Group Blog All Blog
|
ตอนที่ 106 อาหารภาคกลาง เมนูที่ 20 พะแนงไก่เนื้อนุ่ม 5-1-61
พะแนงไก่เนื้อนุ่ม สูตรเด็ดของผมเอง วันนี้ผมจะชวนเข้าครัวทำพะแนงไก่ สูตรของผมเองครับ ก่อนอื่นจะขอบอกก่อนว่าพะแนงไก่ของผมแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่มีแค่เนื้อส่วนที่อร่อยที่สุดของไก่ล้วนๆ นั่นคือเนื้อส่วนสะโพกไก่นั่นเอง ทำการหมักและเคี่ยวจนนุ่มลิ้น ตามด้วยพริกแกงตำเอง ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าปั่นเองถึงจะถูกต้อง จึงทำให้น้ำแกงมีรสชาติเผ็ดร้อนกว่าแกงพะแนงทั่วไป ไม่ต้องพูดมากมาดูส่วนผสมอย่างแรกกันเลย ผมใช้ กะทิขูดขาว ½ กิโลกรัม นำมาคั้นด้วยน้ำอุ่นใส่เกลือแกงเล็กน้อย แยกหัวกะทิและหางกะทิเตรียมเอาไว้ ส่วน ส่วนผสมหลักที่ผมบอกเอาไว้ข้างต้น ก็คือ ไก่ส่วนสะโพกสับเป็นชิ้น 4 ขีด หมักกับหัวกะทิประมาณ 20 นาที เพื่อเนื้อไก่จะได้นุ่ม เวลาเคี่ยวกับน้ำกะทิไก่จะไม่กระด้างอีกด้วย เห็นไหมครับ ผมไม่มีอย่างอื่นนอกจากเนื้อไก่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือพวงหรือใบโหระพาก็ไม่จำเป็น เพราะพริกแกงของผมหอมฟุ้งอยู่แล้ว และส่วนผสมส่วนที่ 3 คือส่วนของพริกแกง ย้ำตอกทำเองเท่านั้น ถ้าซื้อสำเร็จ รสชาติไม่ได้ดั่งใจแน่นอน พริกแห้งไม่ต้องแกะเมล็ดออกแช่น้ำให้นุ่ม 10 เม็ด (น้ำแกงของเราจะมีรสเผ็ดนิดหน่อย ) เกลือทะเล 1 ช้อนชา ข่าแก่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 1 ใบเล็ก รากผักชี 4 ราก กระเทียมไทย 10 กลีบ หอมแดงซอย 5 หัว พริกไทยดำ ½ ช้อนโต๊ะ ลูกผักชี ½ ช้อนโต๊ะ ยี่หร่า ½ ช้อนโต๊ะ กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีจัดการเครื่องแกงของผมง่ายสบายที่สุด แค่นำส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดไปคั่วไฟให้หอมก่อน แล้วจึงนำมาปั่นรวมกับหัวกะทิ ½ ถ้วยตวง ก็จะได้พริกแกงพะแนงรสชาติเยี่ยมแล้ว สุดท้ายที่ต้องเตรียมก็คือใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าแดงซอย เอาไว้แต่งหน้า ผมซอยใบมะกรูดหนานิดหนึ่ง เพราะจะได้เขี่ยออกง่ายๆ ผมไม่ชอบรสชาติเพราะมันขม เรียกว่าใส่เอากลิ่นเท่านั้น นำใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าซอยและหัวกะทิตั้งไฟจนมีกลิ่นหอม พักเอาไว้ราดหน้าเพื่อความสวยงาม เมื่อได้ส่วนผสมครบเรียบร้อยแล้วเราก็มาลงมือทำกันเลย ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ผัดพริกแกงให้หอม ใส่หัวกะทิพอแตกมัน ใส่ไก่ เคี่ยวพอสุก ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำปลา และน้ำตาลทราย แล้วเติมหางกะทิ ตั้งไฟต่อจนเนื้อไก่นุ่มและดูดซับรสชาติ ให้สังเกตว่าน้ำกะทิจะเหลือเพียงขลุกขลิกเท่านั้น (ผมใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 40 นาที) ท้ายที่สุดตักใส่ชามตกแต่งด้วยน้ำกะทิ พริกชี้ฟ้าใบมะกรูดที่เตรียมเอาไว้ เรียบร้อยครับผม พะแนงไก่นุ่มเนื้อของกระผม ตอนที่ 105 อาหารนานาชาติเมนูที่ 1 สเต็กแซลมอน ราดซอสบาร์บีคิว แบบง่ายๆ 3-1-61
