แม้จะมีหน้าตาสวยหล่อราวดารา แต่หาก “ท่วงท่า-กิริยา” ไม่เป็นมิตร คงไม่มีใครอยากใกล้ชิดแน่นอน เพราะหน้าตาไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไป แต่การมี “บุคลิกภาพดีทั้งภายใน และภายนอก” ต่างหาก ที่จะติดตัวเป็นเสน่ห์อยู่ตลอด ยิ่งต้องทำงานร่วมกับคนหมู่มากด้วยแล้ว “ท่วงท่า-กิริยา” แบบไหน? ช่วยเรียกมิตร

อย่างแรก มนุษย์สัมพันธ์ดีเริ่มที่ “รอยยิ้ม” เปรียบเหมือนใบเบิกทางเชื่อมไมตรี ให้ความรู้สึกเข้าใกล้แล้วสบายใจ บวกกับความร่าเริงปราดเปรียวสดใส เดินอกผ่ายไหลผึ่ง ทำงานด้วยความขยัน กระตือรือร้น มีชีวิตชีวา ทำให้ดูมีพลัง ต้องตาไม่น่าเบื่อ

ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดเรียบร้อย ทั้งการแต่งตัวดูดี เหมาะสมตามกาลเทศะ ไม่จำเป็นต้องนำเทรนด์ตลอด หรือ สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงเสมอไป เพียงสะอาดเรียบร้อย ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ทั้งยังรวมถึงการจัดโต๊ะทำงานเป็นระเบียบสบายตา ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูน่าเชื่อถือ และแสดงถึงการใส่ใจดูแลตัวเอง

การยืนสนทนา ควรเว้นระยะห่างจากคู่สนทนา ประมาณ 1.2 เมตร หรือ 1 ช่วงแขน กำลังเหมาะสม ไม่อึดอัด หรือ ห่างเหินเกินไป ใช้กิริยาวาจาสุภาพ ถ้อยคำถูกต้องตามกาลเทศะ น้ำเสียงอ่อนโยน ในกรณีที่เพิ่งรู้จักกันไม่ควรถามถึงเรื่องส่วนตัว หลีกเลี่ยงอวดความร่ำรวย หรือ อำนาจ เพราะผู้ฟังจะรู้สึกถูกข่ม

ระวังการใช้สายตาที่จะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด หรือ มีความรู้สึกติดลบ เพราะสามารถสื่อได้หลายความหมาย ทั้งเคารพ รัก เกลียด โกรธ หรือ แม้กระทั่งดูหมิ่นเหยียดหยาม จึงควรใช้สายตาด้วยความสุภาพ เป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการหามิตร

จะสังเกตว่าเมื่อก้าวออกจากบ้าน เราพบท่วงท่า-กิริยาผู้อื่นเรายังแอบตัดสินในใจ เช่นกันกับเมื่อผู้อื่นมองเรา ดังนั้น จึงควรระวัง และฝึกบุคลิกให้น่าชื่นชม เพราะบุคลิกดีช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้คนรอบข้างประทับใจ จนนำมาซึ่งโอกาสดีหลายอย่างก็เป็นได้.