนะ...)
ปลล. เหมือนจะไปปราสาทโอซาก้ามาด้วย แต่ไปมาวันไหนกันนะ....  






 

Create Date : 22 ตุลาคม 2558    
Last Update : 22 ตุลาคม 2558 15:55:02 น.
Counter : 421 Pageviews.  

ญี่ปุ่นแบบหนาวๆ

ขอมาจั่วหัวไว้กันตัวเองลืมนะคะบล็อกคุง <3


ญี่ปุ่นแบบหนาวๆ

Date :: 10 - 19 Jan 2015
Place :: tokyo - nagoya - kyoto - osaka
อุณหภูมิโดยประมาณคือ 1-10 องศา













แล้วที่เหลือจะตามมา.....เมื่อไหร่กันนะ? ๕๕๕๕๕๕




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2558 12:05:47 น.
Counter : 652 Pageviews.  

short note: 9-13 dec 2014

short note: 9-13 dec 2014



ทริปไร้สติที่งอกมาของปีนี้นะคะ เกิดจากความอยากไปดู Tim Burton ของนี่เองค่ะ แล้วดันไปหลอกน้องอีกคนมาได้ เพราะคุณเธอดันอยากไปงานไททั่น เลยควงกันไปนะคะทริปนี้...

เหมือนเดิมค่ะ รูปภาพจะตามมาเมื่อสลัดตัวขี้เกียจทิ้งได้ค่ะ โฮะๆๆๆๆ


Place: Tokyo, JP
AirAsiaGo ~ 17,xxx 

Wed 10 
- Narita
- Nippori > Mikawashima > Guest House Wasabi
- Ropponggi > Ropponggi Hill for Tim Burton no Sekai
- Nagameguro for Illumination 
- Ropponggi > Tokyo Midtown for Illumination 
- Ueno then back to Wasabi .

Thu 11
- Ueno for Titan Exhibition & 3D Movie
- Jiyugaoga for Today's Special
- Yokohama Red Brick for Illumination
- back to Wasabi

Fri 12
- Asagaya for fresh bun
- Mikata for bus to Edo-Tokyo Open Air Architectural Museum
- Kiba for Michel Gondry's Exhibition at Museum of Contemporary Art Tokyo
- Bus to Skytree for Sumida Aquarium
- back to Wasabi




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2557    
Last Update : 15 ธันวาคม 2557 16:42:10 น.
Counter : 687 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

ฟองคลื่น
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




this is my memo.... of my life.

Friends' blogs
[Add ฟองคลื่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.