สเต็กแซลมอน ราดซอส บาร์บีคิว เมนูวันนี้ต้องขอบอกว่ามันเป็นเมนูอินเตอร์ หากแต่ทำให้มันบ้านและง่ายที่สุด แต่รสชาติไม่บ้านเลยนะครับคุณ อร่อยจนต้องขอเพิ่มกันเลยทีเดียว ผมนำมาให้ดูกันเล่นๆ เพื่อใครจะเกิดไอเดียที่จะทำอาหารราคาแพง ให้เป็นอาหารบ้านๆรสชาติถูกปากบ้าง วัตถุดิบสำคัญที่ต้องมี แซลมอล 4 ชิ้น ใหญ่ (ราคาแอบแพงนิดหนึ่ง) วัตถุดิบในการทำน้ำราด ขิงโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศศรีราชา 1 ถ้วยตวง ซอสพริก 1 ถ้วยตวง เกลือ 1/2 ช้อนชา พริกไทยขาวป่น ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายขาว 1/4 ถ้วยตวง ใบไทม์ป่น 2 ช้อนโต๊ะ ออริกาโน่ 2 ช้อนโต๊ะ โรสแมรี่ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง วัตถุดิบแนมเลือกแบบที่เราชอบได้เลย แครอท หอมหัวใหญ่ เห็ดหอม บล็อกโคลี่ ลวกสุก มะเขือเทศราชินี เลมอนเหลืองสำหรับแต่งจาน เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ (นำเนยมาละลายแล้วนำมาคลุกกับผักแนมทั้งหมดยกเว้นเลมอน) วิธีทำแสนจะง่ายเพราะผมทำแบบบ้านๆจริงๆ เรียกว่าถ้ามีวัตถุดิบครบใครๆก็สามารถทำได้ นำส่วนผสมของน้ำราดทั้งหมดมาผสมรวมกัน นำปลาแซลมอนของเราลงไปหมักเอาไว้ประมาณ 30 นาที ให้เข้าเนื้อ นำเข้าเตาอบด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียล ประมาณ 20-30 นาที ถ้าไม่มีเตาอบ ผมแนะนำให้นำไปจี่ในกระทะแบนก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อสุกตามที่ต้องการแล้วก็ราดด้วยน้ำราดอีกครั้ง แล้วจัดจานเสริฟได้เลยครับผม เรียบร้อยครับ สเต็กแซลมอน ราดซอส บาร์บีคิว แบบบ้านๆของผม ทานกับข้าวผัด แม้++เข้ากันทีเดียวเชียว ตอนที่ 104 อาหารอีสาน เมนูที่ 59 ลาบปลาดุกสูตรเด็ด ในงานฉลองปีใหม่แบบบ้านๆของผม 31-12-60
ลาบปลาดุกสูตรเด็ด ในงานฉลองปีใหม่แบบบ้านๆของผม สวัสดีปีใหม่ครับผม วันนี้ผมจะชวนคุณๆมาร่วมงานฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตามแบบฉบับบ้านๆของผม ก่อนอื่นกะสิขออวยพรวันให้คุณๆก่อนเนาะครับ ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ขออวยชัยให้เจ้าจงสุขขี อันความทุกข์ความโศกกะอย่าได้มี จงสุขขีตลอดปีใหม่เทอญ ขอให้มีความสุขหลายๆครับผม บัดที่นี่กะมาเตรียมงานปีใหม่ของเรากันได้เลย นึ่งเข้าเหนียวใส่กระติ๊บกับย่างไก่สูตรวิเชียรบุรีเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย แล้วค่อยมาตำบักหุ่ง (หรือว่าส้มตำ) มันเข้ากันอีหลีเดครับ ข้าวเหนียวส้มตำนี่ แล้วกะมาถึงพระเอกของงานในวันนี้ นั่นก็คือลาบปลาดุกสูตรเด็ดของผมเองครับ มาดูมาเบิ่งกันว่าสูตรเด็ดที่ว่าจะแตกต่างจากสูตรลาบปลาดุกทั่วไปอย่างไร ส่วนประสมของลาบปลาดุก ปลาดุกย่าง ขนาดใหญ่ 1 ตัว แกะเอาเฉพาะเนื้อบ่เอาหนังเด้อ หอมแดงซอย 4 หัว ข่าอ่อนซอย 1 หัว ใบมะกรูดฉีกซอย 1 ใบ พริกชี้ฟ้าสดแดงเขียวหั่น 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่นคั่วใหม่ 