[2013] Chapter [1]

2013

เชียงใหม่

เมืองหลวงของประเทศสหรัฐไทยเหนือ



ฤดูร้อนเป็นช่วงที่งดงามที่สุดของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่-โตเกียว (ChiangMai - Tokyo Daigaku) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า เชียงใหม่-โตได มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 2,500 เอเคอร์เชิงดอยสุเทพ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนพื้นเมืองดั้งเดิม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-โตเกียว เป็นมหาวิทยาลัยภายนอกประเทศจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ที่มุกเด็น แมนจูกัว


ดอกไม้สีสวยสดเริ่มผลิบานอยู่ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย นิสิตหนุ่มสาวต่างพากันออกมานั่งอ่านหนังสือกันใต้ร่มเงาไม้สักช่างเป็นภาพที่ช่างสวยสดงดงาม เสียงจักจั่นขับร้องเพลงประสานเสียงดังทั่วทั้งมหาวิทยาลัย


อากาศที่ร้อนแล้งทำให้ มิซากิ เด็กหนุ่มวัย 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ดนักศึกษาออก 2 เม็ด เพื่อระบายความร้อน


“ร้อนมาก” ทาคาฮาชิ เพื่อนรุ่นเดียวกันกะมิซากิโยนกระป๋องเบียร์คิรินเย็นเฉียบให้ มิซากิรับเบียร์กระป๋องมาเปิดดื่มอึกใหญ่


ทาคาฮาชิ เด็กหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งข้าง ๆ เพื่อนรักที่กำลังนั่งไขว่หน้ามองดูรักบี้ในสนาม ยกเบียร์กระป๋องของตัวเองขึ้นดื่มบ้าง ทาคาฮาชิเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วเขามีชื่อภาษาไทยยาวเหยียดที่แม่ตั้งให้ แต่เพื่อน ๆ ชอบเรียกเขาด้วยชื่อสกุลของบิดาที่เป็นแพทย์ทหารชาวญี่ปุ่นมากกว่า


ส่วนมิซากิเกิดที่ฟุกุชิม่า แต่มาโตที่ฉางชุน เนื่องจากต้องเดินทางไปกับพ่อซึ่งเป็นวิศวกร แม่ของมิซากิถูกกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิจับเพราะเป็นคอมมิวนิสต์ และเสียชีวิตในคุกตั้งแต่มิซากิอายุได้เพียง 5 ขวบ


“เด็กใหม่เป็นไงบ้าง” ทาคาฮาชิถาม


มิซากิจิบเบียร์อึกใหญ่ พลางชี้ไปที่เด็กหนุ่มร่างยักษ์กลางสนามรักบี้


“ไอ้หมอนั่นใช้ได้แฮะ ไม่น่าเชื่อว่าไม่เคยเล่นรักบี้มาก่อน” มิซากิพูดพลางจิบเบียร์อีกอึกใหญ่ ๆ ก่อนจะเอากระป๋องเบียร์มาถูที่หน้าผากเพื่อคลายร้อน


“ไม่ใช่คนญี่ปุ่น... คนไทย?”


“เป็นคนฉาน(ไทยใหญ่) ชื่อจอมแสง” มิซากิพูด “แข็งแรงมาก ไม่มีใครแท็กมันอยู่เลย”


“นาน ๆ ทีจะเห็นคนฉานมาเรียนที่ เชียงใหม่-โตได ซะที”


“ไอ้หมอนั่นเอาเรื่องทีเดียวนะ ได้ยินว่าเป็นลูกชายของเจ้าฟ้าอะไรสักอย่างนี่แหละ... ส่วนอีกคนนั่น” มิซากิชี้ไปที่เด็กหนุ่มร่างเล็กที่พึ่งถูกแท็กล้มกล้ิง “นั่นพึ่งมาจากโตเกียว คนกรุงขนานแท้ เห็นเล็ก ๆ อย่างนั้นน่ะ วิ่งไวเป็นแมลงสาบเลย”


“อ้อ...เจ้านั่นเรารู้จัก มิยาโมโตะ โยชิสึเนะ”


มิซากิที่กำลังจิบเบียร์สะอึกจนเบียร์พุ่งพรวดออกจมูก


“ห๊ะ!”