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่วคั่วใหม่ 1 ช้อนโต๊ะ มะนาว 1 ลูก ต้นหอม ผักชี ซอยประมาณ 2 ทัพพีแกง ใบสะระแหน่เด็ด 2 ต้น น้ำมันหอย ½ ช้อนโต๊ะ เกลือ ปลาย ช้อนชา น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ น้ำซุปไก่ ½ ถ้วยตวง วิธีทำ นำเนื้อปลาดุกมาสับรวมกับข่าและใบมะกรูด แล้วนำไปตั้งไฟ ใส่น้ำซุปไก่ลงไป พร้อมเกลือ และน้ำมันหอยตามสูตร (ทีเด็ดอยู่ตรงใส่ เกลือ ข่าและน้ำมันหอยครับ ผมว่ามันทำให้ลาบอร่อยมากขึ้นจริงๆนะ ไม่เชื่อคุณๆต้องลองดู) ยกหม้อมาปรุงด้วยเครื่องที่เหลือทั้งหมดตามสูตรด้านบน ยกเว้นข้าวคั่วและใบสะระแหน่ให้ใส่ตอนท้าย คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่ข้าวคั่วและใบสะระแหน่ ชิมรสชาติให้ถูกลิ้นคนทาน แค่นี่เราก็จะได้ลาบปลาดุกรสเด็ด ที่ไม่แห้งจนเกินไป รับรองว่าอร่อยกว่าไปทานที่ร้านเป็นไหนๆ นำลาบปลาดุกจัดลงจานให้สวยงาม แล้วนำไปเสริฟพร้อมข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่างวิเชียร ผักสด แค่นี้งานฉลองปีใหม่ของผมก็พร้อมแล้วครับ มาเด้อพ่อแม่พี่น้อง มากินข้าวฉลองปีใหม่นำกัน จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่ติดตามผมมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานะครับ ตอนที่ 103 อาหารภาคกลาง เมนูที่ 19 ไก่อบวิเชียรบุรี 26-12-60
ไก่อบวิเชียรบุรี วันคริสต์มาสทุกปี ผมก็จะจัดงานเล็กๆภายในครอบครัว เราก็ทราบๆดีว่า อาหารจานหลักในการฉลอง ก็คือไก่งวงอบ แต่ราคาไก่งวงก็แพงจังเลย ผมก็เลยขอดัดแปลง มาเป็นไก่ตอนนี่แหละ นำมาอบในแบบไทยๆ จะได้รสชาติที่ถูกปากถูกใจมากกว่า ผมขอให้ชื่อเมนูว่า ไก่อบวิเชียรบุรีโกอินเตอร์ (เพราะอบฉลองวันขอบคุณพระเจ้า 555) เริ่มจากไปหาซื้อไก่สดทั้งตัว แม้ มันหายากจึงๆคุณเอ้ย โชคดีที่ผมไปได้ไก่แช่แข็งที่ห้างแมคโครสาขาใกล้บ้าน แถมเหลือตัวเดียวโดดๆด้วยเอ้า น้ำหนักปาเข้าไป สามกิโลครึ่งทีเดียวเชียว สามกิโลก็สามกิโล เอ้า!!!! จัดไป มาถึงสูตรการหมักไก่ของผมกันเลย เครื่องหมักไก่ จำนวนต่อไก่ 1 กิโลนะครับ เพิ่มจำนวนตามน้ำหนักไก่ สูตรนี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งไก่อบและไก่ย่างแบบชิ้น 1. ไก่ 1 กิโล 2. ตะไคร้ 3 ต้น 3. กระเทียม 20 กลีบ 4. รากผักชี 7 ราก 5. พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ 6. ใบเตย 2 ใบ 7. ซอสหอยนางรม 2ช้อนโต๊ะ 8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 9. หอมแดง 4 หัว 10. นมจืดหรือนมสด ½ ถ้วยตวง 11. เกลือ 1 ช้อนชา มาดูวิธีทำกันครับผม นำไก่มาละลายน้ำแข็งโดยการแช่น้ำ ช่วยให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นนั่นเอง ล้างไก่ให้สะอาดผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หรือใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้ผิวแห้ง นำเครื่องหมักไก่ทั้งหมดปั่นพร้อมกับนมจืดให้ละเอียด จากนั้นเทใส่ภาชนะสำหรับหมักไก่ ผสมเครื่องปรุงคลุกเคล้าให้เข้ากันนำไก่ลงไปหมักทิ้งไว้ 