ทาคาฮาชิหัวเราะก๊าก


“จริง ๆ แล้วมันชื่อ มินาโมโตะ เคนจิ เพื่อนๆ เรียกมันว่า เกนจิ นาน ๆ ไปเลยกลายเป็นโยชิสึเนะไงเล่า” ทาคาฮาชิ “มันเป็นรุ่นน้องสมัยไฮสคูลของเราเอง”


มินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ คือขุนพลของตระกูลมินาโมโตะ หรือ เกนจิ ในสมัยคามาคุระโบราณ ที่นำทัพตระกูลเกนจิมีชัยเหนือตระกูลไทระ ที่ดันโนะอุระ เมื่อ ค.ศ. 1183


โยชิสึเนะในสนามรักบี้กระโดดรับลูกรักบี้แล้ววิ่งไปได้ 10 หลาก่อนจะผ่านลูกต่อไปให้จอมแสงเข้าไปวางไทร์ ว่าแล้วมิซากิก็หัวเราะคิก


“หัวเราะอะไรวะ?” ทาคาฮาชิขมวดคิ้ว


“ถ้าเจ้าหมอนั่นเป็นโยชิสึเนะ ... ไอ้ยักษ์จอมแสงก็คงเป็นมุซาชิโบ เบ็งเค สินะ” มุซาชิโบ เบ็งเค เป็นขุนพลคู่ใจของมินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ


ทาคาฮาชิหัวเราะก๊าก


“เออว่ะ”


ทั้งคู่นั่งจิบเบียร์ดูเด็กรุ่นน้องซ้อมรักบี้ต่อไปเงียบ ๆ


“ปีหน้าก็จบแล้วสินะ เร็วชะมัด” มิซากิพูด “นายมีแพลนจะไปทำงานที่ไหน”


“อืม... ปีหน้าเราจะไปรับราชการเป็นนายทหารช่างที่ปัตตาเวีย พ่อเราพอรู้จักกับนายพลฮาชิโมโต้ แม่ทัพที่ปัตตาเวีย”


แววตาของมิซากิหมองลงเล็กน้อย การรับราชการเป็นทหารในกองทัพสมเด็จพระจักรพรรดิเป็นความใฝ่ฝันของเด็กหนุ่มทุกเชื้อชาติของจักรวรรดิญี่ปุ่นอันเกรียงไกร เป็นการยกระดับจากพลเมืองสามัญขึ้นเป็นพลเมืองชั้นพิเศษ ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายในฐานะของข้าราชการในสมเด็จพระจักรพรรดิ นั่นรวมถึงภรรยาชั้นสูง และโอกาสการศึกษาที่ดีสำหรับบุตร แต่สำหรับมิซากิ การที่มีแม่เป็นคอมมิวนิสต์ถือเป็นตราบาปไปชั่วลูกชั่วหลาน พ่อของมิซากิต้องถูกลดชั้นจากพลเมืองชั้นพิเศษระดับ 2 ลงมาเป็นพลเมืองสามัญ มิซากิกับพ่ออยู่ในกลุ่มผู้ที่ต้องถูก “จับตาเป็นพิเศษ” และแน่นอนสำหรับลูกคอมมิวนิสต์แบบเขา การรับราชการทหารเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง


ทาคาฮาชิเหมือนจะรู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปจึงหน้าสลดลง


“ขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจทำให้นายรู้สึกไม่ได้” ทาคาฮาชิตบไหล่เพื่อนรัก “ยังไงนายก็เป็นเพื่อนรักของเราตลอดกาล เราจะหาทางช่วยให้นายได้รับราชการในกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิให้ได้”


มิซากิถอนหายใจ


“ลูกคอมมิวนิสต์อย่างเรา แค่ได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งแบบที่นี่ได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มพูดพลางควักบุหรี่มาจุดสูบ ก่อนจะยื่นซองบุหรี่ให้ทาคาฮาชิ “ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเราจะกลับไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยมุกเด็น แมนจูกัว”


ทาคาฮาชิจุดบุหรี่สูบพ่นควันโขมง


“จริงสิ... นายยังไปร่วมประชุมกับสหภาพฯ อยู่หรือเปล่า?” ทาคาฮาชิพูด


“อืม...ทำไม?”


สหภาพฯ ที่ทาคาฮาชิพูดถึงคือ สหภาพนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่-โตเกียว มิซากิเป็นสมาชิกของสหภาพในฐานะของตัวแทนชมรมรักบี้


“พ่อเราบอกว่าตอนนี้สภามหาวิทยาลัยกำลังจับตาดูสหภาพอยู่ เพราะได้ยินว่ามีพวก... ฝ่ายซ้าย อยู่ในสหภาพฯ” ทาคาฮาชิพยายามหลีกเลี่ยงคำว่าคอมมิวนิสต์


มิซากิจ้องตาทาคาฮาชิ “บ้าน่า”


“มีนักศึกษาอยู่ 2-3 คนอยู่ในบัญชีดำของเก็มเปไต”


มิซากิกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แม้จะผ่านไปเกือบ 20 ปีเด็กหนุ่มยังจำภาพของตำรวจลับเก็มเปไตที่บุกเข้ามาพรากแม่ของเขาไปอย่างไม่หวนคืนได้ดี มิซากิกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว


“คิม คณะพยาบาลที่สนิทกับนายก็เป็นหนึ่งในนั้น... เราได้ข่าวว่าพักหลัง ๆ นายไปกินข้าวกะเธอหลายครั้ง” ทาคาฮาชิพูด “เราเตือนนายในฐานะเพื่อนสนิทนะเพื่อน... อยู่ห่าง ๆ คิมเอาไว้ ไม่อย่างนั้นนายจะโดนหมายหัวไปด้วย”


คิมจียุน เป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 ของคณะพยาบาล เธอเรียนโรงเรียนพยาบาลที่รัสเซีย ก่อนจะย้ายมาเรียนต่อที่เชียงใหม่เพื่อศึกษาโรคเขตร้อน คิมจียุน ต่างจากมิซากิตรงที่เธอเป็นสมาชิกโดยตรงของสหภาพ ไม่ได้เป็นตัวแทนคณะหรือชมรม


“นอกจาก สหายคิม ของนายแล้ว ก็ยังมีเลขาธิการสหภาพฯ คนปัจจุบันที่ชื่อจิตร แล้วก็ตัวแทนคณะมนุษยศาสตร์ที่ชื่อ คมสัน” ทาคาฮาชิพูด


“จียุนไม่มีทางเป็นคอมมิวนิสต์ แค่เธอเคยผ่านการเรียนที่รัสเซียไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นคอมมิวนิสต์”


“จียุน?” ทาคาฮาชิขมวดคิ้ว ก่อนจะหัวเราะก๊าก “พวกนายถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย”


“บ้าน่า”


“เราก็พูดตามที่พ่อเราฝากมาเตือนนาย ท่านเห็นนายเหมือนเป็นลูกชายท่านคนหนึ่ง” ทาคาฮาชิพูด “เราได้ยินมาว่าสหภาพฯ จะประท้วงเรื่องสวัสดิการนักศึกษาอาทิตย์หน้า.... นายอย่าเข้าร่วมโดยเด็ดขาด”


ทาคาฮาชิดื่มเบียร์อึกสุดท้ายก่อนจะลุกเดินจากไป ทิ้งให้มิซากินั่งอึ้งอยู่เพียงลำพัง





Create Date : 31 พฤษภาคม 2556
Last Update : 31 พฤษภาคม 2556 11:00:58 น.
Counter : 300 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Broken Heart Prophet
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คุณพ่อลูกสามจิตว่าง
ที่กำลังพยายามเขียนนิยายแข่งกับลูกสาว