30 นาที เมื่อครบกำหนดก็นำเข้าเตาอบที่วอร์มเตาแล้ว อบไก่ ที่ความร้อน 160 องศาเซลเซียส เ เท่ากับที่เราวอร์มเตา เวลาในการอบ คือ 1 ชั่วโมงต่อน้ำหนักไก่ 1 กิโลกรัมครับผม ไก่ผมใช้เวลาอบ 3 ชั่วโมง ระหว่างอบเราก็เปิดเตา ใช้น้ำมันที่ไหลออกมาราดลงไปบนผิวไก่ทุก 30 นาที เพื่อไม่ให้หนังไก่แห้งจนเกินไป แต่ไก่ของผมวันนี้ไม่ค่อยสวย เพราะหนังบางส่วนหลุดขาดหายไป ก็เพราะว่ามันคือไก่ตัวสุดท้ายที่มีขายอยู่ในห้างนั่นเองครับ จากนั้นจึงมาทำน้ำจิ้ม น้ำจิ้ม (มากน้อยปรับสัดส่วนเอานะครับผม) 1. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำมะขามเปียกต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมะนาว 1 2 ช้อนโต๊ะ ตามชอบใจ 5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 6. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ 7. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ผสมจนเข้ากันแล้วชิมรสตามชอบใจ เติมพริกป่น คนให้เข้ากันแล้ว เมื่อจะเสริฟค่อยโรยด้วย ผักชีซอย และข้าวคั่วนะครับ เพราะข้าวคั่วอิ่มตัวเร็วทำให้น้ำจิ้มเสียรสชาติได้ (ขออภัย ลืมถ่ายภาพน้ำจิ้ม) เมื่อไก่อบจนสุกเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วครับปาร์ตี้วันคริสต์มาสของผม สุดท้ายนี้คือน้ำหวาน ช่วยให้ทานไก่ได้คล่องคอมากขึ้น ขอให้มีความสุขในเทศกาลปีใหม่ปีนี้กันทุกๆคน คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาทุกๆอย่าง ปีหน้าฟ้าใหม่เจอกันใหม่ครับผม ตอนที่ 102 อาหารภาคกลาง เมนูที่ 18 ข้าวมันไก่ 25-12-60
ข้าวมันไก่ วันนี้มีโอกาสต้อนรับเพื่อนเลิฟที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น เลยถือโอกาสทำข้าวมันไก่ต้อนรับ เพื่อนๆได้ทานแล้วบอกว่า อร่อยมาก แล้วถือโอกาสนำมาแชร์ เพื่อจะเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้าง อย่างแรก ก็หาซื้อไก่สดปริมาณ ผมหาซื้อแบบง่าย ๆ ก็คือไก่เนื้อที่มีขายอยู่ทั่วไป ผมเลือกเนื้อน่องติดสะโพกเพราะเนื้อส่วนนี้รสชาติดีที่สุด เริ่มต้นเรามาส่วนผสมทั้งหมดของวัตถุดิบที่จะใส่ลงไปในน้ำสำหรับต้มไก่ น่องติดสะโพกล้างสะอาด 2 กิโลกรัม ตับไก่ 5 ขีด ผักกาดขาวสดหั่นท่อน 1 หัว เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง 10 ดอก ฟักเขียวหั่น 8 ท่อน หอมหัวใหญ่ผ่าสี่ 1 หัว กระเทียมไทยโขลก 20 กลีบ รากผักชีทุบ 7 ราก ขิงแก่หั่นเป็นแผ่นบาง 7 แผ่น และแบบทุบบุบ ๆ สักเล็กน้อยเพิ่มกลิ่น พริกไทยดำ โขลกหยาบ 20 เม็ด เกลือสมุทร (มากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำต้ม ) น้ำตาลกรวดตามสมควร ซีอิ๊วขาว ตามสมควร น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ใบเตย 2 ใบ ต้มน้ำซุปนี้โดยไม่ต้องปิดฝา ใช้ไฟแรง เติมเครื่องต้มทุกอย่างทุกไปได้เลย แต่อย่าพึ่งปรุงรสนะครับ ต้มให้เดือดนานอย่างน้อย 30 นาที แล้วจึงเติมเครื่องปรุงที่เตรียมเอาไว้ ตอนต้มน้ำยังไม่ได้ใส่ไก่ลงไปนะครับ พอครบเวลาแล้ว น้ำเดือดจัดๆ ก็ใส่ไก่และตับไก่ลงไปตอนนี้ เมื่อใส่ไก่ชิ้นสุดท้ายลงไป ต้องหรี่ไฟเหลืออ่อน ๆ ใช้ไฟอ่อน ๆ ต้มไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ปกติจะใช้เวลาในการต้มประมาณ 1 ชั่วโมงนับจากใส่ไก่ลงไป ระหว่างก็คอยตักฟองทิ้งไปบ้าง ระหว่างนี้ก็มาทำน้ำจิ้มไก่รอกันดีก่อน จะได้เป็นการประหยัดเวลาไปในตัว เครื่องปรุง 1. เต้าเจี้ยว 12 ช้อนโต๊ะ 2. ขิงแก่ สับละเอียด 6 ช้อนโต๊ะ ขิงแก่ตำแหลก 2 ช้อนโต๊ะ 3. พริกขี้หนูสดเขียว แดง 4 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ 4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 5. ซีอิ๊วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำส้มพริกดองแบบปั่น 2 ช้อนโต๊ะ 7. มะนาว 1 ซีก 8.ผักชีไทยซอย 2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมรวมกัน ชิมรสชาติให้ถูกปาก แค่นี้น้ำจิ้มก็เป็นอันเรียบร้อยครับผม เมื่อไก่ของเราสุกได้ที่แล้ว คราวนี้มาหุงข้าวมันกันบ้าง ที่ต้องคอยจนไก่สุกก็เพราะเราต้องใช้น้ำซุปไก่มาหุงข้าวมันนั่นเอง ส่วนผสมในการหุงข้าวมันทั้งหมด ผมใช้ข้าวหอมมะลิเก่า 3 ส่วน และข้าวเสาไห้ ½ ส่วน เมื่อหุงสุกข้าวจะเรียงเป็นมัดสวยงามผุดๆ กระเทียมจีนโขลกละเอียดผสมขิงแก่นิดหน่อย โขลกรวมกัน มันไก่ที่เราเลาะเอาออกมาจากชิ้นไก่ในตอนแรก ใบเตยเพิ่มกลิ่น 2 ใบ เริ่มต้นนำข้าวมาซาวให้เรียบร้อย เทน้ำออกให้แห้ง ๆ หน่อย แล้วพักไว้ อย่าซาวทิ้งไว้ล่วงหน้านะครับ จะหุงแล้วค่อยซาวดีกว่าเยอะ จากนั้นก็ตั้งกระทะ ก็ใส่น้ำมันพืชลงไปแทน เล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นก็ใส่กระเทียมและขิงตำแหลกลงไป พร้อมมันไก่ ผัดจนมันไก่เริ่มละลายออกมา นำข้าวที่ซาวเอาไว้ลงไปผัด ตักน้ำชุปจากหม้อต้มไก่ลงไปผัดจนเข้ากันดี ดูว่าเมล็ดข้าวจากเดิมที่ใส ๆ เริ่มเป็นสีขุ่นเหมือนเมล็ดข้าวเหนียว และข้าวเริ่มแห้งติดกระทะ ก็ปิดเตา เอาใส่หม้อหุงข้าวได้ ตักน้ำต้มไก่ใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว วางทับด้วยใบเตย รอข้าวสุก เรียบร้อยครับขึ้นตอนการทำข้าวมัน และท้ายสุดเรามาช็อคไก่ด้วยน้ำเย็น หาชามใบพอเหมาะไว้ ใส่น้ำแข็งลงไปสัก 1 ถุงเติมน้ำลงไป เอาไก่ที่ต้มลงไปช็อคน้ำเย็น วิธีคือต้มเสร็จ เอาขึ้นจากหม้อ ต้องเอามาอาบน้ำเย็นทันที แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 10 นาที หรือกะประมาณว่าไก่ที่ร้อนจัดเมื่อครู่ ความเย็นแผ่ลงจนไปถึงกระดูกแล้ว ก็เอาขึ้นได้ แล้วเอาน้ำมันพืชมาทาหนังไก่ไว้ให้ทั่ว ทำแบบนี้แล้ว ผิวไก่ก็ยังคงมีสีขาวอมเหลืองสวย เต่งตึงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ข้าวมันไก่ของเราน่ารับประทานมากขึ้นครับผม เมื่อทุกอย่างพร้อมก็นำมาจัดจานเสริฟได้เลยครับผม |
บักอ้าย
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?] ทำอาหารทานเองไม่ใช่เรื่องยาก ผมทำได้ คุณก็ทำได้ ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ เชพฆฤณ Friends Blog